อย่าเสียงดังใส่พ่อนะขอร้อง เสียงยังก้องอยู่ในหูไม่รู้หาย กำมือแน่นเขม้นมาเหมือนท้าทาย พ่ออับอายเกินกว่าจะกล้ามอง พ่อคงแก่เกินไปไร้ประโยชน์ เจ้าขึ้งโกรธโทษพ่อก่อสนอง ว่ากระทำสิ่งใดไม่ไตร่ตรอง ทำให้ต้องเคืองขุ่นแสนวุ่นวาย เจ้าคงเห็นพ่อเป็นเช่นคนแก่ ร่างกายแย่น่าเบื่อจนเหลือหลาย ชอบไต่ถามแต่เรื่องเปลืองน้ำลาย ดูน่าอายที่พูดพร่ำซ้ำเรื่อยมา เจ้าจะคิดอย่างไรก็แล้วแต่ ใจแน่วแน่เพราะรักเจ้าหนักหนา เคยอุ้มชูดูเจ้าเฝ้าเมตตา แม้วันหน้าพ่อขอย้ำทำเหมือนเดิม เพียงวันนี้พ่อเลอะเลือนไม่เหมือนก่อน เรี่ยวแรงอ่อนผ่อนล้าไม่มาเสริม มือเท้าสั่นหวั่นในใจเพิ่มเติม ดวงจิตเริ่มอ่อนแอแพ้ร่างกาย เพียงได้อยู่กับเจ้าสักคราวหนึ่ง ชีวิตซึ่งอ้างว้างได้ห่างหาย ตาที่เหม่อเลือนลับเริ่มกลับกลาย ใจที่ตายได้ละมุนอุ่นขึ้นมา อย่าเสียงดังใส่พ่อนะขอร้อง พ่อเพียงต้องการเจ้าเฝ้าเรียกหา ช่วยพยุงพ่อก่อนตายนะแก้วตา ช่วยรักษาน้ำใจพ่อขอขอบคุณ ----------------- ไร้อันดับ
3 กรกฎาคม 2551 16:51 น. - comment id 868913
เหมือนเวลาทำอะไรให้ยายแล้วยายมักจะพูดว่าขอบคุณค่ะ เสมอเลยทั้งที่เราก็เต็มใจทำไม่ได้หวังสิ่งตอบแทนเลย ... :)
3 กรกฎาคม 2551 18:50 น. - comment id 868960
แด่ คุณนักสืบ เข้าใจหัวอกพ่อพอๆกับแม่ คงมีสักวันที่เราเป็นอย่างนี้
3 กรกฎาคม 2551 21:11 น. - comment id 869006
คุณกุ้งหนามแดง สักวันเมื่อเราแก่เฒ่า เราจะขี้บ่นไหม เป็นที่รำคาญ ของลูกหลานไหม เราจะอยู่ ด้วยตัวเราเองได้ไหม เป็นเรื่องที่ผมอยากรู้จังครับ ขอบคุณที่มาทักทายครับ
3 กรกฎาคม 2551 21:14 น. - comment id 869008
คุณแก้วไหมฯ ถึงจะมีสักวัน ก็ขอให้เป็นวัน ทีเรายังมีจิตใจที่เข้มแข็ง เพื่อทนต่อสิ่งที่เรา ต้องเผชิญได้ครับ ขอบคุณที่มาทักทายครับ
3 กรกฎาคม 2551 21:22 น. - comment id 869011
ถึงสิ้นเดือนเหมือนสิ้นใจใครจะรู้ เพราะเงินกู้เขาไว้ยังไม่สร่าง ข้าราชการจนจนหมดหนทาง ที่จะสร้างอนาคตงดงามตา บ้านต้องเช่าข้าวต้องซื้อ ซื้อทั้งหมด อนาคตของลูกน้อยคอยข้างหน้า เฝ้าทำงานกินเงินเดือนเนิ่นนานมา ด้วยหวังว่าสร้างอนาคตแสนงดงาม จากวันนั้นถึงวันนี้หลายสิบปีแล้ว เขายังแกร่วเช่าบ้านเขาเฝ้าไถ่ถาม อีกเมื่อไรอนาคตถึงงดงาม เราเฝ้าถามไร้คำตอบมาปลอบใจ ขอลูกแม่ตั้งใจเรียนเพียรฝึกฝน ลูกอดทนเพื่ออนาคตที่สดใส แม่ไม่มีเงินทองมากอย่างใครใคร แม่ให้ได้คือลูกเรียนเพียรวิชา ลูกอาจไม่เทียบเทียมเท่าเทียมเพื่อน อย่าแชเชือนอายเขาเฝ้าศึกษา คนจะดีที่พรากเพียรเรียนวิชา ภายภาคหน้าลูกได้ดีมีคนชม ถึงวันนั้นแม่สิ้นใจคงไม่ห่วง เพราะลุล่วงดั่งตั้งใจไม่ขื่นขม ด้วยลูกแม่ได้ดีมีคนชม แม่สุขสมหลับสนิทนิทราเอย
3 กรกฎาคม 2551 21:58 น. - comment id 869018
.. แฮ่.. แฮ่.. ย่องๆ ดักตีหัวคุณยาแก้ปวด สหายกลอนของพี่ชายเรา ตีแล้วลากเข้าถ้ำ ลากไปๆ พี่ไร้อันดับลากไปเล๊ย อิอิ .....ได้อ่านกลอนแสนเศร้าร้าวรานจิต ให้นั่งคิดติดใจในสังขาร ยังหนุ่มฟ้อหล่อเหลือเมื่อวันวาน อยู่มานานกาลเปลี่ยนเวียนวกวน .........เฮ้อ บุ๋มๆๆๆ ดำน้ำๆระดับ500เมตรจากระดับน้ำทะเล 555555 เขียนกลอนแบบมั่วๆอีกแระน้องสาวพี่ อิอิ บุ๋มๆๆ
3 กรกฎาคม 2551 22:43 น. - comment id 869047
แวะมาอ่านกลอนดีๆค่ะ...
3 กรกฎาคม 2551 23:14 น. - comment id 869067
พ่อเฝ้ารอวันเจ้าเติบโตใหญ่ จะเข้าใจสิ่งที่พ่อพร่ำสอน รอเวลาเจ้าจำทุกบทตอน พ่อเฝ้าวอนสอนเจ้าให้เข้าใจ... ช่องว่างระหว่างวัย แต่ในที่สุดก็จะจูนกันได้ อดทนนะคะ..
4 กรกฎาคม 2551 00:22 น. - comment id 869087
ฉางนุ้ย เอ้ย น้อย ครายตีหัวใครกันแน่ ระวังให้ดี เหอ เหอ.. ใส่หมวกกันน็อกดีๆนะสหาย..
4 กรกฎาคม 2551 07:45 น. - comment id 869136
อูย...เตรียมตัวแก่เลยหรือครับ....อิอิ..ซ้อมไว้.. แต่กลอนได้อารมณ์มากเลยครับ...และนี่คือ ความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในสังคมปัจจุบัน ที่พ่อแม่มักจะถูกเกรี้ยวกราดจากลูกๆ ว่าแต่ว่า"จแก้ไขอย่างไรดี..ครับ" ฝากฝันเอง..มีลูก..แล้วก็ตั้งใจเลย..ยังไม่มอบมรดกใดๆ ให้..อิอิ..เผื่อไว้ขายเลี้ยงตัวเองนะ..ไม่ง้อลูก"
4 กรกฎาคม 2551 08:42 น. - comment id 869170
คุณแก้ว กลางไพร ความรักของพ่อแม่เป็นรักที่ยิ่งใหญ่เสมอ ขอบคุณสำหรับบทกลอนดีๆ มีสาระที่นำมาฝาก ถ้าผมเป็นลูกแล้วได้อ่านกลอนบทนี้ ผมคงเลือกทำแต่สิ่งดีๆ เป็นแน่ครับ ขอบคุณที่มาทักทาย อ้อ ยินดีที่รู้จักครับ
4 กรกฎาคม 2551 08:48 น. - comment id 869173
ฉางน้อย ยัยน้องตัวแสบ แหมๆๆ ไปดักตีเขาทำไมเขาเป็นคนดีน่ะ แล้วเป็นสาหายกลอนที่ดีด้วยดิ อิอิ จะลากเข้าถ้ำ เขามีถ้ำทองของชาละวัน อยู่จ่ะ เขาไม่เข้าถ้ำตัวเองหรอก ว่าแต่กลอนที่นำมาฝากเขียนได้ดีน่ะ ขอบอก อย่างนี้ไม่ดำน้ำแระ เหิรบนฟ้า ต่างหาก ดีใจที่มาทักทายจ่ะ
4 กรกฎาคม 2551 08:52 น. - comment id 869175
คุณwhite rose กลอนนี้ผมเขียนจากมุมมอง ของความรู้สึกของพ่อแก่ๆ คนหนึ่ง อยากให้ลูกทุกคนรับรู้ถึง ความรู้สึกอย่างนี้ครับ ขอบคุณที่ให้กำลังใจ ขอให้มีความสุขครับ
4 กรกฎาคม 2551 08:59 น. - comment id 869186
คุณยาแก้ปวด (สหายกลอน) มุมมองที่ผมแสดงให้เห็น เป็นมุมมอง ของพ่อแก่ๆ ที่รักลูกดังแก้วตาดวงใจ เลยเกิดอารมณ์ที่ตัดพ้อต่อว่ากัน จริงๆ คงเป็นความน้อยใจ ของคนแก่ๆ คนหนึ่งน่ะครับ ขอบคุณสำหรับกลอนดีๆ ที่นำมาฝาก และกำลังใจทีให้กันครับ
4 กรกฎาคม 2551 09:03 น. - comment id 869189
คุณยาแก้ปวด (สหายกลอน) ไม่เอาๆ ไม่ตีกัน เอ้าๆ จับมือกันไว้ หนึ่งก็สหาย หนึ่งก็น้องสาว น่ารักทั้งคู่ ไปคุยกันต่อในถ้ำดีก่า อิอิ ล้อเล่นห้ามถือสาน่ะ สหาย ขอให้มีความสุขจ่ะ
4 กรกฎาคม 2551 09:15 น. - comment id 869190
คุณฝากฝัน กลอนนี้ผมเขียนจากมุมมองของความรู้สึก ของพ่อแก่ๆ คนหนึ่ง ซึ่งคงมีมากใน สังคมอย่างที่คุณบอก ลูกที่เมื่อโตขึ้น มีความรู้ มีหน้าที่การงาน มักคิดว่าตัวเองเหนือกว่า คนอื่นรวมทั้งพ่อแม่ของตัวเองด้วย วิธีแก้ไขคือการปลุกจิตสำนึกให้ลูกๆ รับรู้ถึง พระคุณและความรักของพ่อและแม่ ที่มีให้ เพียงแต่พวกเด็กๆ จะมีเวลากันสิ่งเหล่านี้ หรือเปล่า เท่านั้นครับ ขอบคุณที่มาทักทายครับ
4 กรกฎาคม 2551 13:36 น. - comment id 869331
กว่าจะรู้คุณค่าของพ่อแม่ มองถ่องแท้ถึงค่านับมหันต์ มักสายไปเกินคิดเกินรำพัน บนวิถีทุกวันมักเจอะเจอ .......................................... แวะมาอ่านตอนทานข้าวกลางวันค่ะคุณนักสืบ สร้าง Comment ง่ายๆ ด้วยตัวคุณเอง..คลิ๊กที่นี่
4 กรกฎาคม 2551 13:49 น. - comment id 869341
คุณโอเลี้ยง คนเรามักมองเลยความรักที่พ่อแม่มีให้ เขาคงคิดว่าเป็นหน้าที่ที่พ่อแม่ต้องให้ ความรักแก่ลูกมั้ง รอจนขาดสิ่งเหล่านี้ จึงรู้ว่าไม่มีรักของใครหรอกที่หนักแน่น จริงจังเท่ารักของพ่อแม่ ขอบคุณสำหรับกลอนทั้งสองบทที่นำมาฝาก แต่กลบทอักษรล้วนแบบที่ ๑ ผมชอบ จริงๆ ครับ น่าทึ่งดี ขอบคุณที่มาทักทายครับ
4 กรกฎาคม 2551 15:25 น. - comment id 869404
เศร้าจัง คงทำให้ลูกๆได้คิดมั่งล่ะเนาะ ว่าเราเคยทำกริยาแบบนั้นหรือเปล่า
4 กรกฎาคม 2551 15:33 น. - comment id 869419
สะทกสะท้อนกลอนคำนำฉากเศร้า เพื่อให้เข้าถึงในคุณค่า กตัญญูและกตเวทิตา แก่บิดรมารดาชราวัย ติดตามมาอ่านต่อ สวัสดีค่ะไร้อันดับ
4 กรกฎาคม 2551 15:46 น. - comment id 869443
คุณโคลอน สิ่งที่ผมหวังในการเขียนกลอน บทนี้ ก็เพื่อให้ลูกๆ สำรวจตัวเอง แล้วให้เข้าใจถึงความรู้สึกของ พ่อแม่ที่แก่ชราครับ หวังอย่างยิ่งที่จะทำให้ลูกๆ ทั้งหลาย ทำให้พ่อแม่เสียใจน้อยลงครับ ขอบคุณที่มาทักทายครับ
4 กรกฎาคม 2551 15:54 น. - comment id 869454
พี่ดอกแก้ว กลอนนี้เขียนจากมุมมองของความรู้สึก ของพ่อแก่ๆ คนหนึ่ง ที่รักลูกต้องการที่จะ อยู่ใกล้ชิดถามไถ่ความทุกข์สุขของลูก ซึ่งเป็นความรู้สึกของพ่อแม่ทั่วไปครับ ซึ่งบางครั้งคงทำ ให้ลูกหงุดหงิดรำคาญ แสดงท่าทีที่ไม่ดีต่อพ่อแม่ออกมา หวังว่ากลอนนี้คงจะสะกิดความรู้สึก ลูกๆ ได้บ้างเท่านั้นครับ ขอบคุณสำหรับกำลังใจน่ะครับ
5 กรกฎาคม 2551 15:30 น. - comment id 869688
ลูกดื้อ ไม่เชื่อฟัง ฟ้องพี่สาวครับเลยค่ะ
5 กรกฎาคม 2551 23:34 น. - comment id 869781
คุณ ป. โห หายไปไหนมาตั้งนาน ไม่รู้ว่าจะถามใครรออยู่ คิดว่าเป็นอะไรไปแล้ว ทำไมช่วงนี้ไม่ค่อยเข้ามาเลย ไม่สบายหรือเปล่า หรือว่างานยุ่ง เป็นห่วงน่ะ ดีใจที่กลับมา ถ้าว่างไม่เป็นไร ก็ลงกลอนให้อ่านบ้างน่ะ ขอให้มีความสุขครับ อ้อ มีอะไรเล่าสู่กันฟังได้น่ะครับ
9 กรกฎาคม 2551 11:20 น. - comment id 870923
เฮ้อ....มั่วไปมา หาเจอจนได้ ป้าอิมอ่ะ เพิ่งมาใหม่ ไปบ้านใครๆ ก็ไม่ค่อยเป็นจ้ะ อิอิ
9 กรกฎาคม 2551 12:32 น. - comment id 870960
ป้าอิม ผมขอเรียกชื่อนี้น่ะ เรียกแล้ว ดูใกล้ชิดดี ตามมาถึงบ้านจนได้ ขอบคุณที่มา ยินดีต้องรับสู่บ้าน ไร้อันดับ ครับ
21 ธันวาคม 2551 22:04 น. - comment id 926864
24 ธันวาคม 2551 14:45 น. - comment id 928521
คุณฟา ขอบคุณสำหรับกำลังใจครับ
27 ธันวาคม 2551 19:30 น. - comment id 929866
...ตอนแรกวางไว้ที่ หทัยชนก.. แต่ตอนนี้ มาวางที่นี่ น่าจะได้ความรู้สึกกว่า.. copy มาวางละ.... ................................... ความคิดเห็นที่ 33 : หมายเลข 941933 ....อ่านแล้วนึกถึง เรื่องนี้....ไม้ใกล้ฝั่ง..... .................................. พ่อแม่ก็แก่เฒ่า จําจากเจ้าไม่อยู่นาน จะพบจะพ้องพาน เ พียงเสี้ยววารของคืนวัน ใจจริงไม่อยากจาก เพราะยังอยากเห็นลูกหลาน แค่ชีพมิทนทาน ย่อมร้าวรานสลายไป ขอเถิดถ้าสงสาร อย่ากล่าวขานให้ช้ำใจ คนแก่ชะแรวัย คิดเผลอไผลเป็นแน่นอน ไม่รักก็ไม่ว่า เพียงเมตาช่วยอาทร ให้กินและให้นอน คลายทุกข์ผ่อนพอสุขใจ เมื่อยามเจ้าโกรธขึ้ง ให้นึกถึงเมื่อเยาว์วัย ร้องไห้ยามป่วยไข้ ได้ใครเล่าเฝ้าปลอบโยน เฝ้าเลี้ยงจนโตใหญ่ แม้เหนื่อยกายก็ยอมทน หวังเพียงจะได้ยล เ ติบโตจนสง่างาม ขอโทษถ้าทําผิ ด ขอให้คิดทุกทุกยาม ใจแท้มีแต่ความ หวังติดตามช่วยอวยชัย ต้นไม้ที่ใกล้ฝั่ง มีหรือหวังอยู่นานได้ วันหนึ่งคงล้มไป ทิ้งฝั่งไว้ให้วังเวง ...... ..................................... มีลุงคนหนึ่งเขียนไว้ที่ข้างฝาบ้านว่า " ตอนตายไม่ต้องเอาอะไรดีดีๆไปให้กิน ถ้าอยากให้กิน ให้เอามาใหกินตอนมีชีวิตอยู่".......ไปเห็นมากับตาที่แปดริ้ว .....ทุกวันนี้ยังจำไว้เสมอ.....
28 ธันวาคม 2551 11:57 น. - comment id 930058
คณวุ้นเส้น ที่เขียนอยากให้ลูกได้อ่าน เพื่อรับรู้ถึงจิตใจของผู้เป็น พ่อแม่ ถึงแม้จะแก่มากแล้ว ก็ตาม หวังว่าจะสะกิดใจ ลูกๆ บ้างครับ ขอบคุณครับ