๏ ทอดองค์เอนดับแล้ว................ดวงฤดี ชโลมหลั่งเลือดสายนที...............ป่วนไห้ เฉกสายแม่สักขี......................ขานเล่า สืบนา หวังฝากร่างพรหมไท้.................สถิตแคว้นขุนเขา บารนี ๚ะ๛ ๏ ทอดองค์เอนดับแล้วดวงฤดี เบื้องศิลามณีแทนไอศูรย์ โลหิตหลั่งชโลมข่มอาดูร รักเกื้อกูลกลับสบั้นผลาญชีพชนม์ ๚ ๏ โอ้ยอดรักพรากข้าสู่ฟ้าแล้ว เหลือดวงแก้วใกล้ดับกลับเวหน จำจุติละร่างฤทธิรณ นฤมลกอดข้าให้แน่นนาน ๚ ๏ เส้นสายเลือดเหือดหายสลายน้ำ ทอดโค้งค้ำขุนเขาให้เล่าขาน เนินนางนอนนิ่งนับนิรันดร์กาล รินสายธารผ่านถ้อยร้อยเรียงแทน ๚ ๏ แม่สายซึ้งพึงพรอดแม่ยอดหญิง นางสูญสิ่งบัดพลีพญาแถน ฟ้าคำรณฝนร่ำฉ่ำทั่วแดน อาลัยแสนโศกศัลย์กัลยา ๚ ๏ เวิ้งฟ้ากว้างเมฆก่ำอำไพสี อัสดงส่งสุรีย์สู่นิศา สกุณีโผผินสิ้นทิวา เสียงคีตมาดีดย้อมกล่อมนางนอน ๚ ๏ หลับเถิดแม่ผู้ป้องครรลองรัก เจิดประจักษ์ฝากรู้อนุสรณ์ ลำแม่สายบ่ายข้างดอยนางนอน หวนอาวรณ์โหยหาร่ำอาลัย ๚ ๏ ครั้นยามยลชนใดพึงตระหนัก คงมั่นนักรักอนันต์เหนือสิ่งไหน ใช่สวาทรสหวามดื่มดำใด คือรักแน่นห้วงใจพิสุทธิ์จริง ๚ะ๛ + กิ่งโศก+ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๒ ภาพ..จากกูเกิ้ล ตำนาน...ดอยนางนอน เรื่องตำนานดอยนางนอนนี้ เล่ากันว่านานมาแล้ว ณ เมืองเชียงรุ้ง สิบสองปันนา มีเจ้าหญิงองค์หนึ่งมีพระรูปงดงามเป็นที่ยิ่ง ได้แอบรักกับชายเลี้ยงม้าในวัง จึงหนีตามกันมาถึงที่ราบใกล้แม่น้ำโขง เมื่อเดินทางไปถึงที่นั่น เจ้าหญิงก็ทรงครรภ์ได้หลายเดือนแล้ว จึงเสด็จต่อไปไม่ไหว บอกพระสวามีว่าจะประทับรออยู่ที่นั่น สวามีก็บอกว่าจะไปหาอาหารมาให้ อย่าไปไหนนะ ชายหนุ่มก็ไปแล้วไปลับไม่กลับมาเสียที มาได้ข่าวอีกที ปรากฏว่าถูกฆ่าโดยทหารของพระราชบิดาเจ้าหญิงที่ สะกดรอยตามมานั่นเอง ด้วยความเสียใจนางจึงใช้ปิ่นปักผม แทงพระเศียรของพระองค์จนเลือดไหลออกมาเป็นสาย กลายเป็นแม่น้ำแม่สายในทุกวันนี้และพระวรกายของ พระองค์ที่นอนเหยียดยาวจากทิศใต้จรดทิศเหนือ ก็กลายเป็นดอยนางนอนจนทุกวันนี้ โดยส่วนของพระอุทร(ท้อง)ก็เป็นดอยตุง
19 พฤศจิกายน 2552 21:08 น. - comment id 1043894
ปูเสื่อนั่งรอฟังเรื่องเล่าเดี่ยวกับที่สายค่ะ
19 พฤศจิกายน 2552 21:10 น. - comment id 1043897
ก๊าก รีบไปโหน่ยค่ะพี่ปู่ พิมพ์ผืดดด เพียบเล้ย
19 พฤศจิกายน 2552 21:12 น. - comment id 1043900
นึงถึงอดีต.........สมัยยังหนุ่มๆ
19 พฤศจิกายน 2552 21:15 น. - comment id 1043902
คุณแก้วประภัสสร ..ขยับมานั่งใกล้ๆ เลยคุณแบม จะเล่าให้ครับ อิอิ ..พิมพ์ผิดเรื่องปกติครับ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านครับ
19 พฤศจิกายน 2552 21:16 น. - comment id 1043903
เป็นตำนานที่น่าเศร้าจริงๆ ครับ พึ่งรู้ครับว่า แม่สาย มีที่มา แบบนี้ แล้ว ยายสาย ล่ะครับ มีที่มายังไง ขอให้มีความสุขครับ
19 พฤศจิกายน 2552 21:18 น. - comment id 1043904
คุณก่องกิก พี่ก่อง คิดถึงสมัยหนุ่มพูดงี้..อย่ายอมแพ้สังขารสิครับ อิอิอิ
19 พฤศจิกายน 2552 21:21 น. - comment id 1043910
สวัสดีครับพี่ไร้ฯ โห มาถามหายายสาย..ยายสายตอนนี้คิวแน่น เพราะหนังพวกผีปอบกำลังสร้างอยู่ อิอิ แต่ไม่รู้ภาคไหนแล้วอะ...เสียโอ่ง(ราชรี)ไปเยอะแล้วอะ อิอิ ขอบคุณที่มาเยี่ยมกันครับ
19 พฤศจิกายน 2552 21:25 น. - comment id 1043916
พี่ปู่คะ แล้วแม่สายบัวล่ะ เล่าให้ฟังหน่อยจิ หนูนั่งเท้าคางรอฟัง อิ
19 พฤศจิกายน 2552 21:30 น. - comment id 1043920
น่าสนใจนะครับ...อ่านแล้วประทับใจ แต่ก็ให้ความรู้สึกเศร้าๆนะครับ
19 พฤศจิกายน 2552 21:36 น. - comment id 1043927
คุณแบม แม่สายบัวนี่ เด๋วเอาไว้เล่าให้ฟังอีกทีน้า
19 พฤศจิกายน 2552 21:38 น. - comment id 1043929
มาอ่านกลอนก่อโคลงงดงาม และตำนานแสนซึ้งค่ะ เรื่องราวคล้ายกับตำนานถ้ำผานางคอย จ.แพร่ เลยค่ะ ตำนานเล่าว่า เจ้าหญิงอรัญญานี ราชธิดาในกษัตริย์แสนหวี ประสบเหตุเรือล่ม หัวหน้าฝีพายได้ช่วยเจ้าหญิงไว้ จึงเกิดรักกันจนเจ้าหญิงทรงครรภ์ พระราชบิดาทรงพิโรธขังเจ้าหญิงไว้ แต่สามีของนางช่วยพาหนีลงมาทางใต้ กองทหารได้ไล่ตามทั้งสองมาจนถึงหุบเขาแห่งหนึ่ง เจ้าหญิงถูกยิงด้วยธนู หัวหน้าฝีพายจึงพาเจ้าหญิงไปหลบรักษาตัวในถ้ำ เจ้าหญิงบอกให้คนรักหลบหนีไป และบอกว่าจะคอยเขาอยู่ในถ้ำนี้ แต่ชายหนุ่มก็ไม่กลับมา เจ้าหญิงจึงตั้งสัจจาธิษฐานว่า จะรอคอยสามีอยู่ ณ ถ้ำแห่งนี้ตลอดไป นางได้กลายเป็นหินรอคอยการกลับมาของชายคนรักจวบจนทุกวันนี้
19 พฤศจิกายน 2552 21:38 น. - comment id 1043930
สวัสดีพี่อินสวน อิอิอ ต้องโทษพี่อินสวนนะแหละที่เขียนกลอนทางเหนือ ผมเลยหาเนื้อหาจะขียนพอดีฟังเพลงแม่สายเลย หาข้อมูล ได้ ดอยนางนอน เป็นข้อมูลอ่านแล้วแสนเศร้าครับพี่อินสวน
19 พฤศจิกายน 2552 21:40 น. - comment id 1043932
คุณ virissamara ตำนานคล้ายกันยิ่งเลยครับ แถมอยู่ทางเหนือใกล้กันิกต่างหาก อันที่จริง ดอยนางคอย มีหลายตำนานครับนอกจากตำนานนี้อะครับ ขอบคุณที่มาเยี่ยมกันครับ
19 พฤศจิกายน 2552 21:45 น. - comment id 1043935
ไพเราะมากๆเลยค่ะตาๆๆๆ
19 พฤศจิกายน 2552 21:47 น. - comment id 1043937
พิมพ์ผิดไปนิดหน่อยค่ะ กลอนห่อโคลง อิอิ ว่าแต่เคยไปถ้ำผานางคอยหรือยังคะ รูปนางคอยดูเหมือนคนจริงๆ มากเลยค่ะ เหมือนผู้หญิงอุ้มลูก (แต่บางตำนานก็ว่าเจ้าหญิงทรงครรภ์อยู่ค่ะ) ดูแล้วเศร้าและซึ้งในรักแท้ค่ะ
19 พฤศจิกายน 2552 21:48 น. - comment id 1043939
น้องฟูโกะ ขอบคุณมากมายที่เข้ามาอ่านจ้า น้องก้อย
19 พฤศจิกายน 2552 21:49 น. - comment id 1043940
กลอนเพราะอีกตามเคย ตำนานรักแท้มักจะจบลงด้วยความเศร้าเนอะปู่กิ่ง(โศก) แวะมาอ่านกลอนเพราะๆ ค่ะ
19 พฤศจิกายน 2552 21:53 น. - comment id 1043941
คุณ virissamara ขอบคุณอีกครั้งครับสำหรับจ้อมูล ดอยนางคอยตำนานเหล่าขานคือเจ้าหญิง ครับ ..เจ้าหญิงหนีมากับพระสวามีติดบนดอย ขณะตั้งครรภ์
19 พฤศจิกายน 2552 21:54 น. - comment id 1043942
คุณวาวเดือน หวัดดีน้องเก๋ หายไปนานเลยนะ ตาคำ ก้ออาศัยมั่วๆเอานะแหละจ้า ..เจ้าก้อยเรียกตา เก๋ เรียกปูเรยหรือ อิอิอิ ขอบคุณมากที่เข้ามาอ่านนะ
19 พฤศจิกายน 2552 23:01 น. - comment id 1043979
ครบเครื่องเรื่องโคลงและกลอน... ตำนานนี้อ้อยไม่เคยรู้เลยน๊ะเนี่ย..ขอบคุณ ปู่กิ่ง ฉิ่งฉับ มากนะคะ ไพเราะมากๆเล้ยยยย
20 พฤศจิกายน 2552 05:21 น. - comment id 1066037
กลอนตำนานรักดอยนางนอนสนุกดีแท้ๆ ผู้หญิงมักบูชารักเป็นใหญ่นะ
20 พฤศจิกายน 2552 07:39 น. - comment id 1066057
หวัดดีค่ะพี่กิ่ง อิอิ มาลงชื่อไว้ก่อน เด๋วจะมาอ่าน
20 พฤศจิกายน 2552 08:30 น. - comment id 1066064
คุณเทียนหยด ศิษย์น้อง ขอบคุณมากจ้าที่เข้ามาอ่าน พี่กิ่ง ก็ลองแบบสองอย่างเพื่อฝึกไปพร้อมๆ กันนะครับ ศิษย์น่าจะทดลองหรือ เล่นโคลงดูนะ
20 พฤศจิกายน 2552 08:33 น. - comment id 1066065
คุณกันนาเทวี สวัสดีครับพี่ป้า ผมช่วงนี้ยังไม่รู้จะเขียนอะไรนะครับ ฟังเพลงแม่สาย..ฉบับ ที่ผู้หญิงร้องนะครับ อิอิ ใบไม้ร่วง ลมพลิ้วปลิวไหว....ผมว่าต้องรุ่นพี่ป้าแน่ๆเลย เพลงนี้อะ ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมนะครับ
20 พฤศจิกายน 2552 08:35 น. - comment id 1066067
ครูกระดาษทราย ขอบคุณที่มาเยี่ยมตอนเช้าๆครับ หากมีกาแฟสักถ้วยยืนจิบ บนหน้าผา คงสุขใจไม่น้อยอะ อยากไปทางเหนือครับ อิอิ
20 พฤศจิกายน 2552 08:37 น. - comment id 1066069
หวัดดีน้องแอฟ ..ขอบคุณมากจ้าที่จะเข้ามาอ่าน จะรออะ
20 พฤศจิกายน 2552 08:51 น. - comment id 1066076
ผมไปเที่ยวแม่สายบ่อยๆ และมองดูดอยนางนอนทุกครั้ง มาอ่านตำนานรักดอยนางนอนสที่คุณกิ่งโศกนำเสนอก็สนุกดี ต่อไปถ้าบ้านเมืองเจริญ มีบ้านเรือนเต็มขางทาง จะบังทัศนียภาพ มองไม่เห็นดอยนางนอนอย่างในอดึตครับ
20 พฤศจิกายน 2552 13:24 น. - comment id 1066174
พี่กิ่งจ๋ามาอ่านแล้ว เพราะมากกกกกกกกกกก รู้สึกอิ่มเหมือนกาแฟทรีอินวันเลย ความไพเราะทำให้คิดถึงพี่เจี๊ยบ(พี่ช่อฯ) การเดินเรื่องทำให้คิดถึงพี่สืบไร้อันดับ แต่สุดยอดกว่านั้นก็พี่กิ่งฯ นี่แหระ
20 พฤศจิกายน 2552 13:24 น. - comment id 1066175
หากใครอ่านกานท์บทลำนำนี้ไซร้แล้วฟังเพลง แม่สายสะอื้นประกอบการอ่านด้วย จะสะท้ายอารมณ์ มากเชียว หรือหากหาฟังเพลงดังกล่าวไม่ได้ ให้ฟัง เพลงลำดับที่ 4 ของไทยกลอนประกอบก็ได้ ขอพวก เราทดลองฟังไป รับรองว่าอารมณ์ท่านกระเจิงแน่ ศิษย์เราเยี่ยม รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
20 พฤศจิกายน 2552 13:27 น. - comment id 1066176
กลอนเพราะมากค่ะ แต่อ่านแล้ว เศร้าเหลือเกิน
20 พฤศจิกายน 2552 14:51 น. - comment id 1066210
ตำนานว่าเศร้าพอถ่ายทอดเป็นกลอนยิ่วเศร้ายิ่งกว่าค่ะ
20 พฤศจิกายน 2552 17:23 น. - comment id 1066257
ศิษย์รักเรา ครูเห็นใช้คำว่า " บารนี " เข้าใจ ความหมายหรือไม่ คำๆนี้เป็น คำกิริยาวิเศษณ์ ใช้ สำหรับโคลง เป็นคำสร้อย ใช้ได้สองตัว คือ บารนี กับคำ เลย เท่านั้น ความหมาย หมายถึงการสิ้นสุด ของโคลงนั้นๆอย่างแท้จริง มักจะใช้ในคำสร้อย สุดท้ายของวรรคที่สี่ คือหลังคำที่เก้า เว้นวรรค เป็นคำสร้อยเท่านั้น จะไปใช้เป็นคำสร้อยในวรรคอื่นๆไม่ได้ บทหนึ่งๆมีอยู่สองบาท หมายถึง วรรคที่หนึ่งกับที่สอง เรียกว่า บาท หนึ่ง หากสองบาทเรียกว่าหนึ่งบท จ๊ะ ที่เขียนมานี้กลัวว่าต่อไปจะสับสนไปใช้คำสร้อย วรรคอื่นๆ รักศิษย์เราเสมอ แก้วประเสริฐ.
20 พฤศจิกายน 2552 19:05 น. - comment id 1066297
เพราะมากครับ ไม่เจอผลงานนาน แต่ฝีมือ ยิ่งพัฒนา ขึ้นทุกวันนะครับ
20 พฤศจิกายน 2552 21:33 น. - comment id 1066351
เพราะมากครับ เข้าใจผูกเรื่องได้ยอดเยี่ยมครับ ขอคารวะนะครับ
21 พฤศจิกายน 2552 07:18 น. - comment id 1066443
คุณปติ.. อิจฉา คนได้ไปเที่ยวนะครับ ผมเองไม่ค่อยได้ไปไหนบ่อยนัก ช่วงนี้เลยต้องไปแบบจินตนาการครับ ขอบคูณมากครับที่เข้ามาอ่านงานผมนะครับ รอ โคลง จังหวัดสุดท้ายอยู่ครับ อิอิ เข้าไปอ่านงานของคุณปติ แต่ไม่ได้เม้นนะครับ..
21 พฤศจิกายน 2552 07:19 น. - comment id 1066445
คุณแอฟ ขอบคุณมากครับสำหรับคำชม มีความสุขกับวันหยุดนะครับ
21 พฤศจิกายน 2552 07:23 น. - comment id 1066446
ครูแก้วประเสริฐ ทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับผู้เคี่ยวกรำและสั่งสอนผู้เป็นศิษย์ครับ ครูแก้วรักษาสุขภาพร่างกายด้วยนะครับ เพราะพักนี้ครูบอกไม่สบายบ่อยมาก ..เพลงแม่สายสะอื้นเป็นจุดประกายให้ผมเขียนงานนี้ครับ แล ไปพบกับภาพดอยนางนอน นึกถึงนวนิยาย ที่ติดงอมแงม จนไม่ลืม..จึงจินตนาการออกมาครับครู ศิษย์กิ่งโศก
21 พฤศจิกายน 2552 07:25 น. - comment id 1066447
คุณ Janja ขอบคุณมากเอก ที่แวะมาอ่านงาน ของตาคำ อิอิ อยู่ระยอง คงลืมบางกอกแล้วละสิ
21 พฤศจิกายน 2552 07:27 น. - comment id 1066448
คุณ บี บ้านเพชร หรือ ภูมรินทร์ ขอบคุณมากที่ยังหาเวลาเข้าบ้านกลอนถูก อิอิ ส่วนเรื่อง พาสเวิร์ส ที่จำไม่ได้ต้องส่งเมลไปถาม เวปมาสเตอร์ อะนะ
21 พฤศจิกายน 2552 07:29 น. - comment id 1066449
ครูแก้วประเสริฐ ขอบพระคุณครูมากครับ หากครูไม่บอกผมอาจจะไปใช้ผิดๆได้ครับ เพราะคิดว่าคำสร้อย ทุกคำ จะนำไปใช้เมื่อใด ก็ได้ ครูพักผ่อนเยอะๆนะครับ
21 พฤศจิกายน 2552 07:31 น. - comment id 1066450
คุณกวีน้อยฯ ขอบคุณครับที่เข้ามาอ่าน และยินดียิ่งที่ไปเจอกันในบล็อค อิอิ เล่นกลบทซะเพลินเลยนะครับ
21 พฤศจิกายน 2552 07:32 น. - comment id 1066451
คุณสุริยัน จันทรา ยินดีที่ได้รูจักครับ และขอบคุณที่เข้ามาอ่านครับ มีความสุขกับวันหยุดนะครับ
21 พฤศจิกายน 2552 15:02 น. - comment id 1066477
อ้อ...ครับ มาทันได้อ่านตำนานรักอันตราตรึง
21 พฤศจิกายน 2552 13:24 น. - comment id 1066540
งดงามยิ่งค่ะ เหมือนยาแก้ไข้เลยค่ะ เพิ่งทราบความเป็นมาของแม่สายนี่เอง จะว่าไป เทือกเขาเหมือนดั่ง หญิงนอน เลยนะคะ ฝากไว้ก่อนค่ะ สักวันจะไป เยือน เมืองไทยน่าเที่ยวกว่าที่ไหน ๆ เสียอีกค่ะ