ฉันร้อนรุ่มกลุ้มใจในหัวอก เหมือนนรกหมกไหม้ไฟแผดเผา หลงระเริงรื่นรมย์เสพสมเงา มันหลอกหลอนยั่วเย้าให้เฝ้ารอ ดังความฝันไขว่คว้าเข้าถาโถม คอยเล้าโลมรุมเร้าเฝ้าร้องขอ ต้องเติมเต็มสักเท่าใดใจจึงพอ ราคะก่อราคีร่านซ่านฤดี เหมือนแมงเม่าร่าเริงร่อนถลา ปรารถนาความร้อนแรงแห่งแสงสี จึงมุ่งมั่นหลงภักดิ์ในอัคคี ด้วยพร้อมพลีมอบร่างลงกลางไฟ แม้นทั้งรู้พระเพลิงยังเหลิงหลง ร้อนแค่ร้อนมันคงมิพ้น "ใคร่" เพลิงแค่เพลิงสุมมันลงกลางใจ แผดเผาให้แดดิ้นสิ้นชีวา เป็นคนเหมือนภูตผีสิงสถิตย์ นำชีวิตบัดสีพลีตัณหา ระริกร่างเลือดเนื้อเพื่อบูชา เสพกามารื่นรสบทอัศจรรย์ โถมถั่งโถมโลมเล้าเข้าหลอกล่อ เพื่อเติมต่อเส้นทางอย่างหฤหรรษ์ หลงเวลาปลาบปลื้มจนลืมวัน ความสุขสันต์ผันแปรไม่แน่นอน นาฬิกาเดินไปไม่หยุดนิ่ง ดั่งถูกสิงให้เริงรำระบำฟ้อน ระริกร่างรื่นรสทุกบทตอน ตัวละครแสดงนำระบำโลกีย์
2 กรกฎาคม 2551 15:50 น. - comment id 868305
ร้อนแรงสมเป็น ช่อมะไฟจจริงๆค่ะ อ่านแล้วได้อารมณ์ดีนะคะ
3 กรกฎาคม 2551 11:44 น. - comment id 868765
ระบำฟ้อนร้อนเร่าเริงโลกีย์ มาเรียงร่ายบทกวีกฤษณา ดื่มกลกามความรักจากอุรา เสพกามาโลมเล้าเฝ้าพะนอ คุณครับ...ฝากฝันยอมรับบทกลอนของคุณนะ มันมากด้วยอารมณ์และจินตนาการ...แล้วก็กล้าที่ จะแสดงมันออกมาอย่างได้อรรถรสเชียวครับ ขอบคุณ..สำหรับกลอนงามๆเช่นนี้