พิลาปลาวัลย์ ...๏ หอมเอยหอมกลิ่นเคล้า ลาวัลย์ ซ่านเฮย พึงแนบชิดติดพัน ซ่อนเร้น วาบหวิวส่งใจอนันต์ ภาพก่อ จิตแฮ อวบอูมงามมากเน้น ชูสล้างฝากสรวง ฯ ล่วงล้ำลึกเด่นล้ำ พุ่มพวง หวานรสยามใยยวง แทรกซ้อน เคล้าคลึงคลุกซาบทรวง รสมุ่ง หอมแฮ เกลือกก่อกิ่งกาบก้อน กกกลิ้งกลุ่มกานต์ ฯ กลิ่นเร้าโรมยอดพลิ้ว ไหวเอน แกว่งเฮย ยอดนิ่งไหวเบี่ยงเบน ช่อซึ้ง ไล้โลมรุกข้ามเลน เคล้าซ่าน ประทุม รุกไล่เลียบผ่านขึ้ง โกรธกริ้วล่องลอย ฯ จวบจนพบบ่อน้ำ อมตะ หอมเอย มุ่งมั่นสอดแทรกปะ ล่วงล้ำ โรมรินกลิ่นจะจะ ชวนก่อ สรวงแฮ จวบก่อพิลาปกล้ำ เลียบซึ้งผ่อนคลาย ฯ ลึกลึกเข้าบ่มไล้ นิ่มนวล น่ารักระริกชวน พรอดพริ้ม ถอนใยจากหอมหวล หยุดพัก ผ่อนแฮ หวังมุ่งต่อยอดลิ้ม รสซึ้งตรึงฤทัย ฯ ครวญครางสุขบ่มไว้ สั่นพลาง โชยแฮ ต่อยอดไว้แนบกลาง สิ่งสล้าง มัวเมามุดผ่านขวาง รุดก่อ หวานเฮย ก้านแกว่งไกวสิ่งสร้าง สู่ล้ำแดนสวรรค์ ฯ เกสรแตกแยกไว้ ร่องรอย ภมรหมู่แยกกันคอย คลุกเคล้า ความหวานถูกใช้สอย ล่อกลิ่น ภุมรา กลิ่นฝากสิ่งรอยเศร้า จากแล้วล่องลอย ฯ บุปผาเอยผ่านเคล้า คลอเคลีย ยับแฮ ปั่นป่วนจนหมดเสีย สิ่งแพร้ว เสียหวานจึ่งอ่อนเพลีย ยากก่อ ชวนแฮ เปรียบดั่งนารีแล้ว หมดสิ้นหอมครวญ๚ะ๛ ** แก้วประเสริฐ. **
16 มกราคม 2553 15:11 น. - comment id 1086865
ยามอารมณ์ขุ่นข้องมองทางใดก็ไม่สดใสเลยค่ะคุณลุง คุณลุงสบายดีนะคะ
16 มกราคม 2553 15:27 น. - comment id 1086885
ได้ต่อยอดเลยค่ะ อิอิ....ธรรมชาติให้อะไรเรามากมายนะคะ ปรางเองเป็นคนชอบ ดอกไม้หอมมอง ไปจินตนาการไปเรื่อย ๆ ค่ะ ได้พักสมอง เขียนโคลงได้ยาวเช่นนี้ แสดงว่า สุขภาพ เริ่มดีขึ้นนะคะ
16 มกราคม 2553 16:05 น. - comment id 1086904
คุณ เพียงพลิ้ว ใช่แล้วจ้ายังกับรู้ใจลุงไปเสียหมด ตอนนี้ อารมณ์มันขุ่นมัวไป มองอะไรๆก็ไม่เจริญหูเจริญตา จะสบายไปได้อย่างไรใจไม่สบาย ร่างกายไม่ ต้องพูดถึงหรอกมันแย่อยู่แล้วจ้าหลานรัก รักหลาน เราเสมอๆดีกว่าเน๊อะไม่ต้องกังวลใดๆ จ้า แก้วประเสริฐ.
16 มกราคม 2553 16:13 น. - comment id 1086908
คุณ ปรางทิพย์ ผมเองเป็นคนแบบนี้ยามกลัดกลุ้มในใจ มักจะไม่แสดงออก จะแสดงออกก็หาทางระบายทาง นี้เป็นส่วนมากครับ ตอนนี้หายจากเลิมพออากาศ เริ่มเย็นๆมากขึ้น ร่างกายผิวหนังเป็นผดผื่นไปทั่ว ต้องทำการรักษา แล้วตอนนี้อากาศเริ่มตั้งเค้าฝน อีกแล้วล่ะ โอ้ยช่างวิปริตเหมือนหัวใจเลยเชียวล่ะ ขอบคุณมากที่มาเป็นเพื่อน ครับธรรมชาติให้อะไรๆ เท่าเสมอๆหากเราจะใช้ความละเอียดสักนิด ก็จะได้ความรู้มากมาย ผมเองชอบทางด้าน ป่าเขาลำเนาไพรท้องทุ่งนา เป็นส่วนมาก มาก กว่าท้องทะเลที่คนเขาชอบ ผมเองไม่ชอบนัก แต่ก็ไม่เกลียดจนเกินไปครับ ร่างกายผมหรือ มีแต่ทรุดโทรมครับยากแล้วจะดีขึ้น ชาติก่อน คงจะสร้างไว้แยะ ตอนเด็กหนุ่มๆเรื่อยมาหา ความสบายเหมือนคนอื่นได้ยาก ถึงมีก็แค่ทาง ผ่านเท่านั้น ผมปลงตกเสียแล้วครับ ขอบคุณ ที่แวะมาเป็นเพื่อนยามละเหี่ยหัวใจครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
16 มกราคม 2553 16:32 น. - comment id 1086918
เปรียบเทียบได้ดีมาก ๆ เลยค่ะ ชอบค่ะ
16 มกราคม 2553 18:44 น. - comment id 1086967
กลอนไพเราะเช่นคยเลยค่ะครูแก้ว รักาสุขภาพด้วยค่ะครู ช่วงนี้ เดี๋ยวหนาว เดี๋ยวร้อน อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยค่ะ
16 มกราคม 2553 18:51 น. - comment id 1086970
คุณ คมดาบนารี เป็นเกียรติยิ่งครับที่มาเยี่ยมชม ปกติผม เองมักจะเขียนอย่างต่ำๆก็แปดบทเสมอมาครับ ยกเว้นไปตอบกระทู้คนอื่นหรือในกระทู้ผมเท่านั้น ผมอ่านงานคุณแล้วน่าทึ่งมากครับ ขอบคุณครับ แก้วประเสริฐ.
16 มกราคม 2553 19:21 น. - comment id 1086976
คุณ แก้วประภัสสร ครูเองยังไม่รู้ว่าจะเขียนได้อีกสักเท่าไหร่ ตอนนี้สายตาและสภาพร่างกายแย่ลงไปทุกๆที แล้วล่ะ จะพยายามเขียนไว้ก่อนที่จะลาไปด้วยเหตุ ที่เขียนไม่ได้ อันบ่วงนี้ซ่อนไว้ภายในจิต ยากจะปลิดหายไปก็ให้ห่วง นั่งนอนคิดฟุ้งซ่านจนพล่านทรวง มิอาจล่วงวนเวียนจนเจียนตาย จะลาลับคืนกลับแล้วพับเสีย แสนละเหี่ยใจน้อยละห้อยหาย เป็นห่วงหน้าแลหลังแทบฝังกาย ก็คงสายเสียแล้วนะแก้วใจ ความอาลัยในครั้งที่ยังสนาน สิ่งฟุ้งซ่านย้ำลึกยากตรึกไสว จนเดียวดายไร้สิ่งประวิงไกล ความวิไลบทกานท์เคยสานเรา โอ้ละหนอแก่แล้วจนแผ่วจิต หวังจะสถิตย์ภิรมย์จนบ่มเขลา ความงุ่นง่านโง่เหลือเป็นเชื้อเอา คล้ายเป็นเงาหลอนหลอกเหมือนปอกกาย สิ่งเคยเฝ้ารำพึงคำนึงหา กลับพลิกลาเย้าหยอกมาบอกขาย เจ็บทั้งนอกภายในเจียนใคร่ตาย ดุจละลายไหลแล้วจนแผ่วจินต์ ต่อไปนี้มีใครที่ไหนอีก เข้ามาฉีกแยกชิ้นจนสิ้นถวิล เฒ่าชะแลแก่ชราเข้ามากวิน ต้องสูญสิ้นความหวังเข้าฝังใจ อันคนรักเท่าหนังคนชังเสื่อ น่ารักเหลือใจเปลี่ยนเพื่อเวียนไสว ด้วยคารมซ่อนเร้นกับเน้นใน ยากจะไปห่วงหาแสนอาดูร ศิษย์เราเอยจำไว้ครูใคร่กล่าว ทุกเรื่องราวอย่าเชื่อจะเหลือสูญ ด้วยตัวเราหมั่นตรองมิหมองกูล สร้างสมดุลย์ผ่านพ้นหนีคนยอ. รักศิษย์เราเสมอ แก้วประเสริฐ.
16 มกราคม 2553 21:44 น. - comment id 1086996
แวะมาสวัสดีก่อนนอนค่ะ
17 มกราคม 2553 07:05 น. - comment id 1087063
ยอดเยื่อมครับครูผมอ่านแล้วยังเคลิ้มตามเลยครับพริ้วไหวงดงาม
17 มกราคม 2553 11:21 น. - comment id 1087102
คุณ นรสิริ สวัสดีจ้า วันนี้ผมเองตอนหัวค่ำหน่อย ร่างกายไม่สู้ดีรีบนอนเพื่อให้ร่างกายดีขึ้นจ้าขอบ ใจมากนะ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
17 มกราคม 2553 11:33 น. - comment id 1087110
คุณ ป๋อง สหายปุถุชน ศิษย์เอย ตามความคิดครูนะว่า การเขียน กานท์ใดๆก็ตามแต่ หากสามารถกระชากอารมณ์ คนอ่านและมองเห็นภาพคล้อยตามไปได้นะ ถือได้ ว่าบุคคลคนนั้นประสพแล้วแห่งความสำเร็จในด้าน นี้ การจะกระชากอารมณ์คนได้นั้นมีหลายแบบ แต่แบบที่ยากที่สุดคือการทำให้กานท์นั้นๆไหล ลื่น(แบบไม่ใช่กลอนพาไป) พลิ้วอ่อนไหวไป ตามทำนองจะเรียกอารมณ์คนอ่านได้มากที่สุด การเขียนกลอนนั้นไม่จำเป็นใช้ภาษาสลับหรือ คำยากๆ คำง่ายๆนี่แหละก็สามารถเรียกอารมณ์ คนได้ดี คำยากๆนั้นจะออกแนวกระด้างนิดๆ แล้วครูเกลียดที่สุดคือการเขียนภาษาไทยแล้ว ต้องมาแปลเป็นไทยอีกทีหนึ่งนั้น ไม่ว่าจะเขียน คำยากๆหรือคำง่ายๆนั้น หากสามารถทำให้คน อ่านไหวคล้อยตามได้ก็ถือว่าดีแล้วล่ะ ครูค้น พบว่าเสียงสูงและกลางคือทำนองที่ทำให้คนอ่าน ได้อารมณ์มาที่สุด จึงเน้นแก่ศิษย์เราว่าในบท รับนั้นควรใช้อักษรสูง ที่เป็นเช่นนี้เนื่องจากว่า อักษรสูงนั้นหาอักษรมาสัมผัสได้ค่อนข้างยาก แต่ไม่ต้องใช้ตัวช่วย คือเสียงเอก โท ที่จะ ใช้แก่อักษรใดๆก็ได้ แต่การใช้เราต้องรู้ว่า เสียงเอกอยู่ในตำแหน่งใด เสียงโทอยู่ใน ตำแหน่งใดๆด้วย จึงสามารถจะค้นหาอักษรมา ใช้ได้อย่างสอดคล้องซึ่งกันและกันนะ จำไว้ การใช้อักษรสูงในบทรับนั้น ค่อนข้างจะยาก สักหน่อยและทำให้บังคับอักษรได้ไม่ให้กลอน พาไป รักศิษย์เสมอ แก้วประเสริฐ.
17 มกราคม 2553 12:32 น. - comment id 1087127
ดอกไม้สีสดใส คำโคลงได้ถึงอารมณ์ สัมผัสด้วยชื่นชม ธรรมชาติพิลาปลาวัลย์ สวัสดีค่ะคุณครูแก้วประเสริฐ
17 มกราคม 2553 12:58 น. - comment id 1087132
คุณ ครูกระดาษทราย ผมว่าทุกอย่างในการเขียนเกิดจากอารมณ์ ที่ผ่านพบมาเป็นหลักเข้ากับจินตนาการแบบผสม ผสานกันจึงจะสามารถเรียกอารมณ์คนคล้อยๆตาม ไปกับงานเขียนของเราครับ งานเขียนผมมักจะ ออกแบบง่ายๆไม่ต้องแปล ผมไม่ค่อยชอบในการ เขียนแบบไทยแปลไทยนัก แต่ก็แล้วแต่คนชอบ อยู่ที่ว่าการเขียนใครจะชอบครับ ผมเองชอบแบบ ง่ายๆจึงมักจะเขียนแบบราบเรียบไม่โลดโผนนัก ด้วยผมไม่ต้องการจะเอาดีเอาเด่นในด้านนี้ตาม ความตั้งใจทำไปก็เพื่อให้สบายอกสบายใจและ ยังชะลอสมองมิให้ต้องเบลอไปแม้รู้ว่าจะห้ามไม่ ได้มากก็ตาม แต่ที่แน่ๆคือทำให้อารมณ์เรา ผ่องใสก็คงจะเพียงพอแล้วครับ ตอนนี้สายตา ผมก็ไม่ค่อยดีนักหากใส่แว่นจะรู้สึกเคืองนัยน์ตา ว่าจะเขียนๆไปก่อนที่จะทำอะไรไม่ได้แล้วก็จะ วางมือเสียที ไปหาความสุขด้านอื่นต่อไปครับ เพราะผมคิดว่าผมเองมาได้เพียงนี้ก็พอใจแล้ว และจะไม่มักมากในสิ่งนี้อีกต่อไป อีกอย่างคือ รู้ใจเขาแต่ไม่รู้ใจเรา รู้ใจเราแต่ไม่รู้ใจเขา มีหลากหลายรสก็ตาม คุณจะเห็นว่าผมเองนั้น ไม่ค่อยจะยุ่มย่ามยุ่งเกี่ยวกับใครนัก มักจะเขียน ไปตามใจผมเป็นหลัก คนจะชอบหรือไม่ผมมัก จะไม่ค่อยสนใจนัก ด้วยประการนี้ผมถึงไม่แครร์ ใครๆทั้งสิ้น คนที่ผมแครร์นั้นยังเอาอะไรไม่ แน่นอนนักซึ่งเป็นไปตามทางของโลกนี้ครับ ขอบคุณครับ แก้วประเสริฐ.
17 มกราคม 2553 17:13 น. - comment id 1087228
มาส่งยิ้มครับ ลุงแก้ว
17 มกราคม 2553 17:52 น. - comment id 1087235
คุณ รัมณีย์ อ้าวยังอยู่หรือผมนึกว่า กลับไปประเทศ มองโกเลียเสียแล้วซิ คิดถึงรักเสมอ แก้วประเสริฐ.
18 มกราคม 2553 07:12 น. - comment id 1087382
ครับครูผมก็ยังไม่ค่อยมีความรู้เรื่องโครงกลอนมาก ก็เขียนไปตามจินตนาการที่อยากถ่ายทอดออกมาก็จะพยามให้เขียนเก่งๆ เหมือนพี่น้อง ครู อาจารย์ บ้านกลอนของเราครับ อบอุ่นเสมอครับครู
18 มกราคม 2553 10:44 น. - comment id 1087459
เป็นอย่างนี้ นี่เอง อารมณ์หวั่นไหว พิศดาร วันหลัง จะเอาแนวพิศดาร บ้างอ่ะครับ แบบว่า อ่านแล้ว ไม่เป็นกลอน อิอิ ทักทาย และเย้า ตามประสา ครับ คุณลุงแก้วฯ แต่งเพราะเสมอ ครับ ผมเลยไม่รู้จะบรรยาย เพิ่มไปเพื่ออะไร เพราะกลัวไม่หมด อิอิ