เล่าฝัน
ณ.คลองฉวาง
ทุกเรื่องที่เขียนเป็นกลอนนี้
เป็นเรืองจริงเทียงแท้เกิดกับฉัน
หลายนิทราหลายราตรีหลายคืนวัน
แต่ความฝันเหล่านี้นั้นยังฝังใจ
ในราตรีค่ำคืนที่มืดมิด
ฉันนั้นขับมอเตอร์ไซร์ผ่านทางนั้น
พอถึงบ้านหันมองกระจกสองหลัง
ก็มองเห็นคล้ายๆใครในเงามืด
ฉันจึงพูดคนองปากขึ้นมาว่า
สงสัยจะมีใครตามมาด้วย
แม่รีบดุปากเสียจะพาซวย
ลูกเอ๋ยลูกพูดอย่างนั้นได้อย่างไร
ในราตรีคืนนั้นฉันหลับไหล
คล้ายใครอยู่ในห้องฉันกับฉันนี้
ภาพหญิงแก่หมายมุงเอาชีวี
ตาเธอนี้จองเขมงหน้าหวาดกลัว
แล้วในฝันก็เห็นอีกคนหนึ่ง
พูดออกมาเอาชีวิตเขาไม่ได้
เสียงโต้เถียงดังรบกวนในหัวใจ
จึงทำให้ฉันตื่นยามนิทรา
เชื่อหรือไม่เมือฉันตื่นขึ้นมา
เสียงโตเถียงยังอยู่ที่ปลายเท้า
หลับตาปี๋เพราะกลัวเกินบรรเทา
มินานเสียงพวกเขาก็จางลง
ฝืนลืมตาคุณเชื่อคุณเชื่อไหม
เห็นเป็นไฟดวงใหญ่ริมหน้าตาง
ลองลอยออกห่างไปคอยเลือนลาง
บอกหนอยเถอะสิ่งนั้นมันอะไร
อีกวันหนึงฉันนอนตอนกลางวัน
เกิดความฝันที่เรียกว่าฝันร้าย
หญิงชราคนเดิมเข้ามาใกล้
แล้วเอามือบีบคอให้ขาดใจตาย
ฉันดิ้นรนต่อสู้แรงของเธอ
แต่ฉันสู้แรงเธอนั้นไม่ได้
จนบัดนี้อยากรู้เธอเป็นใคร
แล้วทำไมในฝันคิดทำร้ายฉันเรื่อยมา
ฉันก็ท่องบทสวดขึ้นในใจ
เธอก็บีบคอให้แน่นยิ่งกว่า
ฉันจึงสวดพา หุง มหากา
เสียงกรีดร้องดังขึ้นมาแล้วหายไป
ในไม่ช้าไม่นานก็ฝันใหม่
ว่าฉันนั่งอยู่ที่แห่งหนึ่ง
คลับคลายว่าตัวฉันเคยมาถึง
แต่ไม่รู้ว่ามาเมื่อใด
ได้ยินเสียงร้องเรียกชื่อของฉัน
ก็ได้ยินหญิงสาวกรีดร้องไห้
ชีหน้าด่า กูจะข้ามึงให้ตาย
เธอวิ่งหายไปในเงาราตรี
ฉันเดินออกมาจากร้านนั้น
ฉันเดินผ่านซอกของตึกใหญ่
ฉันเห็นเธอโผลขึ้นมาในทันใด
แล้วเอามีดปักร่างกายฉันทันที
ถึงเป็นฝันก็รู้สึกทรมาน
มันร้าวรานเจ็บปวดจนสุดดิ้น
แล้วหญิงสาวที่เห็็นได้ยลยิน
ก็คอยๆเปลียนเป็นหญิงชรา
จำได้แน่แท้เลยจำได้ว่า
หญิงชราที่เราฝันถึงหลายครั้ง
รวมรวมจิตรวบรวมใจรวมพลัง
เพื่อยับยั้งฝันร้ายในราตรี
แล้วอีกทีตอนนั้นยังจำได้
เกิดความฝันปิติในหัวใจ
พ่อและแม่ของตัวเรานี้ไซร้
เดินทางมาเยียมเยือน
พ่อนั้นชวนไปเทียวด้วยกันไหม
พรุ่งนี้เช้าฉันจะไปกับพ่อแม่ฉัน
ในคืนนั้นทั้งสองนอนในห้องนั้น
แล้วฉับพลันเกิดความคิดในฝันร้าย
คุณพ่อแม่ฉันนั้น อยู่ตั้งไกล
มาได้ไงในเมื่อยามราตรี
ฉับพลันหน้าพ่อแม่เปลียนเป็นผี
แล้วหัวเราะขบขันตัวฉันใหญ่
ฉันหันมองเห็นเธอเสยะยิ้มให้
เหมือนหัวใจตกไปอยู่ใต้ตีน
ทบทวนฝันทบทวนถึงใบหน้า
เชื่อไม่ว่าคุณป้านั้นอีกแล้ว
นางในฝันไม่เคยต้องการแนว
แบบนี้เลยไม่เคยที่ต้องการ
และอีกครั้งจะเล่าฝันอีกครั้งหนึ่ง
ว่าฉันฝันว่าเธอนั้นฆ่าฉันได้
แล้วตัวเธอนำหน้าพาฉันไป
ระหว่างทางได้พบพระธุดงษ์
คุณโยมเอ๋ยคุณโยมเจ้าข้า
ชีวิตนี้อาตมาขอได้ไหม
เธอกรีดร้องหัวเราะแล้วร้องไห้
ยังจำได้แม้เป็นฝันจำได้ดี
เธอไม่ยอมเธอคิดจะทำร้าย
เพราะรูปนั้นสวดอะไรก็ไม่รู้
ร่างกายพุพองเน่าหนอนร่วงกรู
แล้วร่างนันก็ สลายไป
ในฝันท่านพาไปหลายที่
แล้วทานชี้ไปแดนเวทนา
ความรู้สึกในตอนนั้นเกิดขึ้นมา
จำไม่ได้ว่าเป็นเช่นไร
แล้วในฝันท่านพาไปแดนสวรรค์
สิ่งที่เห็นๆนั้นไม่เห็นมีอะไร
มันเวิ้งว้างแต่รู้สึกมันสุขใจ
เกิดได้ไงฉันนั้นคิดทบทวน
แล้วในฝันมีคนมาส่งสะพานใหญ่
ฉันเดินข้ามเดินตามเส้นทางมา
เห็นผู้คนหลากหลายที่ใดหนา
คล้ายว่าเหมือนจังหวัดสุพรรณบุรี
เห็นผู้คนล้อมร่างหนึ่งนั่งร้องไห้
ฉันเดินเขาไปทับรางนั้น
เชื่อไม่ว่าแขนขาไม่พอดีกับตัวฉัน
พริกขยับอย่างไรก็ไม่ได้
ได้ยินเสียงหนึ่งเรียกทันใด
ฉันจึงเดินไปตามเสียงนั้น
ก็มองเห็นภาพข้างหน้าโดยฉับพลัน
พระรูปนั้นมีแสงผ่องอำไพ
สักพักหนึ่งได้ยินว่าถึงแล้ว
ฉันจึงมองห้องเป็นแถวเห็นเลขที่
ฉับพลันก็ตื่นทันที
ทั้งหมดนี้คือฝันหรือความจริง