2/104 คนเคยรัก (ว่าด้วยกลบทสะบัดสะบิ้ง)

กวีน้อยเจ้าสำราญครับ

*ยามครั้งเคย  เชยชิด สนิทสนม  
ห้วงอารมณ์  พวยพุ่ง กระหนุงกระหนิง
แกล้งแหย่เย้า  เป่าพุงทำ   กระตุ้งกระติ้ง
น้องรีบวิ่ง   ลี้ลัด  ตุปัดตุป่อง
*ยามหายโกรธ  พูดจ้อ  ประจ๋อประแจ๋
ยามงอแง  โกรธกริ้ว  ละลิ่วละล่อง
ยามเคียงครอง  คลอเคล้าเป็น  เจ้าเข้าเจ้าของ
ยามนี้น้อง  แหนงรัก  กระอักกระอ่วน
*คนเคยรัก  พูดจา ติดตาติดใจ
พอห่างไป  ฟูมฟาย ร้องไห้ร้องหวล
หรือใจนาง หันเห  อกเรอกรวน
อกพี่ล้วน รำลึก  ระทึกระทวย
*มองหน้าใคร ใจพรั่น  รำพันรำพ้อ
ทำหน้างอ  พูดซะ ไม่สะไม่สวย
ดั่งเสียดสี  เสียดคำ ไม่ร่ำไม่รวย
เหมือนความซวย เซซัง ประดังประเด
น้ำคำบูด พูดกลบ กระทบกระเทียบ
เหมือนว่าเปรียบ คำคม ประสมประเส
จนพี่เศร้า เหงาหนัก ทุลักทุเล
หลบคำเล่ห์ ร้อยวน  ทุรนทุราย
*กลับไปนอน ครุ่นคิด ระอิดระอา
นอนน้ำตา พร่ามัว สลัวสลาย
คิดถึงเธอ เช้าเย็น มิเว้นมิวาย
นึกเหนียมอาย ในจิต  เป็นพิษเป็นภัย
*คนเคยรัก  เคยชม  ยามขมยามขื่น
เพราะคนอื่น  ผูกพัน  จนเธอหวั่นเธอไหว
เมื่อประมาท  พลาดพลั้ง ไม่ระวังระไว
จนหัวใจ ยุ่งยาก  ลำบากลำบน
*ขอให้มี   ความสุข  อย่าทุกข์อย่าร้อน
พี่ขอซ่อน คู่แข่ง  ทุกแห่งทุกหน
อยู่ท่ามป่า  ฟ้าสลัว  ของตัวของตน
หวังสักคน  ชื่นชิด  ด้วยจิตด้วยใจ 
 
  
/////////////////////////////////////////////
กลบทนี้ ผมยังไม่มี ข้อมูลหรือ วิธีแต่ง น่ะครับ
แต่ว่าลองศึกษา จากท่านๆ  ข้างล่างเหล่านี้ เป็น นิทัศนาอุทาหรณ์ ตัวอย่าง ในการแต่ง นะครับ
กลอน เจ็บไม่จำ  โดย พี่จอมปราชญ์แดนอาคเนย์
รักไม่แน่แปรยิ่งนัก...กระอักกระอ่วน
เริ่มแปรปรวนปลงไม่ตก...ระหกระเหิน
เมื่อไม่สมระทมเกิด...ไม่เพลิดไม่เพลิน
เธอมาเมินพาให้ห่ม...ระทมระทวย
หากว่าเป็นเช่นเมื่อก่อน...แต่อ้อนแต่ออด
เคยพร่ำพรอดรักหวานหยด...ว่าสดว่าสวย
หากเพราะรักที่พาจินต์...ระรินระรวย
เทิดรักสวยกว่าแสงหล้า...อะร้าอร่าม
จากที่เคยเชยชิดรัก...สมัครสมาน
พอไม่นานไม่ซาบซ่าน...ไม่หวานไม่หวาม
ลืมเสียหมดลืมแม้รส...นิยมนิยาม
ลืมแม้นามใยความคิด...จึงบิดจึงเบือน
กลายเป็นฉันที่ยังปลื้ม...จนลืมจนหลง
ยังมั่นตรงคงเวียนวาด...มิคลาดมิเคลื่อน
จมกับอดีตที่ถมทับ...ไม่ลับไม่เลือน
กระทบกระเทือนแทบสิ้นหวัง...ยังรั้งยังรอ..
แบบว่า
//////////////////////////////////////////
กลอน  นิมิตพิศดาร....  โดย  แมวคราว
เพียงแค่เริ่มเคลิ้มหลับกระสับกระส่าย
ในม่านตาพร่าพรายขยายขยับ
เห็นหิ่งห้อยวับวิบระยิบระยับ
ปีกกระหยับเยิบยาบกระซาบกระซิบ
หมู่เมฆลอยพร้อยพลิ้วละลิ่วละล่อง
นกเริงร้องร่อนออกกระจอกกระจิบ
จิกหนอนหมับหงับหงุบกระจุ๊บกระจิ๊บ
กระดุบกระดิบลัดเลาะสะเงาะสะแงะ
บ้างหันรีหันขวางกระด้างกระเดื่อง
ยักย่างเยื้องตามละเมาะกระเตาะกระแตะ
เล็งตาลอดสอดส่ายระคายระแคะ
ตรงเข้าแงะงัดเงื่อนสะเทือนสะท้าน
นั่นเนื้อทรายย้ายโยกกระโดกกระเดก
ลุยโยกเยกธารเย็นกระเซ็นกระซ่าน
ลูกไม้ผลหล่นลงกบงกบาล
เลยลนลานโลดลัดกระจัดกระจาย
แนวหินกว้างกลางลานสะอ้านสะอาด
บุปผชาตินานับขยับขยาย
หมู่ภมรร่อนลงระบงระบาย
เกสรกลายเกลื่อนกลาดระนาดระเน
หมูป่าเปลี่ยวเขี้ยวแข็งกระแย่งกระย่อง
หาหน่อไม้พุงป่องตุปัดตุเป๋
เดินงันงกตกปลักทุลักทุเล
ซัดโซเซปอนเปียกตะเกียกตะกาย
นั่นเหล่าลิงวิ่งลุกขยุกขยิก
บ้างหลุกหลิกลางลิงสวิงสวาย
กินไม้เมาเฝ้าวนทุรนทุราย
แค่นคอคายขลุกขลักสะบักสะบอม
กระเตงลูกลงน้ำกระดำกระด่าง
เพื่อนมาข้างร้องดุทนุถนอม
เข้าแล่นไล่ไม่มีประนีประนอม
ลูกอิงอ้อมโอบพุงพะรุงพะรัง
ลางลิงไล่ไขว่คว้าประสาประสี
จ่าฝูงรี่วิ่งโร่พิโธ่พิถัง
บ้างโลดแล่นเลาะลัดระมัดระวัง
บ้างเหลียวหลังค้อนควักตะหวักตะบวย
เลยแลลอดเหล่าลิงกระติ้งกระตุ้ง
เห็นแสงรุ้งสวยสะสละสลวย
หนึ่งนงรามงามงดระทดระทวย
เผยผ้าผวยเต่งตึงตะลึงตะลาน
หัวใจเต้นเผ่นลุกตะกุกตะกัก
ด้วยนึกรักเอวกลมผสมผสาน
งามระเบิดเถิดเทิงเสริงสราญ
แทบจะคลานคุกเข่าพะเน้าพะนอ
ขยับกายหมายจ้อประจ๋อประแจ๋
นึกแนบนางแน่วแน่จะอี๋จะอ๋อ
นวลละไมเนื้อละเมียดละเอียดลออ
พริ้มตารอจุมพิตกระมิดกระเมี้ยน
พลันหัวงูชูเพ่งเขย่งขยับ
เอื้อมมือรับร้อยรัดวัดเฉวียน
แล้วไล่รุกซุกซนทั้งวนทั้งเวียน
บัดเดี๋ยวปลี่ยนเป็นกิ๊กระริกระรี้
ช่างชื่นชมสมรักเป็นนักเป็นหนา
งามนวลหน้าน้องหนูกระจู๋กระจี๋
เจ้างูใหญ่เลื้อยปราดกระวาดกระวี
ยามนารีออดอิดกระบิดกระบวน
พลันเสียงสายฟ้าฟาดผงาดผงะ
แรงปะทะดังพลั่กกระอักกระอ่วน
โดนเมียเหวี่ยงหมัดตบมิทบมิทวน
ดันเผลอครวญเสียงหลงละมงละเมอ
กระหน่ำมาหลายหมัดสงัดสงบ
แถมลูกตบอีกซ้ำจนป้ำจนเป๋อ
ทนฟังเมียร่ายยาวจะหาวจะเรอ
เลยต้องเจออีกพลั่ก...สะบักสะบอม.....(ฮือ...กรรมเวร..)
////////////////////////////////////////////////
กลอน  ความรัก  (กลบทสะบัดสะบิ้ง+สิงห์โตเล่นหาง)   โดย  โอเลี้ยง
รักนั้นดีหรือชั่วรัวคิดไฉนฉงน
แต่ทุกคนไม่เลี่ยงเกี่ยงการเสาะการหา
ไม่ว่าจะถูกต้องคล้องตามตำรับตำรา
หรือด้นฟ้าดั้นเมฆเสกสรรค์มาเจอะมาเจอ
หรือรักคืออารมณ์สมใฝ่ให้ห่วงให้แหน
จึงคิดวางแผนให้ใจมิเกรอะมิเก้อ
ถ้ารักนั้นคือโศกโยกจิตให้พร่ำให้เพ้อ
คงยากจะเผลอให้ใจต้องเจ็บต้องรอน
แม้นรักคือยาพิษฤทธิ์แรงทั้งขมทั้งฝาด
ใจฤาจะบังอาจคาดคิดมีรักมีหลอน
หรือรักร้อนเหมือนไฟใครหนอจะเว้าจะวอน
ไม่กลัวร้อนลวกผ่าวร้าวทุรนทุราย
กับอารมณ์ของรักทักจิตยากคาดยากคิด
มีทั้งเป็นเหมือนมิตรชิดชื่นมิเหินมิหาย
มีทั้งทุกข์ปลุกครวญชวนช้ำให้วุ่นให้วาย
คิดสักนิดมิสายกรายรักอาจชื่นอาจช้ำ...
////////////////////////////////////////
กลอน  หลง  โดย กุ้งหนามแดง
ยามมั่งมี..มาคลอ..ประจ๋อประแจ๋
ยามย่ำแย่..ยากพบ..ประคบประหงม
เห็นน้ำใจ..ยามฝืด..ผะอืดผะอม
วัตถุนิยม..สำเหนียก..ตะเกียกตะกาย
เข้าวัดวา..ธัมโม..พิโถพิถัง
ไม่เด่นดัง..เท่าทรัพย์..ขยับขยาย
บุญเอาหน้า..จึงเฟื่อง..ระเคืองระคาย
ปิดทองท้าย..หลังพระ..สะลึมสะลือ
คนกราบไหว้..เงินปึก..สะอึกสะอื้น
ระเริงรื่น..แลกเปลี่ยน..กระเหี้ยนกระหือ
วีธีการ..หว่านลึก..กระยึกกระยือ
ใครพาซื่อ..เหยียบย่ำ..ลำบากลำบน
หลงอำนาจ..วาสนา..ระอาระอิด
หลงทางผิด..ติดเปลือก..กระเสือกกระสน
หลงร้อนรุ่ม..ใจกาย..ทุรายทุรน
กับดักตน..สร้างเอง..ละเม็งละคร..
..				
comments powered by Disqus
  • อรุโณทัย

    20 ตุลาคม 2552 22:40 น. - comment id 1054189

    แวะมาอ่านกลบทก่อนนอนครับ
    ราตรีสวัสดิ์22.gif
  • วิทย์ ศิริ

    20 ตุลาคม 2552 22:48 น. - comment id 1054195

    แวะมาดู คนเคยรัก  ก่อนนอนค้บ11.gif
  • อนงค์นาง

    20 ตุลาคม 2552 22:58 น. - comment id 1054199

    แวะมาอ่านกลบท คนเคยรักค่ะ เก่งนะคะ เดี๋ยวนี้น่ะ
    36.gif36.gif74.gif
  • เพียงพลิ้ว

    21 ตุลาคม 2552 08:51 น. - comment id 1054204

    แบบนี้คงเรียกว่าเขียนด้วยจิตด้วยใจเลยกระมังคะคุณน้อง 
    
    คุณพี่สะบัดสะบิ้งไม่ค่อยเป็นอ่ะค่ะ งดแจม เหอๆ
    
    36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif1.gif
  • เจ้าสาวแห่งโลกวิญญาณ

    21 ตุลาคม 2552 00:26 น. - comment id 1054217

    คนเคยรักคือใคร
    ใครเคยรัก
    แอบแวะมาถามว่า
    คนเคยรักเป็นใครน้อ??
  • โอเลี้ยง(ญามี่)

    21 ตุลาคม 2552 02:15 น. - comment id 1054235

    จะให้วิจารณ์ก็คิดว่าคุณเขียนบทนี้ไม่น่าจะผิดนะ เพราะถือตามหลักเก่าคำคู่แรกเหมือนคู่หลังต่างได้ 
    
    ทว่า ตอนนี้ที่นิยมกันมากกว่าคงเป็นคู่แรกเสียงเดิม คู่คำหลังเสียงพยัญชนะเหมือนมากกว่านาคุณนัด อีกอย่างถ้าคุณเล่นแนวใหม่หมด คำสัมผัสช่วงกลางต้องสัมผัสทุกวรรคนา อิอิ
    ที่เขียนไปยังมีบางวรรค..หายค่ะ
  • kirati

    21 ตุลาคม 2552 07:52 น. - comment id 1054275

    หวัดดีคับ...ท่านกวีน้อย....
    
    แหมะ รู้สึก ชื่นชม...ในความวิริยะ
    กลับไปไล่อ่านบทกลอนเก่าๆเพียบ...
    เยี่ยมมาก ขอรับ...น้องท่าน...
    
    ความพยายาม....อยู่ที่ไหน....???
    
    อยู่ไหนอ่ะ....อิอิ...
    
    11.gif11.gif11.gif36.gif36.gif36.gif
  • นิลวรรณ

    21 ตุลาคม 2552 08:31 น. - comment id 1054287

    กลบทสะบัดสะบิ้ง  ขอเสนอแนวคิดนิดนึงนะคะ
    
    ช่วงคำสี่คำหลังของแต่ละวรรค
    จะนิยมป็นคำลหุ(คำที่ 1 และ 3 )
    ส่วนคำที่ 2 และ 4 จะเล่นสัมผัสอักษร
    
    เช่น  กระหนุง กระหนิง      ระวังระไว
    
    แต่   อย่าทุกข์อย่าร้อน
    
    คำว่า  อย่า ไม่ใช่ลหุ   
    ทุกข์-ร้อน  ไม่สัมผัสอักษร
    
    
    29.gif29.gif
  • (น้ำตาลหวาน)

    21 ตุลาคม 2552 09:23 น. - comment id 1054314

    41.gif41.gif41.gifเยี่ยมมากมายค่ะหนุ่มน้อย
    
    36.gif36.gif36.gif
  • กวีน้อยเจ้าสำราญครับ

    21 ตุลาคม 2552 09:35 น. - comment id 1054323

    ขอบคุณมากครับ  
    
    พี่อรุโณทัย 
    พี่วิทย์ ศิริ
    พีสาว อนงค์นาง
    เจ้าสาวโลกวิญญาณ
    อาจารย์สาว  คุณญามี่
    พี่กีรติ
    ครูนิลวรรณ
    พี่เพียงพลิ้ว
    พี่น้ำตาลหวาน
    
    ที่มาเยี่ยมเยียนกัน  ผมต้องขอตอบแบบนี้ เนื่องจาก มาใช้คอมฯ ของเพื่อน ไม่สะดวก ในการตอบทีละคน
    
    แต่ขอพิเศษ สำหรับ ท่านที่มาวิจารณ์ นะครับ
    
    คุณญามี ครับ ผมเองยังไม่เข้าใจอะไรเลยจริงๆ กะกลบทนี้  เลยไม่อยากแต่งแก้ไขปรับปรุง เอาไว้ สอบถามให้ได้ความรู้จริงๆ ค่อยมาแก้ใหม่จะดีกว่า นะครับ
    
    ส่วนคุณครู นิลวรรณ  ผมต้องขอขอบคุณครับ ที่ช่วยตรวจทานแก้ไข ให้ผม จริงๆ  ถ้าตรงไหนผมผิด อธิบาย รายละเอียด พร้อมยกตัวอย่างจะดีมากครับ ผมเข้าใจยาก
    
    แต่หากมี คำอธิบาย พร้อมเสนอบทกลอน การปรับปรุงกลอน พวกนี้ ผมพอจะเข้าใจได้บ้าง น่ะครับ
    
    ถ้ามีเวลา ช่วยกรุณา ชี้แนะเพิ่มเติม อีกทีนะครับ  ขอขอบคุณมากๆ
    
    
    
    1.gif
  • ภัทราภา

    21 ตุลาคม 2552 10:00 น. - comment id 1054357

    แต่งกลอนแบบนี้ แนนก็ไม่เคยแต่งเลยค่ะ ไม่รู้ข้อมูลเหมือนกัน แต่พี่ก็แต่งได้ดีค่ะเชื่อว่าถ้าพี่รู้ข้อมูลมากกว่านี้ คงแต่งได้เพราะมากทีเดียวค่ะ
    
     มาเยี่ยมมาเยียนค่ะ
    
     1.gif1.gif1.gif1.gif37.gif
  • กวีเดินดิน

    21 ตุลาคม 2552 10:26 น. - comment id 1054366

    เมื่อยามรักปักจิตคิดให้หลง
    ยอมซื่อตรงดำรงคงรักมั่น
    จึงต้องเสียน้ำตามาจาบัลย์
    มิอาจกลั้นปั่นจิตให้ริดรอน
    
    มาทักทายสายๆๆๆค่ะ
    
    
    3.gif36.gif
  • ปรางทิพย์

    21 ตุลาคม 2552 11:07 น. - comment id 1054387

    พี่ปรางแวะมาดูลีลา สะบัดสะบิ้งค่ะ
    ช่วงนี้ยุ่งมากจริง ๆ แวะมาส่งกำลังใจ
    ให้ก่อนนะคะ
    36.gif36.gif36.gif
  • สดายุ

    21 ตุลาคม 2552 12:55 น. - comment id 1054446

    สวัสดีครับ...กวีน้อยฯ
    
    
    การเขียนสะบัดสะบิ้ง...ควรใช้คำสะบัดสะบิ้งของแท้และ
    อย่าเที่ยวไปกลับหน้ากลับหลัง...อันเป็นอาการจนคำเข้าเชียว
    
    .
    ในม่านตาพร่าพรายขยายขยับ....
    ไม่มีใครพูด..ขยายขยับ...มีแต่พูดว่า...ขยับขยาย...เพียงอย่างเดียว
    บ้านนี้มันค่อนข้างแคบไปแล้ว...กำลังคิดหาทางขยับขยาย...ใช่ไหม
    คงไม่มีใครพูดว่า...ผมกำลังคิดจะ...ขยายขยับ...ไปหาบ้านใหม่ที่ใหญ่กว่านี้..
    ใช่ไหม
    
    เล็งตาลอดสอดส่ายระคายระแคะ....
    ไม่มีใครในโลกนี้เขาพูด...ระคายระแคะ...
    มีแต่....ระแคะระคาย
    
    เกสรกลายเกลื่อนกลาดระนาดระเน
    นี่ก็อีก...มีแต่..ระเนระนาด...
    .
    .
    
    ยามเคียงครอง  คลอเคล้าเป็น  เจ้าเข้าเจ้าของ
    เจ้าเข้าเจ้าของ...มิใช่คำสะบัดสะบิ้ง
    .
    .
    ลองสักบท....
    
    หน้าน้ำปลาโผพลิกระริกระรี้
    หางสะบัดโบกวีขมีขมัน
    สู้แรงน้ำขุ่นข้นผจญผจัญ
    ด้วยเชิงชั้นปลาหนุ่มกระชุ่มกระชวย
    .
    .
    .
    
    ขอแนะนำให้ลองเปิดพจนานุกรมดูในหมวด ก และ หมวด ข
    จะมีคำสะบัดสะบิ้งแท้...อยู่มากจะรู้ความหมายที่แท้จริงด้วย
    
    และจะให้ดีแล้วเราควรเขียนให้ได้เสียงที่เหมาะสม
    แบบกลอนแปดธรรมดาด้วย
    เช่น...
    ท้ายวรรคแรกเสียงอะไรก็ได้
    ท้ายวรรคสองลงด้วยเสียงจัตวา...หรือเอกยังพอทน
    ท้ายวรรคสามสามัญ ไม่ควรลงด้วยโท หรือ จัตวา
    ท้ายวรรคสี่สามัญ หรือ ตรีก็ได้ แต่ไม่ควรลงด้วยเอก
    .
    .
    จนพี่เศร้า เหงาหนัก ทุลักทุเล.....
    ความหมายมันไม่รับกัน...คนเหงาเศร้าจะ...ทุลักทุเล...ยังไง
    คนที่ไม่มีร่มสิถึงจะเปียกฝนจนทุลักทุเล...ใช่ไหม
    เราควรใช้คำที่มีความหมายรับกับเนื้อหาที่จะสื่อด้วยนะ...ผมว่า
  • โอเลี้ยง

    21 ตุลาคม 2552 14:59 น. - comment id 1054489

    11.gifคุณกวีน้อย ฯ
    
    มี่ว่าเอาตามสถานการณ์แต่ละที่ดีกว่า ไม่งั้นคุณเป็นโรค"เครียด"อีก20.gif20.gif
    
    คือเมื่อต้นปีมี่เรียนกับครู "คนเก่ง"หลายคนบัดนี้ต้องปรับแล้ว เมื่อครูและคนเก่งที่นี่แนะว่าสี่คำท้ายต้องเป็นลหุ 
    
    ดังนั้นเข้าเมืองตาหลิว ต้องหลิวตาตาม"แล้วกันนะ ที่คุณไปเจอคนเก่งมาทั้งหมด...ลบไปก่อน 20.gif20.gif20.gif5555 อย่าเพิ่งเครียด ถือว่าได้เปรียบเรียนเพิ่มอีกแบบแล้วกัน
    
    คำลหุ แปลว่า เสียงเบา สัญลักษณ์  อุ  ประกอบด้วย 
    
    พยางค์ที่มีสระเสียงสั้นไม่มีตัวสะกด เช่น มะลิ ชิชะ ก็ เถอะ 
    พยางค์ที่มีตัวพยัญชนะตัวเดียว เช่น ณ บ ธ 
    
    คำลหุ (เสียงเบา) ๑)     เป็นคำที่ประสมด้วยสระเสียงสั้น (รัสสระ) ในมาตราแม่ ก กา เช่น เกะกะ ทะเลาะ ฯลฯ๒)    คำที่ใช้พยัญชนะตัวเดียวในลักษณะเสียงเบา เช่น ธ ณ บ ก็ ฯลฯข้อสังเกต ในการแต่งฉันท์ อำ ไอ ใอ เอา อาจใช้เป็นคำครุหรือคำลหุก็ได้
    
    ลหุ (ละ-หุ) หมายถึง คำหรือพยางค์ในภาษาไทยที่มี "เสียงเบา" ซึ่งประสมด้วยสระเสียงสั้นในแม่ ก กา เช่น สุ จิ ปุ ลิ ส(งบ) สะ(อาด) ส(ว่าง) ฯลฯ
    
              ครุ และ ลหุ มักใช้เป็นตัวกำหนดฉันทลักษณ์ในบทร้องกรองเช่น ฉันท์ กาพย์ เป็นต้น
    
    5555อย่างงที่คำตอบซ้ำซาก มี่แค่ยกตัวอย่างตามครูภาษาไทยที่ต่างๆบอกไว้มาให้อ่านค่ะ
    
    เอาหลายครูหน่อยจะได้มั่นใจ อิอิ20.gif
  • แมวคราว...(แอบๆอยุ่แถวนี้แหละ..5555)

    21 ตุลาคม 2552 15:07 น. - comment id 1054491

    หวัดดีครับคุณกวีน้อย....
    เห็นกลบทสะบัดสะบิ้งเลยเข้ามาดูครับ
    โห..อุตส่าห์เอาของผมยกตัวอย่างกะเค้าด้วยนิ
    ยังไม่ถึงขั้นหรอกครับ..ขอออกตัวไว้ก่อน
    เพราะเขียนเล่นหนุกหนานไปตามเรื่อง
    ผมมวยวัดครับ..ชกไม่ตามกติกาเท่าไร..แต่ชกตามใจซะส่วนมากครับ...
    
       หมั่นฝึกหมั่นเขียนและช่างสังเกตุ
    เกลาฝีมือไปเรื่อยๆเดี่ยวดีเองแหละครับ
    คุณกวีน้อยขยันแบบนี้..อนาคตไกลครับ
    ขอเป้นกำลังใจให้ด้วยคน...
    46.gif46.gif46.gif36.gif
  • กุ้งหนามแดง

    21 ตุลาคม 2552 15:59 น. - comment id 1054511

    อ่านเยอะๆ..ถุงกล้วยแขก...ก็คลี่อ่าน...
    
    แล้วก็หัดเขียน...ค่อยเป็นค่อยไป...  :)
    
    เป็นกำลังใจให้น่ะจ๊ะ
  • ดอกบัว

    21 ตุลาคม 2552 16:34 น. - comment id 1054536

    .สวัสดีค่ะ คุณกวีน้อยฯ
    
    ว่างๆดอกบัวจะมาหัดสะบัดด้วยนะค่ะ
    อย่าเพิ่งท้อล่ะ เขียนกันไปเรื่อยๆ
    ฝึกกันเรื่อยๆ
    ตอนเกิดมาร้องเป็นอย่างเดียว
    กินนมจากอกแม่ แม่ยังต้องจับให้กินเลย
    ดอกบัวเห็นพี่ป้อนนมลูกยังคอยจับประคับประคอง
    มีใครๆมาชี้ให้นั้นแหละเป็นสิ่งที่ดีที่สุด
    เพราะไม่มีใครจะมาเสียเวลาให้เราหรอกค่ะ
    ถ้าเข้าไม่สนใจเรา
    แล้วดอกบัวจะมาฝึกด้วยค่ะ
    มีแต่ความสุขนะค่ะ
     
    
    36.gif46.gif
  • จอมปราชญ์แดนอาคเนย์

    21 ตุลาคม 2552 18:09 น. - comment id 1054572

    หัดส่ายหน้าจนสันทัด...สะบัดสะบิ้ง
    ทำเป็นหญิงให้เหมือนพี่...ขมีขมัน
    อยากจะส่ายก็เร็วรี่...ตะบี้ตะบัน
    ทำทั้งวันทั้งสาวหนุ่ม...กระชุ่มกระชวย...
    
    ...อิอิ..มาเล่นสะบัดกันมะ...หุหุ
  • ยาแก้ปวด

    21 ตุลาคม 2552 19:14 น. - comment id 1054621

    สับัดสะบิ้งได้ใจจิงน้องเรา
    
    46.gif59.gif
  • ใจปลายทาง

    21 ตุลาคม 2552 20:23 น. - comment id 1054670

    หวัดดีค่ะ ซำบายดี บ่
  • ครูกระดาษทราย

    21 ตุลาคม 2552 20:27 น. - comment id 1054677

    เขียนเก่งจ้า เป็นกำลังใจให้กวีน้อยคนเก่งนะจ๊ะ36.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน