*** วันที่รอคอย ***

แก้วประเสริฐ


          ***  วันที่รอคอย   ***
     นั่งคนเดียวเปลี่ยวใจในไพรพฤกษ์
เสียงอึกกระทึกเวียนวนระคนเสียง
มวลสัตว์ป่าหมู่ภมรร่อนคลอเคียง
วิมานเยี่ยงสรวงสวรรค์ชั้นเทพยดา
     พลันรำลึกสิ่งชวนล้วนเสพย์สันต์
ที่ผ่านวันสรรค์อดีตมากรีดหา
ประกอบกรรมชั่วดีล้วนนำมา
ทั้งสิเน่หาเปลี่ยนไปไม่โศภิน
     ผ่านครั้นกาลวัยชราพารำลึก
มาชวนนึกความหลังสร้างถวิล
มีทั้งรักโลภโกรธหลงปลงกวิน
สู่จางสิ้นเหือดไปคล้ายผันแปร
     ทั้งรูปลักษณ์จักงามพออัปลักษณ์
สิ่งงามนักหลีกไร้คล้ายฝากแผล
ล้วนหนีหายมลายจิตคิดอ่อนแอ
แสนท้อแท้ความจริงสิ่งอนิจจัง
     มองต้นไม้ใกล้เคียงส่งกลิ่นหอม
หมู่ภมรย้อมโลมเรียงเคียงมนต์ขลัง
เฝ้าเสพย์สมมวลผกามาสู่ภวังค์
หวานสร้างครั้งสิ่งไว้สลายงาม
     ล่วงจากขั้วหมดไปสิ่งใหม่ผลิต
วนเวียนปลิดก่อใหม่ไม่เกรงขาม
เปรียบดั่งชีวิตมนุษย์เราเฝ้าชั่วยาม
ธรรมรูปนามย่อมสิ้นหากอจินไตย
     ตัณหาก่อกำเนิดล้วนเลิศสล้าง
ล่อหลอกพรางเฉิดฉวีดั่งมณีฉาย
ต่างหลงใหลใฝ่ปองสนองหทัย
พอร่างกายคดเคี้ยวเลี้ยวหนีจาง
     ดุจดั่งฉันวันเวลาเฝ้ามาคอย
วันถูกสอยคืนกรรมตามสะสาง
เปรียบประหนึ่งธงสร้างนำมาวาง
แสนอ้างว้างใฝ่คนึงถึงเหตุการณ์
     เสียงน้ำตกพงพฤกษาหาสดชื่น
สิ่งชื่นมืนความหลังครั้งประสาน
น้ำตกละอองเปี่ยมซ่านนั้นเนิ่นนาน
วิหคขานหวานซึ้งคำนึงครวญ
     เมื่อไหร่หนอวันที่คอยจะลอยลับ
กายถูกจับใส่โลงคงไร้สรวล
อักษรกลอนแปดโคลงกาพย์ยานียวน
ฝากศิษย์ล้วนร้อยกรองสนองแล้ว.
        ***   แก้วประเสริฐ.   ***
      อันผลเวรกรรมที่ก่อ เป็น รูปนาม เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ นั้น
ล้วนแล้วแต่ผลแห่งเวรกรรมที่มวลแห่งสัตว์ทั้งหลายกระทำไว้ทั้งสิ้นจึง
เป็นผลต่อเนื่องหมุนวนเวียนเป็น วัฏฏะจักร ไม่รู้จบสิ้น ด้วยเหตุฉะนี้เวร
คือการกระทำ กรรมคือผู้สนอง มิอาจจะลบล้างกันได้ประดุจดั่งตาชั่งที่
เที่ยงตรง เวรอยู่ฝ่ายหนึ่ง กรรมก็อยู่อีกฝ่ายหนึ่ง หมายถึงผลดีชั่วนั่นเอง
หากข้างไหนหนักกว่าก็ย่อมไปเสวยอารมณ์แห่งสิ่งนั้น หากยังเท่ากันก็
ย่อมเกิดมาเป็นมนุษย์เพื่อสร้างความดีชั่วอีกครั้งหนึ่ง นอกเสียจากอรหัตผล
เท่านั้นที่จะไม่เกิดได้อีกต่อไป  จะขออธิบายสั้นๆนอกจาก อริยสัจสี่นั้น
ทุกๆคนเข้าใจพอจะพึงรู้  จะขอกล่าวถึงผลของธรรม คือขันธ์ห้าเท่านั้น
รูปนาม คือ  ร่างกายของเราที่ถูกตั้งขึ้นไว้
เวทนา คือ   การเสวยอารมณ์ต่างๆทั้งหลาย
สัญญา คือ   การจำได้หมายรู้ของขันธ์ห้า
สังขาร คือ   การปรุงแต่งอารมณ์ที่ผ่านเข้ามา
วิญญาณ คือ การรับรู้เพื่อปฏิบัติตาม (เปรียบดังผ้าสีขาวใสสะอาดไม่มีรอย
เปื้อนใดๆทั้งสิ้นประดุจประภัสสร)
        หากละทิ้งร่างกายไปจะนำไปได้เพียงแค่ เวรกรรมเท่านั้น สิ่งรับรู้จะดับ
ไปพร้อมรูปนาม คงไว้แต่ สังขาร และ วิญญาณ เพื่อเสวยอารมณ์ของเรา
เปรียบประดุจดั่งกงล้อแห่งเกวียนฉันท์ใดฉันท์นั้น ต้อง เกิด แก่ เจ็บ ตาย
เป็นของธรรมดา ล้วนทรงไว้ซึ่ง อนิจจัง ทุกขัง และอนัตตา การจะหลุดพ้น
ได้มีทางเดียว คือ สังขาร ไม่ปรุงแต่งอารมณ์ดับให้หมด จาก ตัณหา โลภะ
โทสะ และ โมหะ เท่านั้นคือพระอรหันต์เจ้า คือละวางเสียซึ่งทางโลกียะทั้ง
ปวงไม่เกี่ยวข้องใดๆทั้งสิ้นถึงจะเรียกได้ว่าเป็นพระอรหันต์เจ้า เพื่อความ
ประภัสสรในจิต ล่วงลุสู่ปรินิพพาน  เหมือนลางสังหรณ์แก่ข้าพเจ้าจึงได้
เขียนฝากชาวเวปฯกลอนไทยซึ่งเป็นเวปฯแรกและขอเป็นเวปฯสุดท้าย
ในการเขียนกลอนของข้าพเจ้าไว้  หวังอย่างยิ่งว่าคงจะเป็นประโยชน์
แก่พวกเราไม่มากก็น้อย ขอขอบคุณที่เข้ามาอ่านครับ รักเสมอ...
                                   ***แก้วประเสริฐ.***

n016.gif				
comments powered by Disqus
  • ไหมแก้วสีฟ้าคราม

    23 มิถุนายน 2551 18:31 น. - comment id 864947

    แด่ อาจารย์แก้วประเสริฐ
          กลอนนี้อมตะนะอาจารย์
          อ่านแล้วปลงๆ
          แต่ยังสงสัยอาจารย์
          มีเคล็ดลับอย่างไรผมจึงดำสนิทไม่ต้องโกรกย้อมค่ะ..ขอขอบคุณล่วงหน้าจะได้นำไปปฏิบัติบ้าง   กินงาดำ หรือ ดอกอัญชัน 29.gif29.gif29.gif
  • ราชิกา

    23 มิถุนายน 2551 19:01 น. - comment id 864954

    ...คุณแก้วประเสริฐ....แฝดเพื่อน..แวะมาเยี่ยมค่ะ...หากว่าง...แวะไปตอบ..คำอวยพรวันเกิดของเพื่อนพี่น้อง  ที่มอบให้คุณแก้ว..ที่บ้านของราชิกาด้วยค่ะ...สงสัยจะลืมนะเนี่ย...
    
    ปีนี้...ดูแลสุขภาพนะคะ...ทุกอย่างอยู่ที่ใจ...ขอส่งพลัง..และกำลังใจ..มาให้นะคะ...
    36.gif44.gif36.gif
  • แก้วประเสริฐ

    23 มิถุนายน 2551 19:12 น. - comment id 864958

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ ไหมแก้วสีฟ้าคราม
    
             หามิได้ศิษย์ที่รัก ครูเองไม่ได้ทานยา ดังที่
    กล่าวมาทั้งสิ้น อาจจะเกิดจากชาติปางก่อนที่กระทำ
    ไว้แม้แต่ฟันเองก็ยังใช้เคี้ยวอาหารได้ถึงจะหลุด
    ไปบ้างแต่ก็สามารถทำงาน  ด้วยครูนั้นมุ่งมั่นใน
    ศาสนามาเกือบทุกศาสนาตลอดจนลัทธิต่างๆเมื่อ
    ครั้งยังเป็นเด็กอายุประมาณสิบกว่าขวบเห็นจะได้
    เมื่ออ่านหนังสือได้ก็เริ่มศึกษาค้นคว้าตำราต่างๆ
    แม้แต่คำภีร์กุระอ่านที่ศาสนาอิสลามเคารพนั้นผม
    เองก็คลุกคลีกับพวกเขาจนสามารถแอบอ่านได้
    ทั้งนี้และทั้งนั้น ค้นหาจนพบว่า ไม่มีศาสดาองค์ใด
    หรือเจ้าลัทธิใดๆล้วนแล้วนำเอาพุทธศาสนาและ
    ศาสนาพราหมณ์มาประยุกต์เป็นคำสอนทั้งสิ้นเช่น
    การนับถือพระเจ้า ส่วนทางพุทธศาสนานั้นให้ถือ
    เพียงคำสอนดั่งพจนาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    พระองค์ทรงกล่าวว่าอย่าเชื่อพระองค์จงเชื่อใน
    ธรรมคำสอนทดลองนำไปปฏิบัติดูก่อนหากถูก
    ต้องค่อยถึงจะเชื่อถือ หมายถึงว่าพุทธศาสนามิ
    ได้มีพระเจ้า มีพระธรรมเป็นผู้นำทางเท่านั้น
    ส่วนรูปพระองค์นั้นสร้างขึ้นเพื่อรำลึกนึกถึง
    พระกรุณาธิคุณเท่านั้น  ครูเองฝึกฝนสมาธิโดย
    ใช้หลักสมถะภาวนาเป็นปัจจัย หาได้อาศัยสิ่ง
    ภายนอกไม่ สร้างจิตใจของตนเองให้ร่าเริง
    แจ่มใสเสมอ พยายามลดละเลิกวางบางสิ่งบาง
    อย่าง  ดั่งที่มีคำกล่าว่า ใจเป็นใหญ่ นั่นเองเมื่อ
    เจริญภาวนายามว่างๆมาตลอดจนปัจจุบัน ก็รู้
    ว่าตัวเองยังติดในกิเลสอยู่มากนัก แต่ความไม่
    ประมาทจึงทำอยู่เสมอๆ  ดังเช่นที่เคยสอนศิษย์
    ทั้งหลายว่าหากจะเล่นกลอนนั้นควรทำ จิตให้
    เป็นกลอนและกลอนให้เป็นจิต รวมอารมณ์เป็น
    หนึ่งเดียวก็สามารถจะกระทำกลอนนั้นได้ทุก
    ขณะจิตเสมอ ศิษย์และมีบางคนถามผมผมก็
    บอกบ้างเข้าใจบ้างไม่เข้าใจ ว่าทำไมกลอนผม
    ยิ่งแต่งยิ่งมากมาย ก็ด้วยเหตุดังนี้จ๊ะ  ผม ฟัน
    หนังมังสามิยังยืนแต่ก็สามารถชลอได้จ๊ะ การ
    ที่พระพุทธองค์เคยดำรัสว่าจะอยู่นานเท่าใดก็ได้
    หากเจริญด้วยธรรม ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา
    นั่นคือสิ่งนี้แหละ หากถึงอภิญญาฌาณก็สามารถ
    เอาธาตุทั้งสี่ คือ ดิน น้ำ ไฟ ลม มาเสริมรูปได้
    หากรูปขาดธาตุใดก็นำธาตุนั้นมาเสริมได้ ก็คือ
    ลักษณะเดียวกีนนั่นแหละครับ นี่แค่ปลีกย่อย
    เท่านั้น สาเหตุประกอบด้วยผลแห่งเวรกรรม
    ที่ผมทำไว้ทั้งสิ้นครับ แต่อย่างไร ตัณหา คือความ
    อยากก็ยังมีเสมอๆยาก  พูดนะพูดง่ายแต่ทำจริงๆ
    นั้นทำยากและถือว่ายากที่สุดจ้า แค่นี้ก่อนนะ
    เขียนยาวมามากแล้ว หวังว่าคงเข้าใจจะเป็นได้
    แต่ละบุคคลเท่านั้น หากทดลองทำจิตใจให้แจ่ม
    ใส ร่าเริง เสมอๆขจัดความโกรธให้น้อยลง สิ่งใด
    ลืมได้ก็ควรลืมไปเสียอย่าเก็บไว้ให้รกสมองเรา
    แม้เช่นผมแต่งกลอนแล้วหากจะให้ย้อนมาใหม่
    ก็ไม่สามารถทำได้เพราะผมจะลืมเสียครับ  หวัง
    ว่าคงจะเข้าใจนะครับ  รักเสมอ
    
                   16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • แก้วประเสริฐ

    23 มิถุนายน 2551 19:27 น. - comment id 864960

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ ราชิกา
    
              แฝดเพื่อนที่รักยิ่ง ผมไม่ลืมวันคล้ายวันเกิด
    ตนเองและคุณหรอกครับ คุณก็รู้ผมจะตอบก็เฉพาะ
    เวปฯหน้าเท่านั้นเองผมไม่เคยเข้าไปดุเวปฯไทยกลอน
    ใดๆเลยนอกจาก กลอนตามใจคุณ ที่ผมใช้ตั้งแต่เล่น
    กลอนนี้มาไม่เคยเปลี่ยนแปลงและเขียนเรื่องสั้น
    ครับผมจะเข้าไปดู อนึ่งช่วยตอบแทนผมด้วยนะครับ
    แล้วผมจะเข้าไปยังเวปฯที่คุณใช้ประจำครับ 
    ขอบคุณมากครับ รักเสมอๆ
    
                 16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • พิมญดา

    23 มิถุนายน 2551 20:09 น. - comment id 864969

    29.gifรับทราบคะคุณลุงแก้ว
    
    ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ36.gif11.gif
  • กชมนวรรณ

    23 มิถุนายน 2551 22:30 น. - comment id 865021

    1.gif ครูแก้วเป็นอะไร ชอบพูดเรื่องเป็นเรื่องตายบ่อยจัง ไม่อยากได้ยินนะค่ะ แต่รันก็รับคำครูแก้วนะค่ะ นับถือเสมอค่ะทีหลังอย่าพูดแบบนี้อีกเลยค่ะ ไม่สบายใจจริงๆๆ29.gif36.gif36.gif
  • ไร้อันดับ

    23 มิถุนายน 2551 22:32 น. - comment id 865022

    โห ลุงแก้ว พึ่งผ่านวันเกิด
    มาไม่กี่วัน คิดจะตัดช่องน้อย
    ต่อพอตัวแล้วหรือครับ 11.gif
    แต่ทางพระเขาก็ให้คิดถึงความตาย
    ไว้เสมอๆ ครับ อิอิ ผมเองก็ทำหนังสือ
    เตรียมแจกงานศพตัวเองไว้แล้ว
    เหมือนกัน  11.gif
    ขอบคุณสำหรับธรรมะที่
    เอามาฝากครับ 11.gif
  • แก้วประเสริฐ

    24 มิถุนายน 2551 00:02 น. - comment id 865032

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ จิตรำพัน
    
           สวัสดีจ้าศิษย์ที่รัก การทำดีกว่าไม่ทำ จะดีอย่างไร
    นั้นหาใช่สิ่งที่ควรกังวลไม่ ความแน่วแน่ตั้งใจนั่น
    แหละคือตัวช่วยอย่างดีสำหรับเราเอง ใช่แล้วครู
    เขียนกลอนนี้ไว้ก่อนเพราะต้องการวางพื้นฐานไว้
    ว่าอย่าได้อยู่ในความประมาท การรับศิษย์ปกติแล้ว
    ผมเองจะไม่เคยยอมรับมานานแล้ว พึ่งจะมีในไม่
    กี่เดือนนี้แหละจ้า ด้วยรักที่นี่และรักสิ่งที่ชอบก็ได้
    รับไว้ การฝึกฝนทำจิตให้เป็นกลอน กลอนเป็น
    จิตสามารถเขียนได้ทุกขณะจ้า อย่างเมื่อกี้นี้คุณ
    ราชิกามาเตือนว่าเขียนเกี่ยวกับผมไว้ในบ้าน
    กลอนของเธอช่วงนั้นพอดีคอมครูเสีย จึงได้ไป
    ที่บ้านคุณราชิกา ซึ่งเกิดวันเดียวกันเดือนเดียวงกัน
    เพียงห่างปีเท่านั้นเอง คำว่าแฝดเพื่อน ผมตั้ง
    ขึ้นมาเองเธอพึงพอใจด้วย และครูก็รีบไปแต่ง
    กลอนไว้ด้วย เป็นตัวอย่าง ว่าการทำจิตเราให้
    เป็นกลอน กลอนย่อมอยู่ในจิตเรา เมื่อฝึกฝน
    นานๆเข้ามันจะรวมตัวเป็นหนึ่งเดียวเหมือน
    การทำสมาธินั่นเองแหละ คำๆนี้ครูคิดขึ้นมา
    เองอาศัยการทำสมาธิเป็นปัจจัยจ๊ะ ส่วนจะดีหรือ
    ไม่นั้นอยู่ที่การรอบรู้อักษรและนำมาผสานกับ
    ทำนองไว้ดุจคล้ายการแต่งเพลงนั่นแหละเพียง
    แต่ถูกบังคับด้วยฉันทลักษณ์เท่านั้นจ๊ะ ส่วน
    ปลีกย่อยอื่นๆนั้นการผันอักษรก็สำคัญควรอย่า
    ใช้อักษรสุงมากอย่างเดียวต้องผสมผสานทั้งสูง
    กลางต่ำไว้ด้วยมิฉนั้นกลอนจะนำพาเราไปจ๊ะ
    เราต้องบังคับกลอนให้ได้ อย่าให้กลอนมาลวง
    เรานะจ๊ะ จำไว้ให้แม่นยำ รักเสมอ
    
                    16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • จิตรำพัน

    23 มิถุนายน 2551 23:24 น. - comment id 865047

    สวัสดีค่ะคุณครู 11.gif29.gif36.gif
    
         จะมีสักกี่คนคะที่รอคอยวันนั้น....ทั้งๆที่ทุกคน
    ย่อมรับรู้ว่าจะมาถึง...ไม่ช้าก็เร็ว
    จิตรำพันก็พยายามเตรียมตัวและเตรียมจิตให้พร้อม
    แต่หลายๆครั้งก็เขวไปบ้างค่ะ
    
         สิ่งที่ครูสั่งสอนจิตรำพันจะไม่เคยลืมเลยค่ะ
    และจะสานต่อ...จะไม่ปล่อยทิ้งร้างแน่นอนค่ะ
    แต่ก็ไม่ทราบว่า...จะสามารถทำได้ดีแค่ไหน
    
        เราไม่รับรู้ว่าวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร
    เราไม่รับรู้ว่าทางข้างหน้าในวันพรุ่งจะมีไหม
    แต่เราสามารถเตรียมพร้อมที่จะก้าวเดินหากวันข้างหน้ามาถึงใช่ไหมคะครู 11.gif36.gif
    
        ดูแลรักษาสุขภาพกายและจิตให้แข็งแรงด้วยนะคะคุณครู36.gif36.gif
    
                          รักและเคารพเสมอค่ะ
                            จิตรำพัน36.gif29.gif
  • แก้วประเสริฐ

    23 มิถุนายน 2551 23:32 น. - comment id 865053

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ พิมญดา
    
            ขอบคุณที่ห่วงใยครับ ที่กล่าวมานี่เป็นเรื่อง
    จริงจะเล่าให้ฟังครับ คือก่อนนี้นั้นผมเคยทำสมาธิ
    จิตรวมตัวเป็นหนึ่งเดียว  จิตจะจมไปเรื่อยผมตกใจ
    เพราะไม่มีครูอาจารย์ใดๆ ทำขึ้นเองทั้งสิ้น ผมต้อง
    ออกมาตั้ง 3  ครั้ง มานั่งนึกไตร่ตรองเหตุการณ์นี้
    จนคิดเอาล่ะหากตายไปตอนนั้นอย่างน้อยก็เป็น
    พรหมตามพระไตรปิฎกตายเป็นตาย เข้าสมาธิใหม่
    มันก็จมดิ่งไปเรื่อยสติผมก็ตามไปเรื่อยๆเรียกว่า
    เป็นไงเป็นกัน จนหยุดนิ่งว่างเปล่าปราศจาก
    สิ่งรบกวนใดๆทั้งสิ้น พอถึงตอนนี้เกิดดวงจิตขึ้น
    สองดวงจะเรียกอะไรไม่ทราบถกปัญหาธรรมกัน
    เกี่ยวกับการเกิดแก่เจ็บตาย ฝ่ายหนึ่งถามอีก
    ฝ่ายหนึ่งตอบเสมือนผมนั่งฟังเฉยๆครับแต่เป็น
    จิตนะครับ เกี่ยวกับขันธ์ห้าว่าเป็นอย่างไร การ
    สู่นิพพานเป็นอย่างไร ผมฟังไปคิดไปเห็นจริง
    ตามที่จิตมันสอบถามกันเองครับ ว่าหากจะไป
    นิพพานนั้นให้ไปอยู่ที่สังขารคือการปรุงแต่ง รูป
    รส กลิ่นเสียง โผสสัมผัส ที่ จิตที่ส่งออกไปพบมา
    แล้วเจตสิกก็นำมาบอกแก่ใจเราเองว่าสิ่งพบ
    เป็นอย่างไร ผมจึงได้ปัญญาว่าเอจริงซินะหาก
    ตัวเราจิตเราไม่ยอมปรุงแต่งสิ่งต่างๆก็จะไม่เกิด
    ความ โลภ โกรธ หลง อันเป็นรากเง่าใหญ่ของ
    กิเลสซึ่งตัวตัณหาคือความอยากมาสนอง  ก็จบ
    ผมนั่งฟังมันถกเถียงกันแก้ไขซึ่งกันและกันครับ
    ตอนนี้นมันแปลกอยู่อย่างหนึ่งคือก่อนเข้าสมาธิ
    นั้นผมตั้งใจว่าจะนั่งสักชั่วโมงเดียว พอครบ
    ชั่วโมงมันก็หยุดเถียงกันผมก็ค่อยๆถอยออกมา
    พอออกจากสมาธิครบ ชั่วโมงพอดี นี่ก็แปลกครับ
    ตอนนั้นผมเองคิดจะบวชออกป่าไปเลยล่ะ แต่
    ยังห่วงครอบครัวเด็กๆก็ยังเล็กต้องอาศัยเรา
    เลยตั้งสัจจะว่าขอทราบเพียงเท่านี้ภาระยังมีอีก
    มาก  นี่คือส่วนหนึ่งที่ผมปฏิบัติเกี่ยวแก่สมาธิ
    ผมก็บอกคุณไม่ได้ว่าไปได้ถึงขั้นไหนเพราะ
    ไม่มีอาจารย์บอก คิดเพียงทำใจให้สบายๆเท่านั้น
    ผมถึงสามารถบอกตามที่ผมทราบมาไว้ให้ทราบ
    ครับ  ยังมีอีกมากๆครับที่เกิด  คือผมมักจะรู้
    อะไรก่อนเสมอๆตอนทำสมาธิอยู่นั้น แต่บอกใครไม่ได้ หากบอกก็จะไม่รู้อีกนาน
    เท่านี้ก่อนนะครับ  ขอบคุณ
    
                  16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • แก้วประเสริฐ

    23 มิถุนายน 2551 23:40 น. - comment id 865055

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ กชมนวรรณ
    
             ในโลกนี้ล้วนอนิจจังคือความไม่เที่ยง สิ่งที่
    เที่ยงนั้นคนมักทำใจไม่ค่อยได้ ครูเข้าใจเธอดีที่
    เป็นห่วงรักครูขอขอบใจ ที่ครูเขียนไว้นั้นมีหลัก
    ถึงสามประการคือ หนึ่ง  ให้ทุกๆคนอย่าได้อยู่ใน
    ความประมาท สอง ควรมีสติพิจารณาเหตุผลของ
    ความเป็นจริงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ สาม เป็นการฝาก
    ศิษย์อันเป็นที่รักของครูช่วยดำเนินการสานต่อ
    ในสิ่งที่ครูรัก ไว้ ด้วยเหตุผลสามประการนี่แหละ
    ถึงเขียนไว้ ทั้งหมดล้วนเป็นเรื่องจริงทั้งสิ้นหาก
    ย้อนกลับมาอ่านที่ครูตอบคุณพิมญดาก็จะทราบ
    ว่าเหตุใดครูถึงเขียนไว้ เพราะไม่แน่ว่าครูจะ
    ทำงานต่อไปได้หรือไม่ ถึงไม่ตายก็ไม่สามารถ
    เขียนได้นี่ก็เป็นข้อหนึ่งจ๊ะ การไม่ประมาทนี่แหละ
    เป็นสิ่งที่ดี ควรยึดถือไว้นะจ๊ะ ครูรักศิษย์เสมอ
    ไม่ให้พูดก็จะไม่พูดเรื่องตายอีกจ๊ะ รักเสมอ
    
                  16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • แก้วประเสริฐ

    23 มิถุนายน 2551 23:47 น. - comment id 865056

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ ไร้อันดับ
    
              บอกด้วยความจริงใจว่าวันคล้ายวันเกิดผม
    นั้นมิเคยสนใจสักนิดเลย และก็ไม่เคยจัดงานสัก
    ครั้งเดียว ผมนึกถึงวันที่จะมาถึงเท่านั้นเอง ผมมอง
    ล่วงหน้าไว้ก่อนเสมอๆว่าทำอย่างไรดีล่ะที่จะทำสิ่งดี
    ไว้เพื่อต่อไปข้างหน้า เพราะผมเชื่อว่าภพชาติมีจริง
    เพื่อความไม่ประมาทจึงทำ การเขียนกลอนนี้ผมนำ
    มาจากการทำสมาธิของผมเองครับ มิได้ค้นคว้าสิ่ง
    ใดๆเลย เพราะไม่มีอาจารย์ที่ผมจะเชื่อถือมีอยู่ครับ
    และยากจนด้วยซิ จึงต้องทำเองครับ ผมบอก
    แล้วว่าการค้นคว้าหาได้เท่าที่หาครับ คุณอย่า
    เชื่อผมนะลองไตร่ตรองก่อนครับ ขอบคุณ
    
                16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • Silver Snitch

    24 มิถุนายน 2551 05:02 น. - comment id 865089

    36.gif36.gif36.gif
  • พรรณ

    24 มิถุนายน 2551 09:45 น. - comment id 865130

    เข้ามาอ่านคะ แต่ว่ายาวไปหน่อยนะคะ
  • พรรณ

    24 มิถุนายน 2551 09:48 น. - comment id 865131

    แต่เนื้อหาเขียนดีนะคะ เพียงเห็นข้อความยาวๆแล้วขี้เกียจอ่านคะ
    
    36.gif36.gif
  • แก้วประเสริฐ

    24 มิถุนายน 2551 10:37 น. - comment id 865142

    36.gif16.gif36.gif
    dear silver snitch
    
             I need you  miss & take care you
    
                         16.gifkaewprasert16.gif
  • แก้วประเสริฐ

    24 มิถุนายน 2551 10:41 น. - comment id 865144

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ พรรณ
    
           ขอบคุณที่แวะมาอ่านนะครับ แต่ผมชอบเขียน
    ยาวๆ เพราะนานๆจะเขียนสักที ข้อดีการเขียนยาว
    นั้นเป็นการผูกเรื่องและฝึกสมองเรา ผมเล่นเพื่อ
    ความสนุกสนานผสมผสานกันครับ ขอบคุณ
    
                    16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • แก้วประเสริฐ

    24 มิถุนายน 2551 12:23 น. - comment id 865183

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ พรรณ
    
             ขอบคุณที่ชมครับแต่ว่าอย่างที่ผมบอกแหละ
    การเขียนสั้นๆนั้น หากต่อไปจะแต่งเป็นเรื่องจะ
    ไม่สะดวกติดขัดและใช้เวลานานๆมากด้วยเหตุ
    ดังนี้ผมถึงชอบแต่งยาวๆ อย่างเช่นเรื่อง กากี เป็น
    ต้นเป็นเรื่องยาว เขาเขียนแค่ร้อยแก้ว ผมไม่พบ
    ร้อยกรองจึงนำมาเขียน อีกอย่างเรื่องสั้นๆนั้นผมก็
    มักจะเขียนยาวๆเป็นเรื่องเป็นราว เช่น เธออยู่ไหน
    ต่อมาเปลี่ยนเป็น ทัศยุราชันย์เป็นต้น มาติด
    อีกเรื่องหนึ่งที่เขียนค้างไว้ ผมก็ขี้เกียจเช่น
    คุณเลยไม่เขียนต่อครับ ขอบคุณครับ
    
                 16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • แมงกุ๊ดจี่

    24 มิถุนายน 2551 16:19 น. - comment id 865226

    สวัสดีค่ะ  คุณแก้วฯ
    
    แวะมาทักทาย 
    และขอบคุณ  36.gif
    
    รักษาสุขภาพด้วยนะค่ะ
  • แก้วประเสริฐ

    24 มิถุนายน 2551 16:43 น. - comment id 865231

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ แมงกุ๊ดจี่
    
              สวัสดีจ๊ะมะกรูด  อย่าคิดมากเราคนกันเอง
    ดีใจยิ่งที่พบกัน รักเสมอ
    
                    16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • รัมณีย์

    24 มิถุนายน 2551 18:01 น. - comment id 865267

    "..หากจะเล่นกลอนนั้น
    ควรทำจิตให้เป็นกลอน
    และกลอนให้เป็นจิต
    รวมอารมณ์เป็นหนึ่งเดียว
    ก็สามารถจะกระทำกลอนนั้น
    ได้ทุกขณะจิตเสมอ.." 
    
    สวัสดีครับอาจารย์ 
    ขอน้อมนำคำสอนของอาจารย์ข้างต้นครับ
    
    
    36.gif36.gif36.gif
  • สาวดำ-รำพันรัก

    24 มิถุนายน 2551 18:02 น. - comment id 865269

    3.gif ... อุ๊มานั่งเป็นเพื่อนลุงแก้วค่ะ 
    เห็นว่านั่งคนเดียว อิอิ 
    ... เอ ... วันเกิดปีนี้กี่ขวบแล้วค่ะ .. หุหุ
  • Black MooN

    24 มิถุนายน 2551 18:44 น. - comment id 865287

    แวะมาอ่านข้อความดีๆค่ะ อ่านนานมาก ยาวด้วย แต่ก็ ดีค่ะ
    
    แวะมาทักทายด้วยความคิดถึงค่ะ
    
    16.gif16.gif16.gif
  • แก้วประเสริฐ

    24 มิถุนายน 2551 19:21 น. - comment id 865301

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ รัมณีย์
    
              สวัสดีครับ  คำดังกล่าวผมจะสอนให้ศิษย์
    ฝึกฝนเสมอ ฟังดูไม่ยากนักแต่ก็ไม่ง่าย หากทำได้
    แล้วผมกล้ารับรองได้เลยเพราะก่อนจะบอกผม
    ทดลองด้วยตัวผมเองครับ เป็นเคล็ดลับที่ผมคิดค้น
    คว้ามาครับ  คำนี้หมายถึงหากว่างเวลาใดๆก็ตาม
    ให้หมั่นฝึกแต่งกลอนในใจไว้อย่างสม่ำเสมอแม้แต่
    ในห้องน้ำห้องสุขายิ่งดีเพราะเป็นที่สงบ นั่งสุขาไปก็
    แต่งกลอนไปผิดถูกไม่ต้องคิดใหม่เป็นอย่างนี้แต่
    พยายามให้อยู่ในฉันทลักษณ์ไว้ และจำคำสุดท้าย
    ไว้เพราะจะได้ต่อเนื่องสัมผัสในคำสุดท้ายบรรทัด
    ที่สองเท่านั้นพอ  ดีไม่ดีไม่ต้องคิดพอชำนาญ
    จิตก็จะเริ่มเข้าสู่กลอน กลอนก็ผสานเข้ากับจิต
    เมื่อสามารถรวมเป็นหนึ่งเดียวได้ หากคิดจะ
    แต่งเมื่อใด มันจะพรั่งพรูออกมาเองครับ ทาง
    ฝรั่งเขาเรียกว่า คอมมอลเซ็น  หรือทางไทยว่า
    จิตใต้สำนึกนั่นเอง พอคิดสิ่งใดมันก็จะออกมา
    อย่างนั้น เมื่อเรานำมาเขียนกลอนก็แค่เพียง
    ตบแต่งบ้างนิดๆหน่อยๆ ส่วนปลึกย่อยมีอีกแยะ
    ไม่ต้องไปสนใจว่าสัมผัสเลือน คำเลือน อะไร
    ทั้งสิ้น ใช่สัมผัสนั้นสร้างความไพเราะหากใช้
    เป็น โบราณกาลนั้นเขาไม่กำหนดไว้ จะสร้าง
    กฏเกณฑ์ไว้ก็คือกฏข้อบังคับเฉพาะกลอนเท่านั้น
    แม้แต่ โคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน ก็มาแยกแยะ
    ภายหลัง ส่วนร่ายนั้นก็มาจากการผสมผสาน
    ระหว่างโคลงแปดทั้งสิ้น  ที่ผมกล่าวนี้เห็นเรียก
    ผมว่าอาจารย์และมีความสนใจ จิตใจต้องหนัก
    แน่นถือว่าผิดเป็นครูอย่าโกรธง่ายให้อภัยคน
    เสมอจิตใจเราจะได้ผ่องใส อีกอย่างหนึ่งหาก
    กลอนจะดีจิตใจเราต้องร่าเริงแจ่มใสเสมอครับ
    แหมเขียนเพลินเขียว ขอบคุณครับ
    
                    16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • แก้วประเสริฐ

    24 มิถุนายน 2551 19:29 น. - comment id 865302

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ สาวดำ - รำพันรัก
    
            ด้วยความจริงใจเพราะผมเป็นคนจริงใจเสมอ
    คือผมเกิด ในวันที่ 21  มิถุนายน พศ.2485  ครับ
    ที่ลงไว้ในหน้าส่วนตัวเขาไม่มีตอนสมัครเล่นกลอน
    สูงสุดแค่ 2490  ผมถึงได้ลง  พศ.ผิดไปครับ ที่ถูก
    คือ พศ.2485 ครบ 66 ปีเต็มย่างเข้า 67 ปีแล้วจ้า
    แต่แปลกอย่างหนึ่งคือเมื่อวานเขามาบ้านผมและ
    ทายอายุผมในขณะที่วานมาทำงานตัดต้นไม้ว่าผม
    อายุแค่ ไม่เกิน 50  ผมหัวร่อถามย้อนว่าเมาหรือ
    เปล่า อิอิ  รูปถ่ายนี้ถ่ายเมื่อปีที่แล้วเองครับ 
    ขอบใจมากที่มานั่งเป็นเพื่อน เราเจอกันแล้ว
    นี่นา คุณเป็นคนสวยมากคนหนึ่งนะ อิอิ อย่า
    หาว่าคนแก่เย้าล่ะ เดี๋ยวคนเข้าใจผิด ฮ่าๆๆๆ
    รักเสมอไม่ลืม
    
                     16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • แก้วประเสริฐ

    24 มิถุนายน 2551 19:35 น. - comment id 865303

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ  Black MooN
    
                ขอบคุณที่แวะมาอ่านครับ ผมเองตั้งเป้า
    หมายไว้ว่าจะแต่งเดี่ยวเว้นวรรคมักไม่ต่ำกว่า
    แปดบท เพราะผมรักกลอนแปดมากครับ หากแต่ง
    คู่หมายถึงวรรคเดียวต่อเนื่อง เรียกว่าบทคู่ ก็จะไม่
    เกินแปดคู่เหมือนกันครับ ทำไมเหตุใดเพราะเพื่อ
    ความสนุกสนานอารมณ์หากแต่งสั้นๆนั้นง่ายมาก
    ครับ หากเป็นวัยรุ่นว่าไม่สะใจครับ อีกอย่างการ
    แต่งยาวๆนั้นสามารถแต่งเป็นเรื่องราวกันได้แต่
    นัยต้องเป็นเรื่องเดียวกันครับ  ขอบคุณที่แวะมา
    เยี่ยมครับ ขอบคุณ
    
                 16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • ยาแก้ปวด

    24 มิถุนายน 2551 20:48 น. - comment id 865332

    แหมลุงแก้วจ๋า
    อย่าพึ่รีบปลงสิคะ
    ลุงแก้วยังแข็งแรงคอยแนะนำ
    หลานๆอีกนานๆนะคะ
    ห้ามปลงเด็ดขาด46.gif
    อยู่กับรักโลภโกรธหลงต่อดีกว่าค่ะ
    สีสรรแห่งมนุษย์...
    
    
    31.gif
  • นาเดีย

    25 มิถุนายน 2551 11:10 น. - comment id 865551

    1.gif2.gif3.gif4.gif5.gif6.gif7.gif8.gif9.gif10.gif11.gif12.gif13.gif14.gif15.gif16.gif18.gif19.gif20.gif21.gif22.gif23.gif24.gif25.gif26.gif27.gif28.gif28.gif28.gif29.gif30.gif31.gif32.gif33.gif34.gif35.gif
  • แก้วประเสริฐ

    25 มิถุนายน 2551 12:27 น. - comment id 865589

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ ยาแก้ปวด
    
             จ้าหลานสุดที่รัก  ที่เล่ามานั้นสมัยลุงยังเป็น
    เป็นหนุ่มๆอยู่จ้ามีภาระมากมาย แต่ด้วยนิสัยนี้
    ชอบมาตั้งแต่ยังเป็นเด็กๆอยู่ เมื่อเกิดปัญหาสิ่ง
    ที่ดีที่สุดคือการทำสมาธิ แต่ไม่มีอาจารย์ปลดปล่อย
    อารมณฺ์ทำให้จิตเราว่างๆไว้ จนกระทั่งเกิดเป็นฌาน
    โดยไม่รู้ตัวตามที่เคยเล่าไว้ข้างต้นจ้า แต่ก็ทิ้งมา
    นานที่เล่ามาเป็นเรื่องจริง ตอนนี้ก็แค่ภาวนาไว้
    เสมอๆยามว่างๆ เพื่อให้จิตฝังลึกไว้ในอารมณ์ใต้
    สำนึกจ๊ะ ทำเท่าที่ทำได้เพื่อความไม่ประมาทจิต
    มันบอกว่าอย่างไรก็ไม่สำเร็จหรอก  เลยเปลี่ยน
    แนวทางดังปัจจุบันนี้แหละ หันมาเล่นกลอนตอน
    แก่แล้ว เพื่อประโยชน์ตัวเราเอง คือการฝึกสมอง
    และความสนุกสนานเป็นงานอดิเรกไปจ๊ะ
    แต่ถึงอย่างไรหากรู้ถามได้เลยจะบอกให้ทุกอย่าง
    และยิ่งเธอเป็นเพื่อนรักมากของศิษย์ลุงเองด้วย
    แล้ว หากสงสัยเกรงใจถาม จิตรำพัน ได้นะจ๊ะ
    นั่นคือศิษย์คนแรกของลุงเองจ้า รักหลานเสมอ
    
                 16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • แก้วประเสริฐ

    25 มิถุนายน 2551 12:32 น. - comment id 865592

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ นาเดีย
    
           โอ้ยๆๆคนแก่งงจังเลย เอาเป็นว่าความหมาย
    แรกคือยิ้มให้และสุดท้ายคือเหนียมอาย อิอิ นอก
    นั้นมึนจัง  แต่อย่างไรก็ขอบคุณมากนะครับ ขอบคุณ
    
                    16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน