* ล่องลอยลม * เรือเร่เอ๋ยรักแล้ว ลอยลม จริงเฮย หวนสิ่งสร้างขื่นขม มากช้ำ น้ำตาปริ่มมากตรม ยากกล่าว ใครนา จำเก็บซึ้งหวานล้ำ สู่ห้วงหฤทัยฯ วจีคำกล่าวมากล้น บ่อเกิด มากนา สรรค์ส่งล้วนงามเลิศ ซาบซึ้ง สมใจอยากตะเพิด ล้างลบ ซ่านเอย พึงพบกลับโกรธขึ้ง ปึ่งปั้นหันสลายฯ หวนนึกมักเรียกร้อง ชมเชย หวานฤา ซ่านสุดฝากคำเฉลย คร่ำครื้น ครางครวญสิ่งอภิเปรย ร้องสิ่ง มากแฮ เรือรักมากสะอื้น ซ่านไว้ในสวรรค์ฯ สายน้ำสาดไสวเคล้า ยั่วยวน พรั่งแฮ ขาวผ่องล้วนโหยหวน ร่ำร้อง ละอองซัดโขดครวญ แทบขาด ใจนอ หวิวสาดส่งร้องก้อง ผ่านซึ้งดวงฤดีฯ ไกวแกว่งแปรเปลี่ยนไว้ แนบชิด มากนา ทาบส่งหวานขมสนิท รอบรู้ เคล้าคลุกปานแทบปลิด กายส่ง มาดเฮย เพียรก่อมากหลากกู้ เล่ห์ร้อยเหลี่ยมรักฯ พายุพัดโหมโยกล้ำ แปรปรวน ยวนแฮ โอนแอบคลึงเคล้าชวน สาดสร้าง ลมโบกแกว่งก่อกวน เอนอ่อน แนบเอย สร้างสิ่งหวังฝากสล้าง สู่ซึ้งตรึงสวรรค์ฯ ฝนโปรยกระหน่ำซ้ำ เปียกปอน กายเฮย น้ำส่งข้างแคมคลอน ผ่านคว้าง กระจ่างสิ่งลิดรอน มาสู่ ใจนา โดดเดี่ยวเพียรสู่สล้าง หวาดล้ำเดียวดายฯ เรือรักเอ๋ยล่องแล้ว พรากไกล ลับเอย ฟ้าหม่นพายุมลาย จากกริ้ว ล่องลอยเร่สิ้นสลาย ฟ้าขอบ สมุทรเฮย ไร้สิ่งพึงหวานพลิ้ว ฝากห้วงบ่วงสวรรค์ฯ. *** แก้วประเสริฐ. ***
13 ตุลาคม 2552 14:13 น. - comment id 1050958
อะจื๋ยย ศิษย์ลงกลอนติดกับครูแก้วฯเลยค่ะ อิ ที่ 1 บ้านครุก่อน ไว้มาใหม่อีกทีนะคะ
13 ตุลาคม 2552 14:29 น. - comment id 1050961
คุณ แก้วประภัสสร นับวันเขียนได้งดงามมาก แต่ครูไปอ่านแล้ว แต่ไม่ขอตอบนะ ด้วยหากดีก็เพียงแค่อ่านเฉยๆจ้า รักศิษย์รักเสมอๆ แก้วประเสริฐ.
13 ตุลาคม 2552 14:53 น. - comment id 1050965
เล่ห์....อารมณ์ผ่านฟ้า ห่มใจ รัก...ห่วงอาวรณ์ใคร ห่อนรู้ ลอย..เสน่ห์หวานไหว อกหวั่น ลม...ล่องหนาวคดคู้ แผ่วพลิ้วผ่านเลย คุณลุงสบายดีนะคะ
13 ตุลาคม 2552 15:25 น. - comment id 1050982
ลอยลมบ่มรักให้ คนไกล ลมบ่ล่องลอยไป ห่มชู้ เสียงก่นสะอื้นไหว ไม่สร่าง ลมเอยกลับพัดอู้ ไป่ข้าม ป่าเขา แวะมาเยี่ยมค่ะ สบายดีนะคะ
13 ตุลาคม 2552 15:26 น. - comment id 1050983
คุณ เพียงพลิ้ว หลานกานต์รักของลุง เขียนโคลงกระทู้ ช่างงดงามยิ่งนัก ขอบใจหลานรักมาก รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
13 ตุลาคม 2552 15:29 น. - comment id 1050987
ุคุณ แจ้นเอง นี่ก็อีกคนเขียนโคลงได้งามจ๊ะ ยังไม่สบายดี หรอกจ้า เพียงแค่ทุเลาเท่านั้นเหงาๆก็เขียนเล่นๆ ไม่รู้จะเขียนอะไร ก็เพ้อเจ้อไปตามใจชอบเอง ก็เท่านั้นแหละจ้า รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
14 ตุลาคม 2552 15:54 น. - comment id 1050996
คุณ ฉางน้อย เช๊อะๆๆๆลุงชมเจ้าฉางหลานรักคนสวยของลุง เน๊อะ อ่านซิ เพียงแต่สวยอยู่เสมอ ผ่านพ้นล่วงเลยฯ ไม่ยอมหาว่าลุงว่าเจ้าซุกซนๆๆๆๆๆๆๆ รักเสมอ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ แก้วประเสริฐ.
13 ตุลาคม 2552 16:57 น. - comment id 1051009
ขอฝากโคลงไว้กับกระทู้ครูแก้วฯด้ยครับ ~ ล่อง..ละลิ่วล่วงแล้ว หลายหลาย หล่มแล ลอย..เลื่อนลาละลาย หล่นล้า ลม..ลิ้นเล่นลวดลาย โลมล่อ หลาบหลบลบลืมหล้า แหล่งล้วนหลอกลวง
13 ตุลาคม 2552 17:45 น. - comment id 1051041
คุณ พจน์รำพัน เขียนเล่นอักษรตัวเดียว ทำให้ผมนึกถึงเมื่อ สมัยก่อนผมก็เล่นโคลงด้วยอักษรตัวเดียว ตัว "ค" ทั้งแปดบาทเลยครับ คนที่เล่นได้ถือได้ว่าเก่งกาจ พอตัวทีเดียว อิอิ แต่ไม่ใช่ผมนะครับ ที่เห็นก็มี คุณดอกแก้วที่ผมนำไปลงในเวปฯของเธอแต่ไม่ ครบแปดบาทครับ เธอบอกว่าแทบตายเชียวล่ะครับ และคุณก็เขียนโคลงได้งดงามอีกด้วยครับ ขอบคุณที่มาฝากไว้ครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
13 ตุลาคม 2552 18:01 น. - comment id 1051054
สวัสดีค่ะลุงแก้ว ว่าจะนำโคลงมาให้ลุงช่วยขัดเกลา พอเห็นแต่ละคนเมนท์มา ต้อรีบเก็บของตัวเอง อายจัง แต่ขอมาชื่นชมโคลงลุงนะคะ แล้วจะแอบพักลักจำไปนะคะ
13 ตุลาคม 2552 18:29 น. - comment id 1051074
คุณ นิลวรรณ สวัสดีครับ อายทำไมกันผิดถูกไม่ต้องไปคำนึง ผลงานเราก็ควรภูมิใจของเรา ถูกใจเราไม่ถูกใจเขา ก็ช่างมัน เราไม่เสียสตุ้งสตางค์สักหน่อยฝึกปรือใน สิ่งที่เรารู้แล้วค่อยๆค้นหาหลักเกณฑ์ไม่นานหรอก แรกๆผมเองก็ใช่ว่าจะรู้เรื่องอะไรเสียเล่า ผมไม่เคย ง้องอนใครๆ ให้เรามีใจรักในสิ่งที่เรารัก เราทำ ในสิ่งที่เราทำก็สร้างความภูมิใจแก่เราแล้ว เอา มาลงเถอะ บอกก่อนนะว่าผมมันคนโง่ๆๆๆเอา เสียมากๆ หากพอแนะนำได้ทดลองก่อนรับได้ ก็รับ รับไม่ได้ไม่ต้องรับเพราะการเล่นของผม เล่นแบบ บ้าๆบอๆบ๊องส์ ฉนั้นงานผมถึงมักจะ มาในทางบ๊องส์เสมอ ผมเชื่อมั่นในตัวเองผม เสมอมา ไม่เกรงกลัวเกรงอะไรๆทั้งสิ้นครับ หากจะรักทางนี้ไม่ต้องกลัวอาย คนเก่งกว่าผม เขาทนไม่ได้หรอกจะแนะนำให้เองแหละ คนที่ดูถูกคนอื่นไม่ใช่คนถึงแม้จะมีร่างกาย เหมือนกันจิตใจหาใช่คนไม่ครับ เชื่อผมเถอะ อย่างดีแค่หมดตัวก็เท่านั้นเอง ฮ่าๆๆๆ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
13 ตุลาคม 2552 19:05 น. - comment id 1051088
ล่อง เรือตามลำน้ำ เนิ่นนาน ลอย ผ่านกระแสธาร เชี่ยวซ้ำ ลม คงบ่สงสาร เฮาแน่ แท้เฮย รักเล่ห์จึงไป่รู้ ร่ำร้องลำพัง ................................................ ปาดเหงื่อๆ...คิดตั้งนานได้แค่นี้เองค่ะ
13 ตุลาคม 2552 19:06 น. - comment id 1051090
แว๊กกกกกกก ผิดจนได้ เดี๋ยวขอแก้ตัวใหม่นะคะ
13 ตุลาคม 2552 19:09 น. - comment id 1051091
ล่อง เรือตามลำน้ำ เนิ่นนาน ลอย ผ่านกระแสธาร เชื่องช้า ลม คงบ่สงสาร เฮาแน่ แท้เฮย รักเล่ห์ลวงหลอกล้า ร่ำร้องลำพัง แฮ่....พอได้มั๊ยคะ โคลงเคลงๆ
13 ตุลาคม 2552 19:30 น. - comment id 1051101
คุณ โคลอน ไม่ต้องปาดเหงื่อหรอกครับ แรกๆก็อย่างนี้ ขนาดคนที่ชำนาญยังพลาดได้ครับ ผมจะบอกเคล็ดยอกให้อย่างหนึ่งคือ วรรคที่สอง สองคำสุดท้าย ต้องเอก โท เท่านั้น คำโทต้องยืนเป็น หลัก เมื่อใช้คำโทแล้ว เราต้องมองข้ามชอร์ตไปถึง วรรคที่สี่คำสุดท้ายด้วย (วรรคแรก) คือใช้เสียงโท ต้องหาคำมา คอยรับ วรรคที่สองคำสุดท้ายด้วย นี่แหละคือ เคล็ดลับอย่างหนึ่งของการเขียน โคลงนะครับ ด้วยเขาบังคับไว้ในลักษณะเอกเจ็ดโทสี่ คำเอกนั้นใช้ตัวช่วยกับคำตายได้ แต่โทไม่ได้ นะครับ ลองทำตามคนบ๊องส์ดูซิครับ มองข้าม ชอร์ตเสมอๆครับ คำที่ยากคือคำ พลิ้ว ด้วยหา ตัวรับยากแม้ว่าจะไพเราะก็ตาม รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
13 ตุลาคม 2552 19:32 น. - comment id 1051103
คุณ โคลอน ไม่เป็นไรไม่เสียเงินทองนี่จ๊ะ จำไว้อย่างนี้เขา เรียกว่า โคลงกระทู้เดี่ยวนะ เอ๊ามาเขียนใหม่จ้า รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
13 ตุลาคม 2552 19:33 น. - comment id 1051104
แต่งโคลงไม่เก่งขอแวะมาอ่านงานก็แล้วกันน่ะค่ะ โคลงเพราะมากค่ะ
13 ตุลาคม 2552 19:40 น. - comment id 1051109
คุณ โคลอน ได้จ้าไม่ผิดหรอก โคลงกระทู้เดี่ยวนะ ไม่โคลง เคลงหรอก ฮ่าๆๆ เพียง โคลงครางเน๊อะ ด้วย มีเสียงไม้โทตั้งห้าคำแนะแม้จะไม่นับแต่ ก็ไม่สมควรใช้ครับ อิอิ ล้อเล่น ครับ แล้วอย่าลืมที่บอกไว้ข้างต้นล่ะจ๊ะ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
13 ตุลาคม 2552 19:52 น. - comment id 1051117
คุณ ภัทราภา ก่อนอื่นขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมครับ เก่งหรือ ไม่เก่งไม่สำคัญ สำคัญว่าใจเรารักหรือเปล่าครับ สิ่งที่อ่านได้ไพเราะเพราะพริ้งในระดับชั้นกลาง คือ โคลง กาพย์ กลอน ในแต่ละอย่างยังแยกไป อีกมากมาย หากคนอ่านทำนองได้จะไพเราะและ ได้เปรียบในการเขียนมากครับ ฝึกไว้เธอครับ ในความเห็นผมนะครับไม่เกี่ยวกับคนอื่น ผมว่า สามอย่างนี้แหละคือสุดยอดตั้งแต่โบราณกาล จวบจนปัจจุบันนี้ครับ ขอบคุณว่างๆแวะมาอีก นะครับ ด้วยส่วนใหญ่ผมมักจะเอาสิ่งที่ผมรู้ มาบอกไว้ในการตอบกระทู้เสมอๆครับ อยู่ที่ว่า จะรับได้หรือไม่เท่านั้นเองครับ ขอบคุณครับ แก้วประเสริฐ.
13 ตุลาคม 2552 19:53 น. - comment id 1051119
โคลงคราง...หงิ๋ง...หงิ๋ง...หงิ๋ง แหะ...เสียงโท มีห้าคำจริงด้วยค่ะ ขอบคุณที่ช่วยชี้แนะนะคะ เวลาฝนเขียนโคลงฝนจะใช้เวลานานกว่าชาวบ้านเขาอ่ะค่ะ เลยไม่ค่อยกล้า ตอบเป็นโคลงเท่าไหร่ ขอบคุณที่เอ็นดูและไม่ถือสาในความผิดพลาดของฝนนะคะ...แฮ่ ไว้จะพยายามใหม่ค่ะ
13 ตุลาคม 2552 20:07 น. - comment id 1051131
คุณ โคลอน สิ่งที่ผิดพลาดอย่างท้อถอยด้วยมีประโยขน์กว่า คำชมเสียอีก ทุกๆอย่างแก้ไขได้หากเราจะคิดแก้ นั่นแหละคือคนจริง ผิดก็รู้ว่าผิด ถูกก็อย่าเหลิงลืม ตัว หาหนทางสร้างสติปัญญาไว้ ก็จะดีเองแหละ ทุกๆสิ่งในโลกนี้มิมีวันสิ้นสุดหรอกอยู่ที่ว่าเราจะ หาหนทางค้นทางนั้นพบแล้วหรือยัง ตายแบบมี คุณค่าดีกว่าตายแบบไร้คุณค่าครับ การหลง ลืมตัว จิตอาฆาตพยาบาทจะทำให้มัวหมองแก่ใจ เราเองและเป็นปัญหาที่ไร้ความสุข ความสุข อันแท้จริงไม่ใช่อยู่สิ่งรอบกายหรือร่างกาย ของเรา แต่มันอยู่ที่จิตใจเราเองครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
13 ตุลาคม 2552 20:18 น. - comment id 1051137
ลมรักลอยผ่านแล้ว.....ฤาลม เหลือแต่รอยภิรมย์.....ซ่อนเร้น พัดเชยผ่านมาชม.......แค่ชั่ว-ชื่นเอย เพียงแผ่วยังบีบเค้น...สุดห้วงดวงมาลย์ สวัสดีค่ะลุงแก้ว แวะมาอ่านโคลงค่ะ เลยขอร่วมเคาะสนิมโคลงเสียหน่อยค่ะ สบายดีนะคะ รักษาสุขภาพด้วยค่ะ
13 ตุลาคม 2552 21:14 น. - comment id 1051151
คุณ bananaleaf สวัสดีจ้า ครูสอนภาษาอังกฤษมาเล่นโคลงแบบนี้เขา เรียกว่าเหล็กไหลไม่มีสนิมเหลือเลยจ้า เก่งมาก สุขภาพผมก็ลุ่มๆดอนๆด้วยอายุอานามมากแหละ เป็นไปตามความไม่เที่ยงแหละ ขอบใจมากจ้า รักอยู่เสมอ แก้วประเสริฐ.
13 ตุลาคม 2552 23:27 น. - comment id 1051202
นั่นต้องอย่างนี้สิลุงแก้ว หาโคลงเพราะๆมาฝากพี่น้องแบบนี้
14 ตุลาคม 2552 00:06 น. - comment id 1051213
........มาทักทายลุงแก้วตอนดึกๆคะ พอดีว่า เพิ่งตื่น นอนตั้งแต่ 5โมงเย็น นอนเล่นๆ หลับจริงๆ น้ำไม่ได้อาบด้วย นี่ซิ 555555 ไปแระ น อนต่อค่ะ อิอิ
14 ตุลาคม 2552 02:55 น. - comment id 1051256
ลอยตามลมเลยค่ะ อาการเป็นอย่างไรบ้างคะ ดูแลสุขภาพมาก ๆ นะคะ
14 ตุลาคม 2552 12:22 น. - comment id 1051371
ลมลอยปลิวผ่านพ้น เย็นเย็น ไหลลู่ เห็นกระเต็น เล่นน้ำ ดูลิงโลดตัวเป็น เย้าหยอก เสือกลับเต้นรำย้ำ หลอกล้อกินวัว โคลงพาไปค่ะคุณครู อิ
14 ตุลาคม 2552 12:26 น. - comment id 1051374
แวะมาเยี่ยมครูแก้วครับ ลมโลมลูบไล้เล้าละล่องลอย แผ่วพัดผลอยพักตร์พับเพียงผ่านผัน แต้มแต่งเต็มต่อเติมตื้อตื้นตัน เอมอิ่มอกเอกอันอาบเอื้อองค์ พักผ่อนเยอะๆนะครับครู
14 ตุลาคม 2552 13:04 น. - comment id 1051399
คุณ เทียนหยด ศิษย์รักเรา ดีแล้วฝึกเอาไว้ แหม๋กว่าจะ อ่านจบสายตาแทบแย่เชียวล่ะ ตอนนี้ค่อยยังชั่ว ขึ้นแล้วล่ะจ้า เมื่อวานฝนตกทั้งวันทั้งคืนเลยล่ะ เล่นเอาแย่เหมือนกัน รักศิษย์เราเสมอ แก้วประเสริฐ.
14 ตุลาคม 2552 13:07 น. - comment id 1051402
คุณ ยาแก้ปวด หลานรักจะเอาอะไรแน่กับลุงไม่ได้หรอกดี บ้างไม่ดีบ้างตามนิสัยบ้าๆของลุงแหละจ้า เฮ่อๆๆๆ อารมณ์คนแก่ก็อย่างนี้แหละจ้า รักหลานเสมอ แก้วประเสริฐ.
14 ตุลาคม 2552 13:20 น. - comment id 1051408
คุณ ฉางน้อย เจ้าจอมซุกซนเอ๋ย ไม่อาบน้ำเดี๋ยวคนข้าง เคียงจะหอมฉุ๋ยๆเลยนะเนี๊ยะ อิอิ รักหลานเสมอ กลิ่นกายเจ้าแนบเนื้อ หอมลุย ฉุนแฮ ดอมดมไหงตุ๊ยตุ๋ย แทบเพ้อ ลมพัดเปลี่ยนตลบตลุย ลมใส่ จริงนอ เพียงแต่สวยอยู่เสมอ ผ่านพ้นล่วงเลยฯ อิอิ..ล้อเล่นอย่าหน้างอซิ ฮ่าๆๆๆๆ แก้วประเสริฐ.
14 ตุลาคม 2552 13:24 น. - comment id 1051413
คุณ ปรางทิพย์ ดีขึ้นหน่อยจ้าเป็นแบบนี้แหละภูมิต้านทาน ไม่ดีด้วยมีอายุมากแล้วก็เลยหายยาก แต่ก็ดีขึ้น มากจ้า รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
14 ตุลาคม 2552 13:26 น. - comment id 1051416
คุณ แก้วประภัสสร ไม่เป็นไรฝึกไว้เถอะการเล่นโคลงต้องรู้จัก หักมุมถึงจะงาม แต่โคลงก็สนุกดีนะ รักศิษย์เราเสมอ แก้วประเสริฐ.
14 ตุลาคม 2552 13:36 น. - comment id 1051423
คุณ กิ่งโศก การเล่นอักษรนั้นพยายามอย่าใช้ตัวช่วยถึง แม้ว่าจะมีทำนองคล้ายๆกันก็ตามเช่น แผ่วพัดผลอยพักตร์พับเพียงผ่านผัน นั้นใช้อักษร "ผ" ก็ควรเป็นอักษรนั้นๆตลอดเช่น แผ่วผุดผลอยผาดผ่านผ่องผัน ก็จะได้อักษร "ผ" ครบแล้วได้ใจความด้วย การเล่นอักษรนี้ ดีมากเลยด้วยทำให้เราได้รู้จัก อักษรมากขึ้น พลิกแพลง หักมุมในตัวเองเสร็จ สมัยก่อนครูก็เล่น ทำให้เกิดทักษะเกี่ยวกับอักษร มากแล้วได้หลายอย่างนานานัปการเชียวล่ะ หัดเอาไว้ไม่เสียหลาย ได้ทั้งสมาธิปัญญาค้นคว้า ในตัวอีกด้วย รักศิษย์เราเสมอ แก้วประเสริฐ.
14 ตุลาคม 2552 13:59 น. - comment id 1051436
สวัสดีค่ะ พี่แก้ว ไม่รู้ว่าจำกันได้ไหมเพราะไม่ได้เขียนกลอนที่บ้านนี้มากกว่า 3 ปีแล้ว ^ ^'' เมื่อสักครู่เพิ่งแวะไปทักทายพี่อัลมินตรา ดีใจที่กลับมาแล้วยังเห็นคนเก่าๆอยู่กันหลายคน เหมือนได้กลับภูมิลำเนาเลยค่ะ พี่แก้วยังเขียนโคลงได้ไพเราะเหมือนเดิม ไว้จะมาต่อกลอนในโอกาศหน้านะคะ วันนี้ยังฝืดๆอยู่ค่ะ หวังว่าพี่แก้วคงสบายดีค่ะ
14 ตุลาคม 2552 14:21 น. - comment id 1051440
คุณ completely จำได้ซิครับน้องสาวคนสวย หายไปนาน เมื่อกี้ นี้ว่าจะแวะไปเยี่ยมพอดีเครื่องผมซื้อมือสองมาใช้ มันรวนๆเสมอๆแหละครับ นี่แหละของที่ใช้แล้วมัก จะแย่เห็นว่าถูกๆ อีกอย่างเครื่องเก่าก็ใช้มาหลายปี นับสิบปีได้แล้วล่ะ อยู่ดีๆมันหายไปเฉยๆ กว่าจะย้อน กลับก็เล่นเอาหลายๆรอบเชียวล่ะ หวังว่าคงสบายดี นะครับ เดี๋ยวผมจะเข้าไปเยี่ยมครับ รักเสมอๆ แก้วประเสริฐ.
14 ตุลาคม 2552 15:41 น. - comment id 1051458
31.......... ลุงแก้วอ่ะ ว่าหนู....
14 ตุลาคม 2552 23:01 น. - comment id 1051599
สุดๆๆ ครับ อ่านแล้ว จะลอยลมได้จริงๆ ทั้งไพเราะ และภาษาสละสลวย งดงาม มั๊กมาก ครับ ต้องเก็บไว้ อีกแล้วล่ะครับ
15 ตุลาคม 2552 12:35 น. - comment id 1051772
คุณ กวีน้อยฯ เจ้ากวีน้อยเอ๋ย...การเขียนร้อยกรองนั้น ไม่จำเป็นหรอกต้องใช้คำยากๆผสมผสาน เอาคำง่าย ก็สามารถกระชากอารมณ์คนออกมาได้ แต่สำคัญ คือเราต้องเข้าใจอักษรนั้นๆ ด้วยอักษรนั้นๆนะมัน มีทำนองอยู่ในตัวเองอยู่แล้ว เราต้องรู้ว่าอักษรนั้น อยู่ในลักษณะทำนองอะไร เมื่อเราค้นพบก็สามารถ นำมาใช้ประสานกับเรื่องราวได้ อย่างเช่นบรมครู ศรีปราชญ์ท่านเองก็มักจะใช้คำง่ายๆในการ ร้อยกรอง หรือบรมครูสุนทรภู่ท่านก็จะใช้คำง่ายๆ เป็นหลัก เพียงแต่ว่าการร้อยสร้อยอักษรนั้น ท่านเชี่ยวชาญมาก รู้จักหักมุม พลิกแพลงอักษร ให้ผสมผสานกัน สิ่งง่ายๆก็จะอ่อนพลิ้วไหว กระชากอารมณ์คนได้อย่างง่ายๆ โคลงมีหลายรูป แบบก็จริงแต่ละแบบนั้นแตกต่างกันไป แต่ ส่วนใหญ่แล้วท่านมักจะนำมาดัดแปลงผสมผสาน กันทำให้เกิดทำนองไพเราะ ฉนั้นสรุปคือทำนอง ของอักษรคือสิ่งสำคัญหลานรักจำไว้ จะเก็บไว้ ตามสบายเถอะลุงเองเป็นคนใกล้ฝั่งเข้าไปแล้ว ไม่เคยเลยนับแต่เล่นกลอนมาก็อายุอานามมาก อาศัยสมัยหนุ่มๆนั้นชอบทางนี้เป็นปัจจัยเท่านั้น เมื่อมาเคาะสนิมก็ไปได้รวดเร็วเท่านั้น มาเล่น ล่าสุดก็ตอนปลดเกษียณอายุนี่แหละ การเล่น ร้อยกรองเราต้องเป็นคนละเอียดอ่อนพอสมควร หมั่นสังเกตุวิธีการแล้วนำมาประยุกต์ ร้อยกรอง เราถึงจะไปได้ ตอนแรกก็จะขัดๆแต่พอเราเกลา ก็จะจัดท่วงท่าทำนองได้เองแหละ หลานเราก็มี พรในเรื่องนี้อยู่แล้ว หากนำคำแนะนำนี้ไปใช้ ผสมผสานกันก็จะไปได้รวดเร็ว จำไว้ว่าหุ่นที่ สวยงามหากขาดการเชิด แล้วก็ไร้คุณค่า แต่หาก เราเอามาเชิดก็ต้องดูว่าคนเชิดเป็นอย่างไรที่ จะทำให้หุ่นนั้นสวยงามอ่อนไหวพลิ้วได้นี่แหละ คือสิ่งที่ควรจะคิดก็เหมือนร้อยกรองนี่แหละ รักหลานเราเสมอ แก้วประเสริฐ.