๏ เขาบอกงานเราห่วยห่อกล้วยแขก เขาบอกแลกเป็นไข่อาจได้สอง เขาบอกช่างทุเรศเปรตไม่มอง กลอนก่ายกองน้ำเน่าอย่าเอามา "คนโง่งมงี่เง่าเสือกเล่าร่าย แสนเปล่าดายเขียนไปก็ไร้ค่า" ทุกผลงานเขาคล้ายไม่ชายตา "หยุดดีกว่า"..เขาบอกตอกย้ำเรา "ยามแวะอ่านก็ยิ่งสิ้นศรัทธา เหมือนคนบ้าดัดจริตผิดแผกเผ่า ไม่อยากเสียเวลามาขัดเกลา ขี้เกียจสอนตุ่นเต่าดุ่มเดาเดิน" ทุกชิ้นงานสุดห่วยเกินช่วยได้ เปรียบขยะกองใหญ่เขาได้เกริ่น รับรู้แล้วละเหี่ยใจไม่เพลิดเพลิน ถูกเขาเมินเหยียดหยามประณามงาน "อยากจะเป็นกวี โธ่ ! ขี้ครอก เขียนจนหงอกขึ้นหัวมั่วสื่อสาร อยากเด่นดังจงยั้งไว้ในสันดาน เขียนที่บ้านเก็บไว้อย่าได้โชว์" เขาพูดนั่นพูดนี่เหมือนชี้ชัด เราเปล่าขัดเพราะใจไม่โมโห เป็นกวี แล้วไง ? .. รึ ใหญ่โต ? ไม่เคยโง่ หรือไร ? .. ไอ้กาวี ๚ะ๛
18 มีนาคม 2552 16:27 น. - comment id 964860
ตลอดเวลาที่เขียนกลอน ไม่เคยนึกถึงคำว่ากวีเลย เพราะรุ้ตัวว่า..ฝีมือไม่ถึง อย่าได้เอามาเปรียบให้กระดากใจ... ขอแค่ให้ได้เขียนกลอนอย่างที่เรารัก ขอแค่ให้อยุ่ในหมุ่เพื่อนฝุงนักกลอนคอเดียวกัน แลกเปลี่ยนซึ่งกันอ่านก็พอแล้ว... กวี..ทำไมถึงอยากเป็นกันนัก... แค่เขียนกลอนเพราะใจรัก..ยังไม่พอหรือ.. ถามลมฟ้าอากาศรอบตัวเล่นๆครับ สบายดีนะครับ..คุณอัลมิตรา... ผมว่าฝีมือขนาดคุณ..อย่าคิดมากเลย.. ถามคนในเวปนี้ดูได้..ใครบ้างว่าคุณด้อยฝีมือ ผมคนหนึ่งล่ะที่ชื่นชม.... คนที่น่าสงสารที่สุด.. คือพวกอัตตาสูง..หลงตัวเอง คิดว่าตัวเองเหนือกว่าใคร... กวีตัวจริงเขาไม่ยกตนข่มท่าน มีแต่อ่อนน้อมและเมตตาไม่ใช่หรือ... อย่าไปให้ความสำคัญเลยครับ... เขียนกลอนของเราต่อไปดีกว่า ว่างๆจะเข้ามาอ่านนะครับ....
18 มีนาคม 2552 16:28 น. - comment id 964862
...สวัสดีครับ...คุณอัลมิตรา... นำ "ลำนำไพร่" จากกล่องกลอนของ.. "กวี ซีม่า"...มาร่วมแจมด้วย... โลกแห่งรัก อักษรา ภาษาสวรรค์ ยังมีแบ่ง ชนชั้น กระนั้นหรือ ? ร้อยลำนำ คำของไพร่ ไร้ฝีมือ ภาษาสื่อ สถุลทราม ต่ำวาจา ลิขิตคำ ของไพร่ ไม่เปรื่องปราด กลอนตลาด แพร่หลาย จึงไร้ค่า คำแบ่งคน ชนแบ่งชั้น กั้นชีวา แยกแผ่นดิน ห่างแผ่นฟ้า สุราลัย ขณะโลก จำเริญไกล ไปลิบลับ ยังติดกับ ระบบเก่า เจ้าและไพร่ ยังปิดตน ปิดตัว ปิดหัวใจ ขลุกอยู่ใน รั้วแคบแคบ แบบกังวล หยันเหยียดหยาม ประณามค่า แห่งมานุษย์ ศักดิ์ต่ำสุด เยี่ยงไพร่ ไร้เหตุผล ผู้ดี-ไพร่ อะไรต่าง ระหว่างคน สีเลือดข้น ที่แฝง แดงเหมือนกัน ยุคสมัย ไร้พรมแดน โลกแสนกว้าง อารมณ์ค้าง คลั่งอัตตา ดูน่าขัน กระแสโลก เปลี่ยนไป ไวทุกวัน เลิกแบ่งชั้น กันอยู่ นะผู้ดี ได้สถิต เทวาลัย มไหศวรรย์ เสพสุขสันต์ นั่นเพราะไพร่ ให้ภาษี เย้ยไยไพ ไพร่ฟ้า ประชาชี ย่อมไม่ใช่ เมธี ที่แท้จริง ....สร้างผลงานของเราต่อไปเถอะ... อย่าไปแคร์มัน...ช่างแม่งมัน... "กวี ซีม่า" โดนมานักต่อนักแล้ว... เพราะถูกแบ่งข้าง-แบ่งค่าย-แบ่งขั้ว-นี่แหละ.. จึงมีนามปากกา "ซีม่า" เกิดขึ้น...
18 มีนาคม 2552 16:28 น. - comment id 964863
ใครน๊า ว่ามาได้ เขียนเมื่อไหร่มีคนอ่านตรึม ท่องไว้ค่ะ โกรธคือ โง่ โมโห คือ บ้า สุดยอดค่ะ
18 มีนาคม 2552 16:40 น. - comment id 964881
สวัสดีค่ะ แวะมาส่งกำลังใจให้นะคะ สู้สู้ค่ะ
18 มีนาคม 2552 16:46 น. - comment id 964883
น่านน..งานเข้าอีกแล้วคราบพี่น้องคราบบบ ขัดใจวัยรุ่นจังเลยคุณอัลฯ อิอิ ใครกันหนอมาว่างานเขียนที่กลั่นออกมาจากมันสมองล้วนๆได้คะนี่.. จะดีไม่ดี ก็ดีกว่าไปลอกใครมาอะค่ะ ฟันธง ฉับๆๆ
18 มีนาคม 2552 16:58 น. - comment id 964900
จริงอย่างพี่แบมว่านะค่ะ กลอนของเรา เราคิดเอง เขียนเอง ไม่ได้ลอกใครมา อย่าไปสนใจเลยค่ะ พี่อัลมิตรา เป็นกำลังใจให้เสมอนะค่ะ
18 มีนาคม 2552 18:03 น. - comment id 964941
ขอเป็นกำลังใจให้คุณปีกฟ้า คุณอัลมิตราและทุกคนในบ้านกลอน พวกเราเนี่ยแหละกวีตัวจริง เป็นกวีด้วยใจรัก ด้วยหัวใจ มีบ้านนี้แหละค่ะที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้แต่งกลอน ได้เขียน จะถูกผิดก็ไม่ว่ากัน มีน้ำใจให้เสมอ ขออยู่ที่นี่ไปตลอด
18 มีนาคม 2552 18:12 น. - comment id 964950
:) ไม่เอาน่าอย่าคิดมาก.. ไว้มาที่ร้านจะเลี้ยงไอติม..
18 มีนาคม 2552 19:08 น. - comment id 964991
ผมไม่รู้เรื่องนะขอรับ ทำไมกันกลอนที่มีคุณค่ากลับถูกมองข้าม คนที่มองข้ามกลอนที่มีคุณ คงเป็นพวกโง่งมหาความเป็นกวีไม่ได้จริงๆ ปล.เป็นกวีนี่ต้องเสียภาษีนะขอรับ เพราะว่ากวีก็ทำงานอื่นเหมือนกันเลยต้องจ่ายภาษีรายได้บุคคลธรรมดา
18 มีนาคม 2552 20:23 น. - comment id 965026
อ้าว..ไปพักผ่อนหย่อนก้น เอ้ย หย่อนใจมา ไหงอารมณ์บูดเสียล่ะเนี่ย หรือว่าอากาศร้อนล่ะท่านนายกฯ 555
18 มีนาคม 2552 21:21 น. - comment id 965076
..แหม..เข้าใจว่าอะคุณอัล.. กาวี...หุหุ
18 มีนาคม 2552 22:24 น. - comment id 965136
โห...แล้วเราจะไปเหลือรึ.. โมโหไผมาละเอื้อยอิม..
19 มีนาคม 2552 00:07 น. - comment id 965143
งานกาวีมากมายคนไม่อ่าน แค่มองผ่านแล้วกราบคำนับให้ เป็นรูปเล่มปกทองผ่องอำไพ วางไว้ไหนก็คงอยู่ตรงนั้น สู้กลอนห่อกล้วยแขกก็ไม่ได้ ยื่นให้ใครเคี้ยวกลืนถึงขึ้นสวรรค์ กลอนก็หวานกล้วยก็หวานอ่านแล้วมัน ทั้งปากทั้งมือพลันมันแผล็บเอย
19 มีนาคม 2552 08:35 น. - comment id 965198
หวัดดีคับ...คุณอัลมิตรา มาแล้วคร๊าบบบบ....แนวร่วม...!!! โอ่ะโอ๊ะ...ไม่ช่าย..."ใครลอก"...นี่หว่า....... แหมะ...คุณอัลฯออกแนวดุ...เด้วไม่สบาย...เป็นโรคเครียดนา..... เอาว่า..."กาวี"ไม่ว่าจะเป็นใคร? รึใคร(คนอื่นคนไหน)..ก็ตาม... ถ้าเขาเป็นอย่างที่คุณอัลฯกล่าวกลอนไว้...เขาก็คงไม่สามารถพูดจากับ...ใครได้นานหรอกคับ... บทประพันธ์ของเขาอาจเลิศเลอ... แต่นิสัยคง"ใช้ไม่ได้"...เอามากๆ... กวี...คือ...ผู้ที่เป็นผู้รู้ในศาสตร์แห่งภาษา....ผู้ชำนาญในการใช้ภาษา...มีความชำนาญในการประพันธ์...ทั้งบทร้อยกรอง ร้อยแก้ว... นั้น..คงเป็นความจริง...ที่อยู่ในสมอง...ของ..."กาวี"... แต่...กวี...ยังหมายถึง...ผู้ที่ "ชื่นชอบ"ใน"การดังกล่าว"..อยู่เป็นนิจด้วย... ดังนั้น...กวี...จึงหมายคลุมถึง...ผู้ที่มีความชอบและหลงไหลในการมองและกลั่นกรองความคิด...ออกมาเป็นภาษากวี...ด้วย....แม้ว่า...จะมีความรู้ทางภาษา...เพียงน้อยสักเพียงใดก็ตาม... พวกเราทั้งหมด...นี่แระคับ...กวี...ในแง่จิตใจ...ผู้หลงไหลในมิตรแห่งตัวอักษร...หยิบยื่นความสุข...ให้แก่กันและกัน...อย่างอิ่มเอมได้เรื่อยๆ... แล้ว...คิดว่า...กาวี...จะมีบ้างไหม...สิ่งเหล่านี้...??? สรุปว่า...กวี...ไม่ใช่เฉพาะ ผู้รู้ฯ...แต่ยังรวมถึง ผู้ที่ชื่นชอบด้วย...ว่างั้นเถอะ... ถ้าเขาไม่เข้าใจ...ตามนี้... ก็คุยกัน...ม่ายด้ายยยยหร็อก...... รักษาสุขภาพด้วยนะ...คุณอัลฯ....อย่าเครียดๆๆ
19 มีนาคม 2552 11:29 น. - comment id 965267
19 มีนาคม 2552 13:24 น. - comment id 965317
งั้นสงสัยต้องปล่อย ให้เขาฉลาดล้ำต่อไป เพราะคุณกาวีนั่น คงไม่เคยโง่แน่ๆเลย อิอิ
19 มีนาคม 2552 13:49 น. - comment id 965328
จั๊กกรู่...แหมถ้าผลงานเราได้ไปเป็นถุงกระดาษก็ดี ลดโลกร้อน เหอๆๆ
19 มีนาคม 2552 15:09 น. - comment id 965390
แค่ไหน..ถึงจะเรียก..กวี.. เป็นแล้วตอนนี้ยังไม่มียารักนะ.. เอิงเงย.. สุขอย่าได้สร่าง
19 มีนาคม 2552 20:43 น. - comment id 965625
เกม สวัสดี พี่อิม ครับ ถึงน้ำจะเน่าแต่ก็ยังเห็นเงาจันทร์เนอะ พี่อิม เนอะ ห่างหายจากการเม้นไปนาน เพราะติดภาระกิจอยู่ต่างจังหวัด แต่ เกม ก็คิดถึงบทกลอนเพราะๆของ พี่อิม เท่าฟ้าเลยอ่า อิอิ
19 มีนาคม 2552 20:59 น. - comment id 965634
ที่เขียนกลอนชุดนี้ ก็เพราะอ่านงานของคุณลานเทวา แล้วเกิดรู้สึกคล้อยจนคิดเขียนต่อยอดความรู้สึกที่เคยเป็น ไม่ได้เป็นกวี .. ไม่คิดจะมีอาชีพสุนทรีขนาดนั้น ทุกวันนี้ทำมาหาเลี้ยงตัวเองด้วยอาชีพสุจริต เงินทองมีใช้ไม่ขาดมือ ไม่เคยเป็นหนี้เป็นสินใคร แถมยังเป็นคนค่อนข้างไม่ทันสมัย เพราะไม่มีบัตรเครดิต พูดถึงบัตรเครดิตนะ .. หมู่นี้ไม่รู้เป็นไง มีแต่คนโทรมาหาชวนให้สมัครจังแฮะ บางทีโทรมาที่โต๊ะทำงาน บางทีโทรเข้ามือถือ ไม่รู้ไปเสาะหาเบอร์โทรมาได้ไง ช่างมีความพยายามสูง แต่ก็เลี่ยงไปเรื่อย ประชุมบ้าง ไม่มีเวลาบ้าง ปวดท้องบ้าง มีครั้งหนึ่ง นึกสนุก พอถูกชวนก็เลยบอกว่า " จะดีเหรอเนี่ย จะต้องขึ้นศาลมะรืนแล้ว เรื่องถูกฟ้องล้มละลาย" โป๊ะเชะ .. ขำก๊าก อีกฝ่ายวางสายแทบไม่ทัน ขำนะ พฤติกรรมของคนเรานี่ก็แปลก อ้าว อ้าว .. อัลมิตราโม้นอกเรื่องไปแล้วกระมัง วกกลับมาใหม่เรื่อง กาวี กวี .. ทำนองนี้ ลองกลับไปอ่านกลอนเก่าที่อยู่ในกรุของอัลมิตราสิ ใครไม่ขำให้เตะ (กุ้งก้ามกราม) เพราะว่า มีทั้งเขียนผิด เขียนไม่รับสัมผัส แถมเขียนบ้าบออีกต่างหาก จนกระทั่งทุกวันนี้ งานเขียนก็ไม่ได้พัฒนาไปสักเท่าไหร่ อันนี้รู้ตัว ทีนี้ จะทำไมล่ะ ถ้าอัลมิตราไม่อยากพัฒนาฝีมือตัวเอง เชื่อไหม ? อัลมิตราไม่เดือดร้อน แต่ก็มีบางคนรู้สึกหงุดหงิด ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ทำไม มันแปลกดีนะ .. ทั้งที่ไม่อยากถูกนำไปเปรียบเทียบ แต่ก็มักจะถูกหยิบยกไปเปรียบเทียบอยู่เรื่อย "อัลมิตราเขียนมานานแล้ว ฝีมือยังงั้น ๆ ไม่ได้พัฒนาเลย" "อัลมิตราชอบหาเรื่องคนนั้นคนนี้ ชอบชวนทะเลาะ" "อัลมิตราไม่เหมาะ ไม่สมควรจะอยู่ให้เป็นที่เกะกะลูกตา" อะไรกันว๊า .. สงสัยจะผิดหวังในตัวอัลมิตราเป็นอย่างมาก โธ่ .. เขียนได้ก็บุญโขอยู่แล้ว อ่านคนเดียว สุขเอง ก็ได้ว๊า
19 มีนาคม 2552 21:19 น. - comment id 965644
คุณแมวคราว .. โดยปกติแล้ว อัลมิตราเขียนแบบไม่มีพล็อต ซึ่งถือว่าเป็นตัวอย่างที่ไม่สมควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง เพราะความที่ไม่มีพล็อตนี่เอง ทำให้เขียนไม่ได้เรื่อง ไม่ใช่ว่าไม่รู้นะ รู้ .. แต่ก็ยังจะทำแบบนั้นร่ำไป คงเป็นนิสัยอ่ะ อัลมิตราเห็นด้วยกับคุณนะ กับคำว่า "กวีตัวจริงเขาไม่ยกตนข่มท่าน มีแต่อ่อนน้อมและเมตตา" แบบนั้นเลยล่ะ อัลมิตราเคยไปเจอหลาย ๆ ท่านมาแล้วในแวดวง ก็ใช้ชีวิตปกติ สงบ เรียบง่าย .. ค่ะ บ๊ะ มายอกันระยะเผาขน .. ปูเหลียวลอยนะ ปล. คนที่ลอกกลอนของคุณยังอยู่ดี อ้วนท้วนสมบูรณ์ คุณกวีซีม่า .. ดีจังแฮะ ลำนำไพร่ ภาษาง่าย ๆ ที่ไม่ต้องใช้ภาษาเทพ ที่จริงการเลือกใช้คำง่าย ๆ เขียนแล้วใครต่อใครอ่านแล้วเข้าใจ ดีกว่าอ่านแล้วต้องถือตำราพลิกไปพลิกมาเพื่อหาคำแปลอีกทอด น่าจะเป็นการเข้าถึงจิตใจของผู้อ่านได้มากกว่านะ คิดแบบนั้นด้วยไหมคะ คุณแจ้น .. โกรธก็หิว โมโหก็หิว คนที่ทั้งโกรธและโมโห ขอให้หัวล้านและลงพุง ... ๕๕๕๕ ดีไหมคะ คุณ somebody .. เป็นกำลังใจซึ่งกันและกันค่ะ คุณแก้วประภัสสร .. ช่ายแล้ว เขียนให้ห่วยเข้าไว้ จะได้ไม่มีคนมาลอก และถึงแม้คนลอกจะตาถั่วลอกเอาไป มันผู้นั้นก็จะขายหน้าเองที่หลับหูหลับตาลอก ... ฮา คิดบวกนะเนี่ย คุณประทีปดาว .. :) คนเขียนกลอนมีความสุขแล้วล่ะตอนที่ได้เขียน คุณอนงค์นาง .. ปีกฟ้าขโมยซีนอ่ะ ป๊าดธ่อ ป่านนี้ปีกฟ้าเดินตามแหม่ม USA ต้อย ๆ ไปแล้วนั่น คุณอนงค์นางรู้มั๊ย เวปกลอนในอินเตอร์เน็ตมีมากมายเยอะแยะ ประเภทที่ถูกจัดเปรียบเทียบกับเวปนั้นเวปนี้ ก็มีนะ แต่ก็เป็นบางคนเท่านั้นถือไม้บรรทัดคอยวัดเป็นเกณฑ์ มีจริง ๆ นะ คนแบบนั้นน่ะ ... เชื่อสิ คุณกุ้งหนามแดง .. แบบนี้ พลาดไม่ได้แล้ว ไว้จะชวนเจ้าต้นปีไป .. ไอติมน่ะ กินจุนะขอบอก มีอยู่ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ผ่าตัดทอลซิลหมด ๆ แล้วเพื่อนคนหนึ่งซื้อไอศกรีมมาฝาก 1 ถัง อัลมิตรายังเจ็บคอ กินได้แต่ของนิ่ม ๆ อ่อน ๆ ก็เลยกินซะเกลี้ยง จนหมอปวดเฮด เพราะวัดปรอทไม่ได้อ่ะ คุณวนกวี .. เฮ้ย ถ้าชื่อตรงกับที่อัลมิตราเขียนล้อ ต้องขอโทษด้วยนะ พอดีว่า อัลมิตราเขียนแบบที่อยากเชื่อมอารมณ์ต่อจากคุณลานเทวา ถ้าไง หารกับคุณลานเทวาละกัน งานนี้ถ้าผิด อัลมิตราก็ต้องหาตัวช่วยล่ะ คุณกุ้งก้ามกราม .. โหย ไม่อยากจะบอก เหนื่อยน่ะ ไม่เท่าไหร่ แต่ไอ้ง่วงนี่สิ ขนาดยืนยังจะหลับเลย เดินก็ช้า แถมเดินชนต้นไม้ นี่ ไม่กล้าบอกเพื่อนนะเนี่ย กลัวถูกล้ออ่ะ เจ็บหน้าผากชิป. คุณกิ่งโศก .. กา V .. เขียนแบบไม่มีสาระอ่ะ เอาสนุกก็พอ คุณครูพิม .. เหลือดิ เหลือตั้งหลายกิโลแน่ะ ม้าลาย .. ขำอ่ะ ม้าลายชอบกินกล้วยแขกมั๊ย อัลมิตราชอบนะ แต่ตอนนี้ต้องเพลา ๆ หน่อย ไม่งั้นน้ำหนักจะขึ้นฮวบ ๆ แถวบ้าน มีอยู่ร้านหนึ่งนะ ป้าแก่ ๆ ขาย กล้วยแขกทอดมีงาด้วยล่ะ คุณkirati .. ดุเหรอ อัลมิตราดุหรือเนี่ย แหะ แหะ ลองอ่านที่คุณลานเทวาเขียนนะ นั่น ดุอย่างแรงเชียวล่ะ ที่จริง อัลมิตราอยากหัดเขียนให้ได้สำนวนแบบนั้นบ้างนะ มีอีกคน ชื่อ สิงหา สัตยา นี่ก็เขียนแบบผู้ชาย ขนาดกลอนหวาน ยังไม่หวานเชื่อม อ่ะ กลายเป็นหวานแบบโหด ๆ เอาไงดีนะ ยกตัวอย่าง เหมือนหนังไง ตบจูบ ตบจูบ จำเลยรัก ไม่หวาน เหมือน ความจำสั้นแต่รักฉันยาว อ่ะ คุณธนา .. เปลี่ยนเป็นดอกทิวลิปก็จะดีนะ เนี่ย คุณยาแก้ปวด .. อื้อ เกิดมาก็คงเขียนกลอนได้เลย 555 คุณมณีจันทร์ .. ต้องใช้ซ้ำบ่อย ๆ หลายหนด้วย ถึงจะดี 555 คุณคอนพูทน .. ต้องใช้ซีม่าช่วยนะ แบบว่าขี้กลาก ฮา.. คุณเกม .. วันนี้ที่กรุงเทพฝนตกด้วยล่ะ อยากให้ม็อบไปที่สนามหลวงจัง พรุ่งนี้จะได้หาเรื่องเบี้ยวไม่ต้องไปช่วยขายของออกบูธที่นั่นอ่ะ
21 มีนาคม 2552 22:17 น. - comment id 966087
ยอดหญิงสุดสวย อิอิ ผมก็เจอเหมือนกันนะ แต่ผมไม่ถือสา เจตนาคือหาความสนุกสนาน ระบายอารมณ์เท่านั้น มิคิดจะแข่งขันใคร่ เขาว่า ผมแต่งได้ไพเราะแต่ไร้คุณค่า ช่างเถอะยอดหญิง คนรักเท่าผืนหนังคนชังเท่าผืนเสื่อยากจะเกื้อเอื้อ คำตอบ เสียอารมณ์เปล่านา อิอิ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
22 มีนาคม 2552 20:42 น. - comment id 966289
คุณแก้วประเสริฐ .. :) ไม่มีอะไรจริง ๆ นอกจากหาหัวข้อเขียนไปเรื่อย ๆ สองวันนี้ อัลมิตราหลับกลางวันสนิทนัก คงเพราะวันศุกร์ตลอดทั้งวันทั้งคืนไม่ได้นอน มีภาระกิจนิดหน่อยที่สนามหลวง (ไม่ได้ไปชุมนุมนะ)
23 มีนาคม 2552 09:34 น. - comment id 966341
คุณอัลมิตรา..จ๋า..ทักเหน่อยจังเลย