กลางป่าดงพงไพรสงัดเงียบ เย็นยะเยียบไอหมอกละลอกฝน เสียงจิ้งหรีดเซ็งแซ่แผ่วังวน ไปทุกหนทั่วทิศพิชิตไพร สายลมโปรยโชยพัดฉวัดเฉวียน คล้ายวนเวียนลอดล้อคลอหลับใหล ผ่านพะแผ่วโพยพัดสงัดไพร ระโยงใยเถาวัลย์ผันเวลา เป็นคนป่าคนคอยรอยชีวิต เลือกลิขิตพรมแดนแสนห่วงหา อยู่โดดเดี่ยวเปลี่ยวกายคลายวิญญา แสงจันทร์พร่ากระจ่างกว้างราตรี เสียงฟืนไม้ในไฟดังเปาะแปะ เหมือนจะแกะเรือนกายพ่ายไฟหนี แสงส้มอุ่นไหววับซับราตรี ก่อเพื่อหนีความหนาวในราวไพร ๑๖ กรกฏาคม 2552 ภัทราภา...........................
17 กรกฎาคม 2552 00:40 น. - comment id 1015566
บทกลอนเพราะมากนะคะ ได้รับรู้กับชีวิตคนไพรเลย
17 กรกฎาคม 2552 05:34 น. - comment id 1015577
ไพเราะและงดงามในบทกลอนสื่อสัมผัสใจได้ดีจริงๆ เคยไปสัมผัสชีวิตป่าเป็นเช่นนั้นจริง ค่ะชอบบทกลอนของน้องจังเลย
17 กรกฎาคม 2552 18:33 น. - comment id 1015828
แต่งกลอนได้เยี่ยมครับ..ได้บรรยากาศมาก ๆ
18 กรกฎาคม 2552 10:53 น. - comment id 1016036
เก่งมากค่ะ ชื่นชม อ่านแล้วได้อรรถรสค่ะ
18 กรกฎาคม 2552 14:34 น. - comment id 1016084
ขอบคุณ คุณปรางทิพย์ ค่ะที่ชมและเข้ามาทักทายค่ะ
18 กรกฎาคม 2552 14:37 น. - comment id 1016085
ขอคุณ นรศิริที่ชอบบทกลอนค่ะอยากได้ไปสัมผัสป่าบ้างค่ะ แต่ยังไม่มีโอกาสถ้าไปอีกอย่าลืมมาเล่าให้ฟังบ้างน่ะค่ะ
18 กรกฎาคม 2552 14:40 น. - comment id 1016088
ลมแปรแขมร์เลอ ขอบคุณที่ชอบบทกลอนค่ะ ก็พยามเขียนให้ได้บรรยากาศอย่างที่คิดค่ะ อยากกระซิบถามว่าชื่อคุณแปลว่าอะไรค่ะ ชื่อแปลกดีค่ะ
18 กรกฎาคม 2552 14:41 น. - comment id 1016089
แก้วประภัสสร ขอบคุณที่ชื่นชมบทกลอนค่ะจะทำให้ดีต่อไปน่ะค่ะ