เพื่อความเข้าใจครับ สู้ตาย..เพื่อ.นช. ทักษินชินวัตร by ใจปลายทาง http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem124931.html ความคิดเห็นที่ 109 : หมายเลข 995764 ใจปลายทาง...คุณท้าให้เราไปคอมเมนต์ กลอนนายดากเนสสน่ะ บอกเขาสิทำไมไม่ให้ใครเข้าไปคอมเมนล่ะ ถามเขาด้วยว่า " มีจิตใจมั่นคงดังปรมา" วรรดังปรมาน่ะหมายความว่างัย...เราว่านายงี่เง่นนั่นไม่รู้นะ มันน่ะแต่งมั่ว... " พลังอ่อนโยนผกผันกับโทสะ" อ่อนโยนกับโทสะเอามาจากตำราเล่มไหน... คำว่า"เรียนรู้สติ" น่ะหมายความว่างัย... นายดากเนสน่ะมันหลุดพ้นแล้วรึ หมดอัตตาแล้วรึ คำว่าสติน่ะ หมายความว่างัย...บอกเขานะ หากเขียนกลอนหวยๆน่ะ อย่าเขียนดีกว่า มันแสดงความโง่มากกว่า....มาเลี้ยงควายอย่างเรา มีประโยชน์มากกว่าอีก จริงป่ะ... เด็กบ้านนอก 12 พ.ค. 52 - 16:17 IP 203.146.196.18 ความคิดเห็นที่ 114 : หมายเลข 995851 ...เราคนบ้านนอกอ่านหนังสือน้อย แต่คำว่าที่ถามนายเรารู้หมดเลยนะ พ่อแม่ปู่ย่าตายายไม่สอนนายถึงคำเหล่านี้บ้างรึ..แสดงว่าที่นายแต่งมานี่นายไม่รู้ความหมายแต่นายเอามาแต่งเพื่อให้เท่ๆแค่นั้นเองสินะ....เออจิงสินะ นายก็บอกเองว่าแค่เอามาแต่งเป็นกลอนตามอารมณ์ อืมม... รากหญ้า 12 พ.ค. 52 - 21:01 IP 125.24.69.60 -------------------------------- เคล็ดวิชา by darkness_hero http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem125796.html ความคิดเห็นที่ 9 : หมายเลข 995891 เคล็ดวิชาอะไร...วิชามั่วเร้อะ...คนที่เขียนมันเองยังไม่รู้เรื่องเลย..นะขอบอก ปลาหมอนา 12 พ.ค. 52 - 21:25 IP 125.24.69.60 -------------------------------- หยุดทำร้ายประเทศไทย by darkness_hero http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem125789.html ความคิดเห็นที่ 5 : หมายเลข 995882 เป็นแค่จับเอาคำมาเรียงกัน....ก็มาทำอวดเก่ง...บอกหน่อยนะพวกใครโกงอะไร ขายชาติอะไร..บอกหน่อยนะพรรคพวก...หากคิดว่าแค่แต่งเท่ๆนะ..ไปเลี้ยงควายเถอะ.. อีสานคนเดิม 12 พ.ค. 52 - 21:21 IP 125.24.69.60 --------------------------------- จากนั้นผมก็ขอให้เขาสอนครับ...ว่าต้องทำอย่างไรถึงจะเก่งได้เหมือนกับเขา คุณ 125.24.69.60 และ 203.146.196.18 จบเรื่องย่อ ขอร่ำเรียนพากเพียรเขียนกลอนกาพย์ ให้ซึมซาบสู่แกนสมองดังใจหมาย เพราะแต่งกลอนตามใจฉันมามากมาย ก็กลับกลายไม่รู้ซึ้งในวิชา แค่แต่งกลอนตามจิตนาในตามใจคิด คงจะผิดเกินยกโทษได้หรอกหนา ฉันผิดแล้วที่ไม่คร่ำเคร่งในวิชา ก็กางตำราแล้วแต่งกลอนทำไม่เป็น ขอยกท่านเป็นอาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ แต่งกลอนไปสื่อความได้ดังตาเห็น ไม่ปริปากให้น้ำลายซ่ายกระเซ็น จะยากเข็ญอยากไรฉันอยากเรียน ท่านบอกว่ากระผมนั้นแต่งกลอนห่วย ก็ขอท่านช่วยสอนสั่งทั้งอ่านเขียน ผมสัญญาว่าผมจะพากเพียร จะร่ำเรียนเขียนกลอนจนได้ปริญญา ทฤษฏีกาพย์กลอนอยู่ที่ไหน วอนท่านบอกสถานที่ให้ใฝ่หา ทำอย่างไรจึงหมดสิ้นจินตนา แล้วกลับมาเขียนกลอนเทพสักกะที ท่านอาจารย์ปรมะแห่งคำกลอน ท่านจะสอนอะไรในวันนี้ คงมีมากกว่าราคาในพาที ว่าคนที่แต่งกลอนเก่งเป็นอย่างไร ทำอย่างไรถึงเก่งกาจเยี่ยงตัวท่าน ไปวิจารย์ห่วยหรือดีแบบท่านได้ แต่งกลอนแบบไม่เรียงคำทำยังไง ศิษย์น้อมใจอยากเรียนรู้ในวิชา เปิดตำราหน้าไหนขอให้บอก ไปเรียนนอกสักหน่อยคงเข้าท่า ตั้งแต่ศูนย์จนจบชั้นปริญญา พอกลับมาคงไม่ห่วยตามทฤษฏี ท่านสามารถวิจารย์งานดีหรือห่วย จึงขอช่วยชี้แนะได้ไหมนี่ ยินว่าท่านเก่งเกินใครในปฐพี ศิษย์คนนี้ขอน้อมรับคำวิจารย์
13 พฤษภาคม 2552 08:39 น. - comment id 983555
ไม่อาจสอนใครได้เพราะไม่เก่ง แต่พอรู้เพลงกลอนบทอ่อนหวาน เรียนรู้วรรคทองของกลอนกานท์ และสืบสานความรู้ครูกลอนไทย หวังสรรค์สร้างกลอนตนคนไม่เก่ง พยายามเร่งพัฒนาหาทางใหม่ แต่เพราะพากเพียรเขียนได้ไม่เท่าไร แต่หัวใจอยากสร้างสานต์งานตนเอง จากคนชอบขโมยบทกลอน ครับ ........
13 พฤษภาคม 2552 08:51 น. - comment id 983558
พิมญดาเขียนกลอนร้อยไม่เก่ง ไม่อวดเบ่งวิชาเรียนเเพรียไปไหน เขียนเพื่อฝึปนึกเพื่ออ่านการณืเป็นไป เพราะสายใยเพื่อนบ้านกลอนสอนกันมา ใครจะว่าบ้ากลอนก็ไม่บ่น ใครจะว่าวกวนเหมือนผีบ้า เพียงแต่มีใจรักอักษรา สื่อภาษาสืบรอยครู..ผู้สอนเรา อย่าคิดมากเลยค่ะ นิ้วมือทั้งห้ายังไม่เท่ากันเลย..คุณจะเอาอะไรกับความคิดคนให้เท่ากันได้ละคะ ลุงกุลาเจ้าค่ะ...ลุงว่ามาก็แม่นค่ะ..อิอิ
13 พฤษภาคม 2552 09:36 น. - comment id 983586
สวัสดีค่ะ คุณDarkness_Hero เขียนเพราะรักการเขียนจึงเรียนรู้ เขียนเพราะดูไพเราะเสนาะหวาน มิเก่งกล้าอักษราอย่างชำนาน แค่ชอบอ่านขนขวายใส่ห้วงจินต์ ต่างความคิดต่างความรู้สึก อย่าเก็บมาเป็นอารมณ์ค่ะ มีแต่ความสุขนะค่ะ
13 พฤษภาคม 2552 10:31 น. - comment id 983617
หนูแค่กบ ในรู ใช่ครูไม่ จึงไม่กล้า สอนใคร ให้แตกฉาน แต่ความชอบ ถนัดเขียน เพียรกลอนกานต์ เพื่อเบิกบาน จิตแจ่ม แต้มตามใจ เพิ่งค้นพบตัวเองว่าเป็นคนชอบจินตนาการและชอบเขียน แต่ยังต้องเรียนรู้อะไรอีกมากมาย ขอเป็นเช่นกบในรูไปก่อนนะคะ อิอิ ขอให้มีความสุขกับการเขียนต่อไปค่ะ
13 พฤษภาคม 2552 10:46 น. - comment id 983620
ความคิดเห็นที่ 54 : หมายเลข 995565 ใจปลายทาง..ที่ถามว่าเคยอ่านไหมน่ะเพราะเผื่อคุณจะรู้ว่างานสร้างสรรน่ะแบบไหน..พวกแพดฉลาดนี่เขาอ่านหนังสือกันเข้าใจดีจังเลยนะ..นับถือๆๆ..ฉะนั้นคนเขียนกลอนได้อย่างพวกคุณน่ะมันชั้นสวะ..ขอบอก รากหญ้า 12 พ.ค. 52 - 06:01 IP 125.24.3.24 ลิลิต อ๊ะ อ๊ะ อย่าทิ้งขยะ ตาวิเศษ เห็นนะ จะบอกให้ ทิ้งให้มัน ถูกที่ เถอะพี่ไทย หรือเอาไป รีไซเคิล ได้เงินทอง ขยะเปียก ขยะแห้ง ทุกแห่งหับ แยกกันครับ จับเข้าที่ ไม่มีหมอง กลิ่นเหม็นเหม็น เช่นขี้หมา ไม่น่ามอง เราก็ต้อง กำจัดทิ้ง สิ่งปฏิกูล มีขยะ อยู่สามชิ้น ดูสิ้นท่า มันช่างไร้ ราคา พาเสียศูนย์ ถึงจะรีไซเคิล เกินเกื้อกูล ไม่เพิ่มพูน มูลค่า พวกกาลี ชิ้นที่หนึ่ง หึ่งเหม็น เป็นปี้ป่น เป็นขยะ จากสิชล คนหน่ายหนี เละเป็นโจ๊กติดโรคแม้วแจ้ววจี ขยะที่ มีสารพิษ จิตระอา ชิ้นที่สอง มองดู รู้ตลอด หน้าเหมือนร็อด ไวเลอร์ ดูเด๋อด๋า ขยะเน่า ชาวสุราษฎร์ ฯ ประกาศมา เขาบอกว่า อย่าเข้าใกล้ ไม่ต้องการ ชิ้นที่สาม ห่ามมาก จากระโนด เคยถูกโจทก์ ไล่จับ กลับขึ้นศาล เป็นขยะ เพาะเชื้อโรค โลกประจาน จนชาวบ้าน ว่าเนรคุณ สถุลจัง แต่ทำไม ใยรากหญ้า บูชานัก คอยฟูมฟัก ซักถาม เดินตามหลัง แถมยังหลอก นายด๊อกเตอร์ เผลอจ่ายตังค์ เก็บใส่ฝัง ถังขยะ ตระกูลชิน อย่ามักง่าย ชายหญิง ทิ้งขยะ ตาวิเศษ เห็นนะ จะติฉิน เรามาร่วม ทดแทน คุณแผ่นดิน เอาสามชิ้น ที่ดิ้นเร่า....ไปเผาซะ ใจปลายทาง...งานอย่างนี้รึ ที่แพดอย่างคุณว่างานคุณภาพ..สำหรับรากหญ้าอย่างเราอ่านแล้วแสนทุเรศในความคิด.. พวกแพดนี่เขาคิดได้แค่นี้หรือ..เราอนาจใจกับระบบการศึกษาไทยมากเลยนะที่เห็นความคิดซั่วๆแบบนี้...เราจึงไม่แปลกใจงัยว่าทำไมไทยจึงล้าหลังได้ขนาดนี้ รากหญ้า 10 พ.ค. 52 - 00:01 IP 125.24.82.32 ความคิดเห็นที่ 50 : หมายเลข 994761 ใจปลายทาง..เคยอ่านงานสมเด็จกรมพระปรมาฯ หลวงสรวิชิต นรินทิเบศ ไท่นสุนทรภู่หม...หากอ่านคุณจะเข้าใจว่างานคุณภาพคืออะไร.. พวกคุณแค่เขียนกลอนเด้ ก็มาคุยอวดกันว่าเก่ง..ตลกสิ้นดี รากหญ้า 10 พ.ค. 52 - 14:11 IP 125.24.67.216 .........ขอโทษ อั๋น และลิลิต ด้วยค่ะ ที่ใจปลายเอาคอมเม้นมาลงที่นี่เพื่อจะบอกว่า ใจปลายทางและเพื่อนนักกลอนเป็นแค่มือสมัครเล่นจะเอาไปเทียบชั้นบรมครูไม่ได้ และก็ไม่มีเจตนามาอวดเก่ง อวดรู้ไม่ อยากฝากถึงเพื่อนนักกลอนอย่าท้อนะค่ะถ้าเจอเพื่อนเราบางคน ดูแคลนแบบนี้
13 พฤษภาคม 2552 10:56 น. - comment id 983624
มีความรู้แค่หางอึ่งจึงโง่เขลา ปัญญาเบาในบทกลอนสุนทรพจน์ แต่งตามเรื่องตามราวไปตามบท อาจสะกดผิดพลั้งมิตั้งใจ ขอเรียนเชิญท่านผู้รู้กูรูกลอน ช่วยพร่ำสอนชี้ทางกระจ่างให้ ก่อนวิพากษ์วิจารณ์ผลงานใคร พิจารณาตรงไหนโปรดไขความ อันตัวเราเบาสมองตรองความคิด อย่าสะกิดด้วยถ้อยที่เหยียดหยาม อีกส่อเสียดด้วยพจน์มิงดงาม ก่อนผลีผลามตัดสินชิ้นไหนห่วย ขอตัวอย่างงานกลอนสุนทรเทพ หวังเพียงเสพอักษราภาษาสวย อรรถรสเลิศล้ำอาจอำนวย ชี้ทางช่วยบรรเจิดเกิดความคิด ว่ามานานเหมือนพายเรืออยู่ในอ่าง คนละคนคนละอย่างตามดวงจิต ที่เราเขียนกลอนกานท์หวังสานมิตร ใช่แผลงฤทธิ์ เป็นอมิตรศัตรูใคร ไปๆมาๆ ยาวเลย งานเข้าป่ะฟระเนี่ย กร๊ากกกก
13 พฤษภาคม 2552 11:46 น. - comment id 983637
คห ๖ เฌอมาลย์ อันเราเดานะ เข้าใจว่าคุณเขียนถึงเรา....เรามันคนบ้านนอกคอกนา..ไม่ถนัดเรื่องขีดเขียน อย่างพวกคุณ....ปกติพ่อแม่เราจะสอนว่า อย่าไปแส่เรื่องคนอื่นและเราก็ปฏิบัติมาตลอดนะ...อย่าท้าให้เราเขียนเลยนะ ขอร้อง...เราแค่คนชอบอ่านงานคนอื่นนะ
13 พฤษภาคม 2552 12:10 น. - comment id 983648
คุณเฌอมาลย์ งานเข้าจริงด้วยแระ แต่ว่าคุณเฌอมาลย์ ไม่ได้เอ่ยชื่อนี่นา คุณรากหญ้าชัยภูมิ ทำไมคิดว่าคุณเฌอย์มาลย์ว่าเขาละ ตั๊บแก ๆ ๆ
13 พฤษภาคม 2552 12:19 น. - comment id 983651
จมูกยาวเลยตูงานนี้55555+ คุณเฌอ..ปะเมรีย..อิอิ เรามิใช่นักกลอนดีแต่เรามีดีกรีช่วยชาติ..
13 พฤษภาคม 2552 12:35 น. - comment id 983656
เพื่อนๆมิตรสหายเจ้าคะ การที่เรามีความเห็นแตกต่าง ในเรื่องของการเมือง และนำพามาให้เกิดซึ่งการแตกสามัคคี แม้แต่ในบ้านกลอนแห่งนี้ มันไม่ได้ทำให้เกิดอะไรดีขึ้นมาเลยนะคะ ขอให้รักษาความเป็นมิตรกลอนกันต่อไปเถอะ จะเม้นท์เอาชนะกันเพิ่ออะไรคะ ในมุมกลับกัน งานสุนทรีจะเกิดได้ย่างไร หากใจของท่านทั้งหลายยังไม่สงบ... ฝากงานดีๆของเพื่อนบ้านกลอนอีกคนหนึ่งมาให้ชม ในฐานะที่เราเป็นเพื่อนบ้านกลอนกันนะคะ สูดหายใจลึกๆซิ ในนามของความรัก เราพบกันในนามความรู้สึก มีถ้อยล้ำคำลึกอันสดใส แม้มิใช่คนแรกในหัวใจ เป็นอะไรลึกลึกรู้สึกดี เราพบกันในนามเมื่อยามทุกข์ ช่วยปลอบปลุก ความฝันอันป่นปี้ เราพบกันในนามความ ปรารถนาดี ที่ต่างมี บทกวีเป็นสื่อใจ เราพบกันในนามของความดี ที่ต่างมีไมตรีอันยิ่งใหญ่ เราพบกันในนามความซึ้งใจ ทุกถ้อยความเป็นไปในบทกลอน เราพบกันในนามของความภักดิ์ ถ้อยคำที่ต่างทอถักมาพร่ำอ้อน บ้างสื่อฝากฟากฟ้า ฑิฆัมพร บ้างออดอ้อน อวยเออเสนอใจ เราพบกันในนามของความงาม พบในนามความรู้สึกอันยิ่งใหญ่ เราพบกันในนามความคุ้นใจ เป็นสายใย ของคน ที่ค้นคำ เราพบกันในนามความมากค่า ของถ้อยฝากปารารถนา อารมณ์ร่ำ ที่ช่วยอบ ให้อุ่นกรุ่นประจำ ที่สุขล้ำ งามล้ำ แม้ช้ำมา เราพบกันในนามของความสุข ที่เร้ารุก หัวใจ ปรารถนา ที่เร้าเร่ง บทเพลง จินตนา แม้ไม่เคยใกล้ตา ก็ใกล้ใจ เราพบกันในนามของความฝัน ระหว่างวันของวันที่ฝันใฝ่ แม้มิใช่ เป็นทุกลมหายใจ เป็นอะไร ลึกลึก รู้สึกดี เราพบกันในนามของความรัก งดงามนักศัพท์ถ้อยทุกสร้อยศรี ทุกเรียงร้อย รินรื่นชื่นฤดี เป็นไมตรีดีงามนิยามรัก อีกสักครั้งพระพุธที่ ๑๒ ตุลาค์ ๔๘ บทส่งใจ... นับเป็นความโชคดี... ที่นึกขอบคุณวาสนาเสมอ ที่พบบทกวี กวี... แหละทุกมิตรภาพที่มีโอกาสได้พบในบ้านกลอนไทย... ด้วยใจคารวะ/ แทนคุณแทนไท(ขออนุญาตนะคะปู่)
13 พฤษภาคม 2552 12:59 น. - comment id 983660
เราพากเพียรเขียนกลอนด้วยอ่อนหัด มิเจนจัดมากนักหลักภาษา ใครประณามหยามหยันด้อยปัญญา มิถือสาหาความปล่อยตามใจ จึงมุ่งมั่นเขียนต่ออาจพอรู้ แบบอย่างครูมิดื้อยึดถือไว้ มิเสกสรรปั้นแต่งเพื่อแข่งใคร หรือคลั่งไคล้สินจ้างล่ารางวัล หากปล่อยจิตคิดมากคำถากถาง จะทำให้ไร้ร้างงานสร้างสรรค์ หมั่นหาถ้อยร้อยคำเพ้อรำพัน เผื่อสักวันงามสมบรมครู กลอนทุกบทกฎทุกข้อขอศึกษา ด้วยสองตาสอดส่องพร้อมสองหู หนึ่งสมองครวญคิดพินิจดู มีผู้รู้ติติงนั้นยิ่งดี ด้วยความปรารถนาดีครับ ทุกวันนี้ก็ดึงหลายๆสิ่งมาพันกันจนยุ่งเหยิงหมดแล้วครับพี่น้องชาวไทย เราอย่าเป็นวัวพันหลักกันเลยครับ เพราะหลักเดียวก็เสียวแล้ว อันนมุกน่ะครับ 555
13 พฤษภาคม 2552 14:28 น. - comment id 983695
บทกลอนไม่มีผิดไม่มีถูกหรอกคับ ไม่ดีไม่มีเลว มีแต่ความงดงามสำหรับผู่ที่อ่าน เท่าที่ผมอ่านกลอนคุณมา ผมบอกได้เลยคับว่างดงามในแบบของคุณ ที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือนได้ สู้ๆคับเป็นกำลังใจให้นะคับ
13 พฤษภาคม 2552 15:15 น. - comment id 983718
มีคนอ่านน้อยเราไม่ค่อยกลัวเท่าไม่มีคนเขียนให้อ่าน....ซะอีกน่ะ จึงอยากบอกว่าให้เขียนต่อไปเถิด อย่าเพิ่งท้อ คนที่รักการอ่านมีอยู่มากมายในโลกใบนี้......หากจะผันตัวเองไปอ่านอย่างเดียว..ก็นับว่าน่าเสียดายอยู่...
13 พฤษภาคม 2552 20:01 น. - comment id 983951
เจ้าสำนักยึดกุมทฤษฎีวิจารณ์วรรณคดีเพื่อชีวิต(ใคร)ฟื้นชีพมาเบ่งบานหรือสามานย์ในแวดวงนี้อีกแล้วหรือ สงสัยทีนี้จะให้เผาอะไรดีล่ะ...ร้อยบุปผาบานพรักพร้อม ร้อยสำนักประชันงาน จะดูดีกว่าไหม สหาย...
13 พฤษภาคม 2552 20:34 น. - comment id 983969
To คนกุลา เพราะอยากร่ำอยากเรียนในศาตร์นี้ ตามเท่าที่สมองน้อยๆจะเรียนใด้ มิเคยคิดเก๋เท่ห์ประการใด แต่ใจใฝ่รักกลอนแต่นานมา มาวันนี้ฉันได้พบกับคนเก่ง น่ายำเกรงและโผงผางวิจารย์ได้ ดีหรือห่วยเขาบอกชัดประจักษ์ใจ ผมเลยขอเขาเสี้ยมสอนวิชากลอน.... แต่ก็ไม่เห็นเขาจะสอนสักที สงสัยจะหวงวิชา
13 พฤษภาคม 2552 20:34 น. - comment id 983971
To พิมญดา ไม่ต่างกันหรอกครับ คุณพิมญดา ^ ^ ผมก็ยังอ่อนหัดนักในทางกลอน แต่ก็รักในการแต่งกลอน
13 พฤษภาคม 2552 20:38 น. - comment id 983977
To ดอกบัว ขอบคุณครับคุณดอกบัวที่เป็นห่วงและคำแนะนำดีๆครับ ผมไม่ได้เก็บมาเป็นอารมณ์นานๆหรอกครับ
13 พฤษภาคม 2552 20:38 น. - comment id 983978
To แก้วประภัสสร ผมก็กบตัวหนึ่งในกะลาน้อย ที่เฝ้าคอยเขียนกลอนปะกะลาไว้ โลดแล่นตามจินตนาในหัวใจ ฝึกต่อไปด้วยใจรักการแต่งกลอน
13 พฤษภาคม 2552 20:39 น. - comment id 983979
To ใจปลายทาง ยินดีครับ ยิ่งแบบนี้ยิ่งทำให้เราได้รู้ตัวว่าเรายังห่างชั้น บรมครูครับ คนที่เป็นครูต้องแบบนี้ครับ ------ แสดงความคิดเห็น > หมายเลขกลอน 125619 IP 203.146.196.18 ความยาว 1209 ตัวอักษร แต่งเมื่อ 04 พ.ค. 52 - 14:15 จำนวนคนชม ผู้ชม 42 - ผู้ตอบ 4 เขียนโดย บพิตร ผู้นำกลอนมาลง บพิตร อีเมล์ witthaya.w@hotmail.com ------ IP มันก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆแหละครับ แต่โอกาศที่ IP จะไปโดนคนอื่นในบ้านกลอนหลังเดียวกันมีไม่ถึง 0.005% ด้วยซ้ำครับ ดังนั้นท่านนี้แหละผมว่าเขาคือบรมครูตัวจริงเลยล่ะ อย่างไรก็ดี ขอขอบคุณสำหรับกำลังใจดีๆครับ แต่ผมไม่ท้ออยู่แล้ว จะมีหายๆจากบ้านกลอนไปบ้าง ก็ช่วงงานยุ่งๆ ไม่ก็ไปบ้าอย่างอื่นเป็นพักๆน่ะครับ แต่สุดท้ายก็กลับมาตายรังที่ชอบเขียนกลอน และบ้านกลอนนี่แหละครับ
13 พฤษภาคม 2552 20:40 น. - comment id 983982
To เฌอมาลย์ งานเข้าจริงๆด้วย - - แต่ทำไมรากหญ้าชัยภูมิ(IPคุ้นๆ) ต้องไปหาเรื่องเฌอมาลย์ด้วยนะ รังแกผู้หญิง เฌอก็ไม่ได้เอ่ยถึงเขาสักหน่อย ไม่เขาใจจริงๆครับ แต่เฌอก็เก่งนะครับผมชอบกลอนของคุณมากๆเลยนะเนี่ย สามารถล่อราชสีห์ได้เชียวนะครับเนี่ย
13 พฤษภาคม 2552 20:41 น. - comment id 983985
To รากหญ้าชัยภูมิ IPคุ้นๆนะครับ นั่นท่านปรมาจารย์นี่ครับ... รบกวนท่านเขียนกลอนให้ประจักษ์หน่อยได้ไหมครับ เป็นขวัญตาว่ากลอนดีๆมีคุณภาพ ไม่ห่วยจนหมาไม่รับประทานเป็นอย่างไร และดีขนาดที่สามารถไปด่างานคนอื่นว่า"ห่วย"ได้น่ะครับ ขอบคุณครับ อ่อไอ้กลอนราชสีห์น่ะไม่เอานะครับ เก่าแล้ว สิงโตอะไรก็ไม่รู้ไม่มีความกล้าเลย แค่ยอมรับความจริง หรือแค่ยอมรับในตัวตนขนาดจะเปิดเผยตัวยังไม่กล้าเลยน่ะ.... เอาอย่างนี้แล้วกันครับ ผมยกกลอนนี้มาแทนท่านปรมาจารย์ดีกว่า ท่านจะได้ไม่ต้องลำบาก Copy - Paste กลอนที่ท่านใช้ด่าผม ด่าใจปลายทาง ว่าแต่งกลอนห่วยมากๆ และเราถามหรือให้เขาสอน ซึ่งเป็นPatternของอาจารย์เลยนี่ครับ หลังจากที่คุยกันเรื่องการเมือง แล้วด่าใครอีกหรือเปล่าผมไม่รู้ครับ แต่งานของท่านปรมาจารย์สมควรได้รับการยกย่องครับ --------- ความคิดเห็นที่ 12 : หมายเลข 996047 เราคนอีสานรู้น้อย จบ ป ๔ มานานไม่ถนัดงานขีดเขียนแต่จะลองจับคำมาเรียงให้ดูเรื่องศิลปะเราไม่เก่ง...นายวิจารณ์งานเราด้วยนะ ".....เจ้าหมูอ้วนสกปรกยกตนกร่าง คิดเทียบอย่างองอาจดุจราชสีห์ แต่นอนกลั้วอาจมโสมมมี ไม่รู้ดีรู้ชั่วศักดิ์ตัวเอง วันหนึ่งเห็นสีหราชเดินอาจหาญ ส่งเสียงกร้านทายท้าว่าตัวเก่ง นอนดมขี้จมปลักอวดนักเลง สีหะเกรงเปื้อนขี้จึงหนีไกล เปรียบคนถ่อยไร้ดีไม่มีค่า อวดตัวว่ากลอนรู้สู้ใครได้ ด่าคนโน้นสอนคนนี้ดีกว่าใคร ตัวจังไรจงรู้ชั่วสอนตัวเอง ( เถิด)........ ...................... " รากหญ้า 13 พ.ค. 52 - 05:47 IP 125.24.7.96 ---------
13 พฤษภาคม 2552 20:41 น. - comment id 983986
To ใจปลายทาง(อีกที) นั่นสิครับ.... เห็นใจเฌอมาลย์จัง อยุ่ๆก็โดนราชสีห์งับซะอย่างนั้น
13 พฤษภาคม 2552 20:42 น. - comment id 983987
To พิมเมรี แค่คนไทยยังมีคนที่มีหัวใจรักชาติก็ ช่วยชาติ แค่นี้ผมก็ดีใจมากมายแล้วครับ
13 พฤษภาคม 2552 20:42 น. - comment id 983988
To ยาแก้ปวด... ความคิดเห็นทางการเมืองเป้นเรื่องปกติครับที่จะมีความเห็นต่าง... แต่ต้องต่างอย่างสร้างสรรค์ครับ มีเหตุมีผล ไม่ใช่อะไรๆก็เอามาโยงๆๆๆ เพื่อทำลายฝั่งตรงข้าม จนหลุดประเด็นของการเมืองไป ผมรักเพื่อนๆในบ้านกลอน แม้เกือบทุกคนผมจะไม่เคยได้เห็นหน้ากัน บางคนก็เคยทะเลาะกัน แต่ทั้งหมดนั่นก็คือส่วนหนึ่งของมิตรภาพในบ้านกลอน ผมรับรองครับว่าเรื่องนี้สำหรับผมไม่เกี่ยวกับการเมือง... แต่งกลอนเก่งหรือไม่ไม่เกี่ยวกับความคิดเห็นการเมืองแน่นอนครับ...เว้นแต่มีคนเอาเข้าไปเกี่ยว สำหรับผมมันคือความไฝ่เรียนรู้ในการแต่งกลอน เมื่อเขากล้าวิจารย์คนอื่นว่าห่วยได้ เขาต้องเก่งแน่ๆครับ
13 พฤษภาคม 2552 20:42 น. - comment id 983990
To กุ้งก้ามกราม หลักอะไรอ่ะครับ หลักเดียวก็เสียวแล้ว ขอความกระจ่างนิดหนึ่ง ^ ^
13 พฤษภาคม 2552 20:43 น. - comment id 983992
To ฟ้าฟ้า ธรรมชาติ ผมก็ว่าอย่างนั้นครับ บทกลอนไม่มีถูกหรือผิด ผมมองว่ามันคือ"ศิลปะ" และเป้น "ศิลปะ" ที่สื่อความหมายได้ดีมากๆเลย... อย่างไรก็ดีผมขอบคุณสำหรับคำชมและกำลังใจนะครับ... นานๆจะมีคนชมทีหนึ่ง ดีใจจัง
13 พฤษภาคม 2552 20:43 น. - comment id 983994
To กุ้งหนามแดง ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะครับ ผมก็ไม่เลิกเขียนกลอนหรอกครับ ผมรักการเขียนกลอนมากๆเลยล่ะ... และจะมีหายๆไปบ้างช่วงงานยุ่งๆ แต่สุดท้ายก็กลับมาเขียนกลอนเหมือนเดิม แบบถ้าจะให้ผันไปอ่านอย่างเดียว สงสัยคงยากแน่ๆเลย
13 พฤษภาคม 2552 20:47 น. - comment id 984003
To . โอ้ว.... สวัสดีครับท่าน. ท่านปรมาจารย์เขาเก่งออกนะท่าน น่าเลื่อมใสๆ ว่าแต่ท่าน.รบกวนเผาร้อยบุปผาบานพรักหร้อม หรือ รัอยสำนักประชันงาน ให้ผมผู้น้อยได้เห็นและศึกษาสักครั้งเป็นบุญตาได้หรือไม่
13 พฤษภาคม 2552 21:07 น. - comment id 984047
..งานเขียนทุกงานย่อม..ถูกกลั่นออกมาจากสมองและ จากใจ.. นั่นถือว่ามีความตั้งใจอย่างยิ่งแล้ว.. งานจะงามนั้นหาใช่ประเด็นไม่ เพราะเมื่อมันถ่ายทอดออกมาแล้ว..สำแดงว่างานนั้นสมีมฤทธิ์ผลแล้ว.. จงภูมิใจมันเถิด... อย่างน้อยเราผู้ลิขิตมันออกมา ก้อจะดีใจ ก้อพอแล้ว เมื่อมีคนอ่าน ย่อมปีติยิ่ง ยิ่เมื่อมีคำ โต้ตอบมา ยิ่งจะดีใจขึ้นอีก และคำโต้ตอบยิ่งเป็นคำชมแล้ว จะดีใจมาก เกิดมิตร ได้รุ้จักหลากหลายคน..
13 พฤษภาคม 2552 22:59 น. - comment id 984216
อย่าคิดมากไปสปาบ้านพิมดีกว่า..อิอิ จาร้องเพลงให้ฟัง..ไม่เอาน่าอย่าคิดมาก..อิอิ
13 พฤษภาคม 2552 23:30 น. - comment id 984231
คนเราคิดอยากจะเขียนใช่เรื่องง่ายแต่เมื่อเขียนออกมาได้ก็ถือว่าเก่งและเมื่อสื่อแล้วทำให้คนอ่านเข้าใจก็ยิ่งดี มิใช่หรือเล่า โง่มักมาก่อนฉลาดเสมอ ทำต่อไปถ้าใจรัก
13 พฤษภาคม 2552 23:53 น. - comment id 984242
28.. ท่าทีวิพากษ์วิจารณ์งานเขียนใดก็ตาม ต้องเคารพสิทธิอัตวินิจฉัยคนเขียน ยิ่งงานสะท้อนความคิดการเมืองด้วยแล้ว ต้องระวังท่าที และสำคัญต้องมีจิตใจประชาธิปไตย แท้จริง การวิจารณ์ต้องมีวิจารณ์ สามัคคี และวิจารณ์กันอย่างกัลยาณมิตร สร้างสรรค์ มิใช่ท่าทีศัตรู เอาเป็นเอาตาย อย่างนี้มันเรียกว่าทำการเมืองสั่วๆในแวดวงคนเขียนอะไรเล่นๆยังเพิ่งหัดเรียนแล้วมีนักทฤษฎีเจ้าลัทธิอะไรนั่นออกมาอาละวาดกับมือใหม่เพิ่งหัดขับให้ทำอย่างนั้นอย่างนี้ อวดอ้างฤทธาสารพัดในภูมิรู้ของตนว่าเที่ยงแท้แน่นอนแล้ว ในเชิงวรรณกรรมวิจักขณ์ อย่าทำเล่นไปนะพวกที่หลงคิดว่าคนเขียนอะไรในนี้อ่อนหัด วันเวลาที่ได้หล่อหลอมใครจะไปรุ้ว่าคนในนี้จะเป้นเบสท์เซลเลอร์ เป็นผู้สร้างวรรณกรรมยุคสมัยก้ได้ คนเขียนอย่างศรีดาวเรืองไม่ใช่วิเศษมาจากไหนยังกลั่นเลือดเนื้อเป้นพลังชีวิตไปไกลถึงต่างบ้านผ่านเมืองได้ ทำไมคนในนี้จะฝึกฝนเรียนรู้รับรู้ไม่ได้เด้วยเล่า จะปรามาสผู้คนใดงานใด ต้องมองเงาหัวตัวเองด้วยว่ามาจากไหน มีต้นทุนจริงแท้หรือไม่ ไม่ใช่กอดตำรา พวกปากคาบคัมภัร์ ท่องทฤษฎีก้าวหน้าวิชาการห่าเหวอะไรนั่น มันพ้นยุตสมัยรับใช้การเมืองแบบกลไกไปนานแล้ว ยิ่งการเมืองสามานย์ทุกวันนี้แม้แต่ต้นตำรับอย่างสหายในป่ายังอายแทนเลย เพราะไม่มีใครบ้าเอาเกียรติยศและศักดิ์ศรีของเครื่องแบบนักรบประชาชนที่มีเกียรติประวัติต่อสู้ทางการเมืองมายาวยาวนานมาย่ำยีเล่นอย่างอ้ายบ้าตลกการเมืองสั่วๆไม่นานมานี้..... บุปผามากมายคลี่ขยายวงงดงามแล้วในนี้ เสพรสหอมขื่นตามอารมณ์กันเถอะครับ....ดอกหย้าก็มิใช่ว่าไม่หอมหวนทวนลมรื่น ก็เป็นสีสันได้มิใช่หรือ อย่าเครียดเลย ....
14 พฤษภาคม 2552 01:08 น. - comment id 984267
To กิ่งโศก จริงของคุณครับ ^ ^ แม้กลอนผมจะไม่งดงาม ไม่ได้ใช้ภาษาที่หรูหรา แต่ผมก็ภูมิใจในงานของตนเอง และคงเหมือนกับที่ทุกๆคนภูมิใจในงานของตน
14 พฤษภาคม 2552 01:09 น. - comment id 984268
To พิมญดา ดีมากๆเลยครับ ผสมไปเยี่ยมมาแล้วครั้งหนึ่ง... ผมจะมีโอกาศได้ลองสัมผัสจริงเมื่อใดกันนะ (จะมีโอกาศไหมนะ)
14 พฤษภาคม 2552 01:10 น. - comment id 984269
To แจ้นเอง "โง่มักมาก่อนฉลาดเสมอ" ผมเห็นด้วยมากๆเลยครับ... ^ ^ และผมก็ทำต่อไปเพราะใจรักอย่างที่คุณว่าจริงๆนั่นแหละครับ
14 พฤษภาคม 2552 01:13 น. - comment id 984271
เอากลอนมาฝากครับ ... คุณ Darkness_Hero วิชากลอนที่แท้... ผมไม่ทราบว่ามีไหม ผมทราบแต่ว่า ศิลปะทุกแขนงย่อมสามารถกล่อมเกลาจิตใจผู้คนได้ ผู้ที่ซาบซึ้งซึมรสในศิลปะได้ ย่อมเป็นผู้ที่มีจิตใจอันละเอียดอ่อนโยน ผู้ที่มีจิตใจหยาบกระด้าง ... ย่อมไม่สามารถรับรสของศิลปะได้... ในทางกลับกัน กลอนก็เช่นกัน ... ผู้ที่ตำหนิในงานศิลปะของผู้อื่น ... เขาหรือจะสามารถรังสรรค์งานศิลปะอันปราณีตละเอียดอ่อนขึ้นมาได้ ผมขอมอบกำลังใจให้คุณ Darkness_Hero และ ใจปลายบางครับ ขอฝากข้อคิดไว้อีกข้อ... เมื่อพระพุทธเจ้าท่านตรัสรู้ ... ท่านแบ่งคนออกเป็นเหมือนบัวสี่เหล่า และตลอดเวลาที่ท่านเสด็จออกโปรดสัตว์ ... ท่านจะโปรดแต่เวไนยสัตว์เท่านั้น ฉะนั้น ... การพากเพียรบรรยายภาพของสีรุ้งที่โค้งงดงามให้คนตาบอดเห็น... เป็นเรื่องที่เสียเวลาเปล่าครับ
14 พฤษภาคม 2552 01:14 น. - comment id 984272
To . อธิบายได้ชัดเจนมากๆเลยครับ ^ ^ และขอขอบคุณสำหรับกำลังใจดีๆนะครับ
14 พฤษภาคม 2552 01:19 น. - comment id 984273
To วฤก ขอบคุณสำหรับกลอนดีๆของคุณครับ และขอบคุณสำหรับกำลังใจที่ให้กับผมและขอขอบคุณแทนใจปลายทางด้วยนะครับ จริงๆผมก็ไม่ทราบเหมือนกันครับว่ามีไหม ผมแต่งกลอนก็เพียงเพราะว่าผมชอบแต่ง เคยเรียนแบบผ่านๆในหลักสูตรสามัญตอนม.ต้นละมั้งครับ แต่กว่าจะรู้ว่าตัวเองชอบแต่งกลอนก็สักพักเลยละครับ และข้อคิดของ คุณนั้นก็ตรงและชัดเจนดีมากๆเลยครับ ขอบคุณมากๆครับ
14 พฤษภาคม 2552 08:11 น. - comment id 984331
"" นั่งพินิจพิจารณาดินฟ้าฝน ที่รินหล่นบนภูอยู่เบื้องหน้า อ่านกลอนจากด๊ากเนสเสร็จหละหวา ใครรากหญ้าอาศัยชัยภูมิ สะดุ้งเหยงเกรงว่ามาแถวนี้ จะได้หนีไวไวไกลหลายขุม เดี๋ยวใกล้ชิดติดโรคโชคร้ายรุม จะนั่งสุมกลุ้มรักนักโทษชาย อิอิ..ฝากฝัน นอนอยู่เทพสถิต....ด้วยสิ
14 พฤษภาคม 2552 09:43 น. - comment id 984377
ผมนึกถึงการเดินทาง การและจำนวนนับครับ เพราะ...การเดินทางต้องย่างที่ก้าวแรกก่อน การนับก็เช่นกันครับ ต้องเริ่มที่หนึ่งก่อนเสมอ กระทั่งการออกตัวของรถก็ต้องใช้เกียร์ต่ำก่อน เช่นนี้แล้วคุณ Darkness ก็ไม่ต้องกังวลหรอกครับ เพราะผมเชื่อว่าท่านสุนทรภู่ก็ไม่ได้เก่งตั้งแต่เกิดครับ เป็นกำลังใจให้ครับ *---*
14 พฤษภาคม 2552 16:38 น. - comment id 984578
To ฝากฝัน แหมๆอย่าคิดไปถึงขนาดนั้น .... ^ ^ ท่านปรมาจารย์เขาแค่อยู่แถวๆนั้นน่ะครับ ผมก็แค่ตามหาท่าน
14 พฤษภาคม 2552 16:39 น. - comment id 984579
To เอื้องคำ ขอบคุณสำหรับกำลังใจและคำแนะนำครับ
15 พฤษภาคม 2552 10:48 น. - comment id 985033
นายดากเนส..เราเขียนกลอนไม่เป็น ที่เขียนวันนั้นได้น่ะบุญแล้ว พยายามทบทวนความรู้สมัย ป ๔ แทบตาย....เราไม่เคยบอกเลยว่าเราเป็นอะไร แต่ที่แน่ๆเราบอกว่าเราเป็นคนบ้านนอก รากหญ้า....เราภูมิใจมากด้วย ไม่คิดจะเป็นอะไร...เราเพิ่งรู้นะเนี่ยว่า วิชากลอนไม่มี หาก คุณ คห ๓๖ วฤก ไม่บอกก็ไม่รู้....นักกลอนนี่เขาเก่งกันจริงๆๆเรานับถือนะ...แถมเขายังเก่งเรื่องพุทธด้วย ช่างเก่งจริงๆๆเรานับถือ...เราคงตาบอดอย่างเขาว่า เลยอ่านกลอนของนายไม่เข้าใจและก็เลยถามมั่วไป ตัวเรานี่มันแย่จริงๆๆ
15 พฤษภาคม 2552 13:46 น. - comment id 985102
คห ๓๖ คุณวฤก ขอบคุณที่บอกคนตาบอดอย่างเราว่าไม่มีวิชากลอน เราเข้าใจผิดมานานและอ่านบทกลอนของหลวงสรวิชิต สมเด็จกรมพระปรมานุชิตชอโนรส นายนรินท์ อิน หลวงโหราธิบดี นายสวนมหาดเล็ก ท่านสุนทรภู่ ฯลฯ ต่อแต่นี้เราคงต้องเก็บงานของท่านเข้ากล่องแล้วหละ...ขอเข้ามาศึกษางานของพวกท่านผู้รู้ทั้งหลายในนี้ดีกว่า เราน่าจะฉลาดอย่างมหากาฬแน่....ขอโทษนะ เราเนี่ยบัวใต้ตมคนบ้านนอกแต่ดันไปอ่านงานของท่านสมเด็จพระปรมานุชิต ...ถึงได้ไม่ฉลาดสักที ขอบคุณนะที่ช่วยชี้แนะ... พุทธศาสนาก็คงต้องมาขอศึกษาจากท่านนี่แหละนะ....
15 พฤษภาคม 2552 16:04 น. - comment id 985235
คห ๓๖ วฤก คำว่า "อมรมีธรรพ์ " น่ะหมายความว่างัย ผู้ไม่ดิบด้านพาลหยาบต้องตอบได้นะ...หากคนพาลหัวเราะเยาะนี่มันอับอายขายขี้หน้านะ...ประพิณกานท์ ล่ะหมายความว่างัย... นี่เราเก็บงานของท่านสมเด็จพระปรมานุชิตแล้วนะ...
18 พฤษภาคม 2552 09:35 น. - comment id 985543
หมอวฤก ที่ตอบมาน่ะยังถูกไม่หมด ถ้าคะแนนเต็ม ๑๐ หมอได้แค่ ๕ เองนะครับ....แต่จ้างให้เราก็ไม่บอก..ให้ไปค้นเอาเอง...และที่หมออ้างว่ามีการตัดคำในภาษาไทยน่ะ มันไม่ได้นะครับ...เราก็ไม่บอกอีกแระ....ให้ไปคิดเอาเอง...เพราะที่ตัดในภาษาไทยน่ะมันไม่ได้..คิดว่าหมอต้องเคยทำเธสิส...การอ้างที่มาต้องต้องถูกต้อง ด้วยนะครับ..คำว่า สวัสดีเป็นหวัดดี มหาวิทยาลัยเป็นวิทลัยน่ะมันผิดนะครับหมอ...อย่างหมอได้ ๕ คะแนนนี่สูงแล้วนะ ความจริงควรได้สัก ๒ คะแนนครึ่ง...หมอลองเอ่ยปากถามเราสิ เราบอกได้..แล้วหมอจะร้องอ๋อ..นะขอบอก ลานะครับโชคดีที่เราไม่เคยรับการรักษาจากหมอ ไม่เช่นนั้นอาจมีการลืมกรรไกรไว้ในท้อง รึไม่ก็จ่ายยาผิดแน่เลย....
16 พฤษภาคม 2552 03:30 น. - comment id 985559
To 203.146.196.18 (ทั้ง4ชื่อ) อย่าไประรานคนอื่นครับ... อย่าเอาการที่เราไม่ลงรอยกันไปลงที่คนอื่น
16 พฤษภาคม 2552 03:31 น. - comment id 985560
To Atist ติสแดรก 16 พ.ค. 52 - 01:46 IP 125.24.252.210 โหว.... แรงแฮะ... มาตั้งแต่เมื่อไหร่กันเนี่ย - -
16 พฤษภาคม 2552 10:44 น. - comment id 985683
คห ๓๖ วฤก คำว่า "อมรมีธรรพ์ " น่ะหมายความว่างัย ผู้ไม่ดิบด้านพาลหยาบต้องตอบได้นะ...หากคนพาลหัวเราะ เยาะนี่มันอับอายขายขี้หน้านะ...ประพิณกานท์ ล่ะหมายความว่างัย... นี่เราเก็บงานของท่านสมเด็จพระปรมานุชิตแล้วนะ... นี่หรือคือภูมิปัญญาของคนที่อ่านงานของท่าน ... ลองกลับไปอ่านใหม่ดูสิครับ ... อ่านด้วยสติ ตรึกตรอง ถ้าคุณยังมีหลงเหลืออยู่ในกมลสันดานบ้าง คุณจะเห็น ... อะไร ๆ อีกมากมายที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อน แต่ว่า... เห็นแล้วจะรู้จะเข้าใจหรือไม่นั้น ... ผมไม่แน่ใจครับ
16 พฤษภาคม 2552 11:55 น. - comment id 985718
กลุ้มจายยยยย จริง ยาก้ปวดจายมีป่าวเนี่ย
16 พฤษภาคม 2552 15:10 น. - comment id 985804
คห 53 หมอวฤก ตกลงคำว่า อมรคนธรรพ์แปลว่าอะไครับ..สติเรามีแน่เต็มในกมลสันดาน แล้วสติในสันดานหมอล่ะมีรึเปล่า..การตอบคำถามแบบนี้เป็นวิธีตอบแบบหมอเหรอ..อ้อ..กลอนของหมอนี่ต้องใช้อะไรลึกซึ้งมากใช่ไหม..จึงจะเข้าใจ แต่ทำไมงานของสุนทรภู่ ท่านนรินทธิเบศ สมเด็จพระปรมานุชิต เราอ่านแล้วเข้าใจเลย... บอกเรามาตรงๆดีกว่าอมรคนธรรพ์ คืออะรไ ตอบแบบสามัญให้คนป 4 เข้าใจน่ะ ประพิณกานท์ด้วย
17 พฤษภาคม 2552 21:20 น. - comment id 986542
ขออภัยที่มาตอบคำถามช้า.... ไปขึ้นเวรที่โรงพยาบาลมาครับ พึ่งกลับถึงบ้านเมื่อกี้ อ่านความเห็นที่ 75 แล้ว... คิดว่าคุณรากหญ้าชัยภูมิคงอยากแลกเปลี่ยน.... มาดูปัญหาแรก ... “ธรรพ์” เป็นลิขิตพิจิตรพจน์มาบทหนึ่ง ให้ผู้ซึ่งเสพผลกลอักษร เกษมสารอ่านสนุกทุกวรรคตอน เหมือนอมรมีธรรพ์บรรเลงรมย์ จริงอยู่ คำว่า “ธรรพ์” ไม่มีในพจนานุกรม คำ นี้มาจากภาษาบาลีว่า คนธพพ แปลงเป็นภาษาไทยว่าคนธรรพ์ หมายถึงชาวสวรรค์พวกหนึ่งซึ่งเป็นบริวารของท้าวธตรฐ มีความชำนาญในวิชาดนตรีและขับร้อง การใช้คำในภาษาไทยมีการตัดคำให้เห็นอยู่เนือง ๆ ... ตัวอย่างที่พบเห็นได้ในชีวิตประจำวัน .... สวัสดีครับ > หวัดดีครับ > ดีครับ ฯลฯ คำ ว่า “ธรรพ์” ที่ผมใช้นั้น ตั้งใจตัดมาจากคำว่า “คนธรรพ์” โดยใช้คำข้างเคียงแสดงให้เห็นว่า ธรรพ์=คนธรรพ์ คือมีเทวดา (อมร) เป็นผู้ฟัง (คน)ธรรพ์บรรเลง(เพลง) อีกปัญหาหนึ่ง..... ประพิณ ผู้ดิบด้านพาลหยาบไม่ซาบรส พิจิตรพจน์เพลงร้อยถ้อยผสม ผู้โฉดเขลาเมาใจไม่นิยม ไม่ชื่นชมเชลงศิลป์ประพิณกานท์ “ประพิณ” มาจากคำภาษาสันสกฤตว่า “ปรวีณ” เป็นคำวิเศษณ์แปลว่า “ฉลาด ฝีมือดี” ใช้ขยายคำว่า “กานท์” ซึ่งเป็นคำโบราณแปลว่ากลอน กลอน วรรคที่ว่า “ไม่ชื่นชมเชลงศิลป์ประพิณกานท์” จึงแปลว่า “ไม่มีความรู้สึกชื่นชมต่อบทกลอนที่ประพันธ์ขึ้นมาด้วยชั้นเชิงฝีมือทางศิลปะ” ในวิชาภาษาไทย ... ครูมักจะให้การบ้าน “ถอดคำประพันธ์” แก่นักเรียน ทั้งนี้เพราะว่าเราไม่สามารถตีความคำประพันธ์ร้อยกรองแบบตรง ๆ ทื่อ ๆ ตามรูปศัพท์ได้ บทร้อยกรองไม่ใช่แค่การเอาคำมาเรียงร้อยกันตามกรอบฉันทลักษณ์เท่านั้น บทร้อยกรองมีเสียง คำศัพท์ อารมณ์ โวหาร ฯลฯ ซ้อนอยู่ในนั้น ปัจจัยทั้งหลายทั้งปวงเหล่านี้ ทำให้เนื้อความของบทร้อยกรองบางครั้งไม่ชัดเจนจนต้องมีถอดความเพื่อให้เข้าใจเนื้อความยิ่งขึ้น