รักดั่งบ่วง อันบ่วงนี้ซ่อนไว้ภายในจิต ยากจะปลิดหายไปก็ให้ห่วง นั่งนอนคิดฟุ้งซ่านจนพล่านทรวง มิอาจล่วงวนเวียนแทบเจียนตาย จะลาลับคืนกลับแล้วพับเสีย แสนละเหี่ยใจน้อยละห้อยหาย เป็นห่วงหน้าแลหลังแทบฝังกาย พรากคงสายเสียแล้วเพริศแพร้วใจ ความอาลัยครั้งนี้ยากที่สนาน สิ่งฟุ้งซ่านย้ำลึกยากตรึกไสว จนเดียวดายไร้สิ่งประวิงไกล ฝากวิไลบทกานท์เคยสานเรา โอ้ละหนอแก่แล้วจนแผ่วจิต หวังจะสถิตภิรมย์ซ่อนบ่มเขลา ความงุ่นง่านโง่เชื้อแสนเบื่อเอา ดุจดั่งเงาหลอนหลอกถลอกกาย หวานความฝันรำพึงคำนึงหา สุดพลิกลาแสนเศร้ามาเย้าสลาย เจ็บทั้งนอกภายในเจียนใคร่ตาย พลันทลายพลิกแล้วจนแผ่วจินต์ ต่อไปนี้มีใครที่ไหนอีก เข้ามาฉีกแยกชิ้นจนสิ้นถวิล ยามเฒ่าชราสิ้นแล้วจนแผ่วกวิน ต้องสูญสิ้นความหวังเข้าฝังใจ เปรียบคนรักเท่าหนังคนชังเสื่อ น่ารักเหลือใจเปลี่ยนที่เวียนไสว ซ่านคารมซ่อนเร้นมากเน้นใน ยามจากไปห่วงหาแสนอาดูร รักดังบ่วงจำไว้เพียงใคร่กล่าว ทุกเรื่องราวอย่าเชื่อจะเหลือสูญ ด้วยตัวเราอย่าเอื้อสลายเกื้อกูน สร้างสมดุลผ่านหวังหลีกฝังเรา. ** แก้วประเสริฐ. **
17 มกราคม 2553 18:43 น. - comment id 1087248
"บ่วง"....มัดกายไว้ไม่เท่าไหร่ แต่พันธนาการหัวใจไว้.................... .....ดาบคมก็เอาไม่อยู่ค่ะ
17 มกราคม 2553 19:01 น. - comment id 1087255
ยามรักก็มีห่วง ห่วงก็คือบ่วง... ปล่อยวางนะคะ ทุกสิ่งทุกอย่างในโลก เป็นสิ่งสมมุติค่ะ สุขภาพเป็นอย่างไรบ้างคะ ปรางตามข่าวอยู่เสมอ ๆ ค่ะ
17 มกราคม 2553 20:22 น. - comment id 1087281
หากจะรักก็ยินดีที่จะติดบ่วงครับ แปลกนะครับคุณครู...ผมเป็นคนหยิบบ่วงมาขังตัวเอง....ครับไม่มีใครคล้องเลยครับ
17 มกราคม 2553 21:36 น. - comment id 1087321
คนทั้งหลายมักจะชอบติดบ่วงค่ะ เพราะหลงใหลได้ปลื้ม ว่ารักคือสิ่งให้ความสุข ยามรักผิดหวังก็เศร้าตรมขมขื่นใจ... คารวะครูแก้วงามๆสามทีค่ะ...
17 มกราคม 2553 21:46 น. - comment id 1087325
สวัสดีค่ะครู กลอนเหงาจังเลยค่ะ ดูแลสุขภาพด้วย นะคะ ด้วยความเป็นห่วงค่ะ
17 มกราคม 2553 21:54 น. - comment id 1087330
ช่วงนี้ครูขยันจังค่ะ ไม่เหมือนลูกศิษย์เลย หนูอยู่ในหมวดสมองตื้อค่ะช่วงนี้ เขียนไม่ออก นี่ก็เพิ่งกลับมาจากงาน ขาวดำ คุณแม่เพื่อน เห็นแล้วสงสาร อนิจจัง.. ครูต้องรักษาสุขภาพนะคะ อย่านอนดึกค่ะ
17 มกราคม 2553 22:53 น. - comment id 1087348
ติดบ่วงเหมือนกันค่ะลุงแก้ว..เงื่อนตายด้วยสิ แวะทักทายยามค่ำคืนค่ะ รักษาสุขภาพด้วยนะคะ
17 มกราคม 2553 23:17 น. - comment id 1087353
ไม่ค่อยรู้เรื่องรักซะด้วยซีครับคุณลุง รอคุณลุงสอนอยู่ แต่ว่า.. ก็กลัวติดบ่วงด้วยน่ะครับ
18 มกราคม 2553 06:15 น. - comment id 1087370
มาชื่นชมบทกลอนครับครู หนาวมากเลยวันนี้ลมแรง รักษาสุขภาพด้วยนะครับ
18 มกราคม 2553 07:37 น. - comment id 1087394
ว้า มาติดบ่วงซะแล้วค่ะ ทานข้าวเช้าค่ะ คุณครู
18 มกราคม 2553 11:13 น. - comment id 1087473
แก้ยากนะคะบ่วงนี้ ยิ่งแก้ยิ่งแน่น
18 มกราคม 2553 13:26 น. - comment id 1087535
มัดเสียแน่นเลยนะคะ คงดิ้นไม่หลุดค่ะคุณลุงบ่วงนี้
18 มกราคม 2553 14:17 น. - comment id 1087549
๐ เมื่อรักเป็นดั่งบ่วงในห้วงฝัน จะมีวันผันแปรเปลี่ยนไปไหม รู้ว่าบ่วงตวงตักเข้าพักใจ ติดบ่วงใจใครรู้กู่ไม่ทัน ปล..เข้ามาทักทายกลอนเพราะคะพี่
18 มกราคม 2553 17:21 น. - comment id 1087686
คุณ คมดาบนารี ดาบใดๆในโลกนี้ย่อมมิอาจจะตัดขาดได้ ยกเว้นดาบของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเราเท่านั้น ครับที่จะตัดเส้นใยนี้อย่างหมดสิ้นครับ ขอบคุณ ที่แวะมาเยี่ยมครับ ขอบคุณ แก้วประเสริฐ.
18 มกราคม 2553 17:26 น. - comment id 1087688
คุณ ปรางทิพย์ นับได้ว่ายังมีคนที่ยังกรุณาผมอยู่อีกทำให้ ผมซาบซึ้งยิ่งนักยากจะหาใดมิอาจได้ครับ แต่คำว่า อนิจจัง วัฏฏะสังขารา ย่อมไม่เที่ยงไปตามสังขาร ที่โรยลาของธรรมที่กำหนดไว้ไม่ว่าใครๆทั้งสิ้น เมื่อตั้งอยู่แล้วก็ย่อมสิ้นสลายไปในที่สุดหาได้ยั่งยืน นานด้วยโรคาพยาธิเข้าเบียดเบียฬอยู่ร่ำไรในทุก ขณะจิตครับ แม้แต่เหล็กหินผาที่นับว่ากล้าแกร่ง ยังถูกบั่นทอนไปเรื่อยๆจนสิ้นสลายนับประสา อะไรกับสัตว์มนุษย์ที่หุ้มห่อด้วยธาตุย่อมแปร ปรวนเปลี่ยนแปลงครับ ขอบคุณมากรักเสมอ แก้วประเสริฐ.
18 มกราคม 2553 17:29 น. - comment id 1087690
คุณ อินสวน อันบ่วงนี้ใหญ่น้อยย่อมเกิดจากเราทั้งสิ้นหา ได้จะมาคล้องให้เป็นทุกข์ก็หาไม่ หากมิยุ่งแล้วไซร้ บ่วงนี้ก็หาได้ทำอันตรายเราได้ แต่ด้วย ความลุ่ม หลงใน อายตนะ6 เป็นปัจจัยทำให้เราต้องนำบ่วง นี้มาคล้องใส่เราเสียเองครับ ขอบคุณรักเสมอ แก้วประเสริฐ.
18 มกราคม 2553 17:37 น. - comment id 1087695
คุณ กันนาเทวี อันมวลสรรพสิ่งทั้งหลายในโลกนี้เป็นไป ด้วยผลแห่งเวรกรรมทั้งมวลหาได้มีเหตุอื่นใดไม่ จีงเกิดตัณหาเข้าครอบงำมวลมนุษย์สัตว์ทั้งผองจึง ทำให้เกิดความเร่าร้อนทั้งนอกใน หากมิรู้ที่จะจัก ปล่อยวางเสียบ้างก็ยิ่งเกิดความทุกข์ทับถมทวีคูณ เป็นเท่าทวีคูณครับ สันดานมนุษย์สัตว์นี้ไซร้ย่อม บังเกิดความอยากรู้อยากเห็นเป็นไปตามอำนาจ ของจิตที่ดิ้นรนกระสับกระส่ายอันเป็นปัจจัยให้เกิด สิ่งดังกล่าวไว้ครับ สิ่งที่เกิดเหล่านี้หาใช่สิ่งอื่น ใดทำก็หาไม่เป็นแต่เราสืบเสาะดิ้นรนไขว่คว้า หามันเอง ฉนั้นนิสัยคนเรามักจะมองที่สิ่งอื่นๆ หาได้หันย้อนหวนกลับมามองตัวของเราเองก็ หาไม่ จึงย่อมตกอยู่ในวัฏฏะสงสารไม่อาจจะตัด ขาดได้ ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมเยียนครับขอบคุณ แก้วประเสริฐ.
18 มกราคม 2553 17:42 น. - comment id 1087697
คุณ เทียนหยด ศิษย์เอยในเมื่อครูเองรู้สภาพสภาวะของร่าง ที่อาศัยอยู่นี้ว่านับวันจะสิ้นสุดลงเสียแล้ว อุปมางาน เลี้ยงย่อมมีการเลิกลาฉันท์ใด ร่างกายคนเราก็ย่อม จะสิ้นสุดฉันท์นั้นเหมือนๆกันแหละจ้า หากเราจะ มองตัวเราแล้วพิจารณาซึ่งถึงสังขารที่ปรุงแต่งเรา แล้วนำมาพิจารณาก็จะทราบว่ากาลเวลานั้นจะยัง อีกยาวหรือสั้นๆจ๊ะ บัดนี้ครูรู้ตัวเองถึงแม้นว่า มิอาจจะดับสลายไปตามกาลก่อนก็ตามแต่การ เริ่มต้นย่อมจะบอกเหตุไว้ก่อนเสมอๆจ๊ะ ฉนั้น งานที่เศร้าๆนี้มีเหตุหลายปัจจัยที่ปรุงแต่งครูไว้ จึงได้ พยายามจะทำธุระบางอย่างไว้ก่อนที่จะ สายจนมิอาจจะแก้ไขได้จ๊ะ รักศิษย์เราเสมอ แก้วประเสริฐ.
18 มกราคม 2553 17:50 น. - comment id 1087699
คุณ แก้วประภัสสร ทุกอย่างที่ไปนี้ก็เป็นการสิ้นสุดแห่งภพนี้ เท่านั้น เมื่อดับสังขารไปปุ๊บก็จะบังเกิดขึ้นปั๊บทันที แล้วก็จะดับอีกครั้งหรือหลายๆครั้งตามแต่ผลแห่ง บุญกรรมที่สร้างไว้ ดับแรกคือวิญาณที่เร่ร่อนเรา เรียกว่าสัมภเวสีด้วยอำนาจแห่งผลเวรกรรมตาม วาระอายุกาลก็จะดับอีกครั้งหนึ่งจะไปทุกขคติหรือ สุขคติอยู่ที่การกระทำของเราเป็นเหตุปัจจัยเมื่อ เป็นเทวาดาเบื้องต้นก็จะดับเกิดดับไปเรื่อยๆ จนถึงเหตุอันเป็นปัจจัยที่ทำไว้ถึงจะหยุดดับแล้ว เข้าเสวยภพแดนที่บุญกรรมกำหนดไว้ ในด้าน กลับกันก็เหมือนกันมิได้แตกต่างกันไปเท่าไหร่ ฉนั้นเวลาไปงานอันไม่เป็นมงคลก็ควรจะ พิจารณาเพื่อสร้างทางแก่ตัวเราไว้ว่าวันหนึ่งก็ จะเป็นดั่งนี้แล ทางแห่งการเดินทางมีสามทาง ที่เราจะต้องเดิน ทางหนึ่งไปยังแดนมนุษย์ ทางหนึ่งไปแดนนรก อีกทางหนึ่งไปสรวงสวรรค์ อันนี้ใครจะบังคับไม่ได้ด้วยอำนาจแห่งบุญกรรม จะเป็นผู้กำหนดให้เองจะเกิดเป็นพลังงานดึงดูด ให้เราต้องเดินทางไปสู่จุดๆนั้นเองจ๊ะ รักศิษย์ เราเสมอ ความประมาทคือบ่อเกิดแห่งความ พินาศทั้งสิ้น รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
18 มกราคม 2553 18:08 น. - comment id 1087707
คุณ bananaleaf ทุกๆคนย่อมถูกบ่วงทั้งสิ้นแหละครับ แต่ว่าจะหลงบ่วงหรือเปล่า หากไม่หลง ปัญหาย่อมน้อยลงครับ อยู่ที่ว่าตัวเราจะเลือก แบบไหนเท่านั้นเองแหละครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
18 มกราคม 2553 18:30 น. - comment id 1087716
คุณ รัมณีย์ หากผมไม่เห็นกับตามาพูดผมอาจจะเชื่อ แต่นี่ อิอิ ผมไม่เชื่อหรอก ผมเองซิจีบสาวไม่เป็น เลยตั้งแต่หนุ่มๆแล้วด้วยไม่ค่อยชอบเรื่องการโกหก มักพูดจาโผงผางแบบซื่อๆ ด้วยเรื่องจีบสาวนี่แหละ ผมเองถึงดามอกมาจนทุกวันนี้แหละครับ ถึงได้นำ มาเขียนแบบแง่มุมต่างๆไว้ หากจะให้ผมเขียน หนังสือผมว่ายังง่ายกว่าแยะเชียว อีกประการผม ไม่เหมือนคุณตื้อคนไม่เป็น ในชีวิตไม่เคยเลย จะตามตื้อใครๆ หากรักก็จะเพียงแค่ยิ้มๆและ สนใจมากเป็นพิเศษคุยก็คุยแบบธรรมดา ใช้ สายตาเป็นสื่อเท่านั้น หากไม่ชอบก็จะเฉยๆ ไม่สนใจวางตัวอีกแบบหนึ่ง หรือไม่ก็เดินหนี ไปแม้จะสวยหรือไม่สวยผมไม่สำคัญสำหรับผม แต่ผมคิดว่า สิ่งสำคัญคือหัวใจมากกว่า ฉนั้น เขาคงจะรู้จุดอ่อนผม ผมถึงพลาดมามากนักต่อ นักแล้วครับ อย่าให้ผมสอนดีกว่าผมว่าคุณหมอ กฤษณะยังเก่งมากพูดเก่งเอาใจเก่งนี่คือลักษณะ ที่ผู้หญิงเขาชอบแบบคุณนี่แหละแกล้งมาทำไขสือ ไปเที่ยวกันจะเห็นผมพูดสักกี่คำ ส่วนใหญ่ผม มักจะไปคนเดียวโดดๆเสมอ จะพบกันอีกทีก็ ที่พัก คุณต่างคนไปเที่ยวล่องแก่ง ผมแอบไป อาบน้ำที่ลำธารคนเดียวจนหนาว แล้วถึงได้ ขึ้นมา มาแล้วก็ต้องคอยทั้งๆที่ตัวเปียกน้ำจน แห้งคาตัวไปคุยกับพระเท่านั้นครับ พอพบ อีกทีอ้าวๆไปจุ๊งจิ๊งกันสี่คนเสียแล้ว ฮ่าๆนี่ หรือจีบไม่เป็น หากให้ผมสอนเถอะชาตินี้ไม่ ต้องมีเมียหรอก นอกจากคู่ครองในชาติก่อน เท่านั้นเองแหละ ฮ่าๆๆรักเสมอ แก้วประเสริฐ.
18 มกราคม 2553 18:33 น. - comment id 1087719
คุณ ป๋อง สหายปุถุชน ขอบใจมากครับก็ยังงั้นแหละผมมักจะ ระบายออกมาจริงเสียส่วนมาก ไม่ อ้อล้อ กับใครๆ เขาหรอกครับ มันเป็นไปตามธรรมชาติครับ ขอบใจมากที่เขามาเยี่ยมเสมอๆ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
18 มกราคม 2553 18:36 น. - comment id 1087724
คุณ ครูกระดาษทราย ขอบคุณมากครับ อาหารเช้าผมมักจะไม่ทาน นอกจากขนมปังและกาแฟแล้ว ก็โน่นละบ่ายสอง สามโมงค่อยจะทาน เรียกว่าทานวันละ 2 มื้อ สำหรับข้าวนะครับแล้วก็หยุดนอกจากน้ำเปล่าๆก็ จนนี่นาทานมากไม่ได้สตังค์ไม่มี อิอิ ส่วนมือเย็น ก็ตกราว สอง สาม ทุ่มนี่แหละประมาณนั้นถึงได้ ทานอีกทีก็จบ แปรงฟันนั่งดูโน่นนี่บ้างในเวปฯ นอนหัวค่ำไม่เป็น เคยทดลองแล้วทรมานมาก ครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
18 มกราคม 2553 18:39 น. - comment id 1087729
คุณ ตรากลม บ่วงที่แก้ยากที่สุดคือบ่วงชีวิต สิ่งแรกของ บ่วงนี้คือบ่วงแห่งความรักนี่เอง หากแก้ไม่ถูกจัด เงื่อนปมก็ไม่หลุดครับ ต้องใช้ใจเรานี่แหละตัด และทำใจต่อบ่วงเหล่านี้ครับ ขอบคุณครับ แก้วประเสริฐ.
18 มกราคม 2553 18:47 น. - comment id 1087741
คุณ เพียงพลิ้ว หลานรักถูกมัดมาจนมากนักต่อนักแต่ ไม่ได้เรื่องกับบ่วงสักที ตอนนี้ไม่ต้องหามาแล้ว ไปหาเอาเองเลยแหละจ้า แต่ตอนนี้มันแก่แล้ว ไม่หม๊ดไม่มัดแล้วจ้า เขียนกลอนแบบนี้สนุก กว่าแยะเลย รักหลานเราเสมอ แก้วประเสริฐ.
18 มกราคม 2553 18:50 น. - comment id 1087745
คุณ นางฟ้าซาตาน ขอบใจน้องรักพี่มากจ๊ะที่มาเยี่ยมเรื่อยๆ มันเป็นสุขทางใจอย่างหนึ่งที่ยังมีคนรักเรานะ แต่ช่างเถอะมันเป็นธรรมดาไปสำหรับพี่เสียแล้ว ขอบใจมากนะ รักน้องเสมอ แก้วประเสริฐ.
18 มกราคม 2553 19:06 น. - comment id 1087762
งดงามยิ่งขอรับ คุณลุงแก้วฯ ความรักเป็นบ่วงจริงๆ นะครับ แต่ผมจำคำสอนไม่ได้ว่า ลูกเป็นเหมือนบ่วงผูกคอ ภรรยา สามี เป็นบ่วง แขนขา อะไรทำนองนี้ แต่ก็อ่านงานงามๆ ออกมาจากใจ? อ่ะป่าวหนอ อิอิ ขอให้มีความสุขในการรังสรรค์ จินตนามาเป็นภาษาสวรรค์ จำรุงใจ เช่นนี้ ตลอดไปครับ
18 มกราคม 2553 19:19 น. - comment id 1087770
คุณ กวีน้อยฯ หลานรักเอย ทุกๆอย่างคือบ่วงทั้งสิ้นไม่ว่า ตัวเราและคนอื่นๆจะเรียกว่า บ่วงชีวิต ก็คงจะไม่ ผิดกระมัง ทั้งๆที่เรามีบ่วงคล้องอยู่แล้วแต่ก็ยังอด ที่จะหาบ่วงมาอีก ดูเช่นกระเหรี่ยงคอยาวซิ ยาว แค่นี้ไม่พอ หาบ่วงมาใส่อีกคือความคิดว่ายิ่งคอ ระหงส์เท่าไหร่หญิงนั้นยิ่งงามมากเท่านั้นนี่คงจะ เป็นสิ่งหนึ่งนะ ไม่ว่า เมีย(สามี) ลูก เพื่อน คนชอบที่เราคำนึงถึงล้วนแล้วเป็นบ่วงทั้งสิ้น แหม๋จะเขียนอธิบายให้ยาวกว่านี้คงไม่ดีมั๊ง ใช่แล้วเกือบ 80% ลุงเขียนจากใจลุงเองจ๊ะ ที่เหลือคือประสบการณ์และจินตนาการในแนว สร้างสรรค์ไว้ รักหลานเสมอๆ แก้วประเสริฐ.
18 มกราคม 2553 20:28 น. - comment id 1087811
มาให้กำลังใจเจ้าคะ ดูแลตัวเองนะคะ
18 มกราคม 2553 22:07 น. - comment id 1087833
แอบมาอ่านคำสอนครับ
19 มกราคม 2553 10:17 น. - comment id 1088007
รักดั่งบ่วงห่วงหาพาจิตป่วน คิดคร่ำครวญหวลคำนึงถึงแต่เขา จิตฟุ้งซ่านร้าวรานเนินนานเนา ดุจดังเงาหลอกหลอนนอนอาดูร ************************ สวัสดีค่ะคุณลุงแก้ว ความรักเข้าใจยากที่สุด แต่ชีวิตเราก็ขาดความรักไม่ได้นะคะ รักคุณลุงค่ะ
19 มกราคม 2553 10:21 น. - comment id 1088008
เข้ามาอ่านงานครูแก้วครับ ผมเองเริ่มยุ่งอีกแล้วครับ เดือนนี้ กำลังจัดทำการปรับค่าจ้างประจำปี เลย แวปมาแวปไป แต่ยังอ่านงานหลายคนๆ อยู่ .. สายบาศมัดมาดแม้น.......หมายมี เส้นเชือกเลือกชั่วดี.........ดื่นผู้ เราผูกรุกเผาผี...........ตนผ่าน เผยแฮ บ่วงแน่นหลวมหลากรู้.....ร่างร้อนฤาเย็น ฯ รักษาสุขภาพด้วยครับครู
19 มกราคม 2553 12:25 น. - comment id 1088069
คุณ เจ้าสาวแห่งโลกวิญญาณ ขอบคุณมากครับฝากเนื้อตัวด้วย เพราะมา อาศัยถิ่นคุณอยู่แล้วยี่สิบกว่าปีนะครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
19 มกราคม 2553 12:27 น. - comment id 1088071
คุณ รัมณีย์ ผมเองก็เขียนอารัมบทไปตามประสาคนแก่ ทั่วๆไปแหละครับ สิ่งใดดีก็จะกล่าวสิ่งใดไม่ดีก็จะ ผ่านไปและไม่คิดมากด้วย ขอให้มองโกลจงสุขสม หวังดั่งปรารถนาเน้อ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
19 มกราคม 2553 12:33 น. - comment id 1088078
คุณ ยายแม่มด สวัสดีจ้าหลานรัก นี่เพราะรักกันนะถึงจะขอกล่าวสักนิดหนึ่ง คือกลอนเธอนั้นผิวเผินจะงดงามมากอ่อนไหวดี แต่หากพิจารณาจะเป็นสัมผัสซ้อนสัมผัสในไปจ๊ะ มันฟุ่มเฟือยมากไป การเขียนกลอนควรจะให้มี เพียงสัมผัสในครั้งเดียว เพราะการเขียนสัมผัสใน ซ้อนกันนี้จะดูเป็นในลักษณะกลอนพาไปถึงแม้ว่า เราจะบังคับไว้ก็ตามแต่มันจะบ่งบอกลักษณะนี้จ๊ะ เมื่อเราสัมผัสคำที่สามสี่แล้วก็ไม่ควรจะไปสัมผัสอีก แต่จะเล่นยากหน่อยด้วยต้องเลือกอักษรไว้ ยกเว้นจะกระชากอักษรเข้ามา แต่ก็ไม่ควร เกินกว่าครั้ง นี่เพราะผมรักคุณและคบกันมา นานจึงกล้าเอ่ยคำแนะนำ หวังว่าคงจะไม่โกรธ ผมนะครับ รักหลานมากเสมอ แก้วประเสริฐ.
19 มกราคม 2553 13:03 น. - comment id 1088084
คุณ กิ่งโศก ศิษย์รักเรา การพิจารณาเลื่อนปรับค่าจ้าง ประจำปีนั้น ที่บริษัทลูกผมตั้งขึ้นไม่เป็นรองใครๆ เมื่อก่อนนั้นเขาจะมาปรึกษากับผม แต่ตอนนี้ไม่ ต้องแล้ว ผมให้ข้อแนะนำไว้ดังนี้ 1) ความขยัน ดูแล ตรวจสอบ เอาใจใส่งาน 2) ความประพฤติของพนักงานต่างๆ 3) ความคิดสร้างสรรค์งานนั้นๆ 4) ความรับผิดชอบต่องาน 5) การลา การแทน การมาสาย 6) คิดการปรับเป็น เปอร์เซ็นต์ ของบุคคล และสามารถนำมาประยุกต์กับการจ่ายโบนัสด้วย โดยตั้งกฏเกณฑ์เป็นเปอร์เซ็นต์ไว้ เช่น ความประพฤติ 10 คะแนน เป็นต้น เป็น หมวดเพิ่ม หมวดตัด ก็จะได้ความเฉลี่ยต่างกัน ภายในกฏเกณฑ์นี้ให้ไปใช้บังคับแก่เจ้าหน้า ที่ของเราเป็นหลักใหญ่ ส่วนปลีกย่อยคือ เจ้าหน้าที่แต่ละคนจะมีลูกเล่นอย่างไร เช่น ต่อหน้าเจ้านายประพฤติตนอีกแบบหนึ่ง ลับ หลังประพฤติอีกแบบหนึ่งเป็นต้น เราสามารถตรวจสอบได้โดยติดกล้องวงจรปิดเปิด ดูความประพฤติของพนักงานเกือบทุกๆจุดและ สามารถป้องกันการยักยอกทรัพย์สินได้อีกด้วย การติดให้ติดไว้ในห้องผู้จัดการใหญ่จะได้คอย ตรวจสอบ โดยเราไม่ต้องไปคอยนั่งเฝ้าดูเขา ทางบริษัท จะนับครูมีส่วนด้วยก็จะไม่ผิดนัก และสามารถ นำมาเป็นข้อตอบข้ออ้างของเจ้าหน้าที่ได้ดีอีก ด้วยจ๊ะ ศิษย์เราอยู่ในลักษณะพิจารณาด้วย ก็ควรสร้างหลักเกณฑ์นี้ไว้อย่างที่ครูแจ้งมา บัดนี้บริษัทของลูกลุงได้ขยายกิจการใหญ่ โตมากขึ้นและตั้งสาขาไว้อีกด้วยเป็นข้อทดแทน สิ่งขาดหายไปประกอบบริษัทแม่ด้วยจ๊ะ เท่านี้ ก่อนนะศิษย์รักชักปวดสายตาแล้วล่ะ รักศิษย์ เรามากเสมอจ๊ะ แก้วประเสริฐ.