ฉันเป็นตัวละครตัวหนึ่ง เป็นคนซึ่งวนเวียนโรงละครโลก เล่นเป็นคนดีเหมือนไร้ทุกข์โศก อยู่บนโลกสับสนหลอกลวงกัน บางครั้งสุขสนานเบิกบานบันเทิง หารื่นเริงซื้อหาช่างสุขสันต์ บางครั้งทุกข์เศร้าซึมเหล้าลืมมัน บางทีฝันหาทุกอย่างตามต้องการ อวสานของละครใกล้มาถึง ฉันถูกดึงให้เล่นแพ้สังขาร โรครุมเร้าเจ็บนี่ชี้ทรมาน รอวันผ่านยมบาลจะมาดึง ปิดฉากเศร้าโรงละครโลก คนดูโศกออกโรงเริ่มนึกถึง ว่าทุกคนเล่นละครนั่งรำพึง เมื่อมันถึงเวลาต้องออกไป
20 ตุลาคม 2552 23:01 น. - comment id 1054200
ปลงเสียเถิดค่ะท่าน ยุบหนอ พองหนอ
20 ตุลาคม 2552 23:23 น. - comment id 1054205
ขอบคุณที่แวะมา เป็นกำลังใจครับ
21 ตุลาคม 2552 08:30 น. - comment id 1054286
ความแก่เกิดความเจ็บกรายความตายใกล้ คนคงไม่วุ่นวายคล้ายคนบ้า เรียกร้องทะเลาะความตายมา คนหายบ้ามัจจุราชหน้าประตู เกิด แก่ เจ็บ ตาย หัดปลงบ้างก็จะดีนะครับ
21 ตุลาคม 2552 11:05 น. - comment id 1054385
คุณกษิณ จะไปไหน อย่าเพิ่งหนีไปไหนสิคะ ปรางน่ะยุ่งมาก ๆ งานรุม ไข้รุมค่ะ มาแล้ว ยิ้มหน่อยนะคะ
21 ตุลาคม 2552 16:30 น. - comment id 1054533
คุณปราง ผมไม่เป็นอะไร เพียงแต่ปวดหัวเข่า เดินไม่ค่อยไหว นึกถึงว่าคนเราก็เท่านี้ แรกๆแข็งแรงไม่คิดว่าจะมีวันที่เราอ่อนแอ ขนาดเดินไม่ไหว แสดงว่าทุกคนใกล้ ความตายทุกขณะ จึงเขียนกลอนบอก ให้ลดความเห็นแก่ตัว เพื่อเสียสละให้ ส่วนรวมกัน
22 ตุลาคม 2552 18:32 น. - comment id 1055098
นั่นเป็นสัจธรรมโดยแท้ค่ะ
22 ตุลาคม 2552 19:22 น. - comment id 1055158
ขอบคุณ นรสิริ แวะมาให้กำลังใจ ผมอยากเตือนให้เด็กผู้กำลังประมาท เขาจะได้ไปถูกทางอย่างน้อยก็สักคน ก็ยังดี...
23 ตุลาคม 2552 19:38 น. - comment id 1055804
หยุดงานว่างเมื่อไหร่เข้าบ้านกลอน ช่วยแจมสอนใส่สีสร้างงานฝัน เหลือเวลาน้อยลงอาจไม่เจอกัน เพราะเพื่อนฉันตายเจ็บทุกวันคืน บางครั้งฉันก็มึนงงปวดหัวแต่ไม่กลัวสู้ๆ
23 ตุลาคม 2552 22:14 น. - comment id 1055981
ดูละครบางเรื่องสนุกมีสุขสันต์ บางเรื่องมันว่าใส่ใจร้ายนี่ บางเรื่องรักใคร่ชิงชังมี บางเรื่องนี้เศร้าซึมลืมความจริง เหมือนเราเล่นละครตอนอมทุกข์ ไม่สนุกสุดรันทดหมดทุกสิ่ง วิ่งหนีสับสนวุ่นวายชีวิตจริง ทิ้งทุกข์สิ่งแบกโลกโศกไม่ลืม แก้ปัญหาด้วยปัญญาของธรรมมะ ไม่เอาล่ะวางลงปลงลอยปลื้ม ลืมความทุกข์ได้นิดพอคลายลืม เหมือนได้ดื่มน้ำเย็นราดรดใจ กำไว้มันเจ็บ ปล่อยไปใจเบา
29 ตุลาคม 2552 20:14 น. - comment id 1058351
เล่นละครเป็นพระเอกในชีวิต รูปไม่หล่อสักนิดเลยนะท่าน เล่นบทกรรมกรขายแรงงาน ช่างทรมานอาบแดดเช้ายันเย็น ครั้นเลิกงานกลับบ้านหาอาหาร ทางเดินผ่านห้างพักผ่อนมองเห็น อะไรน่ากินใส่ท้องตอนเย็นๆ ตื่นขึ้นมาบูดเหม็นโยนทิ้งไป รำพังตัวเองแทบเอาชีวิตไม่รอด ได้แต่กอดหมอนข้างพอเพียงง่าย หากถึงคราวสิ้นแรงขอลาไป ฝากกลอนไว้ป๋องปุ๋ยช่วยจดจำ.
1 พฤศจิกายน 2552 12:21 น. - comment id 1059128
ในโลกนี้ยังมีผู้คนค้นหา ความสุขคราหาห่วงช่วงชิงฝัน ความทุกข์ติดต่อตามมาแล้วทัน ชิงชังมันทอดทิ้งมิลาเลย
1 พฤศจิกายน 2552 22:22 น. - comment id 1059360
คนเกิดมาทำอะไรในโลกนี้ มาทำดีหรือว่ามาทำชั่ว มารักหลอกรักปั้นให้ฉันกลัว มาแย่งผัวแย่งเมียละเหี่ยใจ มากดขี่ข่มเหงหรือเมตตา เป็นคนบ้าคนบ๊องไม่เอาไหน รู้ว่าหน้าที่เราจะต้องทำอะไร ก็จะได้ผลกรรมตอบแทนทัน มีเวลาศึกษาธรรมนำชีวิต รู้ถูกผิดเหตุผลเลิกเพ้อฝัน เชื่อทำดีได้ดีพอแล้วกัน อย่าขบขันลบหลู่เป็นบาปกรรม
21 พฤศจิกายน 2552 08:49 น. - comment id 1066467
เกิดมาเป็นทารกถูกเลี้ยงทะนุถนอม 5 ขวบย่อมน่ารักเป็นหนักหนา 10 ขวบซุกซนบ้างเป็นธรรมดา 15 ปีรีบมาโรงเรียนไว 20 ปีเรียนจบหาต่อตาม 25 ปีแต่งตามมีลูกให้ 30 ปีดิ้นรนลำบากกาย 40 ปีพอใช้พอมีกิน 50 ปีเริ่มแก่เริ่มนึกถึง 55 ปีใครจะดึงสังขารเป็นหิน 60 ปีจากงานที่ทำกิน ไม่รู้วันจะสิ้นสุดที่เวลาใด เกิดมาแล้วต้องแก่ถึงคราวเจ็บ ตายถูกเก็บเข้าโลงก่อนผลักไส เตาเผาศพพบหน้ากันชาติใหม่ อย่าร้องไห้ที่รักผมไปดี
11 ธันวาคม 2552 20:04 น. - comment id 1073033
วันปีใหม่คล้ายคลับเหมือนวันเก่า วันที่เราไม่รู้สึกจะสดใส ผ่านความทุกข์ทั้งปีเบื่อจะตาย กว่าจะหายใจสะดวกปวดอุรา เหนื่อยเบื่อหน่ายที่สุดในปีเก่า เจอแต่เน่าผิดหวังทางข้างหน้า ต้องก้าวย่ำเหยียบอยู่ติดมือมา ไม่เลิกรายังบูดในอารมณ์ แต่หัวใจยังแกร่งแม้นกายอ่อน ไม่อาวรณ์ทิ้งทุกข์แม้เข็ดขม ปล่อยผ่านไปไม่สนลอยตามลม ไม่ใฝ่ชมอยากมีหรืออยากเป็น พอแล้วพอแค่นี้นะ