*** มาณวิกามธุสร *** ดั่งพิมานผ่านฟ้าพราวดารดาษ บุบผาชาติแย้มยวนชวนนวลฉวี แฝงอบอวลกลิ่นขจรขจายในเทวี สุดเปรมปรีดิ์เหล่านางกลางพนาวัลย์ หลากโขดหินแมกไม้ไหวเย็นฉ่ำ ละอองน้ำม่านหมอกกระฉอกสันต์ สู่พริ้งพรายสีแสงแฝงแพรวพรรณ พลิ้วสิ่งสรรค์บรรเลงเพลงขลุ่ยทอง สมานเสนาะไพเราะชื่นระรื่นกรับ สำเนียงขยับเสียงซ่านนงคราญสนอง หวานเสียงพิณเคล้าสนานผ่านทำนอง แว่วหวิวซ้องผ่านขจายสายลมเพลิน วิภาสสกาวผ่องพรรณนงคราญฉวี เปรียบเพชรมณีวิลาสปราศขวยเขิน เคล้าสร้างเพลงไทยเดิมมิเสริมเกิน ผีเสื้อเหิรมวลสกุณาเวียนมาพราว สายน้ำตกขานรับสดับเสียงเสนาะ ขานไพเราะเพริศพรายกระจายขาว งามประดับสายสุวรรณเถาวัลย์ยาว พริ้งย้อยพราวสุดสล้างข้างเปรมปรีดิ์ บรรเลงกล่อมพฤกษาฝ่าม่านหมอก ผ่านเย้าหยอกคนธรรพ์สรรค์เกษมศรี หลากยักษ์อสูรเวนไตยในบรรพคีรี ป่วนปั่นฤดีผ่านสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ถ้อยสำเนียงผ่านเสนาะไพเราะโสตถ์ ทิพย์โอษฐ์เจื่อนแจ้วแผ่วผ่านถึง แม้นแต่องค์เทพเทวัญซ่านรำพึง หวนคำนึงหวานผ่านอวลรัญจวน มาณวิกามธุสรยอกย้อนประดิษฐ์ สู่แนบสนิทเสนาะไพเราะสรวล ยิ่งสำเนียงขานแผ่วแนวเนื้อนวล พลันปั่นป่วนหฤทัยใคร่ฟังดนตรี. *** แก้วประเสริฐ. *** (ภาพของคุณ ช่ออักษราลีผมนำมาตบแต่ง)
23 กรกฎาคม 2551 14:50 น. - comment id 877454
มาร่วมซึมซับความงามด้วยคนนะคะ ปล.เห็นรูปแว่บๆที่กระทู้ไปโรงเรียนบ้านท่าระพา มาเป็นไงมั่งคะ... เห็นรูปแล้วรู้สึกชื่นชมทุกท่านเลยค่ะ
23 กรกฎาคม 2551 14:59 น. - comment id 877462
มาชื่นชมความงดงามของกลอนคะ
23 กรกฎาคม 2551 15:11 น. - comment id 877468
สวัสดีค่ะคุณลุงแก้ว..... มาชื่นชมอักษรที่งดงามตอนบ่าย ๆ เจ้าค่ะ....
23 กรกฎาคม 2551 15:11 น. - comment id 877469
เสียงน้ำตกไพเราะจังเลยนะคะ
23 กรกฎาคม 2551 15:32 น. - comment id 877486
มานั่งอ่านกานท์กลอนอันอ่อนช้อย ที่เรียงร้อยไพเราะเสนาะหวาน ให้ซึ้งซาบปลาบปลื้มฤดีดาล เกินจักขานเอื้อนเอ่ยเผยจวี..... สวัสดีค่ะ คุณครูแก้ว
23 กรกฎาคม 2551 17:47 น. - comment id 877532
23 กรกฎาคม 2551 19:46 น. - comment id 877557
แวะมาหาประสบการณ์ แวะมาอ่านกลอนไพเราะ ยังคิดถึงผลงานแสนเสนาะ มาอ่านเพราะชื่นชมคารมกลอน
23 กรกฎาคม 2551 19:49 น. - comment id 877560
เสียงดนตรีไพเราะมาก ๆ ครับ
23 กรกฎาคม 2551 19:53 น. - comment id 877565
งาม จริง ๆ ครับผม
23 กรกฎาคม 2551 20:26 น. - comment id 877576
ผลานยอดเยี่ยมตามเคย สมแล้วที่ศิษย์น้อมคารวะเป็นครูกลอน
23 กรกฎาคม 2551 20:42 น. - comment id 877585
เพียงแผ่ว..คีตา แห่ง บทเพลง.. ก็จับจิตแล้ว..ครับคุณลุง.. ไหนจะถ้อย..ความ ถอด..บรรจง ย่อมตรึงใจ..ทุกครา.. ................... แวะมาชื่นชมฝีมือคุณลุง ด้วยศรัทธาครับ
23 กรกฎาคม 2551 22:47 น. - comment id 877626
สวัสดีค่ะ มาชื่นชมผลงานไพเราะๆค่ะ
24 กรกฎาคม 2551 00:10 น. - comment id 877664
คุณลุงแก้วเอาอีกแล้ว ดูเขียนสิครับ "มาณวิกามธุสร" คำเหล่านี้ คำโบราณเลยครับลุง แค่ชื่อก็รู้สึกถึงกลิ่นอายของ สวนปาหิมพานต์ สระโบกขรณี สรงสนานนที บรรเลงเภรีฉิ่งกรับกลอง โอว!พระเจ้า ลุงนี่ชอบพิจารณาสังขารจริงๆเลย ---------- แต่แอบเป็นเด็กเกเรอย่างเคย คืออ่านกลอนลุงแก้วแล้ว รู้สึกว่า ลุงใช้คำเกลื่อนไปหมดเลย ไม่ใช่ไม่ดีนะขอรับ แต่มันกระจัดกระจาย จะลงไม่ลง หรือว่าลุงเสียดายไปหมด เลือกไม่ถูกว่าจะเอาคำไหนมาใส่คับ แหะๆ คงไม่ดุผมนะคับ
24 กรกฎาคม 2551 00:22 น. - comment id 877675
อ่านแล้ว อยากไปเที่ยวน้ำตก ค่ะ บรรยาชะอยากไปเลย
24 กรกฎาคม 2551 04:31 น. - comment id 877736
สวัสดีค่ะ คุณครูแก้ว งดงามมากๆค่ะ กลอนนี้พาเพลินสดสวย ด้วยถ้อยคำ น้องโจ้ แต่พี่ชอบมากๆนะคะ บ่งบอกถึง ความสามารถทางสติปัญญา การนำคำ ทางโบราณ คำต่างๆซึ่งคนสมัยน้องโจ้ อาจไม่รู้จักมาใช้ ต้องมีกระจัดกระจาย ไปทั่วกลอนแหละค่ะ ถึงจะไพเราะ ให้ วางตรงไหนไว้ที่เดียว กลอนจะไพเราะ ได้อย่างไร น้องต้องศึกษาคำของคุณครูแก้ว ให้มากๆ และลึกซึ้ง จะได้รู้จักคำมากขึ้นเพื่อ เพิ่มพูนสติปัญญาเราเองค่ะ น้องเป็น นักกลอนรุ่นใหม่ ต้องศึกษาวิธีคิดจาก นักกลอนรุ่นเก่าเยอะๆนะคะ นี่บอกมา เพราะรักค่ะ
24 กรกฎาคม 2551 10:40 น. - comment id 877841
Imágenes para hi5 ไม่มีอะไรจะบรรยายเอาน้ำเย็นๆๆมาฝากคะ
24 กรกฎาคม 2551 11:17 น. - comment id 877887
คุณ โคลอน นับได้ว่าเป็นงานที่ใหญ่ยิ่งยิ่งใหญ๋งานหนึ่งครับ ที่สำคัญคือความสามัคคีกันร่วมกิจกรรมดั่งพี่น้อง ทั้งๆที่มาจากที่อื่นต่างๆกันครับ ทุกๆคนรู้จักหน้าที่ โดยไม่ต้องวางแผนมากของคนจัดเลย ทุกๆคน เข้าใจกันเองครับ ใครมีฝีมือทางไหนก็ไปทางนั้น ปราศจากการอิจฉาริษยาวางตัวกันครับ ดีมากเลย เท่าที่ผมเองเห็นมานะครับไม่มีการกล่าวต่อล้อกัน เลยนี่คือสิ่งที่น่าภูมิใจมากครับ ขอบคุณครับ แก้วประเสริฐ.
24 กรกฎาคม 2551 11:22 น. - comment id 877892
คุณ ทิวา ขอบคุณมากครับที่แวะมาเยี่ยมคนแก่ครับ หากว่างๆเชิญนะครับบ้านนี้เปิดตอนรับทุกๆคนและ รับฟังความคิดเห็นด้วยเสมอๆครับ ขอบคุณ แก้วประเสริฐ.
24 กรกฎาคม 2551 11:27 น. - comment id 877895
คุณ whitelily สวัสดีครับ ดีใจที่ชอบครับผมเองนั้นต้องการ สร้างความสุขให้แก่คนอ่านและคนเขียนด้วยครับ ขอบคุณ แก้วประเสริฐ.
24 กรกฎาคม 2551 11:33 น. - comment id 877899
คุณ เพียงพลิ้ว หลานกานต์ที่รัก หากเที่ยวน้ำตกนอกจากสิ่ง สวยงามธรรมชาติแล้ว เสียงน้ำตกนี่แหละหากฟัง ให้ดีๆจะได้อรรถรสความแตกต่างของเสียงน้ำยิ่ง จ๊ะ ว่าการกระทบของเสียงน้ำนั้นเปรียบเสียงดนตรี ชนิดหนึ่งนะจ๊ะหลานรัก แก้วประเสริฐ.
24 กรกฎาคม 2551 11:39 น. - comment id 877901
คุณ ครูกระดาษทราย สวัสดีจ้าศิษย์รัก การเขียนกลอนนั้นก็ต้อง ประกอบด้วยท่วงท่าทำนองผสานกับอักษรให้ผูกพัน กันวางอักษรให้เหมาะสมกลมกลืนกันถึงจะอ่อนไหว เรียกอารมณ์คนอ่านได้จ้า รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
24 กรกฎาคม 2551 11:44 น. - comment id 877909
dear silver snitch I need you miss & take you now kaewprasert
24 กรกฎาคม 2551 11:53 น. - comment id 877911
คุณ ฝนทอง เมื่อก่อนนั้นผมเองก็เขียนกลอนตามใจฉัน เสมอๆ อ่านทบทวนแล้วมันติดขัดต่อมาผมเองก็ พยายามค้นคว้าหาเหตุ จึงทราบว่าการที่เราเอง นั้นขาดคือความละเอียดลออขาดการไตร่ตรองหา เหตุผลนั่นเอง ก็เริ่มเปลี่ยนแนวทางใหม่จนพบ หนทางและกำหนดขึ้นไว้เองดังที่ผมสอนแก่ศิษย์ ผมเสมอๆ การแต่งกลอนนั้นต้องประกอบด้วย ปฏิภาณไหวพริบสติปัญญาของแต่ละบุคคลเป็นคน ช่างสังเกตุจดจำไว้แล้วนำมาใช้ครับ ขอบคุณ แก้วประเสริฐ.
24 กรกฎาคม 2551 11:57 น. - comment id 877914
คุณ อรุโณทัย นิคเนมไพเราะครับนึกว่าผู้หญิงเสียอีกครับ ด้วยคนเข้าชมกลอนผมมักจะเป็นหญิงเสียส่วนมาก ขอบคุณมากครับ แก้วประเสริฐ.
24 กรกฎาคม 2551 12:04 น. - comment id 877922
คุณ ครูใหญ่โรงเรียนเล็ก ไม่ได้เจอกันนานพอสมควรครับ สบายดีหรือ ครับ ผมยังจำได้เสมอๆครับ นึกถึงความเมตตา ปราณีที่มอบไว้ให้แก่พวกเราเสมอๆครับ ขอบคุณ แก้วประเสริฐ.
24 กรกฎาคม 2551 12:09 น. - comment id 877930
คุณ กันนาเทวี ศิษย์รัก งานทุกๆอย่างต้องเกิดที่อารมณ์เรา อย่าลืมนะ ทำจิตให้เป็นกลอน กลอนเป็นจิต รวม อารมณ์ไว้เป็นหนึ่งเดียวแล้วขจายงานออกไปใน การบังคับกลอนไว้ ก็จะได้กลอนที่มีคุณค่าและอ่อน ช้อยเสมอๆ ผิดถูกไม่ต้องคำนึงจะทำให้เราติดขัด แล้วนำมาขัดเกลาภายหลังจ๊ะ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
24 กรกฎาคม 2551 12:18 น. - comment id 877939
คุณ กิ่งโศก ในเมื่อคุณให้ความศรัทธาแก่ผม ผมก็จะบอก เคล็ดลับของผมไว้ให้ การเขียนกลอนเปรียบเสมือน หุ่นกระบอก หากวางไว้แม้จะสวยงามสักเพียงใดก็ จะไร้ซึ่งคุณค่าของหุ่น หากเราเอาอารมณ์ท่วงท่า ทำนองใส่เข้าไปในหุ่นนั้นเมื่อใด หุ่นนั้นก็ย่อมมีคุณ ค่าขึ้นในทันที เปรียบเสมือนกลอนก็เช่นกัน การทำ ให้กลอนอ่อนไหวพลิ้วถูกใจคนอ่านก็ด้วยอารมณ์ ที่เราเขียนขึ้น โดยทำใจให้รักกลอนก่อน แล้ว กลอนก็จะรักเราเช่นการทำจิตเราให้เป็นกลอน จนกระทั่งกลอนรักเรารวมเป็นกลอนเป็นจิต เมื่อใดนั่นแหละกลอนก็ย่อมสามารถควบคุมได้ โดยอารมณ์นำอักษรผสานเข้ากับกลอนบังคับ อักษรไว้ กลอนก็ย่อมจะสวยงามเร้าใจคนอ่าน การฝึกก็ไม่ยากนัก ผิดถูกอย่างไรไม่ต้องคำนึง ถึงเพียงแต่เราสามารถขัดเกลา ใหม่ๆก็ติดขัด บ้างแต่ต่อไปก็จะเกิดความชำนาญขึ้นการที่ดี ต้องหมั่นสังเกตุให้ความละเอียดลออแก่เขา กลอนก็จะไม่กระด้าง หมายถึงการเปิดมุมกว้างให้ แก่กลอนจีะ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
24 กรกฎาคม 2551 12:23 น. - comment id 877942
คุณ การัณยภาส สวัสดีครับ ดีใจที่ถูกใจคุณครับ ขอบคุณครับ แก้วประเสริฐ.
24 กรกฎาคม 2551 12:32 น. - comment id 877948
คุณ ผมชื่อโจ้ ขอบคุณที่ให้แง่คิด ผมเองนั้นมิบังอาจว่ากล่าว ใครๆได้หรอกครับ นอกจากให้กำลังใจเขา ด้วยผม รู้ตัวเสมอว่าความรู้น้อยต่ำต้อยยิ่งนักครับ เพราะ การมองของคนเรานั้นต่างมุมมองซึ่งมันมีเพียงสอง มุมเท่านั้นคือมุมแคบกับมุมกว้าง อยู่ที่ว่ามุมมองแต่ ละคนนั้นจะอยู่ที่มุมใดครับ การเขียนกลอนก็เหมือน กับการร่างหนังสือฉบับหนึ่งให้คนเขาอ่านกันซึ่งก็ มีหลักการณ์คล้ายๆกันครับ เข้าใจว่าคุณคงจะรู้ ฉนั้นการเขียนกลอนก็เหมือนกันครับ ขอบคุณ แก้วประเสริฐ.
24 กรกฎาคม 2551 12:40 น. - comment id 877954
คุณ ช่ออักษราลี ศิษย์ที่รักยิ่ง ที่เข้าใจเจตนารมณ์ครูได้อย่าง ลึกซึ้งสมแล้วที่ครูมอบให้สานเจตนารมณ์ครูไว้ต่อไป เพราะครูเองถึงแม้จะรับศิษย์ไว้พอประมาณ แต่เธอ คือหนึ่งที่ครูหมายมั่นปั้นแต่งอย่างสูงมีไม่กี่คนเท่านั้น ที่เข้าใจหลักเกณฑ์การเขียนกลอนอย่างลึกซึ้งเสมอ ขอบใจมากที่อธิบายในสิ่งที่บางคนไม่รู้ได้รู้จ๊ะ ครูรัก เธอมากเสมอๆจ้า แก้วประเสริฐ.
24 กรกฎาคม 2551 12:47 น. - comment id 877958
คุณ Black MooN สิ่งที่ผมโปรดปราณมากที่สุดคือป่าเขาลำเนาไพร และน้ำตกสายธาร สิ่งเหล่านี้ให้ความร่มรื่นสบายใจ แก่ผมมาก เสียงน้ำตกคือเสียงดนตรีชนิดหนึ่งหาก เราตั้งใจฟังดูมีทั้งจังหวะจะโคนพร้อมเสร็จครับ ผม เองมักจะไปเสมอๆจ้าแต่ชอบไปนั่งคนเดียว เพราะสามารถสร้างในสิ่งต่างๆได้เสมอ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
24 กรกฎาคม 2551 12:52 น. - comment id 877959
คุณ พิมญดา เพียงแค่นี้ผมก็ดีใจซาบซึ้งยิ่งนัก ไม่มีอะไรให้ นอกจากความรู้สึกที่ซาบซึ้งแห่งดวงใจผมนี้ให้แก่ คุณครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
24 กรกฎาคม 2551 19:12 น. - comment id 878147
มาช้าไปหน่อยค่ะ ...อิอิ ภาพสวยค่ะ
24 กรกฎาคม 2551 19:14 น. - comment id 878148
คุณลุงแก้วน่าจะแต่งตอบพี่ช่อ..บ่อยๆนะครับ จะได้เป็นกรณีศึกษาให้น้องๆ.บ้าง.. เพราะงานเขียนของคุณลุงกะพี่ช่อ..ทางเดียว กันเลย..หวานไม่แพ้กัน..น่ะครับ..
24 กรกฎาคม 2551 20:50 น. - comment id 878226
คุณ มณีจันทร์ ไม่เป็นไรหรอกครับช้าดีกว่าไม่มาเน๊อะ อ้อๆ...ภาพนั้นเป็นของคุณ ช่ออักษราลี สองภาพ ผมเลยมาตบแต่งให้เป็นภาพเดียวกันครับเพราะ ผมชอบภาพแบบเขียนมานานแล้วครับ ขอบคุณครับ แก้วประเสริฐ.
24 กรกฎาคม 2551 21:10 น. - comment id 878240
%36 คุณ อรุณสุข ผมทำไม่ได้หรอกครับ มีแต่จะยกย่องให้ช่อฯ นั้นเก่งกว่าผมมากกว่า เพราะเธอคือศิษย์รักของผม เองครับ สิ่งใดที่ศิษย์ก้าวหน้ากว่าครูนี่แหละคือสิ่ง ที่ผมปรารถนาภาคภูมิใจมาก และเธอนี่แหละหนึ่งในศิษย์ผม ที่ผมจะให้สานปนิธานของผมไว้ในอนาคตกาลข้าง หน้าครับ ฉนั้นสิ่งใดที่ผมทำได้ย่อมมอบให้เธอหมด สิ้น การที่กลอนลีลาคล้ายคลึงกันนั้นครูกับศิษย์ย่อม จะไม่แตกต่างกันเท่าไหร่หรอก ผมแก่แล้วอายุ ก็มากปฏิภาณความรอบรู้ย่อมอยู่ในวงจำกัดแล้ว ดังนั้นสิ่งใดที่ศิษย์มีและมีมากขึ้นเรื่อยๆย่อมเป็น สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมภาคภูมิใจมากครับ ขอบคุณครับ แก้วประเสริฐ.
24 กรกฎาคม 2551 23:50 น. - comment id 878390
ส่ง dvd ไปให้แล้วค่ะ เมื่อเช้า และในซองก็มีพระด้วย นายยอดฝากมา
24 กรกฎาคม 2551 23:59 น. - comment id 878395
คุณ อัลมิตรา ขอบคุณยอดหญิงมากครับ ฝากบอกขอบคุณ คุณยอดด้วยนะครับ ขอบคุณครับ แก้วประเสริฐ.
26 กรกฎาคม 2551 00:53 น. - comment id 878857
26 กรกฎาคม 2551 00:58 น. - comment id 878859
แวะมาชื่นชมครับ
26 กรกฎาคม 2551 13:55 น. - comment id 879020
คุณ รัมณีย์ ขอบคุณครับ แก้วประเสริฐ.
26 กรกฎาคม 2551 14:00 น. - comment id 879022
คุณ รัมณีย์ ขอบคุณหากว่างๆแวะมาใหม่นะครับขอบคุณ แก้วประเสริฐ.