อยากจะหยุดลมหายใจในวันนี้ พอกันที...ความทุกข์ไร้สุขสม ปรารถนาสนองรับกับอารมณ์ สิ้นความขมท้ายสุดหยุดหายใจ... ไม่อยากทนกับทุกข์ที่จุกแน่น จิตคิดแค้นลนลานเกินขานไข มันควรจบทุกข์เศร้ารุมเร้าไป ชีพตักษัยคงสิ้นทุกข์ที่รุกราน... ลมหายใจที่มีอยู่ดูไร้ค่า ทุกเวลาเจ็บเศร้ายากเล่าขาน จมดิ่งสิ่งโศกเศร้าที่เผาผลาญ ทรมานเกินข่มอารมณ์ทน... ทางสุดท้ายท้ายสุดหวังหยุดโศก ขอลาโลกความทุกข์สุขสักหน เป็นวิญญานล่องไปไร้ทุกข์ทน คราเป็นคน...แล้วทุกข์...จุกอุรา...
18 มิถุนายน 2551 16:29 น. - comment id 863546
ม่ายดี ม่ายดี ขี้เกียจตอบคำถาม เจ้าเป็นอะไรตายจ้ะ กว่าจะเป็นมะกรูด จะ 30 แล้วนะจ้ะ เข้มแข็ง อดทนนะเคนเก่ง
18 มิถุนายน 2551 16:41 น. - comment id 863553
ไม่ดี ไม่ดี กำลังสอง
18 มิถุนายน 2551 16:47 น. - comment id 863556
ไม่ดี ไม่ดี โน โน
18 มิถุนายน 2551 16:57 น. - comment id 863559
ง่ะ ใจเย็นๆ ทุกสิ่งทุกอย่างมีทางแก้ อย่ายอมแพ้ดวงจิตอย่าคิดสั้น มีอะไรปรึกษาหารือกัน ทุกคืนวันผ่านร้ายกลายกลับดี
18 มิถุนายน 2551 17:31 น. - comment id 863576
บทละครบางตอนมีย้อนคิด มาสะกิดให้หวนชวนใฝ่ฝัน กับบทบาทเนื้อหาเคล้าจาบัลย์ หรือบางตอนสรรมาหรรษาดี ทุกชีวิตเปรียบไปก็ไม่ต่าง ในโลกกว้างต่างบทบ้างสุขขี ต่างแสดงแบ่งชั้นก็มากมี บ้างทุกข์ทนเหลือที่อย่างระอา ทั้งบทพ่อบทแม่และปู่ยา มีทั้งยายและตามากปัญหา ชีวิตเราพันผูกทุกยุคมา ต้องฟันฝ่าสู้ทนดิ้นรนไป เกิดความรักก็ทุกข์ขลุกอยู่นั้น กลัวแปรผันห่างไกลให้หวั่นไหว กลัวรักหลอกตอกย้ำให้ช้ำใจ กลัวอ้างว้างห่างไกลใจทุกข์ตรม เปรียบไปแล้วมิต่างบทชีวิต พรหมลิขิตกั้นกางต่างขื่นขม ต่างหน้าที่แบ่งไปแสดงให้ชม บ้างสุขสมโศกร่ำกรำน้ำตา บทสุดท้ายคลายโศกโลกที่เศร้า ต่างลำเนาสนุกรื่นหรรษา ต่างลิขิตขีดเส้นผ่านเวลา เพื่อได้มาเริงร่าบทต่อไป สวัสดีค่ะ คุณแมงกุ๊ดจี่ ชีวิตคุณยังมีคุณค่าอีกยาวไกล ปัญหาแค่นี้คุณต้องอดทนให้ได้ ถ้าคุณผ่านบทบาทชีวิตช่วงนี้ไปได้ คุณจะหันกลับมาขอบคุณกับสิ่งที่คุณได้รับตรงนี้ สำหรับคุณคงคิดว่าปํญหาที่เกิดกับคุณหนักหนาจริงๆแล้วเล็กนิดเดียวถ้าคุณมองดีๆ คุณพ่อของคุณยังอยู่ยังเป็นกำลังใจสำคัญให้คุณเราเองไม่มีใครสักคนอดทน และอดทน แล้วคุณจะผ่านไปมันได้ด้วยดี ปัญหามีไว้ให้เรียนรู้มิใช่ให้เศร้าตรม ขออนุญาตนะค่ะมิได้สอน แค่แนะนำ ให้ทุกอย่างจบลงแล้วคุณจะก้าวอย่างท้าทาย ขอให้คุณมีสติอยู่เสมอ จากเพื่อนทางตัวอักษร ขอให้คุณผ่านให้ได้และพบแต่ความสุขสมบูรณ์ค่ะ
18 มิถุนายน 2551 19:39 น. - comment id 863595
น้องสาวที่รัก....มะกรูด..ที่พี่รู้จัก..ไม่ใช่คนที่ท้อแท้ต่อชีวิต...แต่เป็นคนที่เก่ง...น่ารัก...สดชื่น...มีชีวิตชีวา.....อย่าให้..บางสิ่งบางอย่าง..มาทำลายชีวิตเรา... ...ลองใช้เวลา...พิจารณาถึงสิ่งที่เกิดขึ้น... ...พี่หวังว่า...มะกรูด...จะต้องกลับมาเป็นคนเดิม...อย่างแน่นอน...พี่ให้กำลังใจจ๊ะ...
18 มิถุนายน 2551 19:46 น. - comment id 863598
แม่นาง เจ้าจะไปไหนรึ รอให้ข้าเลิกดื่มเหล้าก่อน เจ้าค่อยไป อิอิอิ
18 มิถุนายน 2551 21:48 น. - comment id 863623
พอเริ่มก่อเกิดเป็นก้อนเนื้อก็เป็นทุกข์ พอมีสิ่งผุดเป็นหัวแขนขาก็เป็นทุกข์ พอขาดอาหาร ก็เป็นทุกข์ ออกจากท้องแม่ก็เป็นทุกข์ พอรู้ความจำ ได้หมายรู้ก็เป็นทุกข์ พอเติบใหญ่ก็เป็นทุกข์ พอทำงาน ก็เป็นทุกข์ มีครอบครัวก็เป็นทุกข์ พอแก่ขึ้นก็เป็น ทุกข์ พอเจ็บด้วยโรคาพยาธิก็เป็นทุกข์ ครั้นตายก็ เป็นทุกข์ ต้องพิจารณาการเกิดทุกข์ รู้เหตุแห่งทุกข์ เกิดที่ใดก็ดับต้นเหตุแห่งทุกข์นั้นเสีย ความทุกข์ ก็ไม่เกิดขึ้น ดังคำดำรัสว่า ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค นั้น ถึงแม้จะทำไม่ได้เท่าแต่เมื่อมิสติคำนึงถึง ปล่อยวางทุกข์นั้นก็บรรเทาได้จ้า โอ้ยไปบวช เสียดีกว่าเนีอะ อิอิ อ้อลืมไปเป็นสัมพเวสีก็เป็น ทุกข์เพราะกรรมเป็นผู้กำหนดจ้า รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
18 มิถุนายน 2551 22:03 น. - comment id 863627
.... พี่มะกรูดคะ..เห็นยิ้มของนู๋เรนปล่าวคะ.. นู๋เรนมาก่อกวน.. แอบชักชวนพี่มะกรูดไปเที่ยว.. น่า น๊าแค่แป๊ปเดียว สัญญาดิ!ห้ามเบี้ยวนู๋เรน.. .. ... พี่มะกรูดคะ.. อยากบอกพี่มะกรูดด้วยดิคะ.. เรื่องสั้นของเรน.. เก๊าะที่พี่มะกรูดเคยสัญญา..เรนยังม่ได้อ่าน... สัญญากับเรนห้ามเบี้ยวดิ!!.. นู๋เรนรอ... .. ซาแว้ปปปปปป..
18 มิถุนายน 2551 23:12 น. - comment id 863642
คนดี ลมหายใจเรานี้มากมีค่า ได้เกิดมาพบธรรมะจากพระบรมศาสดา ได้รู้ว่าค่าของคนอยู่หนใด มองดูสรรพสิ่งสิน้องรัก งามยิ่งนักจากใจดวงใสใส ธรรมชาติงดงามนะดวงใจ กาลเวลาลบแผลใจให้เลือนรอย ...................... รักน้องมากมายเลยนะ
18 มิถุนายน 2551 23:37 น. - comment id 863648
จริงๆแล้ว ความทุกข์คือธรรมะที่เป็นประโยชน์ที่สุด ต่อชีวิตเราทุกข์คน เพียงแต่ว่า เมื่อเห็นทุกข์แล้วจะทำอย่างไร... วิ่งหนี ซึ่งคนส่วนมากทำเช่นนั้น แต่ไม่ว่าจะวิ่งหนีสักกี่ครั้ง ก็จะกลับมาเจอมันอีกในลักษณะใกล้เคียงกัน.... เพราะอะไร เหตุคือตัวเราต่างหากที่เป็นผู้เหนี่ยวนำ ทำให้เกิดขึ้น ด้วยแรงกรรมที่เคยสั่งสมไว้แต่อดีต (ชาตินี้หรือชาติก่อนๆที่มิอาจรู้ได้) ทำไมถึงบอกว่า ทุกข์ เป็นประโยชน์ที่สุด... เพราะ ถ้าไม่เห็นทุกข์แล้ว ก็จะประมาทในชีวิต เพลิดเพลินในความสุข ประมาท จนอาจก่อกรรมต่อไป ขว้างผลกรรมหรือวิบากไปรอในอนาคตไม่รู้จบสิ้น โดยการทำลาย ทำร้ายผู้อื่น หรือแม้แต่ตัวเองก็ดี ก็เป็นกรรมหนัก นำไปสู่นรก ทุคติภูมิ หรืออาจต้องเกิดมาฆ่าตัวตายซ้ำแล้วซ้ำอีกไปอีกหลายภพชาติ เมื่อเห็นทุกข์แล้ว ต้องเข็ดกลัว มีสติระลึกว่า ทุกข์เป็นของทนได้ยาก ไม่น่าเพลิดเพลินเลยกับการเกิดเวียนว่าย เสวยทุกข์ไม่มีวันจบสิ้น มองเห็นความอยากได้ อยากมี อยากเป็น หรือ ไม่อยากได้ ไม่อยากมี ไม่อยากเป็น อันเป็นสาเหตุแห่งทุกข์ เรียกว่า สมุทัย ในอริยสัจ 4 เมื่อเห็นทุกข์ และ เหตุแห่งทุกข์แล้ว เผชิญหน้าด้วยความกล้าหาญ ยอมสละความอยากออก ด้วยใจและด้วยวาจา เพราะการมีความเป็นตัวตน(อีโก้) เป็นเป้าหมายที่ถูกกระทำด้วยวิบาก หรือ เจ้ากรรมนายเวร สละออก ซึ่งความอยากและตัวตน ว่านี้ไม่ใช่ของเรา ตัวเรา เป็นเพียงเครื่องมือคือกายเรานี้ ให้เรียนรู้โลกเพื่อรู้แล้วละ อย่าสะสม จะเบาสบาย จิตใจผ่องใส เพื่ออยู่ประกอบแต่กุศล ละอกุศลทั้งปวง เพื่อนำจิตสุดท้ายไปสู่สุคติภูมิ ไปจวบจนภพที่ได้บรรลุ โสดาบัน จะปลอดภัย ไม่ต้องตกนรกอีกต่อไป เหลือไม่เกิน 7 ชาติจะต้องบรรลุ นิพพานอย่างแน่นอน ขั้นตอนทั้ง 4 เพื่อความเจริญ 1.รักษา ศีล 5 ด้วยอราธนาทุกวัน 2.ระลึกรู้ว่า กายไม่ใช่เรา เป็นเพียงเครื่องมือแห่งการเรียนรู้โลก อย่ายึดมั่นถือมั่นไปเลย 3.ทำความดีอย่างน้อย วันละ 1 อย่าง เพื่อเสริมบุญบารมีอย่างต่อเนื่อง(ถ้าไม่บรรลุ ก็ ไปสวรรค์ดีกว่าตกนรก) 4.สวดมนต์ไหว้พระ ก่อนนอนทุกวัน ระล๊กถึงคุณ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และอธิษฐานถึงสิ่งดีๆที่อยากให้เกิดขึ้น ทั้ง4 ข้อ จะนำความสนุขและอัศจรรย์ใจมาสู่ชีวิต
19 มิถุนายน 2551 00:15 น. - comment id 863657
ขาดเขาเราไม่ตายหรอก ชีวิตเรามีค่ากับคนที่รักเรา แค่อารมณ์หนึ่งแค่นั้นที่อยากระบาย ดีใจที่ได้ระบายออกมา หายแล้วไปเล่นร่าเริงดีกว่านะ ชีวิตมีค่าเกินกว่าจะเสียใจ ให้คนที่ไม่เคยให้อะไรกับเราเท่าพ่อแม่นะ คนที่รักเรามีเพียบเลย ลองหันไปดูสิ... เห็นป่าว? พวกเขารักคุณมากนะ
19 มิถุนายน 2551 01:33 น. - comment id 863664
ชอบความเห็นของทวารวดีจังครับ ได้อะไรมาเยอะเลยขอบคุณความคิดเห็นนี้ด้วยนะครับดีมากๆเลย แมงกุ๊ดจี่อ่านแล้วคงเปลี่ยนใจได้แล้วนะ นายดาวระดาคนนี้ก็ไม่น้อยที่เจอทุกข์ คิดแบบนี้เคย แต่ไม่กล้า ไม่เอานะครับแบบนี้ไม่น่ารักเลยครับ น่ากลัว
19 มิถุนายน 2551 03:03 น. - comment id 863693
หวัดดีจ้า...... " WHEN YOU WERE BORN IN TO THIS WORLD YOUR MOM AND DAD SAW THEIR DREAM FULFILL THE DREAM COMES TRUE, THE ANSWER TO THEIR PRAY... YOU WERE TO THEM A SPECIAL CHILD YOU GAVE THEM JOY ANYTIME YOU SMILE EACH TIME YOU CRY THEY ARE AROUND YOUR SIDE TO CARE.... CHILD YOU DON'T KNOW AND WILL NEVER KNOW HOW FAR THEY GO TO GIVE YOU ALL THEIR LOVE CAN GIVE TO SEE YOU THROUGH AND THAT'S TRUE THEY CAN DIE FOR YOU IF THEY MUST TO SEE YOU LIVE...... ขอฝากเนื้อเพลงเป็นข้อคิดนะจ้ะ เดิมเป็น ภาษาตากาล็อค แล้วแปลเป็นเวอร์ชั่นอังกฤษ ความหมายของเพลงบรรยายถึงความรักของ พ่อแม่ที่มีต่อลูกว่า ตั้งแต่เกิดจนโตท่านทั้งสอง ต้องทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจ ความรัก ฯลฯมาก เพียงใด เพราะฉนั้นถ้าคิดจะทำอะไรก็ขอให้คิด ถึงท่านทั้งสองก่อนนะจ้ะ.....
19 มิถุนายน 2551 07:45 น. - comment id 863720
ดีจ้า แมงกุ๊ดจี่ รูปอ่ะปืนฉีดน้ำใช่เปล่า เพิ่งอ่านหนังสือเรื่อง กฏแห่งกระจกจบไม่กี่วันนี้เองผู้เขียนเค้าบอกว่า เวลาที่เรารู้สึกไม่ดีกับใครให้เราให้อภัยเขาก่อน กฏของการให้อภัยมี 8 ข้อคือ 1.เขียนรายชื่อคนที่เราให้อภัยไม่ได้ลงในกระดาษ (ถ้าให้อภัยได้จะสบายใจขึ้น) 2.ระบายความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อคนๆนั้นลงในกระดาษ (คนบ้า คนทุเรศ อะไรก็ได้ที่เรารู้สึกอยากจะพู เขียนระบายออกมาอย่างตรงไปตรงมาเพราะกระดาษนี้ไม่ได้มีไว้ให้ใครอ่าน เขียนเสร็จก็ฉีกเป็นชิ้นๆแล้วทิ้งลงขยะไป) 3.จินตนาการสาเหตุของการกระทำ 3.1 เขียนการกระทำของคนคนนั้นที่ทำให้คุณ 3.2 ลองจินตนาการสาเหตุที่ทำให้เขาต้องทำเช่นนั้น แรงจูงใจที่ทำให้คนทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง โดยจำแนกออกเป็นสองสาเหตุใหญ่คือ "อยากมีความสุข" และ "อยากเลี่ยงความทุกข์" ลองจินตนาการดูว่าเขาอยากได้รับความสุขแบบใด หรืออยากเลี่ยงความทุกข์แบบไหนถึงได้ทำเช่นนั้น 3.3 เมื่อเขียนเสร็จแล้วอย่าได้ตัดสินการกระทำนั้นว่า "ไม่ถูกต้อง" แต่ขอให้เข้าใจว่าสิ่งนั้นคือการกระทำที่เกิดขึ้นจาก ความด้อยประสบการณ์ ความไม่รู้ หรือ ความอ่อนแอ 3.4 ให้พิจารณาการกระทำของคนคนนั้นโดยไม่สนใจว่า ถูก หรือ ผิด แล้วพูดออกมาว่า " คุณก็คงอยากมีความสุข คุณก็คงอยากหนีให้พ้นจากความทุกข์เหมือนกันกับฉัน" 4.เขียนสิ่งที่ควรขอบคุณ ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ออกมา แม้จะเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆที่เขาทำให้ 5.ขอพลังจากคำพูด 5.1 ปฏิญาณว่า "ฉันจะให้อภัยคุณเพื่อความเป็นอิสระ ความสบายใจ และความสุขใจของตัวเอง" 5.2 กล่าวคำขอบคุณเขาซ้ำๆ โดยพูดชื่อออกมา ในขั้นตอนนี้ไม่จำเป็นต้องรู้สึกขอบคุณจากใจจริง แม้จิตใจจะยังรู้สึกไม่ให้อภัย แต่ขอให้เริ่มจากคำพูด(การกระทำภายนอกก่อน) 6.เขียนสิ่งที่อยากขอโทษคนคนนั้นให้มากที่สุด 7.เขียนสิ่งที่ได้เรียนรู้จากคนคนนั้น "ควรปฏิบัติตัวอย่างไรกับเขา" ควรทำตัวอย่างไรให้เราและเขามีความสุข 8.ประกาศว่าฉันให้อภัยคุณแล้ว เมื่อวันหนึ่งเรารู้สึกอยากขอบคุณ หรือ ขอโทษ ขึ้นมาจริงๆก็พูดเลยจ๊ะ หากคนคนนั้นไม่ให้อภัยหรือยังโกรธอยู่ ก็เพราะความอ่อนแอในตัวเขาเอง หากเราให้อภัยคนคนหนึ่งที่ทำให้เราเจ็บช้ำ หรือ โกรธ ได้แล้ว นั่นคือ ความกล้าหาญ และเข้มแข็งในตัวเรานั่นเอง เขียนมายาวยืดเลย.... แต่วิธีนี้ใช้ได้ผลมากเลย ลองดูน๊า อ้อ....อย่าลืมฉีกกระดาษที่เราเขียนด้วยล่ะ......อิอิ
19 มิถุนายน 2551 08:51 น. - comment id 863726
สุดท้ายความตายก้อไม่สามารถทำให้หายทุกข์ไปได้..ตราบใดทีจิตติดความทุกข์..ฝั่งแน่น หากปลดปล่อยความทุกขืหลุดจากใจ แม้จะมีลมหายใจหรือไร้ลมหายใจคือความหลุดพ้น มาให้กำลังใจน้องสาวจ้า
19 มิถุนายน 2551 09:24 น. - comment id 863737
คิดถึงคนที่รักเราที่สุดซิค่ะ แล้วทุกอย่างจะดีขึ้น.....
19 มิถุนายน 2551 09:41 น. - comment id 863747
ใจเย็น ของพี่ดอกแก้ว เขาบอกว่าอย่าใจร้อนตอนพบเรื่อง อาจสิ้นเปลืองเรี่ยวแรงแก้ปัญหา เพราะรีบเร่งเกินไปไม่ตรวจตรา จึงนำพาเสียหายมาให้ตน หากเร่งรีบทำไปเพราะใจชอบ รีบโกยกอบสิ่งนั้นเพราะหวังผล อาจขาดทุนย่อยยับพาอับจน กลุ้มกมลผลสวนทางต่างจากใจ หากรีบเร่งทำไปเพราะไม่ชอบ รีบโต้ตอบดุเดือดมุ่งผลักไส เกิดแตกหักเสียหายกระจายไกล เป็นเรื่องใหม่เรื่องใหญ่สิ้นไมตรี เขาบอกให้ใจเย็นเป็นเบื้องแรก พบสิ่งแปลกแตกต่างจากวีถี ก่อนโต้ตอบชอบชังคิดให้ดี ก่อนเปิดเผยวจีใช้กำลัง อย่าใจร้อน..ให้ใจเย็นเป็นนิสัย ทำสิ่งใดมีสติเป็นรากฝัง เพราะสติเจือจุนหนุนพลัง ช่วยยับยั้งเสียหายได้ฉับพลัน มีสติ..ดูเหมือนง่ายในภาษา ทั้งสามัญธรรมดาจนน่าขัน หลายคนพูดและสอนกันทุกวัน ว่าให้หมั่นเจริญไว้ในชีวา มีสติ..มิใช่เพียงรู้สึกตัว แต่รู้ทั่วยับยั้งใจไม่โถมถา ไปในบาปอกุศลที่ชินชา รั้งจิตตาเอาไว้ให้เคียงบุญ มีสติ..จึงไม่ง่ายในหลักพุทธ ต้องรู้หยุดสร้างบาปให้เนืองหนุน รู้จักบาป ไม่ทำบาป ให้ขาดทุน มีสติเป็นร่มบุญให้ใจเย็น
19 มิถุนายน 2551 10:26 น. - comment id 863756
ใจเย็นๆ ใจเย็นๆ ใจเย็นๆ อย่าพึ่งคิดเป็นผีในครานี้ อย่านะพี่ไม่ดี้มันไม่ดี แม้โศกทวีอย่าพึ่งคิดท้อใจ มีอะไรเราก็คุยกันนะ ฉันน่ะจะคอยเป็นกำลังใจให้ ระบายมาเถิอดพี่จ๋าไม่ว่างสิ่งใด อย่าคิดไปจบชีวิตไม่ดีเลย
19 มิถุนายน 2551 11:41 น. - comment id 863779
ถึงลมหายใจเธอสิ้นสุด มันจะหยุดแค่นี้ใช่ใหม แล้วสิ่งที่เธอจะทำไป เค้าแคร์ไม๊ใช้ใจมอง ถึงคิดว่าลมหายใจไร้ค่า แล้วคนที่เลี้ยงมาอีกทั้งสอง ถ้าคิดว่าคุ้มแล้วก็เชิญลอง พ่อแม่ไม่เศร้าหมองก็ทำไป ที่มาเม้นแรง แรงแบบนี้ เพราะฉันมีเพื่อนที่เหลวไหล เค้าลาจากไปกับลมหายใจ ที่เหลือไว้คือฉันทุกข์ตรม ทุกวันนี้ฉันยังนั่งร้องไห้ และเสียใจแสนขื่นขม ผู้ชายที่ทำให้เพื่อนระทม เค้าสุขสมรักใหม่ไปตั้งนาน พ่อและแม่เพื่อนยังเป็นทุกข์ ฉันยังปลอบปลุกช่วยขับขาน ถึงแม้เพื่อนจากฉันไปชั่วกาล แม้จะนานแค่ไหนใจจดจำ หยุดคิดให้ดีเสียหน่อยเถิด สิ่งที่จะเกิดไม่ใช่เรื่องขำ แค่หนึ่งใจคิดว่าจะทำ มันเป็นกรรมหนักหนาอย่าริลอง *** เคยมีเพื่อนตายด้วยการคิดสั้นมาแล้วค่ะ*** ไม่ดีเลย
19 มิถุนายน 2551 17:30 น. - comment id 863869
ไม่ดีไม่ดี เอมไม่เห็นด้วย ... ทุกคนมีคุณค่า ... และพี่เป็นคนที่มีคุณค่ากับอีกหลาย ๆ คน รวมทั้งเอมด้วย ...
19 มิถุนายน 2551 22:49 น. - comment id 863936
แค่ทาอายแชร์โดว์เลอะไปหน่อย ถึงกับเอาปืนจ่อคางเชียว .. ฮา ไม่เอาน่า ดูดี ๆ ก็สวยเหมือนกันนะ
20 มิถุนายน 2551 10:38 น. - comment id 864036
ความเป็นทุกข์เหมือนจุกปิดเสรี มองทิศไหนเหมือนไม่มีทางแก้ไข หากมีเพื่อนมาช่วยคิดสะกิดใจ อาจช่วยเปิดจุกใจไม่สิ้นลม สวัสดีค่ะน้องมะกรูด ภาพกับบทกลอน...สื่อประสานอารมณ์ได้อย่างกลมกลืนเลยทีเดียว ขอให้มีความสุขกับการเขียน และมีความสบายใจมากมายในชีวิตนะคะ
2 กรกฎาคม 2551 12:21 น. - comment id 868195
เห็นรูปแล้วเชื่อได้ว่าทุกข์ใหญ่หลวงนัก ลองนึกย้อนว่าอุปสรรคเกิดจากสิ่งใดแน่ ทิฐิ ?