*** คนแก่ใครแลเล่า *** จะเขียนกลอนสักครั้งยังลำบาก แสนเหนื่อยยากเหลือเข็ญเช่นมะเขือ ที่ถูกเผาเหี่ยวแห้งแฝงสิ่งเจือ มิเอื้อเฟื้อยังถูกคนบ่นมากมาย คิดจะสร้างจินตนาหาสิ่งฝัน สู้แบ่งปันความสุขทุกข์มากหลาย ถูกคนหนุ่มตราหน้าว่ากลับกลาย ดั่งสิ่งสลายเหยียบย่ำจนช้ำทรวง เขียนเรื่องรักเพื่อสนุกคลุกสิ่งสร้าง แสนอ้างว้างหมายนักมักมาหวง ช่างเหยียดหยามว่าแก่แม้ทั้งปวง เหมือนสร้างบ่วงผูกมัดขจัดหวัง ไร้เยื้อใยสิ้นซากยากจะฟื้น ไม่กลับคืนสู่หลังสร้างสิ่งฝัง เพื่อให้ตายไร้ยืนหยัดจัดพลัง แม้นเบื้องหลังผ่านพ้นล้นทวี หรือคิดว่าเป็นหนุ่มชุ่มตลอด ไม่วายวอดเป็นแก่แน่นอนฉวี ทั้งผิวพรรณขันชะเนาะเพาะรวี เปล่งแสงสีมิรู้สิ้นจินต์มากมาย ขออวยพรให้เป็นเช่นดังหวัง หากพลาดพลั้งรู้แน่ว่าแก่หลาย จะเกิดทุกข์ผูกสนิทลิดรอนกาย ด้วยทั่งหลายอนิจจังหมายยั่งยืน แล้วจะนึกถึงสิ่งทั้งหลายนี้ ฝากคำวจีผ่านหนุ่มกลุ้มสุดฝืน แม้นสู่วัดพร่ำมนต์ล้นกลับคืน มิอาจฟื้นหวนกลับคอยนับวัน ลืมอนิจจังทุกขังแลอนัตตา จะเปลี่ยนมาวนเวียนเพียรเฝ้าฝัน ดุจดั่งเราเฝ้าหมองครองกำนัล มองใครนั้นเขาคิดว่าจิตทราม. *** แก้วประเสริฐ. ***
4 สิงหาคม 2551 14:40 น. - comment id 882324
คนแก่ก็มีหัวใจคะ ถ้ามีเสน่ห์ อายุก็แค่ตัวเลข ****** กลอบอ่านได้รื่นดีทุกบทคะ เว้นสองบทแรกคะ สื่อภาษาในแง่กำกวมไม่น่าฟังสำหรับพรรณคะ พรรณเพิ่งเป็นสาวที่อยู่ในกรอบคะ ขออภัยคะที่ต้องพูด นอกนั้นขอชมคะ
4 สิงหาคม 2551 15:03 น. - comment id 882327
สวัสดีค่ะคุณครู งอนหรือน้อยใจใครหรือเปล่าคะ อย่าน้อยใจไปเลยค่ะ อย่างน้อยศิษย์คนนี้ก็แลค่ะ ช่างคนหนุ่มเขาเถอะค่ะ ยังไงก็แต่งกลอนสู้ครูของหนูไม่ได้ ใครพูดได้พูดไป แต่ยังไง ก็รักษาสุขภาพตัวเองด้วยนะคะ
4 สิงหาคม 2551 15:32 น. - comment id 882332
คุณหลานคนนี้เป็นห่วงเป็นใยคุณลุงคนนี้เสมอนะคะ
4 สิงหาคม 2551 15:54 น. - comment id 882352
แด่ อาจารย์แก้วประเสริฐ แวะมาทักทาย งอนอะไรคะ
4 สิงหาคม 2551 16:06 น. - comment id 882367
วันนี้อ่านกลอนลุงแก้วแล้วยิ้มทันทีเลยเข้าใจเปรียบนะคะ..... น้อยใจอะไรคะ คนแก่มีแต่คนอยากดูแลทั้งนั้นแระคะ
4 สิงหาคม 2551 18:07 น. - comment id 882388
สวัสดีค่ะ คุณครูแก้ว มาแลคนแก่ค่ะ ใครบ้างที่จะไม่แก่นะคะ
4 สิงหาคม 2551 21:27 น. - comment id 882450
แวะมาดูแลความรู้สึกของคนแก่ครับ ผมชอบกลอนทุกบทของคุณลุงก้วประเสริฐครับ สูงวัยใช่ว่าไร้ค่า ครับ
4 สิงหาคม 2551 21:33 น. - comment id 882454
สวัสดีครับคุณแก้วประเสริฐ แค่บทแรกก็เห็นภาพชัดเจนเลยครับ มะเขือที่ถูกเผา ถึงแม้จะแก่แต่ก็มากความรู้และประสบการณ์น่ะครับ
4 สิงหาคม 2551 22:52 น. - comment id 882478
......... มาเป็นกำลังใจให้ท่านอาจารย์ จะแก่จะอ่อนก็คารวะเสมอค่ะ เตรียมพร้อมจะแก่ตลอดเวลาค่า ตั้งใจหวังไว้ว่า......... อยากเป็นคนแก่ที่มีความสุข และมีคุณภาพแบบ ท่านอาจารย์แก้วนะ
4 สิงหาคม 2551 23:55 น. - comment id 882523
อิอิ..ตัดพ้อใหญ่เลย...ใครหนอใครทำร้ายครูแก้วได้ ถึงจะแก่แท้ไหมหากใจห้าว ปอกมะพร้าวน้าวธนูยังสู้ไหว สิบภูผาห้าเนินกล้าเดินไป เหตุไฉนว่าแก่ไม่แน่จริง อิอิ..เขาสบประมาทซะแล้วนิครับ
5 สิงหาคม 2551 06:51 น. - comment id 882575
"จะเขียนกลอนสักตอนแสนลำบาก" แต่เขียนออกมาแล้วก็ยอดเยี่ยมทุกทีเลยนะครับ แวะมาทักทายตอนเช้าๆครับ
5 สิงหาคม 2551 09:20 น. - comment id 882632
หวายๆๆๆใครว่าเช่นนั้น คนแก่น่ารักหวานจะตาย มะเขือเผาหวานเช่นไร คนแก่ไซร้ไม่ต่างกัน..
5 สิงหาคม 2551 13:29 น. - comment id 882705
คุณ พรรณ ครับคนแก่ก็มีหัวใจ แต่หัวใจในเมื่อสิ่งนั้นถูก ย่ำยีจนต้องโดดเดี่ยวเดียวดาย มันช่างน่าอาภัพ จริงๆนะครับ ขอบคุณครับ แก้วประเสริฐ.
5 สิงหาคม 2551 13:34 น. - comment id 882706
คุณ จิตรำพัน ศิษย์รักเราเอย คนหนุ่มๆย่อมดีกว่าคนแก่ เพราะสมองย่อมบรรเจิดยิ่งนัก คนแก่นับวันจะล่วง โรยลาไปเสียแล้วละจ้า แต่ครูมีศิษย์รักที่จะมาลำนำ ต่อไป สิ่งนี่แหละคือความภาคภูมิใจยิ่งนัก รักมากเสมอ แก้วประเสริฐ.
5 สิงหาคม 2551 13:37 น. - comment id 882709
คุณ เพียงพลิ้ว จ้าหลานกานต์ที่รักลุงเสมอต้นปลายตลอด ขอบใจมากนะจ๊ะหลานรัก รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
5 สิงหาคม 2551 13:39 น. - comment id 882711
คุณ ครูกระดาษทราย จ้าศิษย์เราพยายามสรรค์หามาให้จีะตราบใด ที่ยังสามารถเขียนได้อยู่นะจ๊ะ รักศิษย์เสมอจ้า แก้วประเสริฐ.
5 สิงหาคม 2551 13:43 น. - comment id 882712
คุณ ไหมแก้วฟ้าสีคราม ที่จริงครูไม่ได้งอนใครๆหรอก เพียงได้ยิน เข้ามาเท่านั้น ซึ่งพวกสาวๆมารายล้อมครุระหว่าง เดินเล่น เขาว่าแก่แล้วจะกินหญ้าอ่อน ก็เลยนำมา เขียนเล่นๆเท่านั้นเองแหละไม่มีอะไรหรอกจ้า รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
5 สิงหาคม 2551 14:13 น. - comment id 882717
คุณ พิมญดา หรือครับผมไม่ได้น้อยใจหรอกครับ เขียนไว้ให้ คนที่หนุ่มๆอย่าทนงตนเองเท่านั้นแหละครับ ขอบคุณมากครับ อิอิ สมัยนี้คนแก่ไม่ค่อยมีใครจะ เหลียวแลหรอกครับ ปล่อยให้แก่แล้วแก่เลยครับ ผมเห็นมามากจึงต้องเจียมเนื้อเจียมตัวครับ ขอบคุณ ครับ แก้วประเสริฐ.
5 สิงหาคม 2551 14:21 น. - comment id 882719
คุณ ช่ออักษราลี จ้าศิษย์รักเรา ทุกๆคนย่อมต้องแก่ทั้งสิ้นหาก ไม่ตายเสียก่อนแก่นะ ขอบใจศิษย์รักเรามากจ้า รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
5 สิงหาคม 2551 14:30 น. - comment id 882722
คุณ ยิปซี4 ขอบคุณที่ชอบครับคนแก่ก็แบบนี้แหละครับ ในสายตาคนอื่นย่อมไร้ค่าเสมอๆครับ ผมเองถึงได้ เจียมเนื้อเจียมตัวเสมอๆครับ ขอบคุณครับ แก้วประเสริฐ.
5 สิงหาคม 2551 14:37 น. - comment id 882723
คุณ กุ้งก้ามกราม สวัสดีครับ ดั่งเช่นเห็นภาพนั่นแหละครับ ความรู้และประสบการณ์นั้นช่วยได้ครับแต่เป็น บางสิ่งบางอย่างที่พึงกระทำได้ครับ ขอบคุณครับ แก้วประเสริฐ.
5 สิงหาคม 2551 14:42 น. - comment id 882724
คุณ กันนาเทวี ศิษย์เรา การมีสติมีแผนการณ์เตรียมพร้อม ไว้สำหรับตัวของเราย่อมสามารถทำใจเราได้จ้า เรื่องเช่นนี้ผมเองเตรียมตัวมานานแล้ว เพราะเชื่อ มั่นในคำสอนของพระพุทธองค์เสมอมา คือความ ไม่ประมาทนั่นเอง ขอบใจมากจ้า ที่เขียนนี้เพราะ ไม่รู้ว่าจะเขียนอะไร อิอิ รักศิษย์เสมอ แก้วประเสริฐ.
5 สิงหาคม 2551 14:49 น. - comment id 882726
คุณ ฝากฝัน ขอบคุณที่แต่งกลอนยกยอผมครับ แต่ที่แน่จริง คือมะเขือเผาแหละครับ ช่างเขาเถอะครับ ผมได้ยิน เขาพูดก็เลยนำมาเขียน เพราะเขียนมาเกือบหมด จนไม่มีอะไรจะเขียนแล้วครับ อิอิ เขาพูดแต่ไม่จริง ครับ ขอบคุณครับ แก้วประเสริฐ.
5 สิงหาคม 2551 14:54 น. - comment id 882727
คุณ ธนา ครับลำบากจริงๆครับเพราะไม่รู้จะเขียนอะไร เขียนมานับเป็นร้อยๆกลอนแล้วล่ะครับพยายามไม่ ให้ซ้ำๆกันครับถึงบอกว่าลำบาก ส่วนแนวเขียนก็ แบบโบราณจะเขียนสมัยใหม่ก็ได้แต่นิสัยผมไม่ค่อย ชอบยุ่งกับใครๆครับ ขอบคุณที่มาเยี่ยมครับ แก้วประเสริฐ.
5 สิงหาคม 2551 15:02 น. - comment id 882728
คุณ ยาแก้ปวด แหม๋หลานรักเรานี่ปากหวานจริงๆนะ มะเขือเผา หากเอามาจิ้มน้ำพริกปลาทูจะออกรสชาดอร่อยหวาน จ้า ส่วนผมปากไม่หวานหรอกจ้า ออกจะขวานผ่าซาก ไปซะมากกว่านะครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
5 สิงหาคม 2551 19:14 น. - comment id 882817
ในความเป็นจริงแล้ว...การได้ใกล้ชิดกับคนแก่...ทำให้เรามีความสุขมากนะคะ...การได้ดูแลซึ่งกันและกัน...ความเอื้ออาทร..สัมผัสที่มีแต่ความอ่อนโยน..ความห่วงใย...จริงใจ..เปี่ยมล้นด้วยมิตรภาพและความหวังดี...นิ่งสงบด้วยกิริยา...หากแววตายังเฝ้าคอยด้วยความห่วงหาอาวรณ์......ราชิกา...ชอบที่ได้ดูแลคนแก่ค่ะ.... แวะมาดูแล..คนแก่...คนนี้ค่ะ...เป็นห่วงเสมอค่ะ..ช่วงนี้งานเยอะค่ะ..ไม่ค่อยมีเวลาเข้ามาเยี่ยม..แต่ยังระลึกถึงเสมอนะคะ...
5 สิงหาคม 2551 20:51 น. - comment id 882875
ยังคิดถึงเมื่อครั้งที่พ่อและแม่ยังอยู่ด้วย กลับงานเหนื่อยๆเห็นรอยยิ้มของท่าน ได้ดุแลท่าน...มีความสุขมากเลยคะ.. มือเหี่ยวทรงอานุภาพมากมายนัก.. เวลาไม่สบาย..เวลาท่านเอามือมาแตะที่หน้าผาก.. อาการเจ็บป่วยนั้น...หาย...หายจริงๆๆ.. คิดถึงท่านจังเลยค่ะลุง..
5 สิงหาคม 2551 20:58 น. - comment id 882880
ลุงแก้วประเสริฐ ยกมือไหว้ขอรับ --- คนแก่ ไม่แน่ใจว่าเขากำหนดเกณฑ์วัดกัน ตั้งแต่อายุเท่าไหร่ ผมทราบแค่ว่ามี วัยรุ่นตอนต้น ตอนกลาง และตอนปลาย ก็คงไม่ผิดไปจากกันมั้งคับ ก็คงมีคนแก่ตอนต้น ตอนกลาง ตอนปลาย หรืออาจจะตอนปลายมากๆ แต่ยังไง ก็เริ่มต้นมาจากหนึ่งเสมอ ลุงก็แก่จริงๆ ผมก็ยังหนุ่มจริงๆ แต่สักวันผมก็ต้องสู่วัยของลุง แล้วลุงก็จะกลับมาเป็นวัยเด็ก วัยรุ่น ไล่ไปวัยต่อวัย หมายถึงเวียนว่ายตายเกิดกัน ก็คงมีแค่นี้ อย่าน้อยใจไปคับลุง ขนาดผมเป็นวัยรุ่นตอนปลายแล้วยังไม่น้อยใจเลย แหะๆ
5 สิงหาคม 2551 21:06 น. - comment id 882883
ไม่มีใครไม่แก่หรอกค่ะ ต่อไปก็ต้องแก่กันทั้งนั้น ฉะนั้นคงไม่มีใครคิดรังเกียจตัวเองเป็นแน่ เพราะตัวเองก็ต้องแก่กันทุกคน อิอิ
5 สิงหาคม 2551 21:22 น. - comment id 882892
หวัดดีครับคุณลุง.. .เหอๆ ถึงแก่ ก็แก่กล้า..เช่นมะพร้าว ..แลวัยห้าว สิวาววับ ..ด้วยราศรี ...ผ่านร้อนหนาว ยาวนาน มานับปี ...แลผลนี้ ใครเห็น เป็นต้องยล.. ...แก่แต่มีคุณค่านะครับคุณลุง..ทุกคนก็ต้องเจอเหมือนกัน..เกิด แก่ เจ็บ สุดท้ายก็..ตาย ..รักษาสุขภาพด้วยนะครับคุณลุง ผมยังศรัทธาฝีมือคุณลุงเสมอ
5 สิงหาคม 2551 21:48 น. - comment id 882902
พุดยังมีความอบบอุ่นใจ ที่ร่มรักเรือนไทยยังมีคุณแก้วค่ะ รักและรัก
6 สิงหาคม 2551 11:52 น. - comment id 883081
คุณ ราชิกา แฝดเพื่อนที่รักยิ่ง นานแล้วหนอที่เราเจอกัน คบหาสมาคมกันถึงแม้ว่าจะไม่เคยเห็นตัวจริงเพียง แต่ภาพก็ตาม แต่ใจเราทั้งสองยังครองรักมั่นต่อกัน ดุจประหนึ่งเคยร่วมสร้างกันมาในอดีตชาติก่อนก็มิ ปาน ให้ซึ่งความรัก ความผูกพันต่อกันแนบแน่น เสมอมา เราเองวันใดเห็นงานเพื่อนเราก็จะรู้สึก ยินดียิ่งต้องรีบเข้าไปอ่านทันที นอกเสียจากเรามิได้ เข้ามาเท่านั้นเอง ความห่วงใยซึ่งกันและกันนั้น ยากนักจะเกิดขึ้นได้แบบธรรมดา มันเป็นความ ซาบซึ้งที่บอกไม่ถูกเลยล่ะ เพื่อนเราห่วงใยต่อ เรามากจนบังเกิดพลังแห่งการต่อสู้ต่อโชคชะตา แต่ทว่าเพื่อนเอ๋ยเพื่อนก็ควรที่จะหมั่นดูแลตัว เองบ้างนะ เพราะงานในหน้าที่ไม่ใช่สิ่งธรรมดา ไหนจะต้องใช้สมองคิดไตร่ตรอง ไหนจะต้องเดิน ทางไปเรื่อยๆทำให้ร่างกายถึงแม้ว่าจะยังไม่แก่ เหมือนเราก็ตามย่อมทรุดโทรมขึ้นได้ ขอให้คิด ให้ดีสิ่งใดวางบ้างก็ควรวางหาตัวแทนมาแทนเรา เพื่อจะได้เป็นตัวของตัวเราเองบ้างนะ บอกตรงๆ ว่าคิดถึงมากและในทำนองเดียวกันเป็นห่วงใย มากด้วย รักแฝดเพื่อนที่รักยิ่งเสมอมิมีวันเปลี่ยน แปลงไปได้ตราบจนสิ้นลมหายใจ รักเสมอๆๆ แก้วประเสริฐ.
6 สิงหาคม 2551 12:03 น. - comment id 883083
คุณ ครูพิม ไม่มีความรักใดที่รักเรานอกจากตัวเราแล้ว จะมากไปกว่าความรักของพ่อแม่ ลูกจะดีหรือชั่ว อย่างไรท่านก็เมตตากรุณาเสมอแม้บางครั้งจะว่า กล่าวดุดันนั่นคือเปลือกนอกเพื่อความหวังดีที่จะ ให้เราเจริญรุ่งเรือง ส่วนภายในจิตใจนั้นมีความรัก ที่แนบแน่นบริสุทธิ์เสมอมา และสามารถตายแทน เราได้ ส่วนเพื่อนๆนั้นคือสิ่งที่มักจะมีในสองทางคือ ไม่ดีก็ชั่ว หากจะให้ตายแทนเราหาไม่ได้หรอก คนแก่มักจะขาดความรักของลูกเสมอ ยิ่งในยุค ปัจจุบันนี้แทบเรียกว่าจะไม่มีเอาเสียเลยด้วย อารยะธรรมตะวันตกครอบงำเกือบหมดไปแล้ว บางคนถึงกับกล่าวว่าเราเกิดมาเพราะความใคร่ ของพ่อแม่หาใช่ต้องการไม่ จึงได้เกิดมีการทำ แท้งและสมสู่มั่วไปหมดตามความพึงพอใจตัว เองเท่านั้น แต่เวลาใดที่จนปัญญามักจะเข้าไป หาพ่อแม่เสมอๆ ดุจสุภาษิตกล่าวว่า ไม่เห็นโลง ไม่หลั่งน้ำตาเป็นต้น ผมเองถึงแม้จะสิ้นบุญของ พ่อแม่ไปแล้วผมจะกราบบูชาพระคุณท่านทุกๆวัน มิเคยขาดเลย คนเรามิใช่ว่าเกิดจากกระบอก ไม้ไผ่เอง ขอให้คุณครูคนสวยจงไตร่ตรองดูเอง เถอะว่าผมพูดถูกต้องหรือไม่ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
6 สิงหาคม 2551 12:26 น. - comment id 883087
คุณ ผมชื่อโจ้ ความเป็นคนแก่นั้นหากมองทางโลกแล้วคุณ ให้ดู พ่อแม่ ปู่ย่าตายาย พี่คุณเองเป็นปัจจัยว่าการ แก่นั้นเป็นอย่างไร คุณเป็นคนหนุ่มนั้นก่อนหนุ่ม เกิดขึ้นได้อย่างไร ความแก่เกิดขึ้นมาตั้งแต่คุณเกิด จะเปลี่ยนแปลงไป หากพูดถึงทางธรรม คือ อนิจจัง ทุกขังและ อนัตตา นั่นเอง อนิจจัง คือการเปลี่ยน แปลงทุกๆอย่างไม่อยู่คงที่ ส่วนทุกขังนั้นคือความ เร่าร้อนประดุจไฟแผดเผาจิตใจเราให้เกิด ความทุกข์ทรมานจะเกิดการกระวนกระวายเสมอ หากไม่ระงับจิตใจหาต้นเหตุแห่งทุกข์ได้แล้วดับ มันเสียก็จะลามไปเรื่อยๆ ส่วนอนัตตาคือความ ไม่จีรังยั่งยืนเพราะไม่สามารถบังคับได้แล้วก็จะ สลายดับไป หากคุณพูดถึงวัฏฏะสงสาร การ เกิด แก่ เจ็บ ตาย นั้น การเกิดจะเกิดได้ด้วยเวรกรรม ของแต่ละบุคคล หมายถึงว่าพอดับก็เกิดทันทีคือ เป็นสัมภเวสี เมื่อเป็นสัมภเวสีก็จะดับอีกแล้วไป เกิดอีกเป็นไปตามเวรกรรมของแต่ละบุคคล บาง คนเกิดเป็นสัตว์นรกใช้เวรที่สร้าง บางคนเกิด เป็นสัตว์เดรัจฉาน นี่ก็คือส่วนหนึ่งของนรกที่ คุณต้องเคยได้ยิน ส่วนการเกิดเป็นมนุษย์นั้น ยากเย็นแสนเข็ญนัก เพราะต้องอยู่ในท่ามกลาง ระหว่างดีกับชั่ว เพื่อให้มาสร้างสะสมบุญกุศลเพื่อ จะดับไปอีกเป็นต้น หากทำดีไว้มากกว่าก็จะไป สู่ภพที่ดีเช่นสวรรค์เป็นต้น เดี๋ยวคุณจะสงสัย อีกว่านิพพานคือดับสูญไม่ใช่ครับ นิพพานก็คือ การเกิดเหมือนกัน แต่เป็นการเกิดที่หมดสิ้น กิเลสน้อยใหญ่ทั้งปวงดุจต้นไม้ที่ปราศจากราก แก้วแล้ว ฉันท์ใดฉันท์นั้น ไม่ต้องมาเกิดแก่ เจ็บและตาย หากพูดง่ายๆคือ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และ ดับไป นี่แหละคือไตรลักษณ์ อนิจจัง ทุกขังและ อนัตตาครับ หวังว่าคนหนุ่มคงจะเข้าใจนะครับ นี่ผมกล่าวเพียงย่อๆให้ฟังเท่านั้นเอง รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
6 สิงหาคม 2551 12:38 น. - comment id 883089
คุณ ผู้หญิงไร้เงา ถูกต้องครับสิ่งรักนั้นของคนเราเกิดจากตัวเรา ก่อน ทุกๆคนรักตัวเรามากที่สุด รองมาก็คือพ่อแม่ แล้วก็ต่อๆไปเรื่อยๆ ทุกๆคนย่อมต้องแก่เสมอ หากเราปรับปรุงจิตใจเรายอมรับตนเองนั่นแหละ คือความไม่แก่ แต่ต้องเป็นรักที่บริสุทธิ์ยิ่งได้ก็เพียง แค่ชะลอความแก่ของร่างกายได้อีกด้วยครับ ขอบคุณ มากครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
6 สิงหาคม 2551 12:50 น. - comment id 883092
คุณ กิ่งโศก สวัสดีครับ ครับทุกๆคนย่อมแก่ทั้งสิ้นไม่มีการยกเว้น สิ่ง เดียวที่ไม่แก่คือจิตใจเราต้องให้บริสุทธิ์การแก่ย่อม มีเฉพาะร่างกายเท่านั้น การแก่มีสองระดับ คือ ระดับหนึ่ง สมองธรรมชาติจัดไว้สูงสุดของร่างกายเรา หากได้รับการพัฒนาสม่ำเสมอพร้อมจิตใจเรา แก่นั้น ย่อมมีคุณค่า ระดับที่สอง คือ สมองไม่พัฒนารวมถึงจิตใจด้วย นั่นคือแก่ที่ไร้แห่งคุณค่า ชีวิตคนเราแบ่งออก เป็น สี่ประการด้วยกันคือ หนึ่ง ต้นตรงกลางคดปลายตรง สอง ต้นตรงกลางตรงปลายคด สาม ต้นคดกลางตรงปลายตรงตลอด สี่ ต้นตรงกลางตรงและปลายตรง นี่คือการพัฒนาการของสมองคนเราครับ ขอบคุณครับ แก้วประเสริฐ.
6 สิงหาคม 2551 12:51 น. - comment id 883093
ลุงคับ เอ่อผมเข้ามา เพื่อจะบอกลุงว่า สิ่งที่ลุงแก้วฯอธิบายไปในกระทู้กลอน ที่ชื่อ"ถวิลครวญ" เกี่ยวกับศัพท์ ใบไม้ล่วง แล้วผมท้วงว่า น่าจะเป็นใบไม้ร่วง ลุงก็ยังอธิบายมาให้ฟัง "ล่วง นั้นหมายถึงหล่นจากต้นไม้ หรือการสิ้นสูญไป ปราศจากย้อนกลับคืนได้ เช่น ล่วงลับ ส่วน คำว่า ร่วงนั้นยังเหลือเยื้อใย เช่น ร่วงโรย หมายถึงมิได้ หล่นจากสิ่งที่อาศัยอยู่ครับ เช่นดอกไม้ที่ร่วงโรย ยังติดอยู่ที่ก้านกิ่งใบเพียงแต่เหี่ยวเฉาและถึง หล่นก็ไม่ไกลต้น" ------ แต่ผมว่ามันไม่ใช่คับลุง ร่วง ๑ ก. หล่น เช่น ใบไม้ร่วง ผลไม้ร่วง, หลุด เช่น ถูกชกฟันร่วง ผมร่วง. ร่วง ๒ ว. รุ่ง, เรือง. --- ส่วน คำว่า ล่วง ที่ลุงนำมาใช้กับใบไม้ล่วง ล่วง ก. ผ่านจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง เช่น เดินล่วงเข้าไปในเขต หวงห้าม เวลาล่วงไปหลายปี. หรือลุงแก้วมีคำอธิบายนอกเหนือจากนี้ ผมก็เคารพครับ แต่ผมมักขี้สงสัย ถึงถามไป ไม่ได้มีเจตนาเป็นอย่างอื่น
6 สิงหาคม 2551 13:01 น. - comment id 883102
คุณ พุด คนสวยบ้านนาแห่งพงไพร ผมเองก็รักคุณยิ่ง นักเสมอต้นเสมอปลายตลอดมา เมื่อเข้ามาบ้านกลอน ไทยนั้นผมจะอ่านผลงานเสมอบ้างก็ยิ้มบ้างก็แอบ เก็บภาพสวยๆไว้เสมอครับ เราคบหาสมาคมมานาน มากแล้วแต่ความรักเรามิได้จืดจางลงไปแม้แต่น้อย นิด รำลึกคิดถึง หากคิดถึงมากๆก็จะเขียนกลอน ประกอบไว้เสมอๆครับ รักยิ่งรักเสมอๆ แก้วประเสริฐ.
7 สิงหาคม 2551 12:37 น. - comment id 883632
คุณ ผมชื่อโจ้ ที่ผมหมายของคำว่าล่วงใช้กับใบไม้นั้นความ หมายถึงล่วงลับนั่นเองครับ ถึงได้ใช้คำคำนี้ เพราะ ใบไม้จะปลิวหายไปไม่กลับคืนคล้องกับบทแรก ที่ไม่อาจย้อนคืนกลับมาได้ครับ ส่วนคำว่าใบไม้ ร่วงนั้นไม่ไกลจากต้นครับกลอนบางกลอนต้อง ตีความหมายกันมิฉนั้นกลอนก็ไม่สำคัญครับ ส่วนที่ว่าร่วงนั้นดังที่คุณบอกไว้ นะถูกต้องแล้วครับ แต่การเขียนกลอนนั้นต้องเน้น ความหมายไว้ด้วย การใช้ศัพท์นั้นต้องผสานกับความ หมายด้วย ที่คุณอ้างมาถูกต้องหมดครับ แต่ผมต้อง การเน้นใบไม้ที่ปลิวหายไปครับถึงได้ใช้คำ คำนี้เอง รักเสมอ ดีครับที่มีความละเอียดพยายามต่อไป จะเก่งมากครับ แก้วประเสริฐ.
8 สิงหาคม 2551 14:38 น. - comment id 884000
แวะมาอ่านกลอน และให้กำลังใจลุงแก้วนะครับ ใครว่าลุงแก้วแก่นะ กี้จะไปอวยพรให้มันไม่แก่ ลุงแก้วน่ะยังเป็นวัยรุ่นนะครับ ความคิดจิตใจสดใส ไม่คิดร้ายกับใคร หัวใจสดใสกว่าคนที่เรียกตัวเองว่าหนุ่มสาวเสียอีก ถ้าจะพูดเรื่องความแก่ ต้องโทษธรรมชาตินะครับ เขาให้ความอ่อนเยาว์มา แล้วถึงเวลาเขาก็ทวงคืน ลุงแก้วเป็นคนดี เป็นที่พึ่งทางใจ เป็นที่ปรึกษาของลูกๆหลานๆ รักลุงแก้วที่สุดเลย เทวดาองค์น้อยๆ
8 สิงหาคม 2551 19:35 น. - comment id 884116
คุณ วิสกี้ เลอ ฟองเบียร์ ขอบใจมากครับพ่อรูปหล่อ ผมเชื่อมั่นกฏแห่ง กรรม ก็ต้องเป็นไปตามเวรกรรมแหละครับ คนเรา นะสำคัญที่สุดคือจิตใจ หากจิตใจเราไม่คิดร้ายใคร และพยายามให้สดชื่นรื่นเริงก็ทำให้เราสบายใจครับ ผมถึงคิดเสมอว่าแล้วแต่เวรกรรมของแต่ละบุคคล ที่สร้างกันมาครับ ขอบคุณที่ยังรำลึกและรักผมเสมอๆ ขอให้รูปหล่อเหมือนเดิมอย่าเปลี่ยนแปลงนะครับ รักคิดถึงเสมอ แก้วประเสริฐ.