** มิอาจหวัง ** ลมพัดเชยเผยกลิ่นอันหอมหวน ผ่านเนื้อนวลขาวสล้างกลางไสว เนื้อเนียนผิวลออพรรณอันไฉไล หลงคลั่งไคล้โฉมหวังดุจดั่งปอง วงพักตร์เด่นงามโขนงโก่งคันศร สลวยดำอ่อนพลิ้วสู่ประทุมสอง ขลับเรืองรองกลิ่นโชยผกาครอง ปานมนต์ต้องสนองแลแม่กานดา ซ่านผ่านซึ้งป่วนไว้ใยหวนคิด เสมือนวิปริตจัดสร้างกลางหรรษา ดุจพระอภัยหลงละเวงศรีกัลยา เพียงหมายตาภาพไว้ใกล้ชิดนาง สร้างรำพึงฝากไว้ในความหวัง แนบประดังเนื้อนวลชวนสล้าง โอ้ละหนอหอมกลิ่นเนื้อนวลจาง แทรกซึมวางผ่านเข้าเฝ้าแลมอง หลงในรูปละเมอแทบเพ้อพก ซ่านวิตกผ่านคนึงจนซึ้งสนอง เป็นบุญหรือเวรกรรมนำพบปอง ยามแสงทองชโลมไล้ใฝ่ตาแล ยามนวยนาดอรชรอ้อนแอ้นเหลือ ลมผ่านเนื้อหอมกรุ่นละมุนแผ่ ผ่านรวยรินกลิ่นเจ้าเคล้าดวงแด คล้ายกระแสอสนีบาศฟาดทรวง ได้แต่จ้องมองไว้ให้ชวนฝัน เพื่อเสกสรรฟื้นกลับนับแมนสรวง สร้างหัวใจกระชุ่มในพุ่มพวง แม้นเป็นบ่วงยินยอมถนอมหทัย ครั้นแลเห็นหนุ่มเฉลาเฝ้าควงกลับ เข่าแทบพับหายลับนับตักษัย ถอนใจเฮือกสิ้นแล้วแนววิไล เสมือนหัวใจหายไปในดวงมาลย์ *** แก้วประเสริฐ. ***
1 สิงหาคม 2552 17:21 น. - comment id 1022004
แวะมาอ่านงานกลอน ครับ
1 สิงหาคม 2552 17:23 น. - comment id 1022006
.....กลอนไพเราะค่ะ ....... แวะมาป่วนเฉยๆค่ะ ........
1 สิงหาคม 2552 19:43 น. - comment id 1022042
มาอ่านด้วยจิตคารวะ กลอนชั้นครูพลิ้วหวานเช่นเคย หลงรูปทองของนางใด จนใจใฝ่หลงรักสมัครหมาย พอรู้ว่านางนั้นเขามีชาย สุดเสียดายมองพลาดมิอาจหวัง อิอิ
1 สิงหาคม 2552 20:11 น. - comment id 1022052
จบแบบฝันสลายอย่างนี้ ทำใจลำบากจริงๆ ครับ วันนี้มาได้มาลงกลอน ใกล้กันอบอุ่นครับ เลยขอมาคารวะ สักหน่อยครับ ดูแลสุขภาพด้วยครับ
1 สิงหาคม 2552 20:37 น. - comment id 1022058
โอ...เข้ามาดูครูแก้วประเสริฐ รำพันถึงสาวในฝันนะคะ กลอนงามค่ะ เพราะมาก อิอิ...ว่าแต่สุดท้ายทำไมถอดใจล่ะคะ
1 สิงหาคม 2552 20:39 น. - comment id 1022059
แวะมาทักทายคะ หวังได้นะคะ แต่จะสมหวังนะคงต้องรอนานเชียวเนาะ
1 สิงหาคม 2552 21:22 น. - comment id 1022082
ลมพัดหวนชวนให้ใฝ่คิดถึง ห้วงคำนึงถึงนุจดุจความฝัน หน้านวลน้อยลอยเด่นเช่นดวงจันทร์ งามเฉิดฉันท์โฉมฉายวิไลตา อยากแตะแก้มแฉล้มคอยเย้าหยอก ไม่ลวงหลอกรักแท้แน่หนักหนา แต่เหลือบเห็นชายอื่นยืนข้างมา ในอุราพี่คลั่งดั่งไร้แรง พักนี้ไม่ค่อยสบายค่ะคคุณครู สงสัยจะโดนไข้หวัดเข้าไปแล้วค่ะ
1 สิงหาคม 2552 22:57 น. - comment id 1022095
แวะมาป่วนคนผิดหวังค่ะ
2 สิงหาคม 2552 09:33 น. - comment id 1022151
มีรูป ปานนี้ ยังบอกมะมีหวังอีก คนลุงขี้น้อยใจจริงๆ อิอิ หวังบ้างก็ได้นิดนึง อ่ะนิดนึง ให้โอกาส อิอิ มาเย้าเล่น น่ะครับ งานงามเสมอ ว่าแต่ว่า ใครหนอในรูปนี้ จึงทำให้มิอาจหวัง อิอิ ไปล่ะครับ ชะแว้บบบ
2 สิงหาคม 2552 14:09 น. - comment id 1022222
ถึงกลับเข่าพับเลยหรือคะ หวัดดีจ้าลุงแก้วประเสริฐ
2 สิงหาคม 2552 17:21 น. - comment id 1022251
คุณ อรุณโณทัย เขาไปเที่ยวชะอำกันหมดบ้านทิ้งอ้ายแก่เฝ้าโยง อยู่คนเดียว ก็เลยเขียนเล่นๆครับ ขอบคุณรักเสมอ แก้วประเสริฐ.
2 สิงหาคม 2552 17:35 น. - comment id 1022255
คุณ กันนาเทวี หากจะนับกลอนที่ผมคิดเองนะครับแบ่งได้ สามอย่างคือ กลอนดั้น กลอนดิ้นและกลอนไหวครับ คุณอาจจะไม่เข้าใจในความคิดผมคือ กลอนดั้นหรือกลอนดิ้นนั้นจะเป็นกลอนที่เขียนขึ้น ทีละท่อนๆส่วนใหญ่เป็นกลอนสดไม่รับสัมผัสส่ง ที่ คนเขียนสดๆจะไม่คำนึงถึงการสัมผัสนอก ใน ครับ กลอนดิ้นนั้นคือกลอนที่แต่งมากกว่าหนึ่งท่อนต่รับ สัมผัสนอกในโดยคำนึงถึงกลอนสดลักษณะกลอน นั้นจะออกเสียงห้วนๆกระด้างครับ กลอนไหว คือกลอนที่หวานอ่อนช้อยรับสัมผัส นอกในสอดคล้องกับทำนองจะแต่งสั้นหรือยาว ทุกบทนั้นจะอยู่ในทำนองราบรื่นอ่อนช้อยเสมอ ไม่ว่าจะรูปแบบใดๆครับ ผมเองนั้นหัดเล่นมาทุกๆรูปแบบแต่สุดท้าย ผมก็มาอยู่ในกลอนไหวครับ ส่วนเรื่องนี้ผม ผมว่างๆเพราะเขาทิ้งผมไปหมดอีกแล้วไปเที่ยว ทะเลผมเบื่อเลยเฝ้าโยงคนเดียวตามเคยครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
2 สิงหาคม 2552 17:40 น. - comment id 1022256
คุณ ฉางน้แย เจ้าฉางน้อยหลานรักเอ๋ย จะป่วนอย่างไรก็ ตามสบายลุงบอกแล้วว่ากระต๊อบหลังนี้ก็เปรียบเสมือนของ เจ้านั่นแหละจ้า รักหลานเราเสมอ แก้วประเสริฐ.
2 สิงหาคม 2552 17:45 น. - comment id 1022257
คุณ นักสืบไร้อันดับ ไม่ว่าแต่คุณเลยผมเองก็เหมือนกันครับนิสัย ผมเองนั้นขอบโดดเดี่ยวจึงไม่เท่าไหร่ครับขอบคุณ ที่มาเยี่ยม ผมมักจะไปแค่อ่านๆแต่ไม่ค่อยคอมเม้นท์ เท่าไหร่ครับ ผมจะอ่านเกือบทุกๆคนแหละครับ กลอนคุณเองก็นับว่างดงามดีครับ คุณอย่าว่าผมนะ ครับที่ไม่คอมเม้นท์ตอบแต่เข้าไปอ่านครับ เรียกว่าแทบจะไม่มีเพื่อนๆเอาเสียเลยครับแต่ ทว่าผมเองก็รักทุกๆคนครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
2 สิงหาคม 2552 17:49 น. - comment id 1022259
คุณ ปรางทิพย์ ผมเองก็นิสัยบ๊องส์อยู่แล้ว เห็นเขาเขียนแบบ จบแฮปปี้และธรรมดา ก็เลยหักมุมกลอนเสียให้คิด กันเองเองครับ เพราะเขาทิ้งผมไปเที่ยวทะเลกันหมด ครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
2 สิงหาคม 2552 17:56 น. - comment id 1022263
คุณ ไหมไทย อย่าเลยครับคุณเองก็คบกับผมมานานแล้ว ผมมีนิสัยไม่ชอบหวังอะไรแบบลมๆแล้งๆหรอกครับ หากต้องการเข้าหาสารภาพเสียเลย ให้รู้แล้วรู้รอด หากเขาตัดเยื้อใยก็เลิกเสีย หากยังไม่ตัดก็ยังมีโอกาส สร้างไว้ครับ นี่คือนีสัยแบบขวานผ่าซากของผมเป็น แต่ไหนแต่ไร ยอมหักไม่ยอมงอครับ หากรักก็จะรักคนเดียวมั่นคงเสมอ นอกจากเขาจะเบื่อหน่ายผมนั่นแหละหรือใช้คำพูด ถากถางผม นั่นแหละผมถึงจะจากไปครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
2 สิงหาคม 2552 18:06 น. - comment id 1022267
คุณ แก้วประภัสสร ศิษย์รักเอย เธอไม่ทำให้ครูผิดหวังจริงๆนะ นับวันกลอนก็ยิ่งงดงามอ่อนช้อยไหวพลิ้วมากขึ้น ตลอดจนรู้จักหักมุมพลิกแพลงได้ดีมาก ฉนั้นจงอย่า ได้ประมาทเป็นอันขาด และอย่าลืมคำครูว่าคนเก่ง นั้นเขาจะไม่เย่อหยิ่งจองหองดูถูกคนเป็นอันขาดจง ให้เกียรติเขาเสมอๆดุจดั่งตัวเรา อย่าคิดแม้สักนิดว่า เราเหนือกว่าเขา ด้วยคนที่เหนือกว่าเราก็ยังมี อีกมากมายนัก จำข้อนี้ไว้ให้ดี เพราะศิษย์ครู บางคนมาไม่มีอะไรเลยแต่พอมารับการชี้แนะ กลับทำตัวเก่งลืมตัวเห็นคนอื่นต่ำกว่าเราจนต้อง เสียคนไปก็มีมากด้วย เธอสองคนครูถือว่าเป็น รุ่นสุดท้ายแล้วว่าจะไม่คิดรับใครๆอีก แต่ก็ยังมี น้ำใจให้คำแนะนำเขาหากเขาถามาไม่ต้องคอย มานั่งเฝ้าติดตามจ้ำจี้จ้ำไชหรอก คนเราไม่อยากให้ใคร เก่งกว่าเขาหรอกนี่คือจุดด้อยของคน ฉนั้นครูรักพวกเธอมากฝากความหวังไว ้คงจะไม่ทำให้ครูต้องผิดหวังอีกนะ รักเสมอๆ แก้วประเสริฐ.
2 สิงหาคม 2552 18:09 น. - comment id 1022270
คุณ มณีจันทร์ เจ้าหญิงที่รัก ผมเองนั้นผ่านมาทั้งผิดหวังและ สมหวังก็มาก มากเสียจนชินชาเสียแล้วครับ ผมดีใจ มากที่คุณมาป่วนผม ผมรู้นะว่าคุณเองรักเอ็นดูผม เสมอตั้งแต่คบหากันมานานแล้วครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
2 สิงหาคม 2552 18:14 น. - comment id 1022273
คุณ กวีน้อยเจ้าสำราญ อ้อในรูปภาพนี้ เป็นสาวที่จัดว่าสวยระหงส์นาง หนึ่งนิสัยงดงามมากเธอคือ "แม่มดใจร้าย" นั่นเอง ผมถ่ายไว้เป็นที่ระลึกที่บนยอดเขากระโจมแหละครับ ที่นั่นเป็นห้องอาหารของ ตชด.เขาครับพอดีคุณเธอ ผ่านมาพบผมก็เลยขอร้องให้ช่วยเป็นนางแบบให้ ก็เท่านั้นส่วนเรื่องราวที่เขียนไม่เกี่ยวกันหรอกครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
2 สิงหาคม 2552 18:33 น. - comment id 1022284
คุณ ยาแก้ปวด หลานรักเอ๋ย...ลุงเองก็เล่นมุขบ้างเล็กๆน้อยๆ จ้า แต่เรื่องจริงที่เกิดกับลุงเองนั้นเคยเจอเหมือน กันแต่ไม่ถึงกับเขาทรุดหรอก แค่รู้สึกใจหายวูบ แล้วร่างกายมันหมดแรงไปเฉยๆจ้า ใจลอย ตาลอย เหม่อมองด้วยความเสียใจ แล้วไปหาที่นั่งตั้งนาน กว่าจะปรับตัวได้จ้า นี่เรื่องจริงที่ลุงเคยเจอตอนหนุ่ม นะ ทั้งเสียใจและเศร้าใจ ตั้งแต่นั้นมาก็ตัดขาดกัน พอเขามาหาลุงเอีก ลุงก็ทำเฉยๆไม่กระตือรือล้น เช่นเก่าๆ จนเขาสงสัยแต่ลุงไม่บอกเขาหรอกว่า ลุงเห็นอะไรเพราะมันเป็นเหตุบังเอิญที่พบจ๊ะ แต่ลุงก็คบแต่คบกันไม่สนิทสนมเหมือนตอนแรก ๆเท่านั้นเองจ้า ปกติแล้วลุงมีนิสัยยอมหัก ไม่ยอมงอ หรือง้องอนใครก่อนเลยในชีวิต พอใจ ก็จะทำเฉยๆ เดินหนีไปเป็นอย่างนี้ประจำ จ๊ะหลาน หากจะนำไปใช้ก็ได้นะ ลุงมาคิดว่าให้เขา รักเราดีกว่าเราไปรักเขามากกว่านะ รักหลานรักเสมอ แก้วประเสริฐ.
3 สิงหาคม 2552 08:42 น. - comment id 1022521
ถูกต้องเป็นที่สุดค่ะ ทุกข์หรือสุขอยู่ที่ใจของเราเองค่ะ เห็นด้วยเลย
3 สิงหาคม 2552 11:10 น. - comment id 1022614
หลงนางละเวงหรือคะคุณลุง
3 สิงหาคม 2552 14:11 น. - comment id 1022705
คุณ somebody ครับใจเราเป็นประธานในทุกๆสิ่งด้วย ตัณหา เป็นปัจจัยยากจะพ้นผ่านได้ การเปลี่ยนแปลงย่อม นำมาในสิ่งที่เป็นทุกข์มากกว่าสุข ครับ เราทำอะไร ก็ตามหากมีสติรำลึกได้ย่อมจะบรรเทาสิ่งต่างๆนั้น ได้ครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
3 สิงหาคม 2552 14:15 น. - comment id 1022709
คุณ เพียงพลิ้ว หลานที่รักของลุง ที่ลุงกล่าวไว้แค่เปรียบเทียบ เท่านั้นเองแหละ เขียนเรื่องนี้เกี่ยวกับคนที่มีรักว่า จงรักคนที่เขารักเราดีกว่า หากหลงรักข้างเดียวก็จะ เป็นเช่นนี้จ้า รักหลานเรามากเสมอ แก้วประเสริฐ.
3 สิงหาคม 2552 14:26 น. - comment id 1022713
คุณ ครูกระดาษทราย ไม่หรอกจ้าศิษย์เรา ที่กล่าวมานี้แหละคือ สิ่งที่จริงทั้งสิ้นด้วยทุกๆสิงในโลกนี้ล้วนแล้วแต่ ตัณหา อุปาทานและ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตาทั้งสิ้น หากเรายังติดยึดอยู่ไม่รู้จักปล่อยวางเสียบ้างก็จะ เกิดทุกข์ ส่วนสุขนั้นเกิดก็ไม่จีรังยั่งยืนย่อมเปลี่ยน ไปเสมอ ประดุจจิตที่เกิดดับตลอดเวลา หรือสิ่งที่มอง เห็นนอกจากร่างกายเราแล้ว ธรรมชาติที่เป็นบ่อเกิด ของธรรมะ หากมีความละเอียดอ่อนพิจารณาแล้ว นำมาเปรียบเทียบก็เหมือนๆกันแหละจ้า อย่าง การเขียนกลอนเราใช้ใจเขียน เพราะไม่ว่า จิต เจตสิก อารมณ์ต่างๆก็ล้วนแล้วมารวมไว้ที่ใจ ของเรา เขาจึงบอกว่าใจเป็นใหญ่เป็นประธาน ของร่างกายไม่ใช่สมอง สมองนั้นหากเปรียบก็ เหมือนฮาร์ทดีสของเครื่องคอมฯที่เราใส่เข้าไป หากเราไม่ใส่เข้าไปก็จะไม่ทำงานเพียงแค่จดจำ เท่านั้นเองจ้า รักศิษย์เราเสมอ แก้วประเสริฐ.
3 สิงหาคม 2552 15:24 น. - comment id 1022748
สวัสดีครับครูแก้ว ช่วงนี้โดนงานรุมเอานะครับ เลยเงียบไปครับ เลยไม่มีเวลาจะเขียนงานออกมาเลยครับ บางทีกำลงจะเขียนแต่ล้าจนต้องพักไว้ก่อน มีเวลาก้อแวบมาอ่านกลอนของคนอื่นๆครับ ครูแก้วรักษาสุขภาพด้วยนะครับ
3 สิงหาคม 2552 17:14 น. - comment id 1022811
คุณ กิ่งโศก ดีแล้วล่ะการเขียนกลอนต้องยามที่ว่างๆหาก งานล้นมือจะทำให้กลอนสับสน แต่ให้อ่านที่เขาเขียน ไว้ก็เหมือนกัน เท่ากับเป็นการฝึกแก่เรา แต่ว่า ควรที่จะหาเหตุรายละเอียดกลอนนั้นๆไว้ด้วยจึงจะ ทำให้เราก้าวหน้าไปเองแหละ ครูรักศิษย์มากเสมอ แก้วประเสริฐ.