๏ ฤๅ เพราะสิทธิ์ของเราไม่เข้าท่า นึกกังขาสิทธิ์เราเทียบเท่าไหน แค่คิดกลางวางเงื่อนมิเหมือนใคร กลับกลายเป็นเรื่องใหญ่เครียดในเรือน อ่านจนเมื่อยเหนื่อยจังจึงนั่งคิด เราใช้สิทธิ์บางอย่างแตกต่างเพื่อน เพราะสวนทางกระทำเผลอพร่ำเตือน อาจฝาดเฝื่อนกระทบให้บางใจซม ความขัดแย้งแย้มพรายกระจายทั่ว สองฟากขั้วสำแดงศัพท์แสงข่ม คนอยู่กลางช่างลำบากปากผูกปม อดทนอมน้ำอ่วมแทบท่วมคอ แค่ในเรือนเสมือนว่าอยากฆ่าฟัน ข้างนอกนั่นเผชิญหน้ายิ่งกว่าหนอ สันติสุขทุกคนหวังผลรอ หากไม่ก่อเกิดได้อย่างไรกัน ขอยืนยันเยี่ยงมิตรว่าคิดกลาง ไม่อำพรางแม้นเฉียดคำเดียดฉันท์ ความเห็นที่เทียบขาวพราวลาวัลย์ ปราศสีสันสองฝ่ายหมายละเลง ๚ะ๛
6 มิถุนายน 2551 08:56 น. - comment id 780576
คุณดอกบ้ว .. ไม่เป็นไรจ๊ะ ต้องมีสักวันที่ได้ไปด้วยกัน ชื่อที่อยู่ของคุณดอกบัว อัลมิตรายังคงเก็บไว้ คุณดอกบัวรอรับไปรษณียบัตรจากเด็ก ๆ ที่โรงเรียนบ้านท่าระพา ด้วยนะคะ
6 มิถุนายน 2551 08:30 น. - comment id 783633
คุณ อัลมิตราค่ะ ดอกบัวไปด้วยไม่ได้แล้วค่ะ เพราะต้องไปชุมพรวันเดียวกันค่ะ คงต้องไว้โอกาสต่อไปแหละค่ะ จริงๆแล้วกำหนดว่าจะไปวัน 5-6 ทีนี้งานไม่เสร็จเลยต้องเลื่อนไปเลยตรงกับวันที่คุณอิมไปค่ะ วันนี้ขอให้คุณทีความสุขนะค่ะ
4 มิถุนายน 2551 12:51 น. - comment id 857166
ที่นี่.. เป็นกลาง เราก็เข้าใจในสิ่งที่เขาเป็น ไม่ชอบดันทุรัง เขายังโน้มน้าวเราไม่ได้ แล้วเราก็โน้มน้าวเขาไม่ได้เช่นกัน คล้าย ๆ กับว่ากลอนเก่า (จะประท้วงกันไปทำไมวะ) กลายเป็นชนวนให้หลายคนเขียน เกี่ยวกับการเมืองในแง่มุมต่าง ๆ ตามแต่ละมุมมอง ซึ่งก็มีทั้งเหมือนและก็แตกต่าง แน่นอน ..ทุกคนเทิดทูนสิ่งเดียวกัน เพื่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ แต่วิธีการอาจไม่เหมือนกัน ดังนั้น หากจะรีบร้อนสรุปว่า .. ผู้ใดที่คิดต่างฝ่าย ผู้นั้นไม่ได้มีความจงรักภักดี ไม่ได้ทำเพื่อชาติ ก็อาจจะยังไม่ใช่คำตอบแน่ชัดเสมอไป เช่นกัน หากจะรีบร้อนสรุปว่า .. ผู้ใดที่คิดกลาง ผู้นั้นไม่ได้มีความจงรักภักดี ไม่ได้ทำเพื่อชาติ ก็อาจจะยังไม่ใช่คำตอบแน่ชัดเสมอไป กวินทรากร..นำกลอนของอัลมิตราไปวางล่อเป้า ณ อีกเวปหนึ่ง ได้อ่านในหลาย ๆ ความคิดเห็น ได้อ่านในหลาย ๆ สำนวน ก็ได้รับรู้ในหลาย ๆ ความรู้สึก มีอยู่ความคิดเห็นหนึ่ง ของคุณหมอมัทนา เขียนคอมเมนท์ไว้ใน http://gotoknow.org/blog/2etc/185705?page=2 โดยเฉพาะประโยคที่คุณหมอมัทนาเขียนว่า .. มัทอยากให้ถามว่า แล้วเราจะทำอะไรได้อีกบ้าง (ถ้าไม่ประท้วงในรูปแบบที่เป็นอยู่ตอนนี้) ส่วนอีกคำถามที่สำคัญมากๆคือ แล้วปัญหาจริงๆมันคืออะไร ศัตรูที่แท้จริงมันคืออะไรกันแน่ มันคือ "คนคนนั้น" มันคือ "พวกมัน" เท่านั้นเองหรือ หมดพวกมันไปแล้วปัญหาจะหมดงั้นหรือ? ช่างเป็นคำถามที่น่าสนใจจริง ๆ และช่างเป็นคำถามที่ชวนให้ขบคิดจริง ๆ เพื่อนที่คุ้นเคยกันถามอัลมิตราว่า "คิดยังไงกับการประท้วง" อัลมิตราบอกเขาไปตรง ๆ ว่า "คิดกลาง" สักพักเพื่อนก็เขียนกลอนส่งมาให้อ่าน ว่า .. อย่าพกเพ้อเพี้ยนผิดว่าคิดกลาง อย่าอำพรางตัวตนคนปิดกั้น ไม่มีหรอกสีขาวพราวลาวัลย์ มีแต่สีแสบสันลากบรรเลง หลังจากนั้น ทั้งเพื่อนและอัลมิตราต่างก็หัวเราะกันแทบตาย ต่างคนต่างขำก๊าก .. มิตรภาพตราบสิ้นฟ้า
4 มิถุนายน 2551 12:56 น. - comment id 857169
ความเป็นกลางวางท่าน่าประหลาด เหมือนคนขลาดไม่กล้าแสดงออก คนใหนชั่วตัวก็รู้คู่ทางเดิน ถึงได้เชิญให้เลือกเอา..ขาวหรือดำ
4 มิถุนายน 2551 13:11 น. - comment id 857175
555...เขากางจนแขนโก่งแล้วอะ..555
4 มิถุนายน 2551 13:54 น. - comment id 857182
หากว่าน้อง..เป็นกลาง..พี่เป็นเหนือ คงเหลือเชื่อ เราใกล้กัน น้องรู้ไหม อีกคนหนึ่ง อยู่ใต้ ไกลแสนไกล แล้วเมื่อไหร่ จะได้ มาอยู่กลาง เรื่องเดียวกันไหมเนี่ย....
4 มิถุนายน 2551 14:13 น. - comment id 857185
แม้ภาพข้างหน้า เสือหิวกำลังจะตะครุบกวางน้อยเป็นเหยื่อ ข้าพเจ้ายังต้องเลือก ร ะ ห ว่ า ง ปล่อยให้เป็นไปตามกลไกธรรมชาติอย่างที่เคยเป็นคนดู หรือเลือกที่จะช่วยกวางน้อย เพื่อบัญญัติกฎใหม่ๆ ให้โลกนี้ ในโลกที่มีมนุษย์อาศัยอยู่ร่วมกับซาตาน เสี้ยวหนึ่งจากงานเขียนของเพื่อนสมาชิกบ้านกลอนไทย ที่ยังคงเป็นที่จดจำและเห็นจริงกับมุมความคิดนี้เป็นที่สุด การประท้วงของกลุ่มพันธมิตรฯ ครั้งนี้ อาจมีข้อกังขาเกี่ยวกับบรรดาแกนนำทั้งหลาย ถึงเหตุผลที่แท้จริงในการประท้วง ว่าคือสิ่งใดกันแน่ ครั้งแรกอ้างว่าคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต่อมามีเรื่องของการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และขยายมาเป็นการขับไล่รัฐบาล มีหลายเรื่องที่เรารู้สึกคลางแคลงใจ ว่าภายใต้การนำประท้วงครั้งนี้ มีผลประโยชน์อื่นใดแอบแฝงอยู่ มีการใช้ประชาชนผู้บริสุทธิ์เป็นเครื่องมือหรือไม่ ทุกอย่างล้วนเป็นไปได้แทบทั้งสิ้น แต่ก็ต้องยอมรับว่าประชาชนส่วนหนึ่งที่สนับสนุนการประท้วงของกลุ่มพันธมิตรฯ เป็นไปโดยสมัครใจ และอาจจะเป็นส่วนใหญ่เสียด้วยซ้ำ ที่เชื่อเช่นนั้น เพราะส่วนตัวก็ต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการเรียกร้องครั้งนี้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ, การหมิ่นสถาบัน, การใช้อำนาจบริหารในทางที่ไม่ถูกต้อง , การแสดงออกถึงความต้องการล้มล้างสถาบันฯ ที่ไม่มีหลักฐานใดมายืนยัน (และคงไม่มีใครยอมรับ) และ.. ฯลฯ (ไปยาลใหญ่) เนื่องจากถ้าไปยาน(ล) น้อยจะไปกันไม่หมด (ขำหน่อยน่า..) เหล่านี้เองที่ทำให้คิดว่า.. เราจะปล่อยให้เป็นกลไกธรรมชาติ เป็นเพียงแค่คนดู ที่ทำได้เพียงนึกอดสู กับสิ่งที่คนเหล่านี้กระทำย่ำยี สร้างวงจรอันไม่ชอบธรรมในสังคม แล้วบ่นกับคนรอบข้างว่า ชิงชังคนพวกนี้จัง รังเกียจสังคมประเภทนี้จริง ห รื อ เลือกที่จะทำบางสิ่งบางอย่าง ด้วยความหวังอันริบหรี่ว่า วันหนึ่ง.. สังคมไทยจะกลายเป็นสังคมในอุดมคติที่เราปรารถนา... ที่ถึงแม้จะเป็นความหวังเพียงน้อยนิด.. แต่อย่างน้อยเราก็ได้ทำในสิ่งที่ควรทำแล้ว.. ตามมโนสำนึก จึงเห็นว่าความเป็นกลางในขณะนี้ ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งใดได้ :: เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวน่ะ คงไม่กระเทือนถึงมิตรภาพเนอะ.. อุย.. เขียนแป๊บเดียว ทำไมมันยาวนักหวา...
4 มิถุนายน 2551 15:53 น. - comment id 857210
แด่ คุณอัลมิตรา เห็นด้วยค่ะ
4 มิถุนายน 2551 16:06 น. - comment id 857216
คุณอัลมิตรา ครับ ประเทศไทย คนไทยเราเรียนรู้มาด้วยวิธีคิดแตกต่างกันมากนัก ตามแต่สิ่งแวดล้อมวิทยฐานะ ประสบการณ์ จนมองข้ามสาระ แก่นแท้อันจริงไปเสียหมด นี่คือข้อสรุปครับ กระผมเห็นด้วยกับคุณครับ กลาง ๆๆๆ แต่เราจะไปบอกประกาศเชิญชวนว่า กลางๆ กันทุกคนไทย คงไม่มีทางครับ เหตุผลดังที่บอก ลองมองเช่นนี้สิครับ คิดกลางๆมองกลางๆ แล้วทวนไปอ่านกลอนคุณ วรางค์ (ขออนุญาติเอ่ยนามครับ) กลอนถูกสร้างมาตามจริตภพภูมิในใจ ของคนแต่ง ถูกผิดคิดกันเอาด้วยเวทีแห่งกลอนย่อมมิได้ // ร่วมแสดงความเห็นครับ ยึดมั่นในกลาง และสาระ ประโยชน์ ตามแก่นนะขอรับ
4 มิถุนายน 2551 17:10 น. - comment id 857234
หวัดดีจ้า..... เคยมีคนเขียนไว้เร็วๆนี้เองว่า.....ผมเป็นกลางครับ "กลางวันนอน กลางคืนนอน" สงสัยจะเป็นจริงตามนี้แน่เลย...
4 มิถุนายน 2551 17:46 น. - comment id 857243
ก็ควรเป็นอย่างนั้น...
4 มิถุนายน 2551 19:05 น. - comment id 857253
อืมอ่านกลอนกะคอมเม้น น่าคิดคะ ใครจะแตกแยกอะคะอยู่ที่คนคิดมากว่าคะ ต่างคนต่างคิด ต่างคนต่างจิตต่างใจ ต่างต่างนืสัย ต่างคนต่างมีที่มาที่ไปต่างกัน บางคนดูถูกคนด้อยกว่า บางคนใช้ปัญญาห้ำหั่น บางคนลับคมมีดไว้แอบฟัน บางคนแค่หันหลังยังนินทา คนในบ้านเท่าที่มองออกสามอย่าง คนกลุ่มแรกวางท่าทางอหิงสา คนกลุ่มสองชอบใส่ไฟไหม้อุรา คนกลุ่มสามชอบเข้าหาศัรทธามี (กลุ่มแรก ความสงบไม่เกี่ยวข้องใครค่อนข้างเฉยเมย) (กลุ่มที่สอง ชอบความแตกแยกยุแยงตะแคงรั่ว ไม่ใช่เรื่องของตัวก็ชอบ ทำให้เกิดเป็นฝักฝ่าย) (กลุ่มที่สาม ฝ่ายสนับสนุนน้ำใจดีงามไม่ว่าใครไม่ตำหนิให้กำลังใจส่งเสริมผู้ที่ด้อยกว่าเสมอ) อยากเป็นกลุ่มไหนคงรู้แก่ใจอะคะพี่มิต สุ้ๆๆเป็นกลางเช่นกันคะ
4 มิถุนายน 2551 19:50 น. - comment id 857264
"เห็นดีก็เฉย เห็นชั่วก็เฉย นั้นไม่ใช่อุเบกขาในพระพุทธศาสนา อันไม่ใช่สิ่งที่น่าจะควรกระทำและควรยินดีแม้ในโลก" ขอแสดงความคิดเห็นเพื่อชาติมาดังนี้นะ คุณอัลมิตรา (ที่ขยับแล้วขออภัย)
4 มิถุนายน 2551 20:26 น. - comment id 857286
ถ้าพี่กลางจริง ผมขอคารวะจากใจเลยครับ เดี๋ยวนี้หากลางจริงๆยากมากๆเลยละพี่ มีแต่กลางแล้วเฉไปข้างนั้นบ้าง ข้างนี้บ้าง เอียงทางนั้นบ้าง ทางนี้บ้าง แต่คุณลักษณ์ที่นำคำท่านจันทร์มาคอมเม้นก็น่าคิดมิใช่น้อยเลยนะครับ
4 มิถุนายน 2551 20:35 น. - comment id 857293
เรามิอาจหักใจใครให้เชื่อในเรื่องทีเราบอกได้ เช่นนั้นเราจงเชื่อมั่นในสิ่งที่เราทำค่ะ... เราเป็นกลางค่ ..ลูกคนกลาง
4 มิถุนายน 2551 20:54 น. - comment id 857304
สีขาว ที่สมานฉันท์ สีดำ .... เมื่อต้องการเพิกเฉยต่อผิดชอบชั่วดี ก็ไม่ต่างจากร่างกายที่ไร้วิญญาณ .... สีขาวที่อยู่ร่วมกับสีดำ สักวันคงแยกไม่ออกว่ามันต่างกันอย่างไร ช่างน่าสงสารนะคะ แค่เอาเสื้อสีขาวมาใส่ ก็คิดว่าตัวเองป็นคนดีแล้ว
4 มิถุนายน 2551 21:01 น. - comment id 857307
ที่นี่...เป็นกลาง แล้วที่บ้านเป็นอะไรครับ 5555555555
4 มิถุนายน 2551 22:33 น. - comment id 857319
พี่อัลมิคะ.. แบบเรนไม่ชอบนายสนธิ.. และเรนเก๊าะไม่ชอบ..คุณตา..มหาจำลอง ..ไม่ชอบ นายสมัคร.. ไม่ชอบ นายเฉลิม.. เก๊าะสิ่งที่เรนเห็น..คือความขัดแย้งที่ไม่จบสิ้น .. ซ้ำๆซากๆกับสิ่งที่เห็นเจนตา.. ความรุนแรง.. การท้าทาย.. ..ยึดติดกับอำนาจ .. ความอยากได้ในสิ่งที่เคยได้.. ..ชัยชนะ..กับความหยิ่งผยองในอำนาจ และความหลงผิด.. ..เรนอยากเห็นสังคมการอยู่ร่วมที่รู้จักหน้าที่..ความรับผิดชอบ.. สำนึกของการเป็น พลเมืองที่ดี..ขององค์พระบาทสมเด็จพระจ้าอยู่หัว ..ซึ่งพระองค์ท่านก็เป็นแบบอย่างที่ดี.. อยากเห็นสังคมที่ดี.ไม่ใช่แบบที่เรนเห็น.. มัยน๊า.. ต้องเกิดปัญหาแบบนี้ซ้ำๆ..กับเรื่องเดิมๆ เรนว่าถอยคนละก้าว .. และหันหน้าเข้าหากัน .. ลดทิฐิ.. ลดฟอร์มลง.. มองให้ลึก คิดให้ชัดเจน.. ไม่ดีกว่าหรอคะ.. เรนเห็นด้วยกับพี่อัลมินะคะ.. แบบเรนเก๊าะไม่รู้เหมือนกันว่าเรนเป็นกลางหรือไม่.. เรนคิดและเขียน..ในแบบที่เป็นความคิดของเรนเอง.. เพื่อนๆ.. เค้าเก๊าะคิดเหมือนเรนนะคะ.. หากถามเรนว่า.. เรนจะทำอย่างไรดี..กับสิ่งที่เกิดขึ้น..อยู่เฉยแบบที่ใครๆเค้าว่าเรนแบบนั้นใช่มั้ย.. แต่เก๊าะเปล่านะคะเรนไม่ได้อยู่เฉย.. เรนทำในสิ่งที่เรนสามารถทำได้ นั้นคือการที่เรนพยายามบอกใครๆว่า .. ให้ทำในสิ่งที่ถูกต้องและเหมาะสม.. คิดให้เป็น.. ใช้เหตุผลให้เป็น.. มีสติในสิ่งที่คิดและทำ สิ่งนี้ต่างหากคะ..ที่เรนสามารทำและบอกใครๆได้ .. ... เรนแค่คิดและทำ.. ในสิ่งที่เรนคิดว่าถูกต้องในความรู้สึกของเรน.. .. ขอบคุณพี่อัลมินะคะ.. สำหรับที่นี่..ที่ที่ทำให้เรนได้เขียน.. และบอกสิ่งที่เรนคิดได้อย่างเต็มที่.. ..
4 มิถุนายน 2551 22:37 น. - comment id 857320
ตั้งขั้วคือเป็นพลังงานศักย์ เหลือแค่หากลไก ให้ขั้วนั้นแปลงศักย์ป็นจลน์ ส่งเป็นผลให้ประเทศก้าวไกล
5 มิถุนายน 2551 07:38 น. - comment id 857378
เขาว่ากันว่า .. หากอยากจะล่วงรู้ความรู้สึกที่แท้จริงของผู้ใด ลองโยนคำถามไป หรือ โยนประเด็นไปสักเรื่อง จากนั้น ก็นั่งอ่านในสิ่งที่เป็นคำตอบกลับมา ทว่าต้องทำใจกลาง ๆ จะต้องไม่รู้สึกเจ็บปวดเมื่อถูกหมิ่นนิด ๆ จะต้องไม่รู้สึกร้อนรนเมื่อถูกกระตุ้นแรง จะต้องไม่รู้สึกยินดีเมื่อมีคนเห็นด้วย จะต้องไม่รู้สึกใด ๆ .. นอกเสียจากรู้จักตัวเองให้มาก ๆ บทกลอนนี้ก็เช่นกัน ในแต่ละบท ไม่ได้ใช้ความสามารถพิเศษอันใดในการเขียน ก็แค่เขียนออกมาอย่างธรรมดาที่สุด คิดเห็นอย่างไรก็เขียนอย่างนั้น รู้สึกอย่างไร ก็บรรยายเช่นนั้น ง่าย ๆ เรียบ ๆ ... ชัดเจน ฤๅ เพราะสิทธิ์ของเราไม่เข้าท่า ... สิทธิ์ที่จะเป็นกลาง การเป็นกลางนี้ ก็ถูกตีความไปมากมาย เช่นว่า ไม่สนใจหรือไรว่าประเทศชาติจะเป็นอย่างไร ไม่รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ไม่รักระบอบประชาธิปไตย ไม่มีจิตสำนึก.. และอีกสารพัดคำตัดสิน ถ้าคิดว่ารู้จักอัลมิตราดีพอจึงตัดสิน .. ก็เชิญทำไป ถ้าคิดว่ายังไม่รู้จักอัลมิตราดีพอแล้วตัดสิน .. ก็เชิญทำไป ถ้าบอกว่าด้วยความคิดของอัลมิตราที่เป็นเช่นนี้ จึงประเมินว่าเป็นคนเยี่ยงนี้ .. ก็เชิญทำไป แต่ในมุมกลับกัน อัลมิตราจะไม่ตัดสินหรอก .. ว่าแต่ละคนเป็นเยี่ยงไร เหตุผลก็เพราะ ในแต่ละบุคคลย่อมมีสิทธิ์ที่จะเป็นตัวของตัวเอง ไม่ใช่เป็นอะไรสักอย่างตามคำตัดสินของผู้อื่น ก็เท่านั้น ..
5 มิถุนายน 2551 08:03 น. - comment id 857386
คุณจ่าน้อย .. แล้วแต่จะคิดค่ะ จะขลาดจะเขลา ก็อัลมิตรา .. คุณแม่มดใจร้าย .. ที่จริงแล้ว คำว่า"กลาง" มีหลายนัย คุณก่องกิก .. อืมม อัลมิตราเป็นคนภาคกลาง อยู่ในเมืองหลวง ส่วนคุณก่องกิกเป็นใคร อัลมิตราไม่ได้สนใจเท่าไหร่นะ ตกลงอยู่เหนือเหรอ ? คุณผู้หญิงช่างฝัน .. อัลมิตราเพียงแต่ไม่คิดว่า การประท้วงจะเป็นทางเลือกโดยวิธีเดียวที่ชอบธรรม คุณไหมแก้วสีฟ้าคราม .. เห็นด้วยกับอัลมิตรา ต้องแบ่งเฉลี่ยอิฐไปบ้างน๊า ฮา .. คุณอินทร์อาทิตย์ .. อัลมิตราอ่านกลอนตัวเองวนหลายรอบ ยังไม่พบข้อความที่สื่อให้เห็นว่า ชัดชวนผู้อื่นให้เกิดความคิดเป็น"กลาง" ค่ะ และในความหมายของคำว่ากลาง มีหลายนัย กลาง..ไม่ได้ถูกมองว่านิ่งเฉยเสมอไป กลางในความหมายของอัลมิตราคือ อยู่ตรงกลาง แล้วมองทั้งสองด้าน เพื่อที่จะได้เห็นส่วนดีและส่วนไม่ดีของทั้งสองฝ่าย ก่อนที่จะตัดสินหรือเลือกทางปฏิบัติ ในระบบของความยุติธรรม หากเมื่อใดมีใจเอนเอียงตั้งแต่ต้น ฝักใฝ่ตั้งแต่ต้น คล้อยคิดตั้งแต่ต้น ..คงไม่ดีแน่ คุณVICTORIASECRET .. ให้ตายเหอะโรบิ้น มีคนเขียนแบบนั้นจริง ๆ เหรอ ฮา .. คุณครูพิม .. แค่ในเรือนเสมือนว่าอยากฆ่าฟัน...ข้างนอกนั่นเผชิญหน้ายิ่งกว่าหนอ คุณกุ้งหนามแดง .. ต่างคนก็ต่างยืนยันความคิดของตัวเองค่ะ คุณกุ้ง เป็นธรรมดาของปุถุชน เราไม่อาจกล่าวโทษอีกฝ่ายในเหตุที่คิดต่างจากเรา คุณพิมญดา .. ตัวแปรที่สำคัญอีกหนึ่งคือ "กระแส" ค่ะ เท่าที่นั่งอ่านกลอนมา ก็เห็นในหลาย ๆ อย่าง ในหลาย ๆ อารมณ์ของคนเขียนกลอน ในคอมเมนท์ก็อ่านนะ ซึ่งแต่ละคนจะมีวิธีกลั่นกรองการเขียนไม่เหมือนกัน บ้างละมุนละม่อม บ้างรุนแรง บ้างประสาน .. ขนาดในสังคมเล็ก ๆ ตรงนี้ ยังระอุในความแตกต่าง ฉะนั้น สมการตัวคูณทบทวีย่อมมีแน่นอนในเหตุการณ์ที่เผชิญหน้ากันอยู่ในขณะนี้ ค่ะ คุณลักษมณ์ .. คุณเขียนดีนะ ยกตัวอย่างอ้างอิงได้น่าเชื่อถือ ก็สมแล้วกับที่ได้บวชเรียนมา แต่คุณมั่นใจแค่ไหนว่า คุณเข้าใจในสิ่งที่อัลมิตราเป็น ? คุณDarkness_Hero .. คงต้องหามาตราวัด ถึงจะได้รู้ว่าเกณฑ์ไหนที่เป็นกลาง ถ้าเห็นด้วยกับคุณลักษมณ์ทุกประการ !! ก็น่าจะตอบแทนกันได้ในสิ่งที่อัลมิตราถามเขาไป คุณมณีจันทร์ .. ค่ะ เราไม่อาจสั่งใจใครต่อใคร ให้คิดเหมือนสิ่งที่เราคิด "เราก็เข้าใจในสิ่งที่เขาเป็น ไม่ชอบดันทุรัง เขายังโน้มน้าวเราไม่ได้ แล้วเราก็โน้มน้าวเขาไม่ได้เช่นกัน" คุณนกกระจอกเทศ .. ไม่มีตัวตนในเวปบ้านกลอนไทยหรือคะ พฤติกรรมแบบที่คุณทำ คุณคิดว่าเป็นคนดี ?? ... คุณกุ้งก้ามกราม .. เป็นใหญ่อย่างที่สุด ถูกต้องคร๊าบบบบ คุณเรน .. แต่ละคนมีข้อดี ข้อเสีย .. เราบอกไม่ได้โดยชัดเจนหรอกว่า ถ้าจะเปรียบสองฝ่ายแล้ว อีกฝ่ายหนึ่งเป็นเทพ อีกฝ่ายหนึ่งเป็นมาร มันไม่เหมือนมหากาพย์รามเกียรติ์ อย่างที่บอก .. ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งบริสุทธิ์ผุดผ่องดีเลิศประเสริฐศรีจริง ๆ ก็คงไม่เป็นเช่นนี้หรอก คุณรัมณีย์ .. ถ้าสองขั้วนั้นไม่หักล้างทำลายจนซากไม่เหลือซะก่อน ก็คงจะดี ค่ะ
5 มิถุนายน 2551 09:54 น. - comment id 857421
สิ่งเราเป็น ความจริง ทุกคนย่อมตระหนักรู้อยู่แก่ใจตัวทั่วทุกคน วาทะกรรมต่างๆที่ทุกคนสร้างขึ้น บางวาทะก็เพียงอยากบอกว่าตัวเป็นคนเช่นไรเท่านั้น แหละบางวาทะก็ไม่ต่างกัน เพียงอยากใช้กล่าวถึงว่าใครเป็นคนเช่นแบบไหน จะผม "แทนคุณแทนไท" หรือว่าคุณ "อัลมิตรา" เราต่างมีจริตและความเห็น ที่ต่างเป็นไทในตัวเอง "อิสระ และ ชอบธรรม" การอันใดที่เราแสดงออก ต่างอาสัยเหตุปัจจัย2 สิ่ง นี้ทั้งสิ้น แต่สิ่งหนึ่งที่เลี่ยงไม่ได้คือ บางจริตที่เลือกจะแสดงออก จะชอบธรรมในบริบทของสังคมบางสังคมที่มีจริตที่แตกต่างกับเราหรือไม่ และอย่างไร ก็เพียงนั้น อิสระ และ ความชอบธรรม จึงต้องเตรียมเหตุผลที่หนักแน่นเพียงพอที่จะตอบบางใครให้ได้เมื่อไปกระทบถึงความรู้สึกใครอันบริสุทธิใจที่ถามหาถึง ความ พอดี พองาม และพอควร แม้ในเวทีการต่อสู้ ผู้หมายมั่นเป็นนักรบ จะได้รับการปลุกใจจากแม่ทัพเสมอว่า "การใหญ่จะสำเร็จ อาจต้องขืนข่มความเจ็บปวดกับการสูญเสียบ้างก็ตาม" แต่นั่น ก็มิได้เป็นเหตุผลซึ่งใครจะยอมรับได้ทุกคน โดยเฉพาะฝั่งที่คิดเห็นในประการที่แตกต่าง การแสดงออกใดที่เป็นประจักษ์ใจในขณะนี้ ไม่ว่าจากผู้เป็นไทฟากใด ล้วนมีข้อโต้แย้ง และข้อกังขาให้แคลงใจเสมอ ในโลกที่หลากสี บางคนอาจเห็นสีขาวเป็นสีแห่งความศิวิไล บางคนก็เห็นสีดำเป็นสีอันน่าพิสมัย แต่หลายคนไม่ยี่หระที่จะประกาศตัวบอกใครๆว่า ข้านี่แหละหลงใหลสีเทา ยิ่งกว่าสิ่งใด ขาว เทา หรือ ดำ เป็นความถูกต้องที่แท้ก็ต่อเมื่อเกิดการตกผลึกของสังคม ที่ได้รับข้อมูลอย่างรอบด้าน และนำมาซึ่งการยอมรับร่วมกันแล้วเท่านั้น โดยส่วนตัว เมื่อมีข้อขัดแย้งเกิดขึ้น โดยเฉพาะการเมือง คนที่คิดเห็นในเรื่องนั้นๆเป็นกลางไม่เคยมี มีแต่เห็นด้วย เห็นต่าง หรือเห็นด้วยเห็นต่างอย่างมีข้อแม้หรือข้อจำกัดเท่านั้น คนที่บอกเห็นกลาง หากเป็นกลางที่ถูกต้อง ในความนึกคิดของข้าพเจ้า น่าจะเป็นคนที่เลือกยืนอยู่ตรงกลางซะมากกว่า (แต่ในจริตต้องคิดเห็นในสิ่งนั้นเป็นประการใดประการหนึ่งแน่แท้) ให้ทัศนะเชิงบวก อาจจะหมายถึง ไม่ปรารถนาให้เกิดความขัดแย้ง หรือปรารถนาจะบรรเทาความร้อนระอุ และคอยประสานความขัดแย้ง หรือผู้ขัดแย้งในสังคม ให้ยังคงไม่หลงลืมไปว่าเราเป็นเนื้อไทยเดียวกันก็เป็นได้ คนกลาง จึงยังเกิดอยู่ และข้าพเจ้าก็ต้องยอมรับว่าจำเป็นในเวทีของประเทศที่ประชาธิปไตยยังไม่เติบโตมากนัก เป็นประชาธิปไตยที่มีกฎหมาย แต่การบังคับใช้อย่างอ่อนแอ ย้ำว่าอ่อนแอเหลือเกิน ดังนั้น คนเห็นด้วย คนยืนกลาง และคนเห็นแย้ง จึงยังเป็นความจำเป็นที่ยังขาดไม่ได้ได้ในประเทศนี้ ประเทศที่มีเสรี สิทธิ และหน้าที่ในกฎหมายและรัฐธรรมนูญ แต่เมื่อถึงคราวที่ต้องใช้ไม่เคยปรากฎแยกได้ชัดในการบังคับใช้ เสรี สิทธิ และหน้าที่ จึงยังแสดงจุดยืนได้ทับซ้อนกันจนยากจะแยกแยะได้ว่า ใครควรเป็นและควรทำเช่นไหน อย่างไร และแค่ไหน "ตราบที่เท่า การปฎิรูปกฎหมายและการบังใช้ไม่เกิดในประเทศนี้" อย่าหวังเลย ว่าจะได้เห็น ตุลา พฤษภา หรือแม้แต่กันยาสุดท้าย เมื่อตำรวจซึ่งเป็นด่านหน้าของการบังคับใช้ ยังต้องเลือกว่าจะให้ความเป็นธรรมในขั้นต้นกับผู้ใด ก็ต่อเมื่อได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาสูงสุด ซึ่งก็คือนักการเมืองบางจำพวก ซึ่งมีอยู่เต็มค่อนสภาที่ได้รับการเลือกตั้งมาโดยไม่เคยยี่หระในกฏหมายของประเทศนี้ ประกอบกับ ประชาชนจำนวนหนึ่งยอมขายสิทธิต่างๆที่ตนพึงมีเพียง 1 นาที ให้บางใครเข้าสภาไปย่ำยีประเทศชาติได้ตามสบายใจฉัน เมื่อพื้นฐานอันเป็นหัวใจในการใช้กฎหมาย ณ รากฐานของประชาธิไตยล้มเหลว จะหวังให้ร่างการสมบูรณ์แข็งแรงได้อย่างไร "ระบบกฎหมายล้มเหลว" ประชาธิไตยที่แท้จึงมิได้มาสวัสดีประชาชนสักที นักกินเมืองในระบบประชาธิไตยจึงค่อนสภา ประชาชนทั้งผู้สำคัญผิดและผู้เต็มใจ ซิโรราบขายสิทธิอันสำคัญยิ่งให้บางใครไปแล้ว จึงไม่แปลกที่ผู้ได้อำนาจในประเทศนี้จึงมิได้ยอมรับการเมืองภาคประชาชน เพราะบางใครคิดว่ากลุ่มอำนาจต้นได้ซื้อสิทธินี้อย่างเด็ดขาดมาเสียแล้ว ประกอบกับบางคนก็คิดว่าสิทธิของตัวจะมีอีกครั้งเมื่อถึงการเลือกตั้งครั้งหน้า สหายท่านหนึ่งเคยบอก ทั้งหมดนี้มิใช่ปัญหานักการเมือง หรือ ประชาชน แต่เป็นปัญหาของการบังคับใช้กฎหมาย ในประเทศที่ระบบกฎหมายเข้มแข็ง ประชาธิปไตยจะเป็นประชาธิไตยที่แท้จริง คนขายสิทธิไม่มี คนซื้อเสียงอย่าได้คิดฝันหวานเข้าสภา คนอยู่ในสภาจึงเต็มไปด้วยผู้กระหายความชอบธรรม เคารพกฎหมายและประชาชน เมื่อมีข้อโต้แย้งใดๆเกิดขึ้นในสังคม ความเห็นต่างที่ไม่ถูกประนามก็เกิดขึ้นได้ ความเห็นแย้งที่ไม่ถูกด่าทอก็เกิดขึ้นได้เช่นกัน ไม่จำเป็นต้องหาคนมายืนอยู่ตรงกลางเพื่อลดการเผชิญหน้า เพราะคนกลางคือกฎหมายที่จะได้รับโดยการบังคับใช้โดยบุคคลซึ่งดำรงความยุติธรรม เพื่อให้สังคมเกิดความยุติ แม้ถึงว่าวันนี้ เราต้องขัดแย้ง เจ็บปวด ก็อย่าโทษใครเลย นอกจากความอ่อนแอ ความเมินเฉย และเห็นแก่ตัวของเราทั้งหลาย มาเถิดสหายทั้งหลาย เริ่มเคารพกฏหมาย และส่งเสริมการศึกษา อีกไม่นานเกิดฝัน ลูกหลานอาจได้มีประชาธิไตยในอุดมคติเสียที แหละวันนั้น ลูกหลานของเราในกาลหน้า อาจได้แสดงจริตที่แตกต่างโดยใบหน้าที่เบิกบาน
5 มิถุนายน 2551 10:22 น. - comment id 857425
คุณแทนคุณแทนไท .. ขอบคุณที่เขียนมายาว ๆ เข้าใจว่า อาจจะยังไม่จบด้วยซ้ำไป ขอบคุณที่ยังห้ามใจไว้ทัน ความเป็นกลางที่อัลมิตราเป็น อัลมิตราก็อยากให้มีคนถามเหมือนกัน .. ถามเยี่ยงมิตร เหตุใดอัลมิตราจึงบอกว่าตนเองคิดเป็นกลาง กลางของอัลมิตราคืออะไร .. แน่นอน หากคำถามเป็นไปอย่างสุภาพเรียบร้อย ปราศจากการตั้งแง่ไว้ก่อน และใคร่รู้ .. อัลมิตราก็พึงพอใจที่จะตอบ แจกแจงในสิ่งที่นึกคิด เหตุผลนานับประการก็จะได้เผยเสียที แต่ถ้าอัลมิตราถูกตัดสินไปแล้วว่าเป็นเช่นไร โดยการวินิจฉัยนั้นอยู่บนพื่นฐานอารมณ์ที่ขุ่นมัว อัลมิตราก็ไม่อยากเสียเวลาตอบ ไม่อยากสาธยายแจกแจงใด ๆ ไม่อยากต่อความยาวสาวความยืดให้มากความ จริตของแต่ละคนอาจคล้ายคลึงหรืออาจแตกต่าง ในแต่ละสถานการณ์บางทีต้องเลี่ยงการแสดงจริตที่แท้ ทว่าอัลมิตราไม่ปิดบังจริตของตนเองสำหรับความคิดเห็นประการนี้ อัลมิตราเข้าใจว่า..ในแต่ละความคิดอันชอบธรรมและโดยเสรีของแต่บุคคล .. ย่อมไม่อยากให้ผู้อื่นใดล้ำเส้น เป็นคนขลาดเขลา เป็นกบในกะลา เป็นคนที่ไร้จิตสำนึก และเป็นอะไรต่อมิอะไรแล้วแต่จะตั้งสมญาให้ จะเป็นอะไรก็ตาม มันไม่สำคัญเท่าที่อัลมิตราเป็นตัวของตัวเอง น้ำเหม็นมล้างสิ่งเหน้า ไฉนหยุด มล้างอุทกบริสุทธิ์ เสื่อมร้าย คนเวรต่อเวรประทุษฐ์ ทวีโทษ เอาอเวรระงับหง้าย อาจสิ้น สูญเวร น้ำเหม็น นำไปชะล้าง ความเน่าเหม็น ย่อมไม่มีทางที่จะหยุด ความเน่าเหม็น ได้ฉันใด หากใช้ความรุนแรงเลวร้าย เพื่อขจัดความรุนแรงเลวร้าย ความรุนแรงเลวร้าย ก็ย่อมไม่มีทางที่จะหยุด ได้ฉันนั้น
5 มิถุนายน 2551 11:08 น. - comment id 857443
บอกตามตรงนะครับ ผมก็ไม่เข้าใจคุณมากมายนักหรอกครับ จริงๆเรื่องกลางไม่กลางเนี่ยไม่ต้องหาเกณฑ์ไหนมาวัดหรอกครับ มันวัดไม่ได้ เพราะมันคือเรื่องของ"ความคิด" "ความรู้สึก" และ"การแสดงออก" แต่ผมเชื่อในตัวพี่นะ พี่บอกว่ากลาง ผมก็เชื่อว่ากลาง ก็แค่นั้น ตรงไปตรงมา ไม่คิดท้าทายอะไร หรือเห็นด้วย หรือตำหนิอะไร ดีเสียอีกเพราะ หายากมากๆ ๆๆ ก็คน"กลาง"จริงๆในความรู้สึกผมนั้นน้อย ต้องปล่อยวางเรื่องราวได้จริงๆ ไม่ก็ตำหนิแบบไม่เฉเอียงไปข้างใดข้างหนึ่งจริง ผมบอกว่าคำของ่านจันทร์ที่พี่ลักษณ์อ้างถึงนั้น "น่าคิด" ก็คือ"น่าคิด" ไม่ได้บอกให้พี่ "ต้องคิดให้เหมือนกัน" นี่ครับ ^ ^ ผมน่ะตรงไปตรงมาจะตายไป
5 มิถุนายน 2551 11:37 น. - comment id 857447
คุณDarkness_Hero .. อัลมิตราก็บอกว่า ประโยคที่คุณลักษมณ์ยกนำขึ้นมา น่าเชื่อถือ ส่วนสิ่งที่คุณบอกว่า น่าคิด" ก็คือ"น่าคิด" ไม่ได้บอกให้อัลมิตรา "ต้องคิดให้เหมือนกัน" แน่นอนค่ะ ..จะคิดหรือไม่คิด ขึ้นอยู่กับอัลมิตรา
5 มิถุนายน 2551 11:51 น. - comment id 857454
มีพระบรมราโชวาทว่า ส่งเสริมให้คนดีได้ปกครองบ้านเมือง อย่าให้คนขั่วมีอำนาจ..นั้น เราจะเป็นกลางอย่างไรครับ...
5 มิถุนายน 2551 12:50 น. - comment id 857469
คุณแสงเหนือ .. พระบรมราโชวาทของในหลวงที่ตรัสไว้เช่นนั้น อัลมิตราก็เคยได้รับการถ่ายทอดให้ทราบค่ะ ขอบคุณที่นำมาย้ำเตือนอีกที ซึ่งถึงไม่ได้ย้ำเตือน อัลมิตราก็ไม่เคยลืม ส่งเสริมให้คนดีได้ปกครองบ้านเมือง ... ทำอย่างไร อย่าให้คนชั่วมีอำนาจ ... ทำอย่างไร ต้องมีวิธี ค่ะ
5 มิถุนายน 2551 13:12 น. - comment id 857485
...วันต่อวันปันแจกความแตกต่าง เริ่มรุ่งสางเช้าสายเสียหลายหน เอาอะไรไปเล่นความเป็นคน ที่สันสนแตกต่างอยู่กลางใจ...
5 มิถุนายน 2551 13:53 น. - comment id 857512
แตกต่างได้แต่ไม่แตกแยกเนาะ.... ยิ่งคนมากความคิดก็หลากหลาย แต่หากมาจาก การมุ่งดีมุ่งเจริญต่อประเทศแล้ว....ความต่างก็ไม่ใช่การแบ่งขั้ว เพราะอย่างไรเสีย พวกเราต่างก็ต้องการความสงบเหมือนกัน อย่างที่พระบรมราโชวาทของพระองค์ท่านในวันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๔๙
5 มิถุนายน 2551 13:57 น. - comment id 857515
เห็นด้วยครับเพื่อความเข้าใจ คิดตางได้แต่ให้เคารพน้ำหนักของเหตุผล ที่สำคัญอย่าใส่สีให้เพี้ยนไปจากขาวก็แล้วกัน...ขอบคุณนะคุณที่ไปอวยพรวันเกิด ผมไม่ค่อยได้อยู่ออฟฟิตเลยไม่ค่อยจะได้ตอบใคร กลับมาก็มืดค่ำจัดรายการเสร็จ..สลบ!!!ด้วยประการฉะนี้แล
5 มิถุนายน 2551 14:23 น. - comment id 857541
เบื่อคนกลาง.....----->กลางถนนราชดำเนิน..... ไปไหนมาไหนลำบากมาก
5 มิถุนายน 2551 14:23 น. - comment id 857542
เบื่อคนกลาง.....----->กลางถนนราชดำเนิน..... ไปไหนมาไหนลำบากมาก
5 มิถุนายน 2551 14:24 น. - comment id 857544
เบื่อคนกลาง.....----->กลางถนนราชดำเนิน..... ไปไหนมาไหนลำบากมาก แหะ แหะ ชื่อตกหาย
5 มิถุนายน 2551 14:32 น. - comment id 857553
เบื่อคนกลาง------>กลางทำเนียบ ....เจ๊ย......
5 มิถุนายน 2551 15:04 น. - comment id 857571
คุณเจ้าชายในสายลม .. ในวงการการเมือง ไม่มีมิตรแท้ ศัตรูถาวร ประโยคนี้อัลมิตราก็เคยสงสัยเหมือนกันว่า ทำไมพวกเขาถึงได้ทรยศความรู้สึกตนเอง คิดอย่างไร ก็ควรเป็นเช่นนั้น หรือว่า เป็นเพราะอัลมิตราไม่ได้อยู่ในแวดวง จึงนึกตามไม่ทัน ในประเด็นร้อน ๆ เช่นนี้ การที่จะแสดงจุดยืนมันเสี่ยงต่อการถูกวิจารณ์ค่ะ อัลมิตราก็รู้ดี สำหรับในสิ่งที่ตนเองเขียน ก็พยายามอ่านทบทวนเสมอ เขียนเข้าข้างใครหรือเปล่า เขียนด่าใครมั๊ย เริ่มตั้งแต่หัวข้อกลอน จะประท้วงกันไปทำไมวะ ซึ่งเหมือนกลอนบ่น ๆ ของคนที่จะไปทำธุระแถวนั้น ข้าวยากหมากแพงน้ำมันขึ้นทุกวัน อุณหภูมิของโลกก็สูงขึ้นเรื่อย ๆ ภัยธรรมชาติก็ประชิดตัว นี่คือที่มาของกลอนชุดนั้น ก็หวังว่าจะได้คำตอบดี ๆ เหตุผลของการประท้วง รูปแบบคำอธิบายที่รื่นหู นี่ก็นั่งอ่านมาหกวัน แต่ละวันก็เห็นข้อความมากมาย เกือบทุกกระทู้กลอนที่อ่าน พยายามทำความเข้าใจ "กลาง" มันเป็นยาก มันเป็นไปไม่ได้ มันใช้ไม่ได้หรอกสำหรับสถานการณ์นี้ ประโยคพวกนี้ได้ยินบ่อย อันที่จริงตั้งแต่คราวก่อนด้วยซ้ำ ที่ลุงราม ลิขิต ทั้งเขียนในบอร์ดและโทรมาเขย่าหูทุกค่ำคืน (อ้างลุงราม) ในความรู้สึกคิดว่า.. ทำไมต้องบังคับให้เลือก ถ้ามีดีกับมีเลว แบบนี้ไม่เลือกดีก็บ้าแล้ว ถ้าเลือกเลวคงบ้าแน่นอน ใช่ล่ะ ความรู้สึกนั้นยังเป็นอยู่ในปัจจุบัน คุณโคลอน .. ค่ะ เราต่างก็รักสงบเหมือนกัน :) คุณชินเดช .. ตกลงว่า วันที่ 12 กรกฎาคม คุณเคลียร์คิวได้ใช่ไหมคะ อย่างไรก็ตามช่วยในธุระบางส่วนด้วยค่ะ ตอนนี้อัลมิตราดำเนินการบางอย่างไปบ้างแล้ว ส่งมอบเงินที่จะทำห้องน้ำ 2 ห้อง ทางโรงเรียนกำลังก่อสร้าง ยังมีอีกในเรื่องของแป้นบาส นึกไม่ออกว่าแป้นบาสควรจะอยู่ในรูปแบบไหน เพราะสนามบาสไม่มี ทีนี้ทาง ผ.อ. แจ้งว่า ขอเป็นแป้นบาสเพื่อให้เด็กประถมหัดชู๊ตเล่น อัลมิตราก็ไม่เห็นว่าตรงไหนจะเหมาะ อืมม !! สุดท้ายเลยไปเล็งแป้นบาส คุณท่องเมฆา .. เป็นอาราย .. มือไม้สั่น .. นึกว่าจำชื่อตัวเองไม่ได้แล้ว แจ้งข่าวนิดนึง ไม่เกินสี่โมงเย็นวันนี้ หลวงน้าจะไปที่คลีนิค เอาปริ้นเตอร์ไปบริจาค ฝากคุณหมอไว้ด้วยค่ะ คุณโคลอน .. อื้อ .. เอาเถอะน่า
5 มิถุนายน 2551 15:08 น. - comment id 857574
เป็นกลางมันวัดยากน๊า...อัลมิตรา เอาว่าไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดดีกว่า..อิอิ ดูตามเหตุตามผลเป็นเรื่องๆไป
5 มิถุนายน 2551 17:23 น. - comment id 857620
คุณ dark side of mind .. ใช่แล้ว เป็นกลางยากแสนยาก คำว่าไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด กับเป็นกลาง มีความแตกต่างและเหมือนกันตรงไหนบ้างนะ สำหรับสถานการณ์นี้
5 มิถุนายน 2551 18:46 น. - comment id 857642
กระต่ายก็เป็นกลางค่ะ กางบ่อยเวลาฝนตกกางร่มจ๊ะ
5 มิถุนายน 2551 19:25 น. - comment id 857661
5 มิถุนายน 2551 20:11 น. - comment id 857670
5 มิถุนายน 2551 21:05 น. - comment id 857715
คุณกระต่ายใต้เงาจันทร์ .. เวลาฝนตก อัลมิตราก็กางร่มบ้างนะ แต่ถ้าเลือกได้ ก็จะไม่ออกไปฝ่าฝน เพราะอัลมิตราเป็นหวัดได้ง่าย แต่ถ้าแดดจ้า อัลมิตราเลือกที่จะสวมหมวกมากกว่า ไม่ชอบถือร่ม สวมเสื้อแขนยาว .. ก็น่าจะเพียงพอต่อการรักษาผิวแล้วล่ะ คุณดอกบัว .. จ๊ะเอ๋ ตกลงว่าจะไปสระแก้วกันมั๊ย .. พี่ดอกแก้ว .. แหะ แหะ อัลมิตราไม่ได้ดื้อน๊า แค่ล่อเป้า .. ฮา ..
5 มิถุนายน 2551 22:05 น. - comment id 857726
คงจะต้องใช้ผ้าขาวผูกข้อมือแล้วละมั๊ง อิอิ แล้วยาลืมโยนผ้าออกมาให้แขกเหรื่อดูด้วยล่ะ อิอิ
5 มิถุนายน 2551 22:39 น. - comment id 857733
คุณฤกษ์ .. แหม !..ดีนะ ที่แนะนำให้ใช้ผ้าขาว ไม่ใช่ด้ายขาว ส่วนที่จะต้องลงทุนโยนผ้าติ้ว ๆ ให้ใครต่อใครเห็น .. เหนื่อยเปล่า เปลืองแรง แถมสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ .. ใครอยากเห็น เห็นทีต้องมาดูเอง เออนี่ .. ตกลงเจอป้าแช่มไหม เขียนมาได้ แหร่มเลยนะลุง .. ฮา