** เฉิดโฉม ** ๏ พิศเจ้างามผ่องแย้ม นวลจันทร์ เลิศลักษณ์วิลาวัลย์ เปรียบแม้น พรายงามกระจ่างรัญ- จวนยิ่ง จริงแฮ หญิงใดในแว่นแคว้น ยากล้ำเลอโฉม ฯ ๏ ลักยิ้มปรางเฉิดแฉล้ม ดาวราย นภาแล ตลึงหยุดพิศเยี่ยมกราย เฉียดใกล้ พราวระยิบทอดพราย กายแม่ หอมเอย ฤทัยป่วนจนคลั่งไคล้ กลิ่นเย้ายวนหทัย ฯ ๏ หอมเอยคล้ายผกาไม้ เบิกบาน สูดกลิ่นชวนสำราญ เทียบฟ้า ลอยละล่องร่ำกานท์ มอบแด่ นวลเฮย เปรยสิ่งหวังไขว่คว้า แนบน้องสู่สวรรค์ ฯ ๏ ยิ่งพิศยิ่งละล้า ใฝ่ฝัน แม่เอย หอมกลิ่นจนกระสัน คลั่งไคล้ โลมร้อนรุ่มลืมวัน สร้างสิ่ง หวังเฮย ยามพบพึงแนบใกล้ ลุ่มล้ำย้ำทรวง ฯ ๏ยอดหญิงเอยยากแล้ว มุ่งหวัง เคียงแม่ เฝ้าพบจนหมดพลัง ฝากฟ้า ม่านเมฆหมอกปิดบัง สรรค์ฝาก พรากแฮ พิศยิ่งหมองสิ่งคว้า พร่ำเพ้อเผลอครวญ ฯ ๏ อกเอ๋ยอกเหี่ยวแห้ง หนอเรา ยากยิ่งฝากแอบเนา แนบเนื้อ หวังคิดทาบนงเยาว์ หอมกลิ่น ยากเฮย เพียงเหม่อยลหมายเกื้อ โอบอ้อมล้อมสวรรค์ ฯ ๏ บุญเวรกรรมพบเนื้อ นวลปราง หลงคลั่งมิอาจวาง แม่เจ้า ยุงเหลือบริ้นไรจาง กัดกร่อน เราเอย นางลับเหลือจันทร์เคล้า เหม่อจ้องปองใจ.๚ะ๛ *** แก้วประเสริฐ. ***
8 สิงหาคม 2552 14:34 น. - comment id 1024711
เฉิดโฉมแท้ แม่นาง กลางใจฝัน ครวญถึงวัน สรรสร้าง หว่างจันทร์ฉาย ลุ่มหลงรูป จูบภาพ ปลาบใจกาย เพียงแค่หมาย ปลายเล็บ เจ็บล้นทรวง อิอิ...ครูแก้วประเสริฐเนี่ย อะนะ ครวญหาหญิงอีกแระ ปรางน่ะ มิมี ความสามารถแต่งโคลงเลยค่ะ เคย พยายามหลายรอบ ต้องรื้อทิ้งหมด ขออนุญาต แจมเป็นกลอนแปดนะคะ
8 สิงหาคม 2552 15:12 น. - comment id 1024728
ใครๆก็ชอบสิ่งสวยงามนะคะคุณลุง กานต์ยังชอบมองเลย อิอิ
8 สิงหาคม 2552 15:46 น. - comment id 1024735
สวัสดีครับ ขอแจมโคลงด้วยบทนึงครับ บุญพบพานนิ่มเนื้อ นวลสงวน เรียงร่วมคืนครางครวญ ครั่นห้อง รสรักซาบรัญจวน จับจิต ใจพี่จักฝากน้อง นุชเจ้าจงถนอม
8 สิงหาคม 2552 18:56 น. - comment id 1024775
๏ ครายามยลนิ่มเนื้อ นวลนาง แม่เอย ใจพี่มิจืดจาง ห่างเจ้า วนเวียนพร่ำสองปราง รอยร่ำ จูบนา บอกพี่หวังหยอกเย้า แด่น้องเพียงคน ฯ มาฝึกโคลงเคลง แจมโคลงงามของท่านพี่ ครับ
8 สิงหาคม 2552 21:00 น. - comment id 1024857
มาชมโคลงชมความงามค่ะ เฌอแต่งเป็นแต่โคลงเคลงค่ะ
8 สิงหาคม 2552 21:27 น. - comment id 1024876
พบกันพลันส่งยิ้ม พิมพ์ใจ ตาสื่อมองกันไป เพริดพริ้ง หวังเพียงสิ่งอันใด กันเล่า คนเอย ชูชื่นทุกวันยิ่ง ค่านั้น อันควร หอมเพียงกลิ่นคละคลุ้ง จรุงใจ หอมบ่ทันเท่าใด กลับร้าง ลืมวันที่ขวัญใจ ยืนอยู่ กลายกลับไม่เข้าข้าง ห่างไร้ ไกลกัน สวัสดีค่ะคุณครูแก้วฯ อ่านโคลงครูแล้ว ถ่ายทอดอารมณ์ ออกมาได้เยี่ยมจริงๆค่ะ รักษาสุขภาพด้วยค่ะครู
8 สิงหาคม 2552 21:57 น. - comment id 1024885
**นางใดใจรักแล้ว รอวัน หอมกลิ่นจนกระสัน คลั่งไคล้ โฉมงามหากไกลกัน คงอยู่ คู่เฮย เพียงพบยังคงใกล้ ไป่ร้างห่างสมร....ฯ แฝดเพื่อน...ที่คิดถึง...เป็นอย่างไรบ้างคะ....ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ..เป็นห่วงค่ะ...ภาพนางรำสวยจัง....โคลงไพเราะและมีความหมายมากค่ะ....แวะมาเยี่ยมนะคะ...
8 สิงหาคม 2552 22:03 น. - comment id 1024888
สวัสดีครับอาจารย์ เยี่ยมมากครับ
9 สิงหาคม 2552 00:09 น. - comment id 1024930
สวัสดีงามๆยามราตรีเจ้า ช่างบรรยายๆได้งดงามแต้ๆ เจ้า สมแล้วเจ้าที่จะเป็นปรมาจารย์ด้านกวี ราตรีสวัสดิ์งามๆขอให้หลับฝันดีเจ้า
9 สิงหาคม 2552 00:53 น. - comment id 1024940
....ลุงแก้วฯ ครวญหานางใดหนอ วานบอก อิอิ
9 สิงหาคม 2552 12:51 น. - comment id 1025075
สวยงามแต๊ๆเจ้าลุงแก้วประเสริฐ
9 สิงหาคม 2552 21:52 น. - comment id 1025207
ชมนุชน้องยกอ้าง ถ้อยงาม โฉมสอางค์จุดใจหวาม พี่จ้อง เสน่ห์ยิ่งรัดดึงตาม เกี่ยวติด พันเฮย แลพบจบจิตพ้อง แด่เจ้าคนเดียว ..มาศึกษาครับครูแก้ว รักษาสุขภาพด้วยครับครู. ขอบคุณที่ช่วยดูกลอนบทอาเศียรวาทให้ผมนะครับ
10 สิงหาคม 2552 05:28 น. - comment id 1025321
เห็นเรียกยอดหญิง ๆ อยู่คนเดียว อ่านชุดนี้ แล้วสงสัยป๋าจัง คิดไงกะยอดหญิง อิอิ
10 สิงหาคม 2552 15:52 น. - comment id 1025409
สิ่งใดที่สวยและงดงาม ก่อให้เกิดความสุขใจเมื่อได้มองและสัมผัสค่ะ
10 สิงหาคม 2552 21:45 น. - comment id 1025543
มาสวัสดีคุณครูแก้วยามดึกๆค่ะ ไม่ค่อยได้ มา คิดถึงจังเลยค่ะ แอบมาดูคนงามของคุณครูด้วย
10 สิงหาคม 2552 23:32 น. - comment id 1025576
ช่างเฉิดโฉมงามประโลมใจ...... แวะมาอ่านและคารวะครูกลอนค่ะ
11 สิงหาคม 2552 13:59 น. - comment id 1025788
คุณ ปรางค์ทิพย์ ผมก็เขียนไปเรื่อยๆตามประสาคนแก่ที่ชอบ สวยๆงามๆ แต่ อิอิ เป็นแค่ไก่แจ้นะครับไม่ใช่เป็น ไก่โต้งหรอก ส่วนเรื่องโคลงนั้นผมจะแนะนำให้คือ คำหน้า ต้องห้าคำ คำหลังสองคำ ส่วน ขยายความ วรรคแรก สุดท้ายสองคำหลังนั้น เว้นวรรคใช้ใน การขยายคำให้ครบเพราะว่าบางครั้งคนอ่านจะไม่ เข้าใจว่าหมายถึงอะไร จึงจำเป็นต้องขยายความ แต่ที่ขยายความนั้นคำสุดท้าย ต้องเป็นคำอุทาน เท่านั้นครับ ส่วนสองคำแรกก่อนคำขยายนั้น คำแรกให้ใช้เสียง เอกได้โดยอนุโลม แต่ห้าม เสียง โท เด็ดขาดนะครับ ส่วนคำที่สองห้ามมี เสียงวรรณยุกต์ทั้งสิ้น นี่วรรคแรก คำหน้านั้น คำที่สี่และห้า คำที่สี่นั้นต้อง เสียง เอกหรือคำที่ ใช้แม่ กด กก กบ หรือคำตายแทนก็ได้ครับ แต่คำหลังให้ใช้เสียงโทเท่านั้นเขาบังคับไว้จ๊ะ วรรคที่สอง คำที่สอง ให้ใช้เสียงเอก ส่วนสองคำ หลังนั้น ต้องเสียงเอกคำแรกส่วนคำหลังเสียงโท บังคับไว้จ๊ะ วรรคที่สาม ห้าคำแรกหน้า คำที่สามให้ใช้เสียง เอกหรือคำแทนดังที่กล่าวไว้นั่นและ ส่วนสองคำ หลังคำที่มีสองคำ คำที่สองบังคับไว้เสียงเอกเท่า นั้นหรือใช้คำแทนก็ได้ แต่จะให้สวยงามควรมี คำขยายเพื่อความไพเราะ แต่ต้องเว้นวรรค สักสองวรรคหรือไม่เกินสามก็พอ คือคำขยาย ลงท้ายคำอุทานเหมือนวรรคที่หนึ่งแหละจ้า วรรคที่สี่ ห้าคำแรก คำที่สองบังคับเสียงเอกหรือ คำแทนก็ได้ ส่วนคำที่ห้านั้นต้องเสียงโทเท่านั้น ส่วนคำถัดไปวรรค มีสี่คำต้องให้ติดกันด้วยนะ คำที่หนึ่งนั้นใช้เสียงเอกหรือคำแทน ส่วนคำที่ สองนั้นใช้เสียงโทคือไม้โทนั่นแหละบังคับไว้ ส่วนคำที่สามนั้นเขาให้ขยายความคำที่สองแล้ว ตามด้วยเสียงสูงจะไพเราะมาก จะเพิ่มคำขยาย อีกสองคำก็ได้แต่เขาไม่นิยมกันก็เหมือนๆกัน แหละจ้า โคลงนั้นบังคับตามกรอบบังคับ คือ เสียงเอก 7 เสียงโท 4 วางตามกฏข้อบังคับ ส่วนการใช้เกินนั้นเขาไม่นับกันจ๊ะ ส่วนการ จะเขียนได้ดีไพเราะหรือเล่นคำอย่างไรอยู่ที่ เราจ๊ะ กรอบมีดังนี้คือ วรรคแรก กา กา กา ก่า ก้า กากา(นี่แหละที่ เขาห้ามเสียงโทคำแรกหรือคำที่สองเด็ดขาด ส่วนคำแรกจะใช้เสียงเอกก็ได้ วรรคสอง กา ก่า กา กา กา ก่าก้า วรรคสาม กา กา ก่า กา กา กาก่า กากา(คำขยาย) วรรคสี่ กา ก่า กา กา ก้า ก่าก้ากากา (ต้องติด กัน) ทั้งหมดก็มีเท่านี้แหละจ้า แล้วมาพูดถึง การรับสัมผัสกันนะ วรรคแรก สองคำสุดท้ายคำหลังคือ คำส่ง วรรคสอง คำที่ห้า คือคำรับและคำส่ง ส่วนสองคำ หลังนั้นเป็นคำส่งด้วย วรรคสาม คำที่ห้า คือคำรับ รับจากวรรคสองหรือ วรรคหนึ่งคำที่ห้า จ๊ะ วรรคสี่คำที่ห้าเป็นคำรับ จากคำส่งของวรรคที่ สองคำที่ห้าจ๊ะ นี่คือการรับสัมผ้สกัน ง่ายจะตายไป การจะเล่นคำให้อ่อนช้อยหรือคำ ยากๆอยู่ที่ทำนอง หากอ่านทำนองเป็นก็จะง่าย มากขึ้นไปอีกจ้า เอาล่ะว่าจะไม่บอกแล้วเชียว เพราะคนเขาอิจฉาผมมากเคยมีคนเขี่ยนด่าผม มาก็มากเหมือนกัน บอกว่า เอาตีนเขียนยังเขียน ได้ดีกว่าผม ผมยังจำได้จนบัดนี้จ้า เห็นเรียกครู มานานเลยบอกให้จ๊ะ ทางที่ดีควรหัดกลอนแปด ให้คล่องเสียก่อนเพราะกลอนแปดนั้นหากเล่น เป็นก็จะต้องอ่อนช้อยไหวพลิ้วเสมอๆๆ เมื่อมา เขียนโคลงก็ทำให้โคลงอ่อนช้อยไปด้วยจ้า รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
11 สิงหาคม 2552 14:04 น. - comment id 1025790
คุณ เพียงพลิ้ว ตอบช้าหน่อยเพราะเปลี่ยนคอมฯใหม่และต้อง หาสิ่งต่างๆมาลง โดยเฉพาะ word เขาไม่มีต้องหา มาลงใหม่ และที่เก็บภาพก็ไม่มีด้วยตอนนี้ก็ยังไม่มี acdsee จ๊ะหลานมีเวปฯฟรีนะลุงมันคนจนจะซื้อก็ ไม่เงินเที่ยวหาตามเวปฯยังไม่เจอ เจอเหมือนกัน ต้องซื้อเขาแพงมากคิดเป็นเงินดอลฯด้วย ลุงนั้น ตามประสาไก่แจ้ล่ะจ้าชอบสวยๆงามๆเสมอ รักหลาน รักมากจ้า แก้วประเสริฐ.
11 สิงหาคม 2552 14:07 น. - comment id 1025791
คุณ พจน์รำพัน สวัสดีครับ ตามสบายเลยครับกระต๊อบผุๆนี้ได้เสมอครับ เขียนได้งามนี่ครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
11 สิงหาคม 2552 14:11 น. - comment id 1025794
คุณ คนกุลา เขียนได้งดงามจ้าน้องรัก ตามสบายเลยนะ พี่เองมันคนบ๊องส์บ้าๆบอก็อย่าคิดมากนะอ่านสนุกๆ เท่านั้นเองจ้า เขียนได้แต่เอาดีไม่ได้สักทีจ๊ะ ก็ไปเรื่อยๆแหละ รักน้องเสมอ แก้วประเสริฐ.
11 สิงหาคม 2552 14:14 น. - comment id 1025796
คุณ เฌอมาลย์ ลองไปอ่านกระทู้ที่ผมตอบกับปรางค์ทิพย์เอา เองนะจ๊ะเจ้าหญิงยอดรัก แล้วหัดแต่ง บางที่ผมก็ เคลงโคลงเหมือนกันเพราะไม่ค่อยได้เล่นจ้า ถึง จะเขียนเป็นหลายๆอย่างแต่เอาดีไม่ได้สักหนึ่งเดียว ด้วยเป็นคนโง่เขลา ยิ่งแก่ด้วยยิ่งไปกันใหญ่เลย หากชอบก็ฝึกเอาเองนะจ๊ะ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
11 สิงหาคม 2552 14:16 น. - comment id 1025797
คุณ แก้วประภัสสร เจ้าแก้วศิษย์รักเอ๋ย เอ๊าๆไปอ่านทบทวนอีก ทีนะจ๊ะ ส่วนเรื่องโคลงนั้นผมจะแนะนำให้คือ คำหน้า ต้องห้าคำ คำหลังสองคำ ส่วน ขยายความ วรรคแรก สุดท้ายสองคำหลังนั้น เว้นวรรคใช้ใน การขยายคำให้ครบเพราะว่าบางครั้งคนอ่านจะไม่ เข้าใจว่าหมายถึงอะไร จึงจำเป็นต้องขยายความ แต่ที่ขยายความนั้นคำสุดท้าย ต้องเป็นคำอุทาน เท่านั้นครับ ส่วนสองคำแรกก่อนคำขยายนั้น คำแรกให้ใช้เสียง เอกได้โดยอนุโลม แต่ห้าม เสียง โท เด็ดขาดนะครับ ส่วนคำที่สองห้ามมี เสียงวรรณยุกต์ทั้งสิ้น นี่วรรคแรก คำหน้านั้น คำที่สี่และห้า คำที่สี่นั้นต้อง เสียง เอกหรือคำที่ ใช้แม่ กด กก กบ หรือคำตายแทนก็ได้ครับ แต่คำหลังให้ใช้เสียงโทเท่านั้นเขาบังคับไว้จ๊ะ วรรคที่สอง คำที่สอง ให้ใช้เสียงเอก ส่วนสองคำ หลังนั้น ต้องเสียงเอกคำแรกส่วนคำหลังเสียงโท บังคับไว้จ๊ะ วรรคที่สาม ห้าคำแรกหน้า คำที่สามให้ใช้เสียง เอกหรือคำแทนดังที่กล่าวไว้นั่นและ ส่วนสองคำ หลังคำที่มีสองคำ คำที่สองบังคับไว้เสียงเอกเท่า นั้นหรือใช้คำแทนก็ได้ แต่จะให้สวยงามควรมี คำขยายเพื่อความไพเราะ แต่ต้องเว้นวรรค สักสองวรรคหรือไม่เกินสามก็พอ คือคำขยาย ลงท้ายคำอุทานเหมือนวรรคที่หนึ่งแหละจ้า วรรคที่สี่ ห้าคำแรก คำที่สองบังคับเสียงเอกหรือ คำแทนก็ได้ ส่วนคำที่ห้านั้นต้องเสียงโทเท่านั้น ส่วนคำถัดไปวรรค มีสี่คำต้องให้ติดกันด้วยนะ คำที่หนึ่งนั้นใช้เสียงเอกหรือคำแทน ส่วนคำที่ สองนั้นใช้เสียงโทคือไม้โทนั่นแหละบังคับไว้ ส่วนคำที่สามนั้นเขาให้ขยายความคำที่สองแล้ว ตามด้วยเสียงสูงจะไพเราะมาก จะเพิ่มคำขยาย อีกสองคำก็ได้แต่เขาไม่นิยมกันก็เหมือนๆกัน แหละจ้า โคลงนั้นบังคับตามกรอบบังคับ คือ เสียงเอก 7 เสียงโท 4 วางตามกฏข้อบังคับ ส่วนการใช้เกินนั้นเขาไม่นับกันจ๊ะ ส่วนการ จะเขียนได้ดีไพเราะหรือเล่นคำอย่างไรอยู่ที่ เราจ๊ะ กรอบมีดังนี้คือ วรรคแรก กา กา กา ก่า ก้า กากา(นี่แหละที่ เขาห้ามเสียงโทคำแรกหรือคำที่สองเด็ดขาด ส่วนคำแรกจะใช้เสียงเอกก็ได้ วรรคสอง กา ก่า กา กา กา ก่าก้า วรรคสาม กา กา ก่า กา กา กาก่า กากา(คำขยาย) วรรคสี่ กา ก่า กา กา ก้า ก่าก้ากากา (ต้องติด กัน) ทั้งหมดก็มีเท่านี้แหละจ้า แล้วมาพูดถึง การรับสัมผัสกันนะ วรรคแรก สองคำสุดท้ายคำหลังคือ คำส่ง วรรคสอง คำที่ห้า คือคำรับและคำส่ง ส่วนสองคำ หลังนั้นเป็นคำส่งด้วย วรรคสาม คำที่ห้า คือคำรับ รับจากวรรคสองหรือ วรรคหนึ่งคำที่ห้า จ๊ะ วรรคสี่คำที่ห้าเป็นคำรับ จากคำส่งของวรรคที่ สองคำที่ห้าจ๊ะ นี่คือการรับสัมผ้สกัน ง่ายจะตายไป การจะเล่นคำให้อ่อนช้อยหรือคำ ยากๆอยู่ที่ทำนอง หากอ่านทำนองเป็นก็จะง่าย มากขึ้นไปอีกจ้า เอาล่ะว่าจะไม่บอกแล้วเชียว เพราะคนเขาอิจฉาผมมากเคยมีคนเขี่ยนด่าผม มาก็มากเหมือนกัน บอกว่า เอาตีนเขียนยังเขียน ได้ดีกว่าผม ผมยังจำได้จนบัดนี้จ้า เห็นเรียกครู มานานเลยบอกให้จ๊ะ ทางที่ดีควรหัดกลอนแปด ให้คล่องเสียก่อนเพราะกลอนแปดนั้นหากเล่น เป็นก็จะต้องอ่อนช้อยไหวพลิ้วเสมอๆๆ เมื่อมา เขียนโคลงก็ทำให้โคลงอ่อนช้อยไปด้วยจ้า รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
11 สิงหาคม 2552 14:29 น. - comment id 1025809
คุณ ราชิกา รักหนึ่งพึงคลั่งไคล้ ในภาพ จริงเฮย จนปั่นป่วนอิงขนาบ แนบเนื้อ ฝันยังแค่พังพาบ หวิววาบ ทรวงแฮ ฟ้าบ่ลดลงเอื้อ ฝากเจ้าเพียงฝัน. แฝดเพื่อนที่รัก จะเอาอะไรกับคนแก่ๆนะสุขภาพ ผมก็เพียงทรุดๆทรงๆเท่านั้น ดีกว่านี้คงจะยาก เสียแล้ว เป็นห่วงแต่แฝดเพื่อนที่รักเราเท่านั้น อย่าหักโหมมากนะจ๊ะ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
11 สิงหาคม 2552 14:30 น. - comment id 1025811
คุณ ลุงแทน สวัสดีครับ เอ๊าๆเอาไปอ่านเล่นๆนะ ส่วนเรื่องโคลงนั้นผมจะแนะนำให้คือ คำหน้า ต้องห้าคำ คำหลังสองคำ ส่วน ขยายความ วรรคแรก สุดท้ายสองคำหลังนั้น เว้นวรรคใช้ใน การขยายคำให้ครบเพราะว่าบางครั้งคนอ่านจะไม่ เข้าใจว่าหมายถึงอะไร จึงจำเป็นต้องขยายความ แต่ที่ขยายความนั้นคำสุดท้าย ต้องเป็นคำอุทาน เท่านั้นครับ ส่วนสองคำแรกก่อนคำขยายนั้น คำแรกให้ใช้เสียง เอกได้โดยอนุโลม แต่ห้าม เสียง โท เด็ดขาดนะครับ ส่วนคำที่สองห้ามมี เสียงวรรณยุกต์ทั้งสิ้น นี่วรรคแรก คำหน้านั้น คำที่สี่และห้า คำที่สี่นั้นต้อง เสียง เอกหรือคำที่ ใช้แม่ กด กก กบ หรือคำตายแทนก็ได้ครับ แต่คำหลังให้ใช้เสียงโทเท่านั้นเขาบังคับไว้จ๊ะ วรรคที่สอง คำที่สอง ให้ใช้เสียงเอก ส่วนสองคำ หลังนั้น ต้องเสียงเอกคำแรกส่วนคำหลังเสียงโท บังคับไว้จ๊ะ วรรคที่สาม ห้าคำแรกหน้า คำที่สามให้ใช้เสียง เอกหรือคำแทนดังที่กล่าวไว้นั่นและ ส่วนสองคำ หลังคำที่มีสองคำ คำที่สองบังคับไว้เสียงเอกเท่า นั้นหรือใช้คำแทนก็ได้ แต่จะให้สวยงามควรมี คำขยายเพื่อความไพเราะ แต่ต้องเว้นวรรค สักสองวรรคหรือไม่เกินสามก็พอ คือคำขยาย ลงท้ายคำอุทานเหมือนวรรคที่หนึ่งแหละจ้า วรรคที่สี่ ห้าคำแรก คำที่สองบังคับเสียงเอกหรือ คำแทนก็ได้ ส่วนคำที่ห้านั้นต้องเสียงโทเท่านั้น ส่วนคำถัดไปวรรค มีสี่คำต้องให้ติดกันด้วยนะ คำที่หนึ่งนั้นใช้เสียงเอกหรือคำแทน ส่วนคำที่ สองนั้นใช้เสียงโทคือไม้โทนั่นแหละบังคับไว้ ส่วนคำที่สามนั้นเขาให้ขยายความคำที่สองแล้ว ตามด้วยเสียงสูงจะไพเราะมาก จะเพิ่มคำขยาย อีกสองคำก็ได้แต่เขาไม่นิยมกันก็เหมือนๆกัน แหละจ้า โคลงนั้นบังคับตามกรอบบังคับ คือ เสียงเอก 7 เสียงโท 4 วางตามกฏข้อบังคับ ส่วนการใช้เกินนั้นเขาไม่นับกันจ๊ะ ส่วนการ จะเขียนได้ดีไพเราะหรือเล่นคำอย่างไรอยู่ที่ เราจ๊ะ กรอบมีดังนี้คือ วรรคแรก กา กา กา ก่า ก้า กากา(นี่แหละที่ เขาห้ามเสียงโทคำแรกหรือคำที่สองเด็ดขาด ส่วนคำแรกจะใช้เสียงเอกก็ได้ วรรคสอง กา ก่า กา กา กา ก่าก้า วรรคสาม กา กา ก่า กา กา กาก่า กากา(คำขยาย) วรรคสี่ กา ก่า กา กา ก้า ก่าก้ากากา (ต้องติด กัน) ทั้งหมดก็มีเท่านี้แหละจ้า แล้วมาพูดถึง การรับสัมผัสกันนะ วรรคแรก สองคำสุดท้ายคำหลังคือ คำส่ง วรรคสอง คำที่ห้า คือคำรับและคำส่ง ส่วนสองคำ หลังนั้นเป็นคำส่งด้วย วรรคสาม คำที่ห้า คือคำรับ รับจากวรรคสองหรือ วรรคหนึ่งคำที่ห้า จ๊ะ วรรคสี่คำที่ห้าเป็นคำรับ จากคำส่งของวรรคที่ สองคำที่ห้าจ๊ะ นี่คือการรับสัมผ้สกัน ง่ายจะตายไป การจะเล่นคำให้อ่อนช้อยหรือคำ ยากๆอยู่ที่ทำนอง หากอ่านทำนองเป็นก็จะง่าย มากขึ้นไปอีกจ้า เอาล่ะว่าจะไม่บอกแล้วเชียว เพราะคนเขาอิจฉาผมมากเคยมีคนเขี่ยนด่าผม มาก็มากเหมือนกัน บอกว่า เอาตีนเขียนยังเขียน ได้ดีกว่าผม ผมยังจำได้จนบัดนี้จ้า เห็นเรียกครู มานานเลยบอกให้จ๊ะ ทางที่ดีควรหัดกลอนแปด ให้คล่องเสียก่อนเพราะกลอนแปดนั้นหากเล่น เป็นก็จะต้องอ่อนช้อยไหวพลิ้วเสมอๆๆ เมื่อมา เขียนโคลงก็ทำให้โคลงอ่อนช้อยไปด้วยจ้า รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
11 สิงหาคม 2552 14:33 น. - comment id 1025814
คุณ ม่านดอน สวัสดีตอนสายๆหลายๆวันจ้า ก็เขียนไปเรื่อยๆ แหละจะเอาดีไม่ได้นะ ผมพึ่งเข้ามาเล่นได้ก็วันนี้ เองแหละครับ เปลี่ยนเครื่องใหม่เล่นเอาปวดหัว เพราะเขาไม่มีอะไรให้เลยสักอย่างต้องเที่ยวค้นหา เอาเอง โอ้ยๆๆปวดนี่ยังไม่ครบพอเล่นได้ก็รีบมาตอบ กลัวพวกพ้องน้องพี่จะว่าลืมเสียแล้ว รักเสมอจ้า แก้วประเสริฐ.
11 สิงหาคม 2552 14:53 น. - comment id 1025826
คุณ ไหมไทย สวัสดีงามๆแบบคนแก่นะครับ ก็ครวญไป เรื่อยๆแหละจ้า ใครเล่าเขาจะสนใจคนแก่ๆเช่นเรา เน้อ เฮ้อนอกจากมองแล้วทำใจเหมือนหมาเห็น เครื่องบินแหละจ้า รักงามๆเสมอจ้า แก้วประเสริฐ.
11 สิงหาคม 2552 14:55 น. - comment id 1025829
คุณ ฉางน้อย สวัสดีตอนสายๆจ้าหลานรัก ก็ครวญหาเจ้าฉาง จอมซนแหละจ้า ฮ้าๆๆๆ เอิ๊กๆๆๆ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
11 สิงหาคม 2552 15:02 น. - comment id 1025832
คุณ กิ่งโศก เจ้ากิ่งโศกเอ๋ย ลืมแล้วหรือเกล็ดๆเล็กๆน้อยๆ ที่มอบให้ หรือว่างานยุ่งมาก จึงเขียนผิดเพี้ยนหมด เอ๊าๆๆๆ เอาไปเก็บไว้แล้วอ่านให้เข้าใจนะ ส่วนเรื่องโคลงนั้นผมจะแนะนำให้คือ คำหน้า ต้องห้าคำ คำหลังสองคำ ส่วน ขยายความ วรรคแรก สุดท้ายสองคำหลังนั้น เว้นวรรคใช้ใน การขยายคำให้ครบเพราะว่าบางครั้งคนอ่านจะไม่ เข้าใจว่าหมายถึงอะไร จึงจำเป็นต้องขยายความ แต่ที่ขยายความนั้นคำสุดท้าย ต้องเป็นคำอุทาน เท่านั้นครับ ส่วนสองคำแรกก่อนคำขยายนั้น คำแรกให้ใช้เสียง เอกได้โดยอนุโลม แต่ห้าม เสียง โท เด็ดขาดนะครับ ส่วนคำที่สองห้ามมี เสียงวรรณยุกต์ทั้งสิ้น นี่วรรคแรก คำหน้านั้น คำที่สี่และห้า คำที่สี่นั้นต้อง เสียง เอกหรือคำที่ ใช้แม่ กด กก กบ หรือคำตายแทนก็ได้ครับ แต่คำหลังให้ใช้เสียงโทเท่านั้นเขาบังคับไว้จ๊ะ วรรคที่สอง คำที่สอง ให้ใช้เสียงเอก ส่วนสองคำ หลังนั้น ต้องเสียงเอกคำแรกส่วนคำหลังเสียงโท บังคับไว้จ๊ะ วรรคที่สาม ห้าคำแรกหน้า คำที่สามให้ใช้เสียง เอกหรือคำแทนดังที่กล่าวไว้นั่นและ ส่วนสองคำ หลังคำที่มีสองคำ คำที่สองบังคับไว้เสียงเอกเท่า นั้นหรือใช้คำแทนก็ได้ แต่จะให้สวยงามควรมี คำขยายเพื่อความไพเราะ แต่ต้องเว้นวรรค สักสองวรรคหรือไม่เกินสามก็พอ คือคำขยาย ลงท้ายคำอุทานเหมือนวรรคที่หนึ่งแหละจ้า วรรคที่สี่ ห้าคำแรก คำที่สองบังคับเสียงเอกหรือ คำแทนก็ได้ ส่วนคำที่ห้านั้นต้องเสียงโทเท่านั้น ส่วนคำถัดไปวรรค มีสี่คำต้องให้ติดกันด้วยนะ คำที่หนึ่งนั้นใช้เสียงเอกหรือคำแทน ส่วนคำที่ สองนั้นใช้เสียงโทคือไม้โทนั่นแหละบังคับไว้ ส่วนคำที่สามนั้นเขาให้ขยายความคำที่สองแล้ว ตามด้วยเสียงสูงจะไพเราะมาก จะเพิ่มคำขยาย อีกสองคำก็ได้แต่เขาไม่นิยมกันก็เหมือนๆกัน แหละจ้า โคลงนั้นบังคับตามกรอบบังคับ คือ เสียงเอก 7 เสียงโท 4 วางตามกฏข้อบังคับ ส่วนการใช้เกินนั้นเขาไม่นับกันจ๊ะ ส่วนการ จะเขียนได้ดีไพเราะหรือเล่นคำอย่างไรอยู่ที่ เราจ๊ะ กรอบมีดังนี้คือ วรรคแรก กา กา กา ก่า ก้า กากา(นี่แหละที่ เขาห้ามเสียงโทคำแรกหรือคำที่สองเด็ดขาด ส่วนคำแรกจะใช้เสียงเอกก็ได้ วรรคสอง กา ก่า กา กา กา ก่าก้า วรรคสาม กา กา ก่า กา กา กาก่า กากา(คำขยาย) วรรคสี่ กา ก่า กา กา ก้า ก่าก้ากากา (ต้องติด กัน) ทั้งหมดก็มีเท่านี้แหละจ้า แล้วมาพูดถึง การรับสัมผัสกันนะ วรรคแรก สองคำสุดท้ายคำหลังคือ คำส่ง วรรคสอง คำที่ห้า คือคำรับและคำส่ง ส่วนสองคำ หลังนั้นเป็นคำส่งด้วย วรรคสาม คำที่ห้า คือคำรับ รับจากวรรคสองหรือ วรรคหนึ่งคำที่ห้า จ๊ะ วรรคสี่คำที่ห้าเป็นคำรับ จากคำส่งของวรรคที่ สองคำที่ห้าจ๊ะ นี่คือการรับสัมผ้สกัน ง่ายจะตายไป การจะเล่นคำให้อ่อนช้อยหรือคำ ยากๆอยู่ที่ทำนอง หากอ่านทำนองเป็นก็จะง่าย มากขึ้นไปอีกจ้า เอาล่ะว่าจะไม่บอกแล้วเชียว เพราะคนเขาอิจฉาผมมากเคยมีคนเขี่ยนด่าผม มาก็มากเหมือนกัน บอกว่า เอาตีนเขียนยังเขียน ได้ดีกว่าผม ผมยังจำได้จนบัดนี้จ้า เห็นเรียกครู มานานเลยบอกให้จ๊ะ ทางที่ดีควรหัดกลอนแปด ให้คล่องเสียก่อนเพราะกลอนแปดนั้นหากเล่น เป็นก็จะต้องอ่อนช้อยไหวพลิ้วเสมอๆๆ เมื่อมา เขียนโคลงก็ทำให้โคลงอ่อนช้อยไปด้วยจ้า เพราะครูไม่อยากแจ้งผิดทางนี้เพราะจะขาด ความเชื่อมั่นตัวเองจ้า รักศิษย์เราเสมอ แก้วประเสริฐ.
11 สิงหาคม 2552 15:11 น. - comment id 1025835
คุณ ฤกษ์ ชัยพฤกษ์ จะว่าคิดไงก็ได้เพราะผมเรียกหลายๆคนจน จำไม่ได้เหมือนกัน ล้วนแต่ยอดๆเอามาจิ้มน้ำพริก ได้ทั้งนั้น ฮ่าๆๆ แก่ปูนนี้จะคิดอะไรมากสนุกๆไป วันๆแก้เหงา ถึงผมเจ้าชู้ก็แค่ ไก่แจ้ ไม่เหมือน พ่อรูปหล่อนี้นา ไก่โต้ง เผลอไม่ได้ ฮ่าๆๆๆ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
11 สิงหาคม 2552 15:19 น. - comment id 1025837
คุณ somebody จริงๆครับไม่มีข้อสงสัยใดๆทั้งสิ้นครับ ผมเอง แม้แก่แล้วก็ยังอดมองคนที่สวยๆงามๆมิได้เลยครับ มิใช่ว่าจะไปหลงจีบเขาหรอกนะ แต่ก็ยังชมในใจ เพื่อนำมาเขียนกลอนๆครับ ส่วนเรื่องนั้นพับเก็บ เข้าลิ้นชักไปนานแล้วครับ แม้แต่ซื้อของใช้ ก็ยังเลือกของสวยๆงามๆเสมอๆครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
11 สิงหาคม 2552 15:23 น. - comment id 1025839
คุณ ช่ออักษราลี จ้าครูรักศิษย์เสมอ ยิ่งเธอเป็นรุ่นแรกที่ครูตัดสิน ใจรับไว้ และก็รับมาจนหยุดแล้ว ที่ครูจะฝึกไว้คือ เจ้าแก้วประภัสสร กับเจ้ากิ่งโศก ช่วยดูแลแทนครูด้วยนะ เพราะเธอเก่งและล้ำหน้า ไปกว่าครูอีกจ้า อย่างไรก็แนะนำศิษย์รุ่นน้องดูแล แทนครูด้วย ครูแก่มากแล้วที่เล่นก็เพื่อฝึกสมอง บางครั้งยังผิดเผลอเสมอๆ เฮ้อๆๆได้แค่นี้ก็ดีแล้ว ล่ะจ้า รักศิษย์เราเสมอๆ แก้วประเสริฐ.
11 สิงหาคม 2552 15:26 น. - comment id 1025841
คุณ กันนาเทวี ขอบคุณครับก็อย่างงั้นๆแหละครับ ตอนนี้แก่มาก ก็เขียนเล่นๆสนุกๆไปครั้งๆเท่านั้นแหละครับ บาง ครั้งก็กระดากใจเหมือนกัน แต่ก็ต้องทำเพราะมิฉนั้น เรื่องมันก็สั้นๆไม่มีทางไปครับ ขอบคุณ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.