มองฟ้ากว้างจันทร์สว่างกลางเมืองใหญ่ หนึ่งหัวใจก่อร่างสร้างความฝัน อุปสรรคนานากล้าฝ่าฟัน คอยมุ่งมั่นผ่านสมองและสองมือ ความฝันนั้นเพ้อเจ้อและเย่อหยิ่ง สวนความจริงที่ใครได้ยึดถือ เกียรติยศใดเล่าเขาเลื่องลือ เพียงสร้างชื่อเพื่อแสร้งชมอุดมการณ์ คนมากมายตะกายดาวบนราวฝัน หวังสักวันส่องระยับจับแสงฉาน หวังโดดเด่นเป็นดาวดั่งตำนาน ทิ้งวิญญาณวอดวายดาวรายเรียง โปรดอย่าปั้นฉันเป็นดาวบนราวฝัน มิอาจสรรค์งานสวยด้วยชื่อเสียง มิอาจเขียนบางคำทำเลียบเคียง ขอเป็นเพียงดวงดาวในวาวตา
18 กุมภาพันธ์ 2552 07:09 น. - comment id 952415
ดาวในแววตา...หรือดาวในหัวใจ ยิ่งใหญ่กว่าดาวในราวฝันมากมายครับ
18 กุมภาพันธ์ 2552 07:21 น. - comment id 952420
ดวงดาวที่เด่นสกาวที่ราวฟ้า ทอแสงจ้าแจ่มจำรัสรัศมี แต่ดาวที่เปล่งแสงฉายในฤดี คือดาวที่เลอค่ากว่าดาวใด อรุณสวัสดิ์ค่ะ..
18 กุมภาพันธ์ 2552 09:56 น. - comment id 952456
ความหวังและความฝันจะฉุดให้เราก้าวต่อไป ไม่ท้อถอย..หากไม่มีหวังหรือฝัน ชีวิตคงลอยล่องอย่างไร้จุดหมายแน่ๆ
18 กุมภาพันธ์ 2552 17:06 น. - comment id 952642
จะฝ่าฝันทุ่งดาวในเมืองใหญ่ ก็ต้องใช้ความฝันประกอบเข้า ปืนป่ายก้อนดินสู่ดวงดาว แม้ใจร้าวยังจักต้องปีนต่อไป
19 กุมภาพันธ์ 2552 00:41 น. - comment id 952867
มีคนเขาเคยกล่าวไว้ว่า... หากจะมองพระจันทร์...ให้มองที่เงาสะท้อนในน้ำ เราจะได้ไม่ต้องไปเงยหน้ามอง...สิ่งที่สูงส่ง เราจะแลเห็นเพียงสิ่งที่สวยงาม ดวงดาวก็เช่นกัน ..... กี่หมื่นล้านดวงบนทางช้างเผือก ...หรือจักรวาลอันไกลโพ้น ดาวดวงไหน .. หรือดาวดวงใด คงไม่วิบวับสวยสดใส ไปกว่าการที่เรา เห็นดวงดาวในแววตาใครสักคนที่จ้องมองเรา ....มันมีค่ามากกว่าดาวดวงใด ..มิใช่หรือ?
19 กุมภาพันธ์ 2552 14:59 น. - comment id 953003
จะอย่างไรไม่สำคัญ ขอเธอนั้นเห็นค่าฉัน เท่านั้นพอ