๑. หอมหยาดแก้วแผ่วหล้าร่วงมาหอม ระรินล้อมภูมิโลกโศลกเถลิง ระบายเมฆเสกฟ้ามาดำเกิง ต้น-สำเริงก่อดอกน้อยสร้อยสุมาลย์ ๒. ลาเทวีจันทรา..อุษาสาง เพชรน้ำค้างในรอยดาวพราววิศาล พระอาทิตย์ชักรถคคนานต์ แผ่รัศมิ์ผ่านปลายฟ้ามารำไร ๓. วรรษวัสสานฤดูพรูพื้นหล้า ก่อกำเนิดทิพย์ธาราอุดมใส เป็นภักษาสุธารสหยดตฤณไพร ปลุกชีพให้ปวงสัตว์ชัฏเงยงาม ๔. เหลืองอร่ามนาทองมองละลิบ หอมข้าวทิพย์สุธาสินีศรีสยาม จรุงค่าชาวนาไทยในนิยาม ศรัทธาไทยศรัทธางามตามความคิด ๕. จุดประทีปโคมดวงห้วงนที แม่วารีไสวไหลสฤต ลอยบูชาวารีมิ่งชีวิต งามวิจิตรกระทงไทยไหวอุบล ๖. จินตภาพอาบความคิดนิมิตศรี งามชีวีดื่มด่ำท่ามสับสน วรรษวัสสานร่วงพรูกรูมายล เติมค่าคนให้งามตามคิดฤๅ? ช่ออักษราลี ๒๖ ตุลาคม ๒๕๕๑
28 ตุลาคม 2551 09:51 น. - comment id 596565
สวัสดีค่ะคุณพี่ช่ออักษราลี อะแฮ่ม...แบบว่า มาช้าเหมือนกาน คงไม่ว่ากันนะคะ ขอคารวะเป็นอย่างสูง คำสวยมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อยากใช้คำได้อย่างนี้บ้างจังค่ะ แต่รู้ตัวว่าคงอีกนาน คิกๆ จิตรำพันถนัดแต่คำทั่วๆไป อยากเก่งแบบนี้บ้าง
26 ตุลาคม 2551 05:05 น. - comment id 907573
ฤดูกาลต่างๆอาจแบ่งได้เป็น 6 ฤดู ได้แก่ 1. เหมันตฤดู (เห-มัน-ตะ-รึ-ดู) คือ ฤดูหนาว 2. สิสิรฤดู (สิ-สิ-ระ-รึ-ดู) คือ ฤดูหมอกหรือฤดูน้ำค้าง 3. วสันตฤดู (วะ-สัน-ตะ-รึ-ดู) คือ ฤดูใบไม้ผลิ 4. คิมหันตฤดู (คิม-หัน-ตะ-รึ-ดู) คือ ฤดูร้อน 5. วัสสานฤดู (วัด-สา-นะ-รึ-ดู) คือ ฤดูฝน 6. สารทฤดู (สา-ระ-ทะ-รึ-ดู) คือ ฤดูใบไม้ร่วง แต่สำหรับประเทศไทยมีฤดูอย่างเป็นทางการเพียง 3 ฤดู คือ ฤดูร้อน (คิมหันตฤดู), ฤดูฝน (วัสสานฤดู) และ ฤดูหนาว (เหมันตฤดู) ***หลายคนมักเข้าใจว่า"วสันตฤดู"คือฤดูฝน ซึ่งจริงๆแล้วไม่ใช่*** "วสันต์" เป็นคำบาลีและสันสกฤตหมายถึงฤดูใบไม้ผลิ "วัสสานะ" เป็นคำบาลี ตรงกับคำสันสกฤตว่า "วรรษ" (อ่านว่า วัด หรือ วัด-สะ) แล้วไทยแผลงตัว ว เป็นตัว พ กลายเป็น "พรรษ" (หรือ "พรรษา") หมายถึงฤดูฝน เพราะฉะนั้น***ฤดูฝนต้องใช้ว่า"วัสสานฤดู" ไม่ใช่วสันตฤดู*** อนึ่ง วันสารท(สะกดอย่างคำบาลี)หรือศารท(สะกดอย่างคำสันสกฤต) ซึ่งไทยอ่านว่า "สาด" ก็คือวันทำบุญในเทศกาลใบไม้ร่วงนั่นเอง ที่มา http://topicstock.pantip.com/chalermthai/topicstock/A3484128/A3484128.html และ http://thaiastro.nectec.or.th/letters/aug99.html
26 ตุลาคม 2551 07:09 น. - comment id 907588
ฝนตกพรมพรำ เย็นผ่าวหนาวซ้ำ ซ่าเสียงซ่อนงำ เหงาคอย ฝนตกพรมพรำ หายหนาวเพราะคำ ยินคุณอุ่นล้ำ ล่องลอย แวะมาทักทายท่ามกลางสายฝนครับผม
26 ตุลาคม 2551 07:33 น. - comment id 907598
สวัสดีครับ...แวะมาอ่านกลอนเพราะครับ
26 ตุลาคม 2551 09:22 น. - comment id 907612
เป็นจินภาพที่งดงาม..ทั้งภาษา..บทเพลงบรรเลง..เหมือนจะขับกล่อม ร่วมกับสายฝนที่พรำ ๆอยู่ขณะนี้...และพรำ ๆ อยู่ในใจ ใคร หลาย ๆคน.. ไพเราะมากครับพี่..
26 ตุลาคม 2551 11:27 น. - comment id 907622
จินตนาสุดซึ้งรำพึงจิต ช่างลิขิตอักขราหาใดเหมือน วัสสาพรำฉ่ำใจใครมาเยือน วัสสานเคลื่อนลาไปในวังวน
26 ตุลาคม 2551 11:36 น. - comment id 907624
สายฝนหล่นพรำ ชุ่มฉ่ำหัวใจ ซึมซับรับไว้ จิตใจชื่นบาน กวีสู่กวี เข้ามาชับชาน ทำนองซาบซ่าน เข้าถึงทรวงใน งามนักกวี ที่ถ่ายทอดไว้ อ่านแล้วซึ้งใจ คล้อยไปตามกลอน สวัสดีค่ะพี่ช่อ..กลอนพี่ไพเราะทุกบทเลยค่ะ
26 ตุลาคม 2551 11:39 น. - comment id 907625
เข้ามาแก้คำค่ะ "เข้ามาขับขาน" อิอิ รีบไปหน่อยค่ะ
26 ตุลาคม 2551 11:41 น. - comment id 907626
เวลาฝนตกอะไรๆ ก้เกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะจินตนาการ.... หยิบ อากาศมาวาดฝัน แต้ม จินตนานั้น ด้วยเม็ดฝน บทกวี สดชื่นดั่งต้องมนต์ วาดวน อักษรด้วยกลอนกาน ความรัก เกลือกกลิ้งบนกิ่งหญ้า ณ ทุ่ง ปรารถนา... แวะมาสวัสดีครับ
26 ตุลาคม 2551 13:44 น. - comment id 907646
โห แจ่มเลยพี่ช่อ เคยสงสัยมานานแระว่า ฤดูภาษาไทยนี้มีอะไรมั่ง ขอบคุณที่ให้ความกระจ่าง และจินตนาการอันสลวยสวยของพี่นะคะ
26 ตุลาคม 2551 15:22 น. - comment id 907654
แวะมาอ่านแล้วได้ความรู้ ในภาษาไทยครับผม บอกได้คำเดียวว่าสุดยอดครับ
26 ตุลาคม 2551 16:03 น. - comment id 907677
หยิบสายฝนหล่นมาเป็นหมึกสวย สายลมโชยเป็นพู่กันอันหลากสี กระดาษใหญ่แผ่นหนาปฐพี วาดชีวีสุดสวยด้วยมือเรา
26 ตุลาคม 2551 16:38 น. - comment id 907692
มาชมความงามของภาษาศิลป์ครับ..
26 ตุลาคม 2551 17:34 น. - comment id 907712
นายแน่มาก พี่ช่อ 55555 ล้อเล่งค่ะ พี่เจี๊ยบเขียนกลอนเก่งนะคะ ปรบมือๆๆๆ
26 ตุลาคม 2551 18:38 น. - comment id 907717
น้องรัมณีย์ กว่าจะได้ตอบมัวแต่แก้ไขไปหลายคำค่ะ ฝนตกพรำพรำ มืดค่ำซัดซ่า ฟ้าครึ้มเมฆา ใจข้าเหงาหงอย
26 ตุลาคม 2551 18:40 น. - comment id 907718
น้องอินสวน เสียงฝนมารินริน เฝ้าถวิลคร่ำครวญหา ครึ้มเมฆเหงาเมฆา ดุจใจข้าร่วงโรยริน
26 ตุลาคม 2551 18:42 น. - comment id 907719
น้องกิ่งโศก กลับมาอ่านอีกครั้งก็จะเห็นพี่แก้ไปหลายคำนะคะ รินไหลของสายฝน มาเวียนวนซ้ำที่เก่า ซ้ำแล้วแลซ้ำเล่า โปรยฝนเหงาเข้าประปราย
26 ตุลาคม 2551 18:44 น. - comment id 907720
คุณกิตติเวทย์ เวียนว่ายในวังวน แห่งสายฝนยลที่เก่า เงียบงันรอยฝันเศร้า มาคลอเคล้ากับสายนัยน์
26 ตุลาคม 2551 18:48 น. - comment id 907721
คุณแก้วประภัสสร ขอบคุณมากๆค่ะที่มาติดตามอ่านกัน กลีบเมฆวิเวกฟ้า ฝ่าดาราหมายดาวใจ สวมปีกโผผินไป บินทางไกลหาใครกัน
26 ตุลาคม 2551 18:51 น. - comment id 907722
คุณแทนคุณแทนไท ชอบท่อนนี้จังเลยค่ะ ความรักเกลือกกลิ้งบนกิ่งหญ้า ณ ทุ่งปรารถนา อยากต่อ แต่..นึกไม่ออก อิอิ ขอบคุณค่ะ
26 ตุลาคม 2551 18:52 น. - comment id 907723
น้องยา บังเอิญพี่เพิ่งค้นพบน่ะคะ พี่ก็สงสัยอยู่ เหมือนกันแหละคะ หลงคิดว่าเป็น วสันต์มานาน
26 ตุลาคม 2551 18:53 น. - comment id 907724
คุณคนเขียนรูป ขอบคุณมากมายค่ะ บังเอิญตัวเองก็สงสัยนะคะ เลยคิดว่าอีกหลายท่านคงไม่ทราบ
26 ตุลาคม 2551 18:55 น. - comment id 907725
คุณกิตติเวทย์ ขอบคุณค่ะที่แวะมาเยี่ยมเยียนกันอีก เขียนกลอนได้งามมากค่ะ ที่ให้ไว้
26 ตุลาคม 2551 18:56 น. - comment id 907726
คุณลิลิต เชิญชมตามสบายนะคะ พร้อม เพลงไทยไพเราะ เป็นเพลงบรรเลงค่ะ
26 ตุลาคม 2551 18:57 น. - comment id 907727
ฉางน้อยจอมซน thank you เด้อ จะไปทักที่บ้าน hi5 หน่อย เข้าไปได้แต่ห้ามทักซะอีกเนี่ย
27 ตุลาคม 2551 08:30 น. - comment id 907850
เยี่ยมมากค่า จินตภาพแห่งวัสสานฤดู แถมข้อมูลให้ด้วย ขอบคุณมากมายเลยค่ะ
27 ตุลาคม 2551 09:51 น. - comment id 907879
ฤดูกาลผ่านผันเธอผันผ่าน จะเนิ่นนานปานไหนเธอไม่หวน จากวสันต์ย่างเหมันต์เฝ้ารัญจวน คิมหันต์หวนส่วนเธอไม่เจอเลย อิอิ..ฤดูไหนก็เหมือนกัน....ไปแล้ววววววว ไปลับไม่กลับย้อน...
27 ตุลาคม 2551 16:17 น. - comment id 907949
ภาพสวยจัง ขโมยนะคะ ขอบคุณค่ะ
27 ตุลาคม 2551 20:04 น. - comment id 907986
แวะมาช้าไปหน่อยค่ะ...งานยุ๊งยุ่ง ฝนตกนี่ให้อารมณ์เหงาดีเหมือนกันนะคะ
28 ตุลาคม 2551 15:38 น. - comment id 908255
เข้ากั๊น เข้ากันค่ะ ทั้งนอกจอ และในจอ ฝนต่างก็พร่างพรูจริงๆ บทกลอนไพเราะเสมอนะคะ เพลงก็เพราะค่ะ ชอบมากมาย
29 ตุลาคม 2551 09:56 น. - comment id 908391
...๑... หยิบ อากาศมาวาดฝัน แต้ม จินตนานั้น ด้วยเม็ดฝน บทกวี สดชื่นดั่งต้องมนต์ วาดวน อักษรด้วยกลอนกาน ...๒... ความรัก เกลือกกลิ้งบนกิ่งหญ้า ณ ทุ่ง ปรารถนา อันแสนหวาน ใครเอาน้ำค้างมาหยดกลาง- ดวงใจที่อ้างว้าง ให้ชื่นใจ ..๓... เม็ดฝน หล่นแต้มข้างแก้มฟ้า กวีเขียน อักษราบนฟ้าไว้ "แด่ความรักที่ชุกโชนอยู่ข้างใน" สำหรับ! เยื่อไยใครบางคน