26 ตุลาคม 2552 11:44 น. - comment id 1056860
เหงาดี ได้อารมณ์ ครับ เพลงเพราะ กลอนงาม ขอชืนชมครับ
26 ตุลาคม 2552 15:20 น. - comment id 1056900
การรอคอยใครสักคน หรืออะไรสักอย่าง ที่ไม่รู้คำตอบ บางครั้งเดียวดาย แต่เป็นความอบอุ่นในความฝัน มันทำให้มีความสุขได้บ้างเหมือนกันนะคะ เพราะชีวิตนี้ยังมีหวังเสมอ พรุ่งนี้อาจดีกว่าวันนี้ อย่างน้อยตัวเราเองก็เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดเสมอ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน
26 ตุลาคม 2552 15:34 น. - comment id 1056902
เห็นชื่อกลอน...รีบกระโดดเข้ามาเลย คุณอิมเจ้าค่ะ..จะว่าไง..ถ้าใจเราเหงาเหมือนกัน ว่าแต่..มีชิงช้าอีกสักอันมั๊ยค่ะ.. ปล..พร้อมๆกับอ่านกลอนนี้อ้อยก็ฟังเพลงนี้ไป ด้วยเลย... เหงาซะให้เข็ดเนาะ
26 ตุลาคม 2552 17:20 น. - comment id 1056923
อิ อิ เดียวดายกลางสายลม ชิงช้าอันนี้นะถ้าแกว่งกลับมาแรงๆ คงก้นกระแทกต้นไม้ แล้วกลายเป็น นอนตาย ใต้เงาจันทร์ สบายดีนะ
26 ตุลาคม 2552 17:42 น. - comment id 1056933
ดูภาพแล้วหลอนๆนิ
26 ตุลาคม 2552 19:44 น. - comment id 1056955
เหมือนภาพวิญญาณ ที่รอใครสักคนเลยครับ เป็นภาพวิญญาญที่โดดเดี่ยว ในค่ำคืนที่มืดสลัว ต้นไม้ที่ยืนทมึน ชิงช้าที่แกว่งไกว และจิตใจที่รอคอยใครสักคน เป็นความเศร้าลึกๆ ว่าไหมครับ
26 ตุลาคม 2552 20:19 น. - comment id 1056972
o โยกไกวใยโกรกเยื้อง.....ยากกลืน แฝงเนื่องเฟื่องนับฝืน.....ฝ่าน้าว ยากรับยับแรงยืน..........ยอร่าง โลมปล่อยรอยแปลบร้าว....ล่อเป้าเราปา ฯ o วิโยคโศกหยั่งเวิ้ง......ยามทิวา ลมผ่านไล้พริ้วลา..........พรากร้าง ใครหนอจักหน่วงคา.....หน่ายแค่น คืนนอ โอบกอดสอดกรอ้าง......ก่ายเอื้อเกื้ออรฯ มาแบบมั่วอะคุณอัลฯ อิอิ
26 ตุลาคม 2552 21:27 น. - comment id 1056997
เดียวดายกายอ้างว้าง รักลาร้างห่างไกลแสน สิ้นรักจากใจแฟน ยามยากแค้นไร้คนมอง เขาลาไปไม่เอื้อนเอ่ย เหมือนไม่เคยเลยใจหมอง ใยเราเฝ้าหมายปอง จิตคับข้องต้องอาลัย
26 ตุลาคม 2552 22:00 น. - comment id 1057012
เดียวดายทางสายเปลี่ยว เหมือนคดเคี้ยวแต่วังเวง ย่ำดึกนึกหวั่นเกรง เลยร้องเพลงกลบเสียงไพร แวะมาราตรีสวัสดิ์ค่ะคุณอัลฯ คือว่า หิว นอนไม่หลับนะค่ะ อิ
27 ตุลาคม 2552 01:18 น. - comment id 1057063
กลอนงดงาม และเหงาจับใจค่ะ การรอคอย ไม่เป็นใครไม่รู้นะคะ
27 ตุลาคม 2552 01:48 น. - comment id 1057066
รำพึงด้วยคน/ ฝันดีนะอัลมิตรา
27 ตุลาคม 2552 10:17 น. - comment id 1057155
ความวิเวกก็เป็นความสุขได้ การได้อยู่กับตัวเองก็เป็นความสงบภายในได้ ความว่างเปล่าก็นำเราไปสู่จิตใจที่ไร้กังวลได้ ในความเงียบย่อมมีคุณประโยชน์ที่ใจที่โลอแล่นได้หยุดคิด ตื่น และเบิกบานได้ เมนต์ตามที่ได้ยินมา ได้อ่านมา ความเหงา ความโดดเดี่ยว รวมทั้งความเงียบ กลับกลายเป็นความกล้ว ความกลัวยอมรับได้ เป็นเหตุปฐมภมิของสรรพขีวิต และความกลัวก็อีกนั่นแหละเป็นเหตุแห่งทุกข์ ยิ่งกลัวก็ยิ่งทุกข์ ก็อีกนั่นแหละเมนต์ตามที่ได้อ่านมาคับ เขียนได้เหมือนวาอภาพให้เกิดมีลมหายใจ นี่ก็เป็นไม่ใช่กลอนแกงเขียวหวาน เพียวๆ แต่ก็ปรุงรสได้ไม่เลว แวะมาพักก่อนคิดเรื่องงานต่อคับ
27 ตุลาคม 2552 11:23 น. - comment id 1057219
ปลายฝนต้นหนาวแล้วสิเนาะ แต่ไม่ยักกะโดนลมหนาวกระทบผิวกายเลยอ่ะ มีแต่กระทบผิวใจ...ฮิ้ว..... มาทำให้กลอนเหงาๆเสียบรรยากาศเปล่าเนี่ย.....ไม่น่าถาม...อิอิ
27 ตุลาคม 2552 14:18 น. - comment id 1057267
ดึกๆๆขนาดนั้น กลับบ้านเถอะค่ะ ไปนั่งเล่นชิงช้าคนเดียว บรึ๋อออออออ น่ากลัวออก อิอิอิ
27 ตุลาคม 2552 17:30 น. - comment id 1057373
แสนเงียบเหงาดายเดียวเปลี่ยวใจนัก โล้ชิงช้าความรักในความเหงา มีเพียงสายลมแว่วพริ้วแผ่วเบา รู้ไว้มีขวดเก่าเฝ้าห่วงใย
27 ตุลาคม 2552 18:42 น. - comment id 1057407
ความเหงาบวกว้าเหว่ นั้นประดุจมีดสองคมค่ะ แต่ทั้งหมดนั้นเราได้รู้จักตัวเองในหลายสถานการณ์ใช่ไหมคะ
27 ตุลาคม 2552 20:16 น. - comment id 1057446
มันว้างๆยังไงพิกล แวะมาทักทายค่ะ
27 ตุลาคม 2552 22:24 น. - comment id 1057482
:) ฝนตก บรรยากาศดี ไปนอนก่อนนะ
28 ตุลาคม 2552 03:02 น. - comment id 1057530
28 ตุลาคม 2552 18:36 น. - comment id 1057901
แม้หมอกเมฆมาฟ้าหม่น ลมฝนฟ่องลอยคล้อยเคลื่อน ไม้ใหญ่ใบโรยบังเดือน มีเราเป็นเพื่อนทานทน โหนนั่งชิงช้าคว้าไว้ แกว่งไกวสู้ท้าฟ้าฝน ฝ่าฝืนลมล่างลมบน จวบจนพ้นเห็นเพ็ญจันทร์
29 ตุลาคม 2552 07:14 น. - comment id 1058031
บรรยากาศขมุกขมัว เย็นยะเยือก วังเวง .. เหมือนฉากหนังผีโบราณ อัลมิตราเลือกภาพนี้มาแกงกลอนเขียวหวานประกอบ อาจฝืดคอไปนิด เหมือนเธอจะแกว่งชิงช้ากะให้สูงขึ้น สูงขึ้น จนถึงดวงจันทร์ กำลังคิดว่า ตอนที่ปีนป่ายขึ้นไปนั่งบนชิงช้า เธอทำด้วยวิธีใด เหาะ หายหัว หรือว่า กระโดดควับ ........ คุณบพิตร .. อีกไม่กี่วันพระจันทร์จะสวยแล้วนะ คุณครูกระดาษทราย .. กลัวโดนเด็กเตะยังไงก็ไม่รู้สิ ฮา .. คุณเทียนหยด .. มีนะ ใกล้ ๆ ศาลากลางจังหวัด แต่อันนั้นสูงกว่านี้น่ะ ป๊ะป๋า .. ไปงานฤดูหนาวกันนะ นัดพี่สาวไว้แล้ว คุณเสมอจุก .. นั่นแหล่ะ เจตนา คุณไร้อันดับ .. อื้อ เป็นวิญญาณที่โดดเดี่ยว หาหลุมลงไม่เจอจริง ๆ คุณกิ่งโศก .. เดี๋ยวเขาจะหาว่า ใช้คำเก้อเกร่อ น๊า คุณกันนาเทวี .. อัลมิตรานึกเหตุการณ์ต่อว่า พอรุ่งเช้า ทั้งชิงช้าและหญิงคนนั้นก็จะหายวับไป เหลือแต่ต้นไม้ใหญ่ที่ยืนต้นอยู่อย่างนั้นค่ะ คุณแก้วประภัสสร .. เสียงเพลงที่ได้ยิน ก็จะทำให้ยะเยือกจับใจพอดู เนอะ คุณปรางทิพย์ .. ภาพสวยพอรับได้ แต่กลอนงามนี่รับไม่ได้จริง ๆ โธ่ .. คุณ supers .. เมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับ สงสัยเป็นเพราะติดค้างตอบคอมเมนท์ เช้านี้ก็เลยรีบจัดการเคลียร์ให้ราบคาบก่อนที่จะหัวเป็นน็อตกับงานค่ะ คุณวิทย์ .. สาธุ .. (ล้อเล่นน่า) คุณโคลอน .. ทำกระทงยังคะ เดี๋ยวอัลมิตราจะเอารักไปลอยลงแม่น้ำนะ คุณยายแม่มด .. กลับไม่ได้ สงสัยหาทางลงไม่เจอค่ะ คุณขวดเก่า .. โอ้ วันนี้มาซึ้งแฮะ ไม่มีกลิ่นเมาเลย คุณนรสิริ .. อืมม ทุกอย่างมีสองด้าน การที่ได้โดดเดี่ยวทำให้รู้จักตัวเองมากขึ้น เป็นเช่นนั้นจริง ๆ ค่ะ คุณแจ้น .. มาช่วยกันเหงาอีกสักคนสิ คุณsupers .. ตื่นแล้วล่ะ 05.30 น. มาทำงาน 06.20 น. ถึงที่ทำงาน 06.30 น. ตอนนี้โอ้เอ้อีกสักพัก และจะเริ่มงานประมาณ 07.30 น. ค่ะ คุณดาวศรัทธา .. ที่อัลมิตรายังไม่คิดตอบคอมเมน์เพื่อน ๆ โดยไว ก็เพราะต้องการให้ความเหงาที่มีมันได้หย่อนลงไปอีกสักหน่อย ไม่งั้นคิดตลกไม่ออก "ไม้ใหญ่ใบโรยบังเดือน" ชอบประโยคนี้จัง ..ดูสิ ต้นไม้นั้น ใบก็น้อยนิดยังอุตส่าห์ช่วยชุบใจ
29 ตุลาคม 2552 20:17 น. - comment id 1058357
..เดียวดาย...กลางสายลม... ..ขื่นขม....ท่ามลมหนาว.... ...คืนมืด....ที่ยืดยาว... ...เรื่องราว...ร้อยพัน...พันธนา ...บอกจันทร์...ฉัน...แสนท้อ.. ...เกินพ้อ...ความใด...ให้รู้ว่า.. ...สิ้นแล้ว...กล้าแกร่ง...แห่งจินตนา ...ซบร่าง...กายา...ฝากผืนดอย...