สุดท้ายไอฝนพ้นผ่าน วันวารผ่านไปใจหาย หนาวแรกแหวกฟ้าท้าทาย จบปลายฝนแล้วแก้วตา ไม่มีปุยฝ้ายทายทัก ต้นรักข้างเรือนเบือนหน้า ลมแล้งในหนาวร้าวลา จูบฟ้าสั่งดินสิ้นกัน วูบแรกลมหนาวคราวเยือน ก็เหมือนวิโยคโศกศัลย์ หนาวลมห่มผ้าคว้าพลัน ผ้านั้นไม่อุ่นคุ้นเคย คิดถึงเนื้อนุ่มรุ่มร้อน จากจรพร้อมฝนหม่นระเหย ที่เคยเริงรื่นชื่นเชย ละเลยจากไกลไร้ตน กอดอกฟกช้ำร่ำไห้ ร่ำไรครางครวญป่วนป่น หนาวใจไร้ใจในคน หมองหม่นลมหนาวผ่าวมา กระทงใบตองรองรับ ประดับดอกไม้ไห้หา แต้มด้วยรอยช้ำน้ำตา ลอยมหาชเลเห่ครวญ รอฝนวนกลับนับหนึ่ง ซาบซึ้งเก็บไว้ไห้หวน หนาวเนื้อหนาวใจรัญจวน หนาวนวล...ยวนสวาทขาดลอย
31 ตุลาคม 2552 10:05 น. - comment id 1058813
เหมันต์ที่ผ่านพ้นไป ผ่านไปพร้อมใบไม้บาน ร่วงหล่นพริ้วปลิวลู่ลงทาง ดูใบไม้วางอ้างว้างเอกา เหมือนรักที่จากฉันไป จากไปเหลือไว้แต่น้ำตา หลั่งรินไหลท่วมใจท่วมขอบฟ้า ดังไฟรักพาฤทัยแหลกลาญ เพียงหวังไขว่คว้า ค่าเหลือแค่อาลัย สุดจะเอ่ย บอกใคร ยั้งใจ ไม่ให้ หลงน้ำคำ เหมันต์ยังผ่านเช่นเคย อย่าเลย ฉันกลัวบอบช้ำ อย่าตอกย้ำในความทรงจำ โอ้เหมันต์ อย่าผ่านมาเลย เพียงหวังไขว่คว้า ค่าเหลือแค่อาลัย สุดจะเอ่ย บอกใคร ยั้งใจ ไม่ให้ หลงน้ำคำ เหมันต์ยังผ่านเช่นเคย อย่าเลย ฉันกลัวบอบช้ำ อย่าตอกย้ำในความทรงจำ โอ้เหมันต์ อย่าผ่านมาเลย
31 ตุลาคม 2552 09:01 น. - comment id 1058831
ไพเราะมากๆ อ่านแล้วซึ้งสะท้านอารมณ์ครับ เป็นบทกวีที่งดงามจับใจ