๏ กี่ร้อยคนวนเวียนมาเขียนอ่าน กี่บทกานท์ลำนำร่ายคำผสม กี่ความเห็นเน้นถ้อยร้อยชื่นชม กี่คารมหว่านล่อก่อปรารถนา เรานั่งอ่านนานแล้วหลายแนวบท บ้างปรากฏวรรณวลีสุนทรีค่า บางบทกลอนผ่อนคลายสบายอุรา คราวเฮฮาพวกพ้องชวนมองเมียง พลิ้วอารมณ์พรมพร่างเส้นทางฝัน เฉกสีสันระบายแต้มแซมเส้นเสียง ให้บังเกิดความงามยามพร้อมเพรียง ศาสตร์เจรียงประดาศิลป์จินตนาการ เราคิดเขียนเขียนได้เพราะไร้กฏ คราวโศกสลดด้วยเหตุเภทภัยผ่าน ใคร่บรรเลงเชลงพจน์ปลดร้าวราน กลบฟุ้งซ่านดับร้อนจนผ่อนคลาย เราคิดเขียนเขียนได้คราใจสุข สืบเสาะมุขขบขันสารพันขยาย ใคร่หยอกเย้ายั่วแหย่แม้ห่างกาย เผื่อสหายเสสรวลชวนต่อกลอน เราคิดเขียนเขียนได้ตามใจสรรค์ ค่อยบรรจงแปลงปั้นผันอักษร เมื่อหัวใจปรารถนา ฤๅ อาวรณ์ ถึงเชิงอ่อนสติด้อยปราศน้อยใจ คราจอมปาดผาดแผลงตะแบงติ แถมดำริขัดเคืองคล้ายเรื่องใหญ่ เราแค่อ่านแล้วเขียนผิดเพี้ยนใด แสนสงสัยไฉนขึ้งคิดตรึงตรวน หลากผู้คนวนเวียนมาเขียนอ่าน อาจพบพานมิตรสหายคราไต่สวน อาจพบพาลมารร้ายหลายกระบวน ทุกอย่างล้วนปะปนบนลานกลอน ๚ะ๛
15 มกราคม 2552 17:24 น. - comment id 936536
ฉันเขียนกลอนเพราะรักในอักษร กาพย์โคลงกลอนร้อยเรียงสำเนียงฝัน พบมิตรมากไมตรีมากำนัล มิแข่งขันกับใครใจสุขดี เรือนบ้านนี้แสนสุขทุกครั้งคราว หลากเรื่องราวสีสรรวันสุขขี ร่ายอักษรกลอนกานท์อ่านเข้าที มากไมตรีสหายหลายมุมเมือง เห็นด้วยทุกประการเจ้าค่ะ
15 มกราคม 2552 18:16 น. - comment id 936569
คิดเสมอว่าสมาชิกทุกท่านมีพื้นฐาน การแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง เลือกสรรและเสพสารเท่าที่เราต้องการ ครับผม...แต่ส่วนใหญ่น่ารัก
15 มกราคม 2552 18:24 น. - comment id 936570
สนามอักษร.. ร่วมปะปนบ้าง..ทางเกลียวกลอน.. สุขอย่าได้สร่าง
15 มกราคม 2552 18:36 น. - comment id 936573
อย่าให้สุนทรีนี้จมกับลมสิ้น ด้วยใจจินต์ผองเราเฝ้าปราถนา ปลุกอักษรมาระคนจนงามตา ควรเลอค่าเราชาวกลอน...กวีของแผ่นดิน.. แบบว่า...ภาษางามได้ด้วยการจรรโลงครับ
15 มกราคม 2552 19:03 น. - comment id 936579
แอบอ่าน แอบยิ้มเฉยๆคะ
15 มกราคม 2552 19:35 น. - comment id 936582
วันแรกเขียนไปเพราะใจเศร้า วันสองเราสุขใจเพราะได้มิตร วันสามเรียนรู้กวีนี้ด้วยจิต เพราะไม่เคยที่จะคิดมาเขียนกลอน แต่ละวันซึมซับรับสิ่งดี จึงรีบรี่เปิดตำรามาคอยสอน ได้เพื่อนพี่น้องอีกคอยอาทร สุดท้ายกลอนก็ขับกล่อมย้อมใจเรา ห่างวันไหนเหมือนขาดอะไรอย่าง เหมือนอ้างว้างอยู่คนเดียวแสนเปลี่ยวเศร้า พอเข้าบ้านเขียนกลอนก็บรรเทา นี่แหละเขาเรียกกวีที่หัวใจ บางบทกลอนพลิ้วไหวไปตามบท อยู่ที่เราจะกำหนดให้อ่อนไหว อารมณ์กลอนบางบทแสลงใจ แต่ยิ้มได้เพราะไม่คิดและติดความ พอก่อนค่ะ บอกความในใจเกี่ยวกับตัวเองไปซะเยอะเลยค่ะ
15 มกราคม 2552 22:01 น. - comment id 936628
ทุกบทย่อม กลั่นผ่าน...หลากอารมณ์ ทุกคำคม กลั่นผ่าน..หลากสมอง ทุกบาทร่าย กลั่นผ่าน หลากมือกรอง ทุกเรื่องร้อง กลั่นผ่าน หลาก..ผู้คน.. .........งานเขียนร้อยกรอง คือ การสร้างความงดงาม ทางภาษา..ผ่านทางอารมณ์คนเขียน.. เห็นพ้องกับคุณอัลฯ นะครับ..
15 มกราคม 2552 22:12 น. - comment id 936640
555 เดี๋ยวนี้สารปนเปื้อนมันเยอะน่ะ เลยทำให้ผู้บริโภคอาจอึดอัดรำคาญใจบ้าง
15 มกราคม 2552 22:31 น. - comment id 936655
จริงๆทุกคนเลือกได้ จะอ่าน จะไม่อ่านของใคร ก็ได้ ตัวเองเท่านั้นที่รู้ ส่วนใหญ่ในบ้านกลอนเป็นกวีโดยกำเนิด เพราะทุกคนมีความคิดความอ่านที่กลั่นกรอง ก่อนเป็นงานเขียนที่มีสาระ มีข้อคิด มีข้อเตือนใจ หรือบางครั้งอ่านแล้วก็ผ่อนคลาย โดยรวมบ้านกลอนก่อประโยชน์มากกว่า ผลเสีย ผู้บริโภคคงต้องเลือกเองคับ
16 มกราคม 2552 10:35 น. - comment id 936791
ก็มีมากมายหลายแนวคิด ที่เข้ามาถ่ายถอดผ่านตัวหนังสือ ทำให้ได้เรียนรู้และมองเห็นในสิ่งที่ต่างออกไป ได้เป็นอย่างดีค่ะ
16 มกราคม 2552 12:18 น. - comment id 936842
แวะมาเพียงป้วนเปี้ยน
16 มกราคม 2552 14:18 น. - comment id 936886
ทำไมไม่รู้นึกถึง อาหารเหนือ "แกงโฮะ" เลยอ่ะ เอาอาหารแต่ละชนิดมาผสมกันและเพิ่มผักบางอย่างลงไปได้เมนูใหม่ที่อร่อยมากมายแม้จะมีความแตกต่างหลากหลายอยู่ในเมนูนี้
16 มกราคม 2552 14:23 น. - comment id 936887
แกงโฮะ ในสมัยก่อนเวลาทำบุญบ้านหรืองานบุญต่างๆ มักจะเตรียมของที่ทำอาหารไว้จำนวนมาก ในสมัยก่อนการนำเอาแกงต่างๆ ที่เหลืออยู่ในหม้อ (หลังจากที่ตักรับประทานอิ่มแล้ว) รวมทั้งผักและเนื้อสัตว์ต่างๆ ที่เหลือจากการเตรียมมาทำแกงโฮะ ซึ่ง โฮะ เป็นภาษาเหนือ หมายถึง เอามารวมกัน คนไทยในแต่ละภาคมีวิธีการรับประทานผักอย่างหลากหลายแล้วแต่จะดัดแปลงกรรมวิธีอย่างไร แกงโฮะก็เป็นอาหารที่ปรุงจากผักหลายชนิดคล้ายกับอาหารหลายๆ อย่างของคนไทยภาคอื่นๆ ถ้าหากนึกถึงแกงก็มักจะนึกภาพแกงที่มีน้ำแกง จะมากน้อยหรือขลุกขลิกก็แล้วแต่ ส่วนแกงโฮะจะเป็นแกงที่แห้งๆ คล้ายผัด ซึ่งก็เป็นเอกลักษณ์ที่สำคัญของแกงโฮะ ปล. เข้ากันเปล่าไม่รู้แต่ชื่อบทกลอนของ อัลมิตราทำให้นึกถึง แกงโฮะ อ่ะ...
16 มกราคม 2552 18:21 น. - comment id 936944
เห็นด้วยทุกประการค่ะ มากคนก็หลายความและล้วนหลากอารมณ์
16 มกราคม 2552 21:39 น. - comment id 936976
คุณยาแก้ปวด .. อื้อ มาจากหลากหลักแหล่งก็นัดพบกันที่ลานกลอนนี้ได้ อัลมิตรามีเพื่อนมากมายกระจายไปทั่วทุกภาค ต่างทวีปก็ยังมีค่ะ บางคนคุยกันตั้งนาน ไม่จำเป็นต้องรู้จักตัวตนกัน ก็มีสัมพันธไมตรีต่อกันเรื่อยมา บางคนที่รู้จักตัวตนกันแล้ว ปะเหมาะผิดใจกันด้วยบางเรื่อง ก็กลายเป็นข่าวครึกโครม ที่จริงแล้ว มีความสุขกับสถานที่ก็เพียงพอแล้ว คิดงั้นนะคะ คุณอินสวน .. :) เหมือนต้นไม้ในป่า มีทั้งไม้ดอก ไม้ผล พุ่ม ต้น คละเคล้ากันกลายเป็นพงไพร ซึ่งต่างก็มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง อ่านใจของคน อ่านได้บ้างจากตัวอักษรค่ะ :) คุณคอนพูทน .. ต้องมีแตกต่าง จึงจะมีสีสันค่ะ เหมือนระบายสี แซมสีนั่นบ้าง โน่นบ้าง บางทีก็ดูดีกว่าแรเงาทึม ๆ นะคะ คุณจอมปราชญ์ .. ภาษาไทยต้องจรรโลงค่ะ อัลมิตราเองก็ต้องฝึกหัดอีก วันนี้จัดตู้หนังสือใหม่ เห็นนิราศนรินทร์ ก็ว่าจะเอามาอ่านอีกหนค่ะ คุณฉางน้อย .. วันนี้ไฟไหม้แถว ๆ สาธุฯ ซอย 59 ล่ะ ช่วงก่อนเที่ยงนิดหน่อย ไม่รู้เหมือนกันว่าพรรคพวกมีอยู่แถวนั้นบ้างไหม คุณแก้วประภัสสร .. อัลมิตราเขียนครั้งแรกในเน็ต คือ โคลง ใช้เวลานานพอสมควรเหมือนกันกว่าที่จะลงโพสท์ เพราะกลัวปล่อยไก่ ยังคงต้องกางแผนผังและเหลือบตาดูเสมอว่า เอกเจ็ดโทสี่ วางถูกตำแหน่ง โชคดีที่รายล้อมไปด้วยคนใจดี ช่วย ๆ กันสอนอัลมิตรา ให้คำแนะนำ ในเน็ตนี้ จะว่าไปแล้ว มีทั้งส่วนดีและไม่ดี ขึ้นอยู่กับกาารค้นหาของเราจริง ๆ ค่ะ ชอบคำว่า ..กวีที่หัวใจจัง ไว้จะยืมมาเป็นหัวข้อกลอนนะคะ :) คุณกิ่งโศก .. ทุกถ้อยคำล้วนกลั่นจากสมอง อืมม จริงด้วย เมื่อวานนี้อัลมิตราลอง search ชื่อตัวเองใน google ก็เจอที่กลอนของตัวเองที่เวปอื่น ๆ เยอะ บางเวปก็ลงชื่ออัลมิตรา (ทั้งที่อัลมิตราไม่ได้ไปโพสท์เอง) บางเวปก็ลงว่าส่งต่อมาอีกที ที่ปลื้มก็มีนะ เช่นบทกลอนเกี่ยวกับไหว้ครู เห็นบางโรงเรียนนำไปใช้งาน ก็รู้สึกดี อย่างน้อย นอกจากตัวอัลมิตราเองจะมีความสุขในการได้เขียนกลอนแล้ว หากยังเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นบ้างก็รู้สึกยินดี ค่ะ คุณกุ้งก้ามกราม .. นี่ ๆๆๆ อัลมิตราต้องสั่งใจตัวเองสุด ๆ เรื่องขนมเทศกาลปีใหม่ รู้ตัวว่ากินเค๊ก คุ๊กกี้ ช็อคโกแลตไปเยอะ เลยต้องควบคุมไม่ทานมื้อเย็น นอนหิวแกร่ว บางคืน เสียงท้องร้องโครกครากจนตัวเองตกใจตื่นแน่ะ .. บ้าตาย แต่ได้ผลนะ น้ำหนักไม่ขึ้นอ่ะ คุณวิทย์ .. ใช่แล้ว ทุกคนเลือกได้ที่จะอ่านหรือไม่อ่านของใคร อัลมิตราเคยสงสัยอยู่บ่อย ๆ ในกรณีที่ถูกพาดพิงในกรณีที่อัลมิตราไม่พัฒนา หรือกระทั่งโยงความมาถึงเวปว่า เป็นเวปที่ไม่เอาไหน มีแต่คนห่วยแตกเขียนกลอน จริง ๆ นะ .. เคยได้รับทราบมาเช่นนี้ โดยเห็นเอง ไม่นับกับที่บอกเล่าต่อ ๆ กันมา อย่างที่บอกไงคะว่า เคยสงสัย แต่ตอนนี้ไม่สงสัยเพราะเลิกสงสัยไปแล้ว .. ฮา คุณ krajokngao .. เหมือนอ่านหนังสือหลากรสชาติค่ะ อัลมิตราอ่านนิยายแปล อ่านสารคดี อ่านการ์ตูน อ่านนิทานเด็ก แล้วแต่อารมณ์จริง ๆ ค่ะ คุณมูเซง .. ระวังถูกจับไปเรียกค่าไถ่น๊า คุณโคลอน .. แกงโฮะ แบบในรูปเหรอ อัลมิตราไม่เคยทานนะ ที่เป็นแบบแห้ง ๆ เคยทานแต่ที่อยู่ในหม้อเป็นน้ำแกง สีของน้ำแกงก็ตุ่น ๆ เหมือนสีของน้ำซุปหน่อไม้ ไม่เหมือนในรูปเลย ก็เลยไม่รู้ว่าอัลมิตราทานอะไรลงไป อ้อ นึกออกแล้ว แกงเปรอะ เพื่อนบอกว่า แบบนั้นเรียกว่าแกงเปรอะ ค่ะ คุณแจ้น .. อื้อ มีเพื่อนซี้คนเดียว หรือ สองคน ก็พอแล้ว มีมากเกินไป แทนที่จะซี้ กลายเป็น ซี้ม่องเท่ง แย่เลยค่ะ