ช่วงนี้แต่งกลอนไงก็ไม่เพราะ หาคำเหมาะคำควรด่วนมิได้ มิรู้ว่าเป็นเพราะเหตุผลใด จึงดลใจมืดมนอนธกาล หวนคิดถึงวันเก่าก็เศร้าจิต พาใจติดขัดข้องหมองฟุ้งซ่าน อนาคตเพียงฝันวาดวิมาน มองดูด้านปัจจุบันนั้นยังงง มองหาสิ่งแปลกใหม่ยังไม่เห็น จึงยังเป็นเช่นเดิมเพิ่มไหลหลง อีกฟุ้งซ่านนานเนิ่นเกินใจจง จึงยังคงต้องเป็นคล้ายเย็นชา มิรู้ใจไหลหลงพะวงหนัก หรือเฝ้าภักดิ์สิ่งใดใจจึงพร่า มิสว่างจ่างแจ้งขาดปัญญา เหมือนจันทราอับเฉาคราวเดือนแรม ออร์เบิร์น วอชิงตัน ๑๘ กันยายน ๒๕๕๑
19 กันยายน 2551 07:55 น. - comment id 896846
บ่ได้แต่งโดนหลายก็เขียนบ่ค่อยออกเนาะจ้า ซำบายดีบ๊อจ้า
19 กันยายน 2551 08:36 น. - comment id 896854
มัวแต่เฮ้อ..เฮ้อ... หายใจทิ้งขว้างไปเปล่าๆ ตั้งต้นใหม่ได้น๊ะ..สู้ๆ
19 กันยายน 2551 17:12 น. - comment id 896992
นึกว่ากลุ้มเรื่องไรนักหนา กลอนออกเพราะค่ะ แวะมาทักทายค่ะ
19 กันยายน 2551 22:04 น. - comment id 897173
กาลทั้งสามยามนี้มีแต่เฮ้อ อดีตย้อนหาไม่เจอความสมหวัง ปัจจุบันมีปัญหาเข้าประดัง อนาคตดูรุงรังและหม่นมัว คิดไม่ออกกลอกตาหาคำตอบ ทำหลายรอบไม่ชอบตาพามึนหัว พักดีกว่ารอเวลาให้ฟื้นตัว ให้แรมค่ำสุดขั้วสู่คืนเพ็ญ สวัสดีค่ะคนตัวเล็ก
20 กันยายน 2551 12:32 น. - comment id 897365
หูย....คนเก่งๆก้มีอารมณ์แบบนี้เหมือนกันเหรอคะเนี่ย ปล.เราเชื่อว่าคุณทำได้
20 กันยายน 2551 13:11 น. - comment id 897380
เรื่องแต่งกลอนเพราะหรือไม่นั่น อัลมิตราคิดว่า มันเป็นเรื่องรองจากความสุข นะ ถ้าสุข ก็เขียนไปเหอะ
20 กันยายน 2551 13:52 น. - comment id 897430
ใครบอกว่าไม่เพราะค่ะ รีแวะมา ให้ค่ะ...