มองดวงดาวเดี่ยวเหงาเฝ้าท้องฟ้า เห็นน้ำตาโปรยปรายพรายน้ำค้าง เหมือนเหว่ว้าจะมืดมนสิ้นทาง ดูเคว้งคว้างเจ็บช้ำในค่ำคืน คำหญิงสาวที่บอกถูกหยอกเย้า ความโง่เขลาทำจิตคิดเป็นอื่น เหมือนโดนลวงให้ช้ำทนกล้ำกลืน หลงคิดว่ายั่งยืนชื่นอุรา คงมิใช่เขลาขลาดเธอพลาดพลั้ง อาจเป็นหวังที่วาดในปรารถนา จิตจึงซ่านซึ้งซาบภาพมายา คอยลวงตาหลอกลวงในดวงใจ อย่าคิดว่าอ่อนแอจึงแพ้ยับ จึงต้องรับหมองหม่นเกินทนไหว คิดลงโทษที่ละเมอและเผลอไป เสียน้ำตาหลั่งไหล...ทำไมกัน ที่ต้องมาทนเศร้าเขาไม่รัก ถูกหาญหักอกระทมตรมโศกศัลย์ เพราะเพียงเธอให้นิยามความสำคัญ เพ้อพร่ำในสัมพันธ์ที่ฟั่นเฟือน ความรันทดเจ็บช้ำคอยย้ำจิต จึงครุ่นคิดว่าเธอเสมอเหมือน เศร้าสลดจดจำให้ย้ำเตือน มิลืมเลือนกลับหวาดกลัวใจตัวตน ว่าสิ้นฟ้าสิ้นดินคงสิ้นสุด จะขอหยุดหัวใจคลายสับสน จะไขว่คว้าความสุขเลิกทุกข์ทน เลิกหมองหม่นสู่โลกแห่งโชคชะตา ได้เรียนรู้รับรสรักบทแรก อกแทบแตกหัวใจเหมือนไร้ค่า ขอเก็บนำร้าวรานที่ผ่านมา ให้เรียนรู้ไว้ว่าอย่ารักใคร
29 พฤษภาคม 2551 08:21 น. - comment id 854822
งานนี้มาทั้งจินตนา.. ทั้งวาโก้เลยนะคะ
29 พฤษภาคม 2551 08:25 น. - comment id 854824
ได้เรียนรู้รับรสรักบทแรก อกแทบแตกหัวใจเหมือนไร้ค่า ขอเก็บนำร้าวรานที่ผ่านมา ให้เรียนรู้ไว้ว่าอย่ารักใคร .............. ได้สัจจธรรมธรรมดาปรารถนาลวง ล่อติดบ่วงเสน่หาน้ำผึ้งหวาน บทสุดท้ายรออิสระจิตชั่วกัปป์กาล สิ้นโศกรานรัดร้อยสร้อยโซ่กรรม.. ........................... ด้วยรำลึกถึงค่ะ
29 พฤษภาคม 2551 08:37 น. - comment id 854828
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem111529.html ดอกเอ๋ยดอกเยาว์ งดงามแฉล้มเฉลาดั่งภาพฝัน โลกสีขาวพราวพิสุทธิ์ท่ามคืนวัน อิ่มขวัญไร้ทุกข์สุขใจ ปั้นแต่งเสกสรรเนรมิต ให้จิตดั่งอัญมณีสว่างใส เพาะบ่มเรียนรู้เป็นไป ตามวัยแห่งฝันวันเยาว์ หยาดน้ำใจใสเย็นเช่นหยาดฝน กมลเพียงให้ไร้เหงา เติมเต็มด้วยรักนานเนา ดั่งเงาคอยชิดนิจนิรันดร์... .................. ดอกเยาว์ หากเปรียบชีวิตนี้ดังดอกไม้ ก็คลับคล้าย คลับคลา ดวงดอกฝัน ดอกเยาว์วัย หวานแฉล้ม ต้นวัยวัน บริสุทธิ์สั้น แสนดี วันวัยเยาว์ แล้วดอกโศก เริ่มแย้มบาน เมื่อรู้รัก ซึ้งประจักษ์ เล่ห์กลกาม จนใจเขลา ดอกเสน่หา ผุดงอกงาม แทนดอกเยาว์ เมื่อสองเรา แลกรสรัก รู้รสกัน ดอกราโรย เริ่มบาน ไร้รักแท้ ผ่านเกมแก้ เกมกาม จนเลิกฝัน ดอกความจริง ผุดสอนใจ ทุกคืนวัน ดอกสวรรค์ ลอยลาลับ ลงลานดิน ดอกดวงใจ แม่พ่อ เพาะบานใหม่ วนเวียนไป เป็นดอกเยาว์ มิรู้สิ้น ดอกโศกบาน ดอกรักร่วง พราวสู่ดิน บานมิสิ้น ดวงดอกไม้ ชดใช้กรรม! .............................................
29 พฤษภาคม 2551 11:14 น. - comment id 854853
มีบทแรก แล้วก็จะมีบทต่อ ๆ ไปค่ะ สู้ ๆ นะค่ะ.......
29 พฤษภาคม 2551 12:48 น. - comment id 854887
รักแรกไม่เคยลืม แต่ที่ลืมว่าเคยเจ็บก็อีตอนที่มีความรักครั้งต่อไปนี่ล่ะ หุ หุ หุ คิดถึงมากมายเลยนะเจ้าคะ ไม่รู้ว่าป่านนี้พี่ชายเรายังล่องเหนือล่องใต้อยู่เเหมือนเดิมหรือเปล่าน้อ
29 พฤษภาคม 2551 15:36 น. - comment id 854945
ขอบคุณที่เตือน
29 พฤษภาคม 2551 19:10 น. - comment id 854995
... เหมือนบทเรียน มีค่า ราคาแพง ..... เก็บเอาไว้เป็นบทเรียน ดีกว่า ....
29 พฤษภาคม 2551 19:45 น. - comment id 855021
รักครั้งต่อไป..ต้องเลือกให้ดีๆ ดูให้ดีๆ ค่ะ..
30 พฤษภาคม 2551 07:35 น. - comment id 855141
เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วคะเนี่ย
30 พฤษภาคม 2551 08:27 น. - comment id 855153
รักกับร้าวราวเพื่อนดั่งเดือนดาว ที่คอยก้าวเคียงคู่อยู่เสมอ มิเคยเข็ดหลาบจำพร่ำอยากเจอ จนเมื่อเผลอใจรักอกหักพลัน
30 พฤษภาคม 2551 09:50 น. - comment id 855193
แรกรักร้าว รานแหลก ใจแตกยับ เนิ่นนานนับเนาแนบ แอบเก็บไว้ ทนทุกข์ท่วม ท้อแท้ เพราะแพ้ภัย จนจิตใจจืดจาง บางเวลา เริ่มเรียนรู้ เรื่องรัก จากชีวิต ใคร่ครวญคิด ค้นขุด หยุดปัญหา เพราะพลาดพลั้งผันผ่าน ม่านมายา วันเหว่ว้าหวั่นไหว ไม่มีแล้ว
30 พฤษภาคม 2551 15:50 น. - comment id 855302
คนเราเรียนรู้ได้ตลอดชีวิตนะคะ เพราะ เรียนถึงรู้ ถ้าไม่รู้คงไม่เรียน...แฮ่ม...คงไม่งงนะ
28 กรกฎาคม 2552 23:11 น. - comment id 1020585
http://i-musicale.exteen.com/20090112/dr-fuu tes