"ทำไมถึงต้องให้บอกอยู่ซ้ำซ้ำ" คือถ้อยคำที่ได้ยินจนชินหู ทำอะไรผิดไปอีกละตู แม่จึงจู้จี่บ่นจนข้ามวัน "ต้องให้สอนให้สั่งกี่ครั้งเชียว" เสียงเข้มเขียวพร้อมไม้เรียวที่ก้นฉัน อันพ่อเราเล่าก็บ่นไม่น้อยกัน ที่ต่างนั้นคือบ้างบ่นบ้างปนตี กว่าจะโตขึ้นมาได้หูแทบดับ ปลีน่องกับแก้มก้นแทบป่นปี้ ด้วยเสียงบ่นปนไม้เรียวบุพการี ให้รู้ดีรู้ชั่วกลัวอบาย ทุกวันนี้เลี้ยงชีวีพอมีสุข มิไห้ทุกข์กระไรนักดอกสหาย อันดีชั่วรู้แบ่งซีกหลีกอบาย รู้แบ่งปันรู้เก็บจ่ายรู้เพียงพอ ที่ยังขาดแลโหยหามิเห็นหน คือเสียงบ่นปนไม้เรียวของแม่พ่อ ดุจรอยรักปักใยหวงห่วงพะนอ อยากจะขอรอยเสียงนั้นทุกวันไป อยากยินเสียงแม่พร่ำบ่นจนก้องหู เสียงขวับรู้ว่าพ่อรักไว้หลักให้ มงคลจากผู้รักเราเหนือรักใด ขอได้ไหมขอให้เป็นเช่นก่อนกาล ขอได้ไหมขอให้เป็นเช่นกาลก่อน มิอาจย้อนกาลกลับตามขับขาน อันรักแท้มิแปรผันไปกับกาล คงโหยหาชั่วขัยขานจนกาลวาย __________________________ พอ 17 เม.ย. 2552 สิ่งสำคัญหายไปจากชีวิต กว่าจะรู้สำนึกคิดก็เมื่อสาย เตือนท่านผู้พ่อแม่อยู่ไกลใกล้กาย ทดแทนเถิดอย่ารอสายจนเกินกาล __________________________
18 เมษายน 2552 01:22 น. - comment id 974219
18 เมษายน 2552 16:41 น. - comment id 974321
ทั้งหมดนั้นเพราะท่านรักหรอกนะคะ
21 เมษายน 2552 12:48 น. - comment id 975006
สวัสดีค่ะ เด็กดื้อเด็กซนคือเด็กฉลาดนะคะ วัยแห่งการเรียนรู้ค่ะ
26 เมษายน 2552 10:49 น. - comment id 977320
สวัสดีครับ คุณ ฉางน้อย นรศิริ somebody ขอบคุณครับที่แวะมาเยี่ยม และให้กำลังใจครับ