** น้ำตาเปื้อนเดือนลับ ** ดุจดั่งเสี้ยวแห่งจันทร์ฉันท์ดารา พึงปรารถนาชิดกันฝันเคียงสอง อุปสรรคยากเข็ญมิเป็นรอง ร่วมสนองเคียงดวงควงชิดเชย เพียงมิใจหนึ่งเดียวมิเลี้ยวลด พึงรันทดอย่างไรมิใคร่เฉลย ขอเพียงสบเพ็ญพักตร์ยากจะเปรย มิอาจเอ่ยวาจาคราระทม ยอมติดตามนงนุชสุดแสนสวาท เห็นลลาฎหมองหม่นตนขื่นขม อุตส่าห์ตามนวลนางสร้างภิรมย์ แม้นจะตรมเพียงใดขอได้ยล ห่างเพียงกายแต่ใจนั้นใฝ่สุข อันความทุกข์เปลื้องปลิดมิคิดฉงน รับแบกสิ่งอิงไว้คลายกังวล ยอมจำทนเสี้ยวหายคลายลับตา ยามเดือนมลายห้วงฟ้ามิลาจาก บ่วงความยากแฝงไว้สุดไขว่หา เจ้าห่างไกลเลือนลับมิกลับมา ดาวค้างฟ้าเบิ่งแลชะแง้เมอง อันความรักป่วนปั่นล้วนสรรค์คว้าง แสนอ้างว้างดวงหทัยมิได้สนอง ยามค้างฟ้าเหลียวหาสิ่งมาครอง กลับต้องหมองหนึ่งเดียวเกี่ยวรัดใจ โอ้อกเอ๋ยจะทำไฉนเล่า เพียรคอยเฝ้านวลสยายประกายใส แต่เมฆินทร์ปิดบังช่างกระไร คงเหลือไว้เพียงคอยน้อยใจนวล. *** แก้วประเสริฐ. ***
17 กรกฎาคม 2552 13:53 น. - comment id 1015709
น้อยใจนวลเหรอคะคุณลุง บางคนว่าการน้อยใจเป็นมารยาผู้ชายจริงหรือเปล่าคะคุณลุง เหมือนว่าผู้หญิงกับการน้อยใจเป็นของคู่กัน อิอิ หลานมาแซวคุณลุงค่ะ
17 กรกฎาคม 2552 14:14 น. - comment id 1015724
โอ้อกเอ๋ยจะทำไฉนเล่า เพียรคอยเฝ้านวลสยายประกายใส แต่เมฆินทร์ปิดบังช่างกระไร คงเหลือไว้เพียงคอยน้อยใจนวล ................. ................. แม้นหากคอยเพียงไม่นานจักหวนกลับ ไม่ไปลับให้ใจต้องหม่นไหม้ เปรียบเดือนน้อยมีบ้างที่ลับไป แต่คืนใหม่ก็ส่องแสงดังเช่นเดิม ........... สวัสดีค่ะ อ่านแล้วรู้สึกถึงความเหงาจังค่ะ
17 กรกฎาคม 2552 14:38 น. - comment id 1015735
น้อยใจนวลครวญคร่ำร่ำร้องหา ถึงแก้วตาหนึ่งเดียวเกี่ยวตวัด แม้เดือนลาลับแสงภาพไม่ชัด หากำจัดจุดอ่อนอ้อนวอนเธอ มาแบบด้นเอาค่ะครู
17 กรกฎาคม 2552 14:38 น. - comment id 1015736
สวัสดีวันศุกร์ค่ะ อย่าน้อยใจไปเลยค่ะ ได้ข่าวว่ามีลูกศิษย์ไปหาวันอาทิตย์ คงหายน้อยใจแน่ๆเลยค่ะ
17 กรกฎาคม 2552 14:56 น. - comment id 1015739
แลจันทร์เลื่อนเคลื่อนคล้อย....คล้ายลา..ลงเฮย พลัดพรากร่ำน้ำตา.......ก่นรื้น รอแสงแห่งนภา.......ลาลับ...วนรอบ จึ่งจักกลั้นสอื้น......ต่างตั้งใจคอย ...กลอนไพเราะมากครับครู...ส่วนโคลงผมกำลังพยายาม อยู่ครับ..
17 กรกฎาคม 2552 15:15 น. - comment id 1015747
@สวยวันเพ็ญเด่นงามสาดแสงส่อง พิลาสผ่องนวลใยคลายเศร้าหมอง คิดจะหมายดวงเดือนเกี่ยวประคอง จิตตระกองห่วงทุกข์เข้าซ้ำเติม กระไรหนอเมฆามาขวางกั้น คิดด้นดั้นไกว่คว้ากลัวทุกข์เสริม น้ำตาเปื้อนเดือนดับหนักกว่าเดิม คงไม่เหิมเหลือไว้เพียงรอคอย ขอฝากบทกลอนด้วยครับ
17 กรกฎาคม 2552 15:39 น. - comment id 1015753
ต้องทำใจแล้วล่ะครับครู ช่วงนี้ฝนยิ่งตกบ่อยๆ ด้วย...อิอิ
17 กรกฎาคม 2552 16:31 น. - comment id 1015783
สวัสดียามเย้นวันศุกร์ค่ะ แก้วประเสริฐ ขอให้มีวันสุขกับวันหยุดนะคะ ปล.เดี๋ยวก็มีสายลมก็พัดเมฆปลิวไปค่ะ...
17 กรกฎาคม 2552 19:23 น. - comment id 1015839
สวัสดีครับ คุณลุงแก้วประเสริฐ น้ำตาเปื้อนเพราะใครอีกล่ะครับเนี่ยย อิอิ ขอคารวะ ถึงบทกลอน แสนไพเราะมากเลยครับ
17 กรกฎาคม 2552 20:31 น. - comment id 1015855
คุณ เพียงพลิ้ว นวล.. เจ้าพี่เอย.....คำน้องเอ่ยล้ำ..คร่ำครวญ ฯลฯ เฮ้ๆๆ...ไม่ใช่จ้าหลานกานต์ที่น่ารัก เผลอร้องเพลง ให้ฟังเฮ่อๆๆนี่แหละหนาคนแก่ เมื่ออ่านกระทู้เลย ทำให้นึกถึงเพลงเก่าๆจ้า อันที่จริงลุงไม่ได้น้อยใจ ใครหรอก เพียงนึกถึงจันทร์และดาวดวงหนึ่ง หากอยู่แถวชนบทจะเห็นชัด สังเกตุไหมว่าดาวนี้ จะคลอเคลียจันทร์เสมอๆ แม้ว่าฟ้าจะกระจ่างเพียงใด เจ้าดาวน้อยนี้มิได้ร้างห่างไกล เหมือนกับดาว ดวงอื่นๆที่หนีหลบไปปลายขอบฟ้า แต่ทว่า เมื่อเดือนลับหายเพราะข้างแรม แต่เจ้าดาว นี้กลับมิหายไป คงหลงรักจันทร์มากจ้า เฮ่อๆๆๆ ลุงเลยเอาใจลุงใส่เข้าไปในดาวน้อยดวงนี้จ้า ก็เท่านั้นเองแล้วนำมาเชิดดาวน้อยให้คนอ่าน ไม่รู้ว่าจะกระชากหัวใจใครหรือไม่ รักหลานเสมอ ฮ่าๆๆๆ แก้วประเสริฐ.
17 กรกฎาคม 2552 20:57 น. - comment id 1015864
คุณ somebody สวัสดีครับ ขอบคุณที่มอบกลอนงามไว้ให้อ่าน ครับ อย่างที่ผมบอกไว้กับหลานกานต์นั่นแหละครับ นึกๆอะไรได้ก็เขียนๆไปเรื่อยๆตามความคิดครับ ขอบคุณที่มาเยี่ยม ระยะนี้ระวังหน่อยนะครับเรื่อง เจ้าไวรัสสำคัญนะครับอย่าไปล้อเล่นกับมันครับ บางคนยกครอบครัวไปฉีดยาป้องกัน หากเป็น รพ.เอกชน นั้นเขาคิดเข็มละ 650 บาท รัฐบาลคิด 500 บาทต่อเข็มนะครับ หวังว่าคุณและชาวไทยกลอน เพื่อนพ้องน้องพี่คงจะปลอดภัยนะครับขออวยพร ให้คุณและทุกๆคนครับ โชคดีครับ แก้วประเสริฐ.
17 กรกฎาคม 2552 21:11 น. - comment id 1015868
คุณ แก้วประภัสสร ศิษย์เอ๋ย...อ่านงานระยะนี้ครูเองภูมิใจมากจ้า ที่ไปได้อย่างรวดเร็วจนแทบไม่น่าเชื่อ แต่ก็ต้อง เชื่อ หมายถึงภูมิปัญญา ปฏิภาณไหวพริบความ ละเอียดละออได้หล่อหลอมไว้ได้อย่างดีเยี่ยม ครู ขอชมเชย แต่ครูสั่งไว้ว่า เหนือฟ้ายังมีฟ้า อย่าได้ ทนงตนเองว่าดีแล้วเก่งแล้วและดูถูกคนอื่นเป็น อันขาด ต้องถ่อมตนเองไว้เสมอ มิฉนั้นจะต้องเสียใจไป อีกนานนะ อย่าอวดเก่งเป็นอันขาด อีกประการหนึ่ง การมีคนเข้าชมงานเรามากน้อยเท่าไรไม่ต้อง ไปคำนึง จงเชื่อมันตัวของเราทำงานของเราแม้ ว่าใครจะไม่เข้ามาก็ตาม จำไว้ให้ดีๆนะจ๊ะ ด้วย คนเสียคนเลิกลาไปก็มีมาก เพราะความทนงตน อวดตัวเองยามเขาชมมา จึงเกิดหลงตนคิดว่าตน นั้นเก่งกล้าสามารถกว่าคนอื่น การเรียนไม่มี วันจบสิ้นหรอกเกล็ดย่อยๆยังมีอีกมากมายนัก เพราะเธอนั้นครูคิดว่าเป็นตัวแทนครูได้ อย่างสบายที่กล้ากล่าวเช่นนี้เพราะติดตามงาน เธอแม้กระทั้งไปทดลองฝึกกับคนอื่นสามารถ ทำงานได้เป็นอย่างดี นั้นหมายถึงเป็นตัวแทน ครูได้ ครูเองภูมิใจมากจ้า อาทิตย์นี้ครูจะแนะนำ และอธิบายเรื่องกลอน โคลง อื่นๆอีกเท่าที่รู้ให้ หมด เพื่อปลดเปลื้องสิ่งเก็บกดไว้มานานแล้ว ซะที ด้วยครูเป็นคนโง่เขลามิได้เก่งอะไรแต่ เมื่อให้ความไว้วางใจก็ไม่ปิดบัง จะมอบเกล็ด ย่อยเพื่อใช้ประกอบการเขียนให้จ๊ะ บอกเจ้า กิ่งโศกด้วยเตรียมตัวรับสิ่งที่ครูรู้ได้แล้วจ้า รักศิษย์เสมอ แก้วประเสริฐ.
17 กรกฎาคม 2552 21:19 น. - comment id 1015871
คุณ เฌอมาลย์ สวัสดีจ้าเจ้าหญิงที่น่ารัก ผมเองไม่ได้น้อยใจ อะไรหรอกครับ พอดีไปเห็นดาวเลยนึกถึงดาวน้อย ดวงหนึ่งที่เฝ้าเดือนเสมอดังที่กล่าวไว้กับหลานกานต์ นั่นแหละครับ เลยเขียนกลอนบทนี้ขึ้นมาครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
17 กรกฎาคม 2552 21:24 น. - comment id 1015872
คุณ กิ่งโศก ศิษย์เอ๋ย ยังผิดพลาดหลายแห่ง อาทิตย์นี้ ครูจะอธิบายให้หมดเตรียมกระดาษดินสอไว้นะ จะอธิบายทางนี้มันไม่ดีจ้า รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
17 กรกฎาคม 2552 21:28 น. - comment id 1015873
คุณ วิชัย ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมครับ ฝากกลอนไว้เป็น ที่ให้ผมรำลึกครับ ขอขอบคุณอีกครั้งครับหากว่างๆ แวะมาเยี่ยมอีกนะครับ ขอบคุณ แก้วประเสริฐ.
17 กรกฎาคม 2552 21:34 น. - comment id 1015875
คุณ เอื้องคำ ที่จริงผมปล่อยวางมากแล้วครับ และยิ่งเดี๋ยว นี้ด้วยแล้วผมเลยไม่คิดอะไร การเขียนกลอนนี้ก็ เพื่อจะฝึกสมองมิให้เป็นอัลไซเมอร์และหาความ สนุกเพลิดเพลินตามประสาคนแก่ๆนั่นแหละครับ นั่นซี...ฝนตกร้อนบ้างเย็นบ้างเล่นเอาผมแย่เลย ยิ่งเป็นโรคแพ้อากาศด้วย ระวังตัวแทบแย่ทานยา ป้องกันไว้ ขอบคุณที่ให้เกียรติผม ขอน้อม รับไว้ครับ ขอบคุณ แก้วประเสริฐ.
17 กรกฎาคม 2552 21:43 น. - comment id 1015877
คุณ โคลอน ขอบคุณครับที่จริงแล้วผมพ้นภาระกิจการงาน และครอบครัวมาหลายปีแล้วครับ เลยมีเวลาว่างๆ หาความสนุกเพลิดเพลินในการท่องเวปฯต่างๆ เขียนกลอนส่งบ้างหากนึกจะเขียน เบื่อๆก็ไปเดิน เล่น หน้าที่ผมตอนนี้คิอให้อาหารแมวตอนเย็น ให้อาหารปลา นก และรดน้ำต้นไม้ หากฝนไม่ตก ก็ขี่จักรยานออกกำลังกาย ก่อนอาบน้ำก็บริหารร่างกาย ครับ นอกนั้นไม่มีปัญหาอะไรเลย ขอบคุณที่ อวยพรครับ ขอบคุณ แก้วประเสริฐ.
17 กรกฎาคม 2552 21:57 น. - comment id 1015878
คุณ กวีน้อยเจ้าสำราญ ไม่มีหรอกครับผมเขียนนึกอะไรได้ก็เขียน ดังที่บอกแก่เจ้ากานต์นั่นแหละครับ ขอบคุณอันที่ จริงผมนั้นไม่ได้เก่งอะไรหรอกครับสนุกๆไปวันๆ เท่านั้นเอง บอกตามตรงงานเขียนผมหากจะย้อน ให้อ่านอีกผมทำไม่ได้ครับเพราะผมลืมหมด หาก แต่งใหม่ก็เริ่มกันใหม่ครับ เขียนแล้วก็ลืมผมฝีก มานานแล้ว จนสำเร็จเพื่อมิให้ใจผมเก็บภาระไว้ มากเกินไปครับ นอกจากมันจะซ้อนเร้นไว้ใน ห้วงจิตใต้สำนึก เวลาเขียนครั้งใดมันจะพรั่งพรู ออกมาเองครับ ขอบคุณที่ชมมา ขอให้เจริญๆ นะครับคิดอะไรสมความตั้งใจทุกๆประการ แก้วประเสริฐ.
17 กรกฎาคม 2552 23:37 น. - comment id 1015938
น้ำตาเปื้อนเมื่อเดือนลับ ใจรักสับปรับแปรเปลี่ยน สงสารอกฟกช้ำเจียน วนเวียนวันจากพรากไป โชคดีนะคะที่ปรางไม่ใช่ชื่อนวล อิอิ...
18 กรกฎาคม 2552 00:13 น. - comment id 1015949
น่าน้อยใจนะครับ ^ ^ สวัสดีครับลุงแก้ว
18 กรกฎาคม 2552 10:29 น. - comment id 1016032
ยอดเยี่ยมสมกับที่ท่านเป็นครูบาอาจารย์สอนศิษย์ให้เก่งด้านกวีหลายคน ศรัทธาจริงค่ะ อากาศแปรปรวนเหลือเกินคุณลุงดูแลสุขภาพนะคะ
18 กรกฎาคม 2552 11:19 น. - comment id 1016040
คุณ ปรางค์ทิพย์ ที่จริงนั้นผมแค่เขียนเปรียบเทียบระหว่าง เดือนกับดาวดวงน้อยเท่านั้น คือว่าผมนึกสิ่งใดได้ ก็เขียนไปตามนั้นครับ มิได้คิดเป็นอย่างอื่น งานผม มักจะเน้นความอ่อนหวานปนเศร้า หากหวานก็ให้ สุดๆไปเลย หากเศร้าก็เหมือนกัน แต่ผมมักจะอด ที่จะสอดแทรกบางอย่างลงไปด้วยตามความเคยชิน ชื่อ ปรางค์ทิพย์ ไพเราะมากครับ นวลทิพย์ ก็เหมือน กันชื่อคือนามธรรม เขามีไว้เพื่อเรียกได้ถูกต้อง รูปก็หมายถึงสิ่งที่ประกอบด้วย สังขาร 5 รวมตัว กันขึ้นครับ ขอบคุณที่แวะมาเยียนคนแก่เสมอ ทำให้ผมเกิดพลังงานชนิดหนึ่งภายในเป็นกระแส ที่จะดำเนินการต่อไปได้ครับ ขอบคุณ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
18 กรกฎาคม 2552 11:25 น. - comment id 1016042
คุณ ธันวันตรี ฮ่าๆๆๆคุณเองก็รู้ว่า การเขียนกลอนเป็นอย่างไร ทุกๆสิ่งทุกๆอย่างต้องสอดคล้องซึ่งกันและกันนั่น แหละถึงนับได้ว่าเป็นกลอนต้องประกอบด้วย หลายสิ่งหลายอย่างที่ซ่อนเร้นภายใน เท็จบ้างจริงบ้าง สลับกันไปตลอดเวลา ใช่ไหมครับ หากเป็นเรื่องจริง ล้วนๆสักพักก็หมดสิ้น การไขว่คว้าหาวัตถุดิบ นั้นไม่ยากหรอกแต่คนใช้ต้องรู้จักใช้เป็น อุปมาดังเขียนร้อยแก้วฉันท์ใดฉันท์นั้นครับ ฉนั้นผมเองถึงไม่คำนึงสิ่งรอบข้างใดๆทั้งสิ้น ผมจะคำนึงถึงความสนุกสนานเพลิดเพลินแต่ ใจผมนั้นจะเตือนสติผมเสมอๆว่าอย่าให้เราเหนือ เพราะเหนือฟ้ายังมีฟ้าครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
18 กรกฎาคม 2552 11:43 น. - comment id 1016048
คุณ นรสิริ ขอบคุณแต่ผมเองยากที่จะรับครับเพราะมัน หนักเกินไปสำหรับผม เรื่องการรับศิษย์นั้นตอนต้น ผมก็ไม่อยากทำ แต่ผมมันเป็นคนใจอ่อนอีกอย่าง หนึ่งผมทราบดีว่าตัวผมเองนั้นยังโง่เขลาในเรื่องนี้ อีกมากนักมันหนักเสียเหลือเกิน ด้วยความเป็นคน ใจอ่อนของผมนี่แหละ เมื่อทนรบเร้าไม่ไหวจึงรับ แต่ก็กำชับไว้เสมอๆว่าครูเองนั้นยังอ่อนด้อยนักจะ ถ่ายทอดให้เท่าที่จะรู้ อีกประการหนึ่งผมมักจะ พูดเสมอๆว่าผมมันเป็นคน บ้าๆบอๆบ๊องส์ เหตุ ที่กล่าวดังนี้เพื่อที่จะให้คนที่จะมาศึกษากับผม ได้สังวรห์ไว้ ด้วยผมจะเล่นกลอนตามอารมณ์ ที่ผมพึงปรารถนา บางครั้งผมจะทดลองกลอนฉีก ค้นคว้าหาเอง นั่นแหละผมถึงได้สัจจะธรรมใน เรื่องกลอนนี้ คุณเชื่อไหมครับในเมื่อเล่นกลอน กลอนก็จะบ่งบอกน้ำใจของคนและเป็นเอกลักษณ์ เฉพาะตัวเสมอๆ ถึงแม้ว่าจะไปเปลี่ยนเป็นชื่อ อื่นแต่กลอนจะไม่เปลี่ยนไปมากนัก เมื่อเขียน ไปนานๆเข้ากลอนมักจะหวนกลับที่เดิม เหมือน เขาจะไปท่องเที่ยว ฉนั้นคนเขาถึงจับได้ว่าคนๆ นั้นลอกกลอนหรือไม่ก็ด้วยเหตุดังนี้ครับ อนึ่ง ผมถ่ายทอดความรู้ที่ผมค้นคว้ามาและตัดบาง อย่างออกไปเพื่อง่ายต่อการจดจำ และสร้างบาง อย่างขึ้นเองเพื่อฝึกฝน ผมทดลองจนแน่ใจแล้ว จึงจะมอบให้เขาไป เพียงแต่ว่าสติปัญาปฏิภาณ ไหวพริบความละเอียดลออของคนเราไม่เหมือน กัน ผมจะเลือกมอบให้เฉพาะที่เขาชอบ หากติด ขัดอะไรผมก็จะคอยแนะนำ ในระยะแรกๆผม จะติดงานเขาอย่างสม่ำเสมอ เมื่อเห็นว่าเขาว่าย น้ำได้คล่องแคล่วแล้วนั่นแหละผมถึงจะปล่อย วางให้เป็นตัวของตัวเองจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว เหตุใดหรือครับ เพราะเขาจะได้ค้นคว้าบางอย่าง ด้วยตัวของตัวเองทำให้เกิดพลังงานชนิดหนึ่ง ซึมซาบเข้าสู่ส่วนลึกของจิต เมื่อถึงกำหนดเวลา ใช้สิ่งที่เก็บนี้ก็จะเป็นตัวช่วยอย่างดี นี่คือสิ่งที่ ผมจะวางให้แก่ศิษย์เสมอ ทำไมศิษย์ผมถึงได้ ก้าวหน้าได้อย่างรวดเร็ว เพราะผมมีเหตุผลของ ผมเองที่จะแนะนำเขาด้วยการขัดเกลามอบให้ เขาโดยเฉพาะที่เขารับได้แล้วค่อยๆทะยอยขึ้น ไปเรื่อยๆ ทำใจได้ไหมนี่คือคำถามที่ผมมักจะ ตั้งขึ้นเป็นโจทย์แก่ผมเสมอในเรื่องการรับศิษยื ผมทำใจได้แล้วและพร้อมที่จะยอมรับไม่ว่าอะไร จะเกิดขึ้นในภายหน้า เมื่อผมทำใจได้เป็นเรื่อง ปกติธรรมดา ศิษย์ผมบางคนได้ดิบได้ดีและไป ค้นคว้ากับคนอื่นๆผมไม่ว่าด้วยเป็นสิทธิ์ของเขา บางคนหายไปเลยก็มี บางคนเปลี่ยนนามปากกา ก็มีแต่พอผมอ่านเจอก็จะทราบทันทีว่าใครเป็น ใคร อีกประการหนึ่งตั้งแต่ผมเล่นกลอนนี้มาที่ นี่ก็หลายปีแล้วผมจะอ่านงานคนอื่นเกือบหมด จนมีบางครั้งผมเบื่อเหมือนกัน แต่ผมไม่มีงาน ทำอยู่ว่างๆก็เลยต้องยอมรับเพื่อสนุกกับเขาครับ อันที่จริงไม่รู้เป็นอย่างไรกับคุณผมถึงได้กล่าว เช่นนี้ออกมาหรือ ว่าจะเป็นความสมพงศ์ชตากัน ขอบคุณมากครับ ที่อวยพรให้แก่ผม ซึ่งอาทิตย์ นี้ศิษย์ผมจะมาที่บ้านขอศึกษาเพิ่มเติม ผมก็ยินดี และให้การต้อนรับตามประสาคนจนอันพึงมีครับ ขอบคุณที่เป็นห่วง หากผมผิดพลาดไปขออภัยด้วย รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
18 กรกฎาคม 2552 17:45 น. - comment id 1016143
เมื่อเมฆผ่านไปก็จะเห็นความสดใสของท้องฟ้า อีกครั้งค่ะ..ความหวังย่อมยังมีค่ะ...
18 กรกฎาคม 2552 18:38 น. - comment id 1016151
* * น้ำตาเปื้อนเดือนลับใยกลับเศร้า อย่าเงียบเหงาแฝดเพื่อนมาเตือนฝัน อยู่แห่งใดไมตรีมีต่อกัน สานสัมพันธ์มั่นแท้ที่แน่นอน.....ฯ ..แฝดเพื่อน...ไปน้อยใจใครมาล่ะ..อ่ะนะ..ราชิกา..มาเป็นกำลังใจให้ค่ะ...อย่าลืมดูแลสุขภาพด้วยนะคะ...เป็นห่วงค่ะ...
18 กรกฎาคม 2552 19:25 น. - comment id 1016155
คุณ white rose แม่กุหลาบขาวแสนสวย ครับ เมื่อเมหหมอง ปิดบังจางลง ทุกสิ่งๆทุกๆอย่างก็จะสดใสตามมาเอง เปรียบดังทุกขืของเรา หากรู้จักหาวิธีแล้วก็ย่อมขจัด สิ่งมืดมัวออกดั่งเมฆหมอกฉันท์นั้นครับ ขอบคุณ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
18 กรกฎาคม 2552 19:32 น. - comment id 1016159
คุณ ราชิกา ครับผมจะจำกลอนนี้ไว้ที่ได้รับการห่วงใยจาก แฝดเพื่อนที่รัก ที่จริงตั้งแต่เราคบหาสมาคมกันมา ก็นับได้ว่านานแสนนานแล้ว แต่ไมตรีจิตนั้นช่าง แนบแน่นยิ่งนักตลอดจนความห่วงใยมีเคยที่จะไม่ กล่าวสักครั้งเดียว สิ่งนี้แหละคือพลังใจอันยิ่งใหญ่ ที่ผมได้รับจากคุณเสมอมา และก็เป็นพลังงานชนิด หนึ่งที่มีแรงกระตุ้นให้เกิดความสู้ในสิ่งที่คิดว่ายาก นักจะสู้ได้ แต่ดีกว่าไม่สู้เอาเสียเลยซึ่งมันตรงกับ อัธยาสัยของผมอยู่แล้ว อุปมาเชื้อไฟที่จะมอดลง แต่กับได้รับสิ่งที่ทำให้กองไฟนี้กลับลุกโชติช่วง ชัชวาลย์ขึ้นอีกวาระหนึ่ง ขอบคุณรักแฝดเพื่อน เสมอไม่เคยลืมเลือนสักครั้งเดียว แก้วประเสริฐ.