อนิจจาหนอใจ สายลมพลิ้วผ่านพัด ริ้วระบัดใบไม้ไหว ฟ้าฝนมิเป็นใจ ห้วงฤทัยมิเบิกบาน ฝนพร่างผิดฤดู ดั่งยอดชู้ยากขับขาน ห้วงหทัยสุดร้าวราน อกสะท้านสิ้นดวงแด ยากไร้ใครแลเห็น ทุกข์ลำเค็ญผ่านผันแปร ดิ้นรนจนพ่ายแพ้ ดุจดั่งแม่ลบรูปรอย เหม่อมองท้องทุ่งทอง ฝนละอองที่เป็นฝอย แต่เราซิเฝ้าคอย ใจละห้อยนางเป็นไฉน ก่อนเก่าคนช่วยเกี่ยว มีดใบเคียวตัดกำไว้ ร้องเพลงเคล้าวิไล ใยมาร้างให้ใฝ่ตาม ผันผวนป่วนแปรทิศ ยากตามติดพิชิตคาม สร้างเศร้าคอยนงราม สุดจะห้ามมัดห้วงจินต์ เมล็ดข้าวยามถูกฝน แยกจะทนแตกเป็นชิ้น ราคาคงหมดสิ้น มิอาจถวิลหมดสิ้นเรา ความจนคนเขาเมิน จึงห่างเหินหลงโง่เขลา เชื่อรักเหลือเพียงเงา ซ่านสู่เคล้าเศร้าทุ่งนา กบเขียดร้องแซ่ซ้อง เบิ่งตาจ้องเที่ยวค้นหา ฝนพร่างปนพลิ้วมา หยาดน้ำตาซึมซุกใน เสียงปลาฮุบกินเหยื่อ เบ็ดราวเจืออาหารไว้ สะพายข้องเลี้ยวไป ปลดปลาใส่จนใกล้สาง กระท่อมเอนกายลง จิตพะวงถึงแม่นาง แสงสีคงเปิดทาง ทุ่งนาร้างยากหวังคืน เหลือไว้เพียงสิ่งฝัน ใจผูกพันมิอาจฟื้น ทรวงเราเคล้าสะอื้น ยากระรื่นกับฝนฉ่ำ ทุ่งเอ๋ยทุ่งรวงทอง ใจข้าหมองสุดระกำ ฟ้าเอยมิหยุดพรำ น้ำคงล้ำท้องทุ่งนา รวงข้าวเคยพลิ้วไหว โอนเอนไกวยากรักษา ลมฝนมินำพา แกล้งพลิกพาข้าคนจน สิ้นรักยังสิ้นข้าว ช่างปวดร้าวยากสุดทน คราวนี้คงปี้ป่น พลิกผันจนฝนผิดกาล เสียรักสุดหักฝืน ยากจะฟื้นสู่ประสาน อกเอ๋ยช่างร้าวราน อนิจจาหนอใจเรา. * แก้วประเสริฐ. *
8 มกราคม 2553 21:25 น. - comment id 1083419
สวัดสีปีใหม่ค่ะคุณลุงแก้ว งานคุณภาพอีกแล้ว
8 มกราคม 2553 22:10 น. - comment id 1083458
สวัสดีครับ เข้ามายืนยันครับว่าผมรักคุณตรูครับ
9 มกราคม 2553 06:52 น. - comment id 1083477
ครวญครางใจร้างรัก อกร้าวหักรักไม่หวน ครวญใครใจรัญจวน ครวญคืนเจ้าเหย้าเรือนทรวง มาชื่นผลผลงานอันทรงคุณค่าครับ
9 มกราคม 2553 09:08 น. - comment id 1083513
สวัสดีค่ะ คุณแก้วประเสริฐ จากที่ห่างหายไปนาน เพราะ ศศร ลืมพาส วันนี้เข้ามาสมัครใหม่นะ ขอกลับมาพบเพื่อนๆ อีกสักครั้ง คิดถึงทุกๆท่าน นะคะ
9 มกราคม 2553 11:21 น. - comment id 1083527
ทุกสิ่งเปลี่ยนไปตามกาลเวลา ธรรมชาติเปลี่ยนตามคนที่ดัดแปลง ไม่มีสิ่งใดคงที่.... วันเด้กพาหลานๆไปเที่ยวที่ไหนคะ
9 มกราคม 2553 13:05 น. - comment id 1083538
9 มกราคม 2553 17:32 น. - comment id 1083581
คุณ พิมญดา สวัสดีปีใหม่ครับ ขอความสุขจงมีแด่หลานนะ คิดอะไรสมความปรารถนาทุกๆประการครับ จะเรียกงานคุณภาพไม่ได้ครับ ต้องเรียกว่า งาน ตามใจฉันคงจะเหมาะกว่าครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
9 มกราคม 2553 17:35 น. - comment id 1083583
คุณ อินสวน สวัสดีครับ ขอบคุณที่ให้เกียรติครับผมก็รัก คุณเช่นเดียวกันครับ หากมีอะไรรับใช้ก็บอกได้ นะครับ คนรักชอบพอกันครับ มีข้อแม้ว่าต้องให้ สุขภาพผมดีก่อนนะครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
9 มกราคม 2553 17:36 น. - comment id 1083585
คุณ กระซู่บิน เขียนงานได้งดงามครับ ว่างๆมาเยี่ยมคนแก่ ด้วยก็แล้วกันนะครับ ขอบคุณครับ แก้วประเสริฐ.
9 มกราคม 2553 17:38 น. - comment id 1083589
คุณ ศศร. สวัสดีครับ ดีครับสมัครใหม่ก็ดีเหมือนกัน จะได้ไม่ต้องยุ่งยากแต่เพียงบอกกล่าวกันเท่านั้น ในฐานะเพื่อนเก่ายินดีที่กลับมาใหม่ครับ ว่างๆก็ แว๊บๆมาเยี่ยมกันบ้างเน้อ คิดถึงเสมอครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
9 มกราคม 2553 17:41 น. - comment id 1083592
คุณ ไหมไทย ครับทุกอย่างย่อมไม่หยุดนิ่งจะเปลี่ยนไปเสมอ บ้างก็กลับมา บ้างก็หายไปเลยครับ ที่หมู่บ้านผม เขาจัดวันเด็กทุกๆปีครับ แต่ปีนี้ผมไม่ได้ไปร่วม นอกจากเอาทางบ้านเอาของไปแจกเด็กๆกัน เขา มีเวทีกิจกรรมหลายๆอย่างครับ แต่ผมไม่ได้ออกไป เนื่องจากสุขภาพผมไม่ดีนัก นี่ก็พึ่งจะตื่นนอนแล้ว รีบไปให้อาหารสัตว์รดน้ำต้นไม้พึ่งเสร็จครับ รักเสมอๆ แก้วประเสริฐ.
9 มกราคม 2553 17:44 น. - comment id 1083593
คุณ ธันวันตรี ขอบคุณครับ นี่เป็นเพียงแค่ทบทวนที่ฝึกไว้ ครับ ไม่ค่อยได้เล่น ปกติผมจะเล่นแค่สามอย่าง คือ กลอน โคลง และกาพย์ยานี11 ครับ นี่เป็น กาพย์ยานี11 อีกแบบหนึ่งครับ ปกติมีสองแบบครับ ไม่รู้ว่าจะดีหรือเปล่า เป็นเพียงแค่ทดลองมิให้ลืม เท่านั้นครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
10 มกราคม 2553 09:14 น. - comment id 1083747
สวัสดีครับครูแก้ว ผมชอบแนวแบบนี้นะครับ..ท้องทุ่ง กระท่อมเก่า ..ทำให้นึกถึง บ้านทุกที เพราะจะพบภาพแนวนี้นะครับ ครูแก้วดูแลสุขภาพด้วยครับ
10 มกราคม 2553 15:08 น. - comment id 1083852
อนิจจาจ๊ะ :)
10 มกราคม 2553 17:03 น. - comment id 1083890
คุณ กิ่งโศก สวัสดีจ๊ะศิษย์รัก ครูเองนั้นชอบป่าเขาและ ท้องทุ่งนามาก ครูเองเกิดที่ยานนาวา สมัยนั้นมี สวนต่างๆมากมายและท้องทุ่งนาทั้งนั้น ต่อมาความ เจริญมากขึ้น อากาศเปลี่ยนไปทำให้ครูเป็นโรค แพ้อากาศ จึงมาซื้อที่และบ้านที่ศิษย์เราเห็นมา ตรงหน้าบ้านครูสมัยก่อนนั้นเป็นทุ่งนาไปหมดรอบๆ หมู่บ้านก็ทุ่งนา ครูมักจะไปพักผ่อนที่นั่นเสมอ ยามไม่ได้ทำงาน อากาศสดชื่นยิ่งตอนเช้าๆด้วย แล้ว ช่างบริสุทธิ์จริงๆทำให้โรคแพ้อากาศครู จางลงไปมาก ต่อมาความเจริญก็ตามมาอีกที่ เห็นหน้าบ้านครูเป็นหมู่บ้านใหญ่ชื่อหมู่บ้าน มณฑนา ราคานับล้านๆบาทจ๊ะ แต่แก่แล้วจะ ย้ายอีกก็ไม่ไหวเลยทนๆและกลับมาเป็นอีก การเขียนกลอนและกาพย์เท่านั้นที่สามารถ บรรยายได้ไพเราะกว่าอย่างอื่น นี่ความคิดเห็น ครูนะ จงพยายามเข้าหากว่างๆก็อย่าทิ้งมันให้ ประโยชน์แก่เรามาก ถึงแม้จะทำงานเถอะ การรู้อักษรมาก ใช้ในการเขียนหนังสือได้ดี อีกด้วยจ๊ะ รักศิษย์เราเสมอ แก้วประเสริฐ.
10 มกราคม 2553 17:08 น. - comment id 1083892
คุณ กุ้งหนามแดง สวัสดีจ้าเถ้าแก่เนี้ยขายของเป็นอย่างไรบ้าง หวังว่าคงจะเจริญรุ่งเรืองนะ ยินดีด้วยจ๊ะ ใช่แล้ว ทุกๆอย่างล้วนอนิจจัง ผมเขียนเรื่องนี้ก็ใช้แค่จินตนาการ ผสมกับท้องทุ่งในอดีตที่พบเห็น อิอิ แถวนั้นตอน ผมอยู่เขาจับหนูนามาย่างแล้วผัดเผ็ดเขาจะเอามา ให้ผม ผมไม่เอาด้วยรังเกียจหนูจ๊ะ และอีกอย่าง งูเห่าก็ชุกชุมด้วยเขาจับมากินหมด ตอนนี้ด้าน ทิศเหนือก็ยังเป็นทุ่งนาแต่ไม่ได้ทำนากันแล้ว ปล่อยรกร้างเห็นจะสร้างหมู่บ้านแต่มาหลายๆปี ก็ยังไม่เห็นเลยจ๊ะ รักเพื่อนรักเสมอ แก้วประเสริฐ.
10 มกราคม 2553 19:27 น. - comment id 1083949
มาอ่านแม่แบบกาพย์ยานีค่ะ สมกับที่ยกย่องว่าเป็นครูค่ะท่าน
10 มกราคม 2553 20:36 น. - comment id 1084000
แหมลุงแก้ว เก็กท่าหล่อกลางสายน้ำเลยนะเจ้าคะ
10 มกราคม 2553 20:40 น. - comment id 1084001
สายลมที่พรมพร่าง ให้สองปรางนี้หวั่นไหว สายลมช่วยเป็นใจ ดลฤทัยที่เฝ้ารอ คอยนางกาลผ่านผัน ทุกคืนวันยิ่งเศร้าหนอ ขาดคนเคยเคียงคลอ เฝ้าพนอสุดท้อทน.....ฯ กาพย็ไพเราะค่ะ..แวะมาทักทายและแจมกลอนนะคะ....
10 มกราคม 2553 21:16 น. - comment id 1084009
คุณ นรสิริ ผมเองยังไม่กล้าอาจเอื้อมจะรับคำชมไว้ครับ ผมก็เล่นไปเรื่อยๆแหละ จนเข้าตาคนบางคนเขา จึงยกย่องผม ตอนแรกก็เขินและก็มีคนมาฝากตัว ขอร่ำเรียนสิ่งที่ผมรู้ ตอนแรกก็ปฏิเสธแต่ก็ยังมี มาเรื่อยๆ ผมเป็นคนใจอ่อนก็มานั่งคิด ไหนๆก็ ไหนๆแล้ว เอาล่ะเว้ยลองดูก็ได้ทั้งๆที่ไม่เคยเป็น ครูภาษาไทย มีบางคนว่าผมเป็นครูภาษาไทยแต่ เขาเข้าใจผิดผมก็บอกเขาไปครับ จนทนไม่ได้จึง พึงจะมารับไว้ก็มีเรื่องเท่านี้เองแหละครับมิได้ ใฝ่ทะเยอทะยานอะไรมากนักหรอก ในเมื่อ เขามีศรัทธาก็สนองแต่ก็บอกเขาทุกๆคนว่าผม เองมีนิสัยเป็นคนอย่างไรเสมอๆ และเมื่อฝึก ในสิ่งที่ผมรู้ค้นศึกษามา ตลอดจนเคล็ดแง่มุม ที่ผมค้นพบจากนักปราชญ์ราชบัณฑิตจนพบ แก่นของการเขียน ก็นำมาถ่ายทอดให้แก่เขา ก็ได้รับผลเป็นที่พอใจ และยังบอกว่าต้องให้ เก่งกว่าผมนะ ถึงจะทำให้ผมพึงพอใจครับ กาพย์ยานี11 มีการเขียนสองแบบ ผมอ่านกาพย์ มามีหลายชนิด แต่เห็นว่า กาพย์ยานี11 เล่น ง่ายไม่ต้องคำนึงถึงสิ่งใดๆเพียงดำเนินไปตาม กรอกกฏเกณฑ์ที่ท่านได้กำหนดมาก็เท่านั้นเอง ผลลัพธ์หรือครับ เป็นกาพย์ที่ไพเราะที่สุดจาก กาพย์ทั้งผองตามความคิดผมนะครับ แม้แต่ เจ้าฟ้ากุ้งฯพระองค์ก็ยังทรงโปรดนิยมมากที่สุดและ ท่านก็เล่นกลอนไม่มากนัก ผมเองก็เล่นไม่มาก ตามครูบาอาจารย์สั่งสอนไว้ไม่ให้เกิน 3 อย่าง ที่ต้องให้ชำนาญและให้รู้ซึ้งถึงแก่นครับ จะไป เล่นอย่างอื่นก็ได้แต่ให้เพียงรู้ๆไว้เท่านั้น มิ ฉนั้นจะเกิดความสับสนกันและการดำเนินการ ก็จะเกิดชะงักด้วยความลังเลสงสัยมากขึ้นครับ ผมเล่นอยู่ 3 อย่างที่ครูอาจารย์สั่งไว้ทุกประการ ส่วนอื่นๆก็พอจะเป็นบ้าง ทั้งๆที่ใจผมเองชอบ การเขียน โคลงมากที่สุด แต่ก็ต้องมาฝึกกลอน แปดไว้ด้วยเป็นรากเง่าของกานท์ทั้งหมดครับ หากชำนาญกลอนแปด ต้องเป็นกลอนแปด ที่แท้จริงนะครับจะไปเล่นอย่างอื่นก็ง่าย อ้าวๆ พูดเลยเถิดไปแล้วเดี๋ยวคนจะเขม่นผมอีกนะ พูดเรื่องกาพย์ยานี11 ดีกว่า นอกจากเป็นกาพย์ ที่ไพเราะเพราะพริ้งที่สุด ยังอ่อนช้อยพลิ้วไหว ในตัวอักษรอีกด้วย สามารถเรียกอารมณ์คน อ่านได้อย่างลึกซึ้งคล้อยตามไปด้วยครับ ที่สำคัญ เป็นการเขียนที่ง่ายที่สุดของกระบวนกานท์ทั้ง มวลครับ เอาแค่นี้ก่อนนะครับ สงสัยคนจะ มองตาเหล่ผมแล้ว สิ่งใดดีก็ทดลองได้ครับหาก ไม่ดีก็คิดว่าคนแก่พูดมากก็แล้วกันครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
10 มกราคม 2553 21:27 น. - comment id 1084013
คุณ ยาแก้ปวด หลานรักเป็นภาพผมจริงๆให้เขาถ่ายไว้ ตอนไปเที่ยวอุบลราชธานี ตำบลหรืออำเภอแต่ จำชื่อว่า ชื่อ ดอนใหญ่ ผมไปพักผ่อน สามสี่วัน ไปเที่ยวเถียงนาพักผ่อนไปดูเจ้าทุยและเดินไป ที่ลำธารเขาเรียกอะไรจำไม่ได้แล้ว สวยมากครับ ไปช่วงนั้นน้ำแห้งเพียงไหลรินๆสามารถข้ามไป อีกฝั่งหนึ่งได้แต่กว้างนะครับ ตาจันทีบอกว่าหาก จะข้ามให้เดินตามหินอย่างลงจากหินด้วยเป็นทราย มันจะดูดเอา หินมีหลากสีครับสวยจริงๆอยู่ก้น ลำธารผมมองดูฝั่งสูง แกบอกว่าเวลาหน้าน้ำๆ จะท่วมเต็มตลิ่งครับ เวลาไปต้องเดินตามคันนา ฝ่าแดดร้อนมาก ผมไปกันเพียงสองคนและ สอนการถ่ายภาพให้เขา จึงได้ภาพนี้มาครับ ผ่านบ้านหลายๆหลัง เขากำลังทานข้าวกัน ตะโกนเรียกให้ไปทานด้วยเลยครับ เพราะตอน เที่ยงวันพอดี ด้วยเถียงจะว่าเถียงก็ไม่เชิง เขาปลูกเป็นกระต๊อบก็ว่าได้สองชั้น เวลาขึ้นลง ต้องชักกะไดไม้ครับเวลาค่ำคืน ยกสูงมากครับ ชีวิตผมชอบธรรมชาติมากครับหลานรัก มันให้ อะไรๆแก่ชีวิตที่ไม่มีเล่ห์เพทุบายมีแต่ความ สอาดบริสุทธิ์ แม้แต่คนก็มีน้ำใจบริสุทธิ์เหมือน กันครับ ก่อนไปถึงเถียงมีพลาญหินด้วยกว้าง มากครับสีแดงๆสวยอีกแบบหนึ่งครับ โอ้ยหาก กล่าวก็ไม่หมดยังจำติดตามาถึงบัดนี้เลยล่ะ อ้อ ภาพนี้ถ่ายหลังจากไปเที่ยวระยองตามคณะของ ไทยกลอนมาครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
10 มกราคม 2553 21:30 น. - comment id 1084016
คุณ ราชิกา แฝดเพื่อนที่เขียนมาก็คือกาพย์ยานี11แต่เพียง นำมาแยกบรรทัดทำให้ดูเหมือนกลอนครับ แฝด เพื่อนก็คงทราบเห็นแต่งมาแยะเหมือนๆกันครับ เขียนได้งดงามน่าทึ่งมากครับสวยงดงามครับความ หมายลึกซึ้ง อ้อ นี่ก็คือดินแดนอิสาณครับแต่เป็น ที่อุบลฯบ้านดอนใหญ่ครับ รักแฝดเพื่อนรักเสมอๆ แก้วประเสริฐ.
11 มกราคม 2553 00:32 น. - comment id 1084060
มองเห็นภาพเลยครับ สุยอด
11 มกราคม 2553 11:15 น. - comment id 1084186
คุณ k.wattana ขอบคุณครับที่แวะมาเยี่ยมเยียน ผมก็เขียน ไปตามใจปรารถนาแหละครับ หรือครับครูบาอาจารย์ ผมเคยกล่าวกับผมเสมอๆว่า การเขียนกลอนหาก สามารถทำให้คนอ่านคล้อยตามไปด้วยได้อารมณ์ และภาพแล้วถือว่าก้าวเข้าสู่จุดสูงครับแต่ยังไม่สูงสุด นะครับ ขอบคุณมากครับ แก้วประเสริฐ.