๑)นิราศล่องลดเลี้ยวท่องเที่ยวเขา- พระวิหารกันดารถิ่นฐานเรา เสียให้เขาครั้งสิบสี่สุดพอเพียง ๒)ฝรั่งเศสชักใยอยู่เบื้องหลัง รับคำสั่งศาลโลกตกลงเสียง เก้าต่อสามถูกหามออกน็อกคาเตียง แพ้พี่เลี้ยงน้ำท่วมปากยากต้านทาน ๓)สองพันห้าร้อยห้าตีตราไว้ อธิปไตยไทยสละ “เขาพระวิหาร” เรื่องเล่าบอกตอกย้ำเป็นตำนาน รุ่นลูกหลานจารจดเป็นบทเรียน ๔)ขวานทองไทยพสุธาเหลือเท่านี้ ใครอัปรีย์ยุแหย่แยกแปรเปลี่ยน ตาต่อตาฆ่าริปูผู้เบียดเบียน ไม่อยากเขียน......ขอรวบรัดตัดขึ้นภู ๕)เดินกินลมชมวิวดูทิวทัศน์ อัตคัดคนเคียงใกล้ใจอดสู เกิดหินตำคะมำล้มใครก้มดู ไร้โฉมตรูอยู่ข้างว้างกมล ๖)หนึ่งจุดห้ากิโลโอ้นานเนิ่น ต่อเท้าเดินจ้ำอ้าวเข้าถนน แดดร้อนอาบอบอ้าวก้าวขึ้นบน นิดเดียวพ้นลาดยาง...เหยียบลูกรัง ๗)ขึ้นกลุ่มแรกนำร่องไม่ต้องห่วง ไปตามดวง...คนกล้า..ช้าตามหลัง ฟิตกันหน่อยชมของนอกออกกำลัง ซากหักพังหวังยืนหยัดทัศนา ๘)เสียค่าด่านสามครั้งเขาร้องขอ ไทยสองต่อเพื่อดูแลและรักษา ที่เขมรขึ้นเขาค่าสายตา เบิกเงินตราเหมากลุ่มจ่ายท้ายขบวน ๙)เข้าเขมรมิรู้สึก...นึกสยาม กั้นเขตคามคลองน้ำนั้นผันผวน ยาวแค่วาสะพานข้าม เขต...ไม่ควร แผนที่ส่วนแบ่งขาดชาติเผ่าพงศ์ ๑๐)เห็นข้าวของทองหยองกองกลาดเกลื่อน กระซิบเตือนของย้อม ปลอม...อย่าหลง สร้อยทองคำกำไลน่าใส่องค์ อยากเงินปลงไร้คนฝากออกปากคราง ๑๑)เขาเดินปาดตัดหน้ามาเป็นคู่ เรามองดูไต่ตรองยิ่งหมองหมาง เทพอุ้มสมงมอยู่ไหนหนอทิศทาง นอนอ้างว้างทานแห้วท้อลิ้นคอพอง ๑๒) นิราศชมซากปราสาทเสื่อมสลาย ไม่ทักทายถึงคนรักจักเสียของ เสพสุราไร้กลับแกล้มจืดชืดลอง ครวญถึงน้องข้องขัดใจอย่าไอจาม ๑๓) เดินขึ้นเขาพระวิหารมีด่านตรวจ ไม่เข้มงวดปล่อยสบายมิไถ่ถาม อยากจะผ่านด่านตรวจใจทรามวัยงาม คงเกินสามสี่คูยุพาพิน ๑๔) บันไดชั้นขั้นก้าวลืมกล่าวนับ ขาแทบพับพยุงไต่บันไดหิน เดินเซซ้ายป่ายขวาไม่เคยชิน ชั่วโมงบินมีน้อยค่อยโคลงเคลง ๑๕) ถ้ามีน้องคล้องแขนชายคงหายเหนื่อย ไม่มีเฉื่อยแข้งขากระฉับกระเฉง เพื่อนร่วมกว้านชวนชื่นเสียงครื้นเครง พี่วังเวงขาดน้องสาวเหงาน่าดู ๑๖) เข้ากลุ่มใหญ่ถ่ายรูปที่ระลึก ค่อยรู้สึกคึกคักคลายอดสู ด้วยหล่อดีที่หนึ่งในตองอู ยืนยิ้มอยู่โดดเด่นเห็นไรฟัน ๑๗) พญานาคหรืองูดูเคร่งขรึม ใจคึกครึ้มของดีที่สร้างสรรค์ ดูเก่าจริงสิงหราชอัศจรรย์ ช่างเสกปั้นโอฬารตระการตา ๑๘)แค่บันไดด่านแรกรู้สึกหอบ แหม!ช่างกรอบเกือบหมดแรงเหยียดแข้งขา พักซักหน่อยนั่งกินลมพร้อมดมยา ถือภาษิตช้าช้าพร้าเล่มงาม ๑๙) เพื่อนโห่ฮาตะโกนไล่รีบไปต่อ มิย่อท้อแท้ใจในขวากหนาม โคปุระหลายชั้นกั้นเขตคาม ขืนรอยามสิทธิโชคตกรถเอย ๒๐) รวมกำลังเต็มถังท่อต่อก๊อกสอง ตาแลมองโดดเด่นเห็นเปิดเผย ดูธงชาติกัมพูชาไม่เสบย โอ้อกเอ๋ยเอ่ยลาฟ้าเมืองพุทธ ๒๑)พลัดถิ่นฐานบ้านช่องไร้น้องนาง เดินตามทางว้างกมลไร้คนฉุด แรงตกบ๊วยล้าหลังรีบเร่งรุด เข้าสู่จุดแรกโชว์ โคปุระ ๒๒) นับจากในไปนอกบอกชั้นห้า ประทับตราเกาะแกร์ศิลปะ เป็นเอกอุบูชาพระศิวะ เรียก “ศิขเรศวร”ไศวะนิกาย ๒๓)ศตวรรษที่เก้าเริ่มก่อสร้าง เลียนแบบอย่างเขาสุเมรุเน้นจุดขาย วัสดุอยู่ถิ่นแผ่นหินทราย แสนเสียดายปัจจุบันนั้นทรุดโทรม ๒๔)ถ้าพบรักสมัครใจให้ลุ่มหลง ขอยืนยงคงกระพันมั่นฉายโฉม ถ้าเหมือนซากเทวาลัยใจระทม คงเป็นลมล้มทั้งยืนยากฟื้นจิต ๒๕) ชีวิตเอื่อยเรื่อยเรื่อยมาเรียงเรียง ไร้คู่เคียงคนงามคอยตามติด วอนเทวาศิวะว่ามีฤทธิ์ บ่งบอกทิศเนื้อคู่อยู่คุ้มใด ๒๖) ชาวเขมรจับกลุ่มซุ่มอยู่บน หลายหลากคนสนเท่ห์ทำเคลื่อนไหว ประกบติดตัวเราเริ่มแปลกใจ ถึงบางอ้อเป็นไก๊ด์ฝ่ายต้อนรับ ๒๗) มัคคุเทศก์สาวรุ่นวุ่นวายอยู่ ไยโฉมตรูไม่ดูชายผ่านฉับฉับ ถ้ายุพามากับชายให้ล้มทับ เจ้าหายวับปานนินจาไม่เจอเงา ๒๙) มัคคุเทศก์หนุ่มเหน้าเข้าเชื้อเชิญ บอกว่าเดินคนละแห่งแหล่งขึ้นเขา กัมพูชาชันตั้งกว่าทางเรา ช่องทางเข้าสำคัญ“บันไดหัก” ๓๐) อุทานชื่อ คุณพระช่วย!ด้วยหวาดเสียว ใครยึดเหนี่ยวปีนป่ายชายเสียหลัก อยากโละทิ้งทำสร้างสะพานรัก เพื่อโยงชักเชื่อมใจส่งให้นวล ๓๑)เครื่องแต่งกายหลายชุดฉูดฉาดสี ดูไม่มีเอกลักษณ์หลักผันผวน ขาดคนรู้ดูแลแนะสิ่งควร ประทับใจลดหลายส่วนไม่สมบูรณ์ ๓๒) ทัศนียภาพข้างทางเดิน เพิ่มมาเกินหลายสิ่งยิ่งเสียศูนย์ ไร้คนสุมเศษขยะปฏิกูล ถมให้มูลมรดกดูปอนปอน ๓๓) ถนนแนวเหนือใต้ไต่เนินขึ้น วัดดูกึ๋นคนกล้าท้าสิงขร เห็นศาลาอยู่ข้างทางสัญจร ขอพักผ่อนดูดน้ำให้ฉ่ำทรวง ๓๔) ออกปากทักมัคคุเทศก์เขตปุจฉา บอก“ศาลาวัดใจ”ไม่ห้ามหวง หยุดชั่งใจไปหรือถอยที่วัดดวง ด้วยเป็นช่วงทางเริ่มชันขึ้นบรรพต ๓๕) เห็นคนรักพักจู๋จี๋มีหลายคู่ ตาพี่ดูหงอยเหงาเศร้าสลด อยากวัดผลการรักเพิ่มหรือลด แต่ต้องอดไร้ครูสอนทอดถอนใจ ๓๖) ตะวันออกศาลาเป็นสระสรง ชำระองค์พิธีกรรมทำผ่องใส ตามราศีสิบสองชั้นขั้นบันได เดี๋ยวนี้น้ำคล้ำไปให้ขุ่นคลั่ก ๓๗) ขอเนื้อเย็นเช่นน้ำอโนดาต ใสสะอาดน่าลอยคอขอสมัคร ถ้าใจดำดุจน้ำสระชอกช้ำนัก อาณาจักรแห่งความเหงาเข้าครอบงำ ๓๘) หนึ่งสองสามนับไม่เกินเดินด่วนจี๋ โคปุระชั้นสี่ดีคมขำ เป็นศาลาจัตุรมุขพิธีกรรม ตั้งปะรำเหลือหลุมไว้ให้ย้อนรอย ๓๙)ภาพเลือนรางแต่ปางบรรพ์นั้นผุดโผล่ เขาฟ้อนโชว์ลานถนนคนใช้สอย ขบวนแห่ร่ายรำหรูเลิศลอย เสพแดนดอยแว่วหวานละลานตา ๔๐)ภาพกลับตัดปัจจุบันฉันฝันเพ้อ มองไม่เจออัปสรซ่อนภูผา ถามพฤกษ์พรรณสั่นใบไม่นำพา เล่นซ่อนหาแห่งไหนหนอขอพานพบ ๔๑)เข้าด้านหน้าทางเดินอ้อมมิยอมผ่าน ตรงหน้าด่านโชว์สาวเราเจนจบ ลูกผู้ชายอกสามศอกเคยออกรบ ปั้นหน้ากลบเกลื่อนโสภีที่ชุมนุม ๔๒)น้องแขมร์มองมานัยน์ตายิ้ม เกือบหัวทิ่มตาสบตาขาตกหลุม เข่าอ่อนล้าจังหวะดีที่ควบคุม เกือบเสียชื่อชายหนุ่มคุ้มบัวงาม ๔๓)ไปกันต่อไม่ง้อใครชายคิขุ ฝ่าทะลุโคปุระแหล่งที่สาม เรียก“ปราสาท”มหึมาฉายานาม สวยอร่ามงามขลังนั่งเล็งพิศ ๔๔)กำแพงแก้วก่อรอบขอบเวียงวัง ซากหักพังยังคุณค่าสิ่งประดิษฐ์ การปกครองเปลี่ยนไปไร้บพิตร คำสั่งปิดซากโบราณไร้เหลียวแล ๔๕)มองถี่ถ้วนหวนรำพึงคิดถึงฉัน อกเดียวกันถูกเขาเขี่ยนอนเลียแผล ข่าวเร็วนี้บูรณะเขาเปลี่ยนแปร พี่ย่ำแย่ขาดคนซ่อมตรอมซ้ำฟก ๔๖)พิศหลายส่วนสมบูรณ์บุญได้เห็น ใจร่มเย็นเห็นฟ้าเมฆาปก มีหลายหลากมากเผชิญเกินหยิบยก ชื่นฉ่ำอกโชคใหญ่ใกล้เคลียคลอ ๔๗)โคปุระชั้นสองสอดส่องทั่ว เห็นที่ตัวปราสาทเสื่อมสึกหรอ เหลือรอยซากสู่สายตาคุ้มค่าพอ กำแพงก่อก่นทลายไปตามกาล ๔๘)อยากรู้แจ้งกำแพงใจในนงนุช หวังพังทรุดแง้มช่องรูประตูหวาน ถ้าแข็งแกร่งเกินภูผามาต้านทาน เกินปีนผ่านฉันคงเก้อเป๋อเงอะงะ ๔๙)เดินหลบเลี่ยงเบี่ยงซ้ายชมด้านข้าง โด่เด่วางโดดเดี่ยวเปลี่ยวเอกะ เดินมองเมียงเลียบเคียงรู้ที่อยู่พระ วิปัสสนาจำพรรษาเป็นอาราม ๕๐)เห็นปืนใหญ่ปลายกระบอกปลอกกระสุน ไฉนหมุนศูนย์ยิงเล็งสยาม พี่ใจแป้วปาดเหงื่อน้องเนื้องาม จึงบุ่มบ่ามไม่ทักก่อนซ่อนยิงชาย ๕๑)พี่หนุ่มดงองอาจชาตินักรบ เคยซ้อมหลบลูกปืนในป้อมค่าย ล้วนแคล้วคลาดไม่หวาดหวั่นอันตราย แต่พี่พ่ายกระสุนแบงก์ไร้แรงยิง ๕๒)โคปุระชั้นหนึ่งบึ่งเข้าหา เป็นจุดท้าทายใคร สวมใจสิงห์ ได้เหยียบเขาพระวิหารนั้นแท้จริง เพราะชมแทบทุกสิ่งสิ้นกระบวน ๕๓)บรรณาลัยใส่คัมภีร์ที่ว่างเปล่า สาบสูญเงาหนังสือหายไม่คืนหวน คิดถึงสี่ห้องใจใฝ่ทบทวน ไร้หุ้นส่วนครอบครองมาจองจับ ๕๔)แว่วเสียงพิณไพเราะเสนาะกรรณ เหมือนคนธรรพ์ชาวเทพมาเสพขับ บรรยากาศเข้าทีพี่ยอมรับ ตาต้องจับวณิพกในอุโมงค์ ๕๕)มัคคุเทศก์บอกชัดประวัติศาสตร์ ความสามารถจดจำเนื้อความหลง โปรยสตางค์วางพานทำทานลง ช่วยเสริมส่งให้ทำมาหาเลี้ยงชีพ ๕๖)แต่เด็กน้อยตาดำดำตามขอเหรียญ ทำหน้าเนียนอุเบกขาเข้ามาบีบ อย่าแบมือมองหางานอย่านั่งงีบ ต้องปากกัดตีนถีบถึงได้เงิน ๕๗)มาด้านนอกออกชมวิวดูทิวทัศน์ ไก๊ด์รีบจัดของขายน้ำลายเกริ่น จับรูปถ่ายที่ระลึกเล่าเชื้อเชิญ หากแกล้งเมินคงใจดำทำลงคอ ๕๘)ชุดละร้อยลดราคาว่าเจ็ดสิบ ตาปริบปริบเปิดเป๋าตางค์ตามคำขอ เหมาสองชุดจับจ่ายไม่หน้างอ เดินกันต่อชะง่อนผา “เป้ยตาดี” ๕๙)มองข้างล่างเรียกเป็นเขมรต่ำ คิดถึงคำต่ำต้อยเช่นตัวพี่ ถึงหุ่นสูงวาสนาน้อยชีวี ตกต่ำที่ไร้สตรีสบตาแล ๖๐)ยืนขาสั่นหันซ้ายขวาสามประเทศ จุดต่อเขตเชื่อมสัมพันธ์กันเผื่อแผ่ เหมือนอยู่ใกล้ไทยลาวและแขมร์ อยากช่วยแก้กำแพงแบ่งชนชาติ ๖๑)น้องเขมรเล่นอาคมนิยมนัก ช่างน่ารักน้องสยามงามผุดผาด สาวเวียงจันทร์จับปลากล้าสามารถ มิเอื้อมอาจไปเกี่ยวดองทองแผ่นเดียว ๖๒)คิดฟุ้งซ่านเสียงตะโกนกลับตีนเขา หัวอกเหงาเศร้าหมองต้องโดดเดี่ยว ขึ้นเขาแล้วมีลงตรงแน่เชี่ยว รักพี่เหี่ยวมีแต่ลอยห้อยขึ้นคาน
29 สิงหาคม 2551 21:06 น. - comment id 864527
อะไรกัน ? อัลมิตราไม่ได้กางมุ้งรอสักหน่อย ไม่เคยไปค้างที่เขาพระวิหารด้วย แต่ล่าสุดที่ไปน่ะ กระทืบงูดินตายไปหนึ่งตัว พอดีว่า ตกใจน่ะ ลูกชายของหมอบอกว่า งู ๆ แล้วชี้มา อัลมิตราก็หลับหูหลับตากระทืบ ๆๆๆๆๆ ยังกลายเป็นเรื่องโจ๊กเลยค่ะ อ้อ .. หนแรก ไปกับป้าแอ๊ด นึกถึงป้าแอ๊ดทีไรต้องขอบคุณคุณด้วย ขอบคุณสำหรับดอกไม้ช่อสุดท้ายของป้าแอ๊ด
29 สิงหาคม 2551 19:40 น. - comment id 864935
คุณอิม กางมุ้งรอตะครุบอยู่ แต่ไม่เห็นมีหลงเข้ามาให้หุบไว้ซักราย ผมพึ่งมีโอกาสแค่ครั้งเดียว ผ่านเขาพระวิหาร ๒ ครั้งถือว่ามีความอึดสมบุกสมบันครับ นายธนา ขอบคุณมากครับสำหรับคำชม ก็อยากให้อ่านแล้วสบายใจคลายเครียดนะครับ คุณแจ้น เดินตามไม่เดินทันหรือเดินแซง จะเจอกันซักทีละครับ ไปสิครับได้รับความสนุกปนความเหนื่อยอย่างแน่นอน คุณพิม น่าจะหาโอกาสไปซักครั้งหนึ่งในชีวิต การันตีไปแล้วคุ้มค่าครับ คุณแม่มดใจร้าย ตั้งหลักแล้วอ่านให้จบนะครับ อยากมาว่าง ๆ ก็หาโอกสมาได้เลยครับ น้องเฌอมาลย์ เอามะพร้าวมาขายสวนนะสิครับเนี่ย ส่วนรูปคนหล่อไม่อยากเอามาข่มเพื่อน ๆ เลยไม่ได้นำมาลงครับ ก้าวที่....กล้า ตัวเลขดีทุกตัวนั่นแหละครับ ถ้าถูกเลข ๙ ยิ่งก้าวหน้าก้าวหลัง น้องหมึกมรกต ก็ไปเป็นหมู่คณะไม่ได้ดูเต็มที่สักเท่าไหร่ เขียนเสร็จนานแล้ว คิดถึงบ้านหลังนี้ รอจังหวะเหมาะและเวลาว่างพอดีครับถึงได้นำมาลง น้องกานต์ ก็ผลุบ ๆ โผล่ ๆ หาความแน่นอนไม่ได้ เกี่ยวกับเวลาและเน็ตด้วย ช่วงนี้ว่าง ๆ ก็อยากจะเข้ามาพักสมองคลายเครียดซะหน่อย ส่วนรูป สงสัยเวปนี้เซนเซ่อร์คนหล่อ เลยลงไม่ติด แห่ะ แห่ะ หลานผึ้ง ถ้าจะไปจริง ๆ ต้องฟิตร่างกายเอาไว้ซะก่อน ไม่งั้นเดินไปถึงกลางทางเกิดถอดใจ เดินกลับ ก็เสียชื่ออาย่ำแย่ อย่างแน่นอนจ้า คุณWhitelily ช่วงนี้คงเป็นขาจรซะมากกว่า มาเป็นระยะ ๆ หายเป็น ระยะ ๆ น้องWhite roses สร้างเสร็จแล้วจ้า แต่เป็นวิมานกลางอากาศ
29 สิงหาคม 2551 07:36 น. - comment id 890907
ดี ๆๆๆ การเมืองไม่ยุ่ง การมุ้งดีกว่า ว่าแต่ว่า จะไปกางจุดไหน เล็งไว้หรือยังคะ อัลมิตราเคยไปนะที่เขาพระวิหาร 2 หนแล้ว ล่าสุด ก็เมื่อสองปีก่อน เดินตามลุงแก้วต้อย ๆ
29 สิงหาคม 2551 07:39 น. - comment id 890908
ยอดเยี่ยมครับ
29 สิงหาคม 2551 08:36 น. - comment id 890930
คงไม่เหงาแล้วล่ะ เนี่ยะ เดินตามนิราศมาต้อยๆ ยังไม่เคยไปเลย ต้องหาทางไปซักวัน สนุกจังเลย อิอิ
29 สิงหาคม 2551 09:32 น. - comment id 890941
ยังไม่เคยไปเลยคะ ดีจังอ่านแล้วเหมือนได้ไปด้วย อิอิ..
29 สิงหาคม 2551 10:13 น. - comment id 890957
เดี๋ยวตอนเย็นตั้งหลักอ่านใหม่ค่ะ ยังไม่เคยไปเลยค่ะ อยากไป อยากไป ทำไงดี
29 สิงหาคม 2551 11:19 น. - comment id 890976
เคยไปมาแล้วค่ะ เหมือนได้กลับไปรำลึกอดีตอีกครั้งเลยค่ะ พี่ชัยสบายดีหรือปล่าค่ะ ไม่ได้เจอกันตั้งนาน อิอิ เอ่อ รูปพี่ชัยคนไหนคะ คริ คริ
29 สิงหาคม 2551 12:36 น. - comment id 891013
ขอคอมเม้นท์ก่อนเดี๋ยวตามอ่านทีหลังนะ แบบว่ากลัวหลุดเลขเจ็ดน่ะ(เจ็ดวันพอดี)
29 สิงหาคม 2551 12:59 น. - comment id 891019
ในที่สุดก็อ่านจบ ^ ^" ไปไม่ชวนกันเลยนะครับ พี่ชัย แหะๆ หายไปนาน ไปแอบซุ่มเขียนนิราศนี่เอง สบายดีนะครับ บทที่ ๑๖ นี่ สาวๆ หลายคนคงอยากดูรูปร่ะ อิอิ ^ ^
29 สิงหาคม 2551 13:29 น. - comment id 891032
๑๖) เข้ากลุ่มใหญ่ถ่ายรูปที่ระลึก ค่อยรู้สึกคึกคักคลายอดสู ด้วยหล่อดีที่หนึ่งในตองอู ยืนยิ้มอยู่โดดเด่นเห็นไรฟัน อยากเห็นรูปจังเลยค่ะ หายไปนานเลย อ่านจุใจเลยนะคะ
29 สิงหาคม 2551 14:20 น. - comment id 891042
น่าสงสารอาชัยไร้คู่เที่ยว ตะแหง่วก็ตัวคนเดียวไร้คนสน มีแพลนเที่ยวครั้งหน้ามั๊ย..ไปด้วยคน ตะแหง่วจน..อาชัยจ่าย..ทุกรายการ (อิอิ) สวัสดีค่ะอาชัย(ไหว้งามๆ)..ลืมหลานรึยังคะ.. คราวหน้าถ้าอาไป ชวนตะแหง่วไปด้วยนะ.. ตอนนี้ตะแหง่วเศร๊า-เศร้า คิดถึงอาชัยค่ะ..
29 สิงหาคม 2551 15:26 น. - comment id 891071
สวัสดีค่ะ.... รีมาท่องเที่ยวผ่านตัวอักษรค่ะ....
29 สิงหาคม 2551 15:45 น. - comment id 891075
สวัสดีค่ะ พี่ชายชัยชนะ...ไม่เจอกันนานนะคะไม่รู้ว่า ชวนน้องๆไปสร้างวิมานได้หรือยัง.... แวะมาอ่านความเป็นไปในอักษรค่ะ...
29 สิงหาคม 2551 21:40 น. - comment id 891135
สุดยอด อ่านแล้วเห็นภาพเลย แต่สามารถมากเลย เยี่ยมมาก นึกว่าหายไปไหนที่แท้หนี ไปเขาพระวิหารนี่เอง สวัสดีจ๊ะ
29 สิงหาคม 2551 22:00 น. - comment id 891147
ได้อ่านแล้วอยากจะไปมั่งนะคะ
30 สิงหาคม 2551 08:37 น. - comment id 891204
กานต์เคยไปเขาพระวิหารสี่ครั้งในสองเดือนค่ะพี่ชัย เพื่อนๆยังแซวสงสัยมีเนื้อคู่เป็นเขมร บังเอิญได้ไปบ่อยมากค่ะ บอลยูโร เจ้ามือไม่ยอมมาเปิดบ่อนเลยนะคะ อิอิ
30 สิงหาคม 2551 09:07 น. - comment id 891207
ไปมาเมื่อปีที่แล้วเหมือนกันค่ะ พอเห็นชัยภูมิที่ตั้งแล้ว ก็เข้าใจว่าทำไมฝรั่งเศสถึงต้องเอาพื้นที่ตรงนั้นให้ได้ อ่านจนอิ่มเลยค่ะ เพราะนานๆ ได้อ่านกลอนที่คุณชัยชนะเขียนซักที อดเอารูปมาร่วมแจมบ้างไม่ได้ค่ะ
30 สิงหาคม 2551 14:56 น. - comment id 891276
คุณอิม โหดขนาดนี้เชียวหรือครับ ถ้าหนุ่มเห็นตอนกระทืบคงไม่โจ๊ก แต่คงเสียวสันหลังเป็นแน่ มีคนไปเยอะหลายรายแบบนี้ คงโม้สุ่มสี่สุ่มห้าไม่ออกเป็นแน่ คุณยาแก้ ไม่ได้หนีหายไปไหนหรอกครับ เพียงแต่มีงานมาให้ทำเยอะขึ้นนะครับเลยไม่ค่อยมีเวลา คุณช่ออักษราลี พบว่าถ้าพาแฟนไปด้วยน่าจะดี จะได้รู้ซึ้งถึงน้ำใจเวลาตกทุกข์ได้ยาก(ขาขึ้นเขาโหดพอสมควร)(ไม่ได้ขู่นะครับ) น้องกานต์ อย่าพูดให้ซ้ำใจอีกเลย เชียร์จอมสับขาหลอก คริสเตียโน่ โรนัลโด โชคดีแล้วล่ะที่ไม่มาเปิดบ่อน ไม่งั้นโดนลากขาลงมานอนข้างถนนอย่างแน่นอน ไปบ่อยระวังโดนคาถาอาคมของหนุ่มขอมเข้าให้นะครับ เพรง.พเยีย ขอบคุณมากครับที่ร่วมด้วยช่วยกันนำภาพที่สวยงามมานำเสนอ ถ่ายได้ละเอียดกว่าผมซะอีก อย่างว่าผมไปด้วยกันเป็นคาราวานเลยถ่ายเฉพาะจุดใหญ่
1 กันยายน 2551 16:54 น. - comment id 891665
ตอนไปท่องป่าเขาลำเนาไพรที่ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ายอดโดม ที่น้ำยืน อุบลฯ ก็ได้มีโอกาศไปทัศนศึกษาที่เขาพระวิหาร เป็นช่วงสุดท้ายที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้ กลิ่นอายวัฒนธรรมขอมอบอวลไปทั่วบริเวณ ผามออีแดงที่อยู่ใกล้ๆ กันชวนให้ประหวัดถึงตำนานรักที่ขมขืนเมื่อสาวเจ้ารอผู้บ่าวอยู่ที่มออีแดง ชัยชนะ สหายเก่าแก่หายไปนานนับ นึกว่าปฏิบัติภาระกิจอยู่แถวแถบชายแดน ไม่ว่าภูมิซรอน หรือ ช่องสะงัม หรืออาจเป็นทางใต้ปลายด้ามขวาน ดีใจกลับที่ปรากฏตัวอีกครั้ง
2 กันยายน 2551 13:33 น. - comment id 891904
มาเที่ยวชมพระวิหารผ่านนิราศ ไม่เสียตังค์สักบาทกำไรเหลือ มีน้องชัยและน้องนางมาจุนเจือ มอบภาพอย่างเอื้อเฟื้อให้ชมกัน สวัสดีค่ะน้องชัย อ่านจนอิ่มอย่างที่น้องนางบอก และก็อดหัวเราะไม่ได้ที่ยังลงเอยเหมือนเดิม..แบบรักเหี่ยวห้อยลอยขึ้นคาน ขอให้มีความสุขค่ะน้องชัย
9 กันยายน 2551 12:59 น. - comment id 894173
สวัสดีครับ เทพบุตรแห่งขุนเขา ยังจำชื่อนี้ได้ดี ก็ดีครับได้มีโอกาสไปดู เกิดมาไม่เสียชาติเกิด ใครเขาจะโกหกเราไม่ได้ คิดว่ามีโอกาสจะไปอีกสักครั้งเพื่อเก็บรายละเอียดต่าง ๆ ให้ได้มากที่สุด เรื่องผามออีแดง กับที่ร้องในกลอนลำ ความจริงนั้นมันพลิกล็อค พี่ทหารที่นั่นเขาเล่าให้ฟัง ว่าความจริงแล้ว ครูแดงขับรถตกลงที่หน้าผา ไม่มีนิยายรักเหมือนดั่งเพลงที่ว่าหรอกครับ ยังไงก็เชื่อคนท้องถิ่นไว้ก่อน อย่างว่าเรื่องราวต่าง ๆ สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น ฟังอย่างเดียวสรุปข้อเท็จจริงไม่ได้ครับ สหายเก่าแต่ไม่แก้ ถอนคำพูดใหม่ (พูดเล่นนะครับ) ก็เขียนโคลงกลอนเป็นที่บ้านหลังนี้ ถ้าว่างแล้วก็ต้องแวะมาเยี่ยมถิ่นกำเนิดอยู่แล้วครับ สวัสดีครับพี่ดอกแก้ว ดีใจด้วยครับที่อ่านแล้วพี่มีความสุข เพราะจุดประสงค์การเขียนของผมจะชอบให้ออกแนวตลกมากกว่า แต่บางครั้งก็ตลกไม่ออกเหมือนกันเพราะเพื่อนไม่ตลกด้วย แวะเข้ามาบ้านหลังนี้ต้องตามอ่านกลอนของพี่ดอกแก้วเสมอ เพราะอ่านแล้วสบายจิตสบายใจได้เป็นอย่างดีครับ เพียงแต่ระยะหลังไม่มีเวลาจะไปตอบกลอนให้เพื่อน ช่วงนี้ก็อยู่ดีมีความสุขตามอัตภาพครับ ขอบคุณมากครับสำหรับกำลังใจจากพี่สาวที่แสนดี
10 กันยายน 2551 13:39 น. - comment id 894703
จับได้แล้วๆๆๆๆๆ...คนแอบหนีไปเที่ยวไม่ยอมชวนกันเลย....งานนี้มีงอนขอบอก...อิอิ..
23 กันยายน 2551 19:17 น. - comment id 898795
ทั้งไพเราะ และเห็นภาพได้ชัดเจนเลยค่ะ ขอบคุณสำหรับรูปภาพที่เอามาให้ดูนะคะ . ...โอ้พ่อคุณมาเที่ยวให้เปลี่ยวจิต คนึงนิจถึงนางพลางสงสาร วอนบุพเพพานพบสบนงคราญ คู่เคียงนางพาเที่ยวท่องห้องหัวใจ