กาลครั้งหนึ่งยังมีภิกษุหนุ่ม เกิดจากกลุ่มตระกูลมูลเศรษฐี มีความหยิ่งในทรัพย์อันมากมี ประพฤติที่ไม่ง้อขอใครใคร ถึงฉันจะดีชั่วก็ตัวฉัน ไม่มีวันอดอยากหรือยากไร้ บิณฑบาตรอิ่มหนำจนฉ่ำใจ รู้หรือไม่ลูกเศรษฐีผู้มีกิน ถึงไม่ใส่บาตรฉันทุกวันนี้ ฉันก็มีชีวิตได้ไม่ถวิล ปฏิปทาสมณะที่ยลยิน เพียงแค่หมิ่นเหม่รู้พอดูเอา เช้าวันหนึ่งออกมาบิณฑบาต สายตากราดเห็นกระต๊อบตรงขอบเขา หญิงชราแม่ลูกผูกใจเรา หุงข้าวเปล่าสองส่วนชวนแบ่งกัน ส่วนของลูกกับแม่แค่น้อยนิด ต่อชีวิตคิดอยู่สู้ความฝัน ไม่ล่วงล้ำของใครให้ต้องปัน ข้าวจานนั้นแค่ต่อพอชีวี วันนั้นแม่เจ็บหนักเกินรักษา มองออกมาเห็นสงฆ์ทรงศักดิ์ศรี เรียกให้ลูกเอาข้าวใส่บาตรที อย่ามัวที่เนิ่นนานท่านรั้งรอ ลูกถามแม่ว่าแม่แน่ใจหรือ ข้าวทั้งมื้ออดได้อย่างไรหนอ ร่างก็เจ็บป่วยไข้ยังไม่พอ แม่ว่าขอใส่บาตรแม้ขาดใจ ตลอดทางภิกษุหนุ่มดุ่มเดินกลับ บาตรตลับกลับหนักยิ่งกว่าสิ่งไหน ไม่ได้หนักตรงบาตรที่พาดไว้ มันหนักในดวงจิตคิดคำนึง อะไรเล่าหญิงชราที่มาเห็น ทั้งยากเข็ญเจ็บป่วยเกินช่วยถึง สละสิ้นอาหารทั้งจานจึง เพียงหวังพึ่งเนื้อบุญคุณชีวิน แล้วตัวเราปฏิบัติที่ดีแล้วหรือ เราแค่คือผู้ถือดีมีทรัพย์สิน ปฏิบัติลวงล่อขอแค่กิน อนาถสิ้นปฏิปทาที่มามี ต่อแต่นี้จะประพฤติในสิ่งชอบ ตามที่กรอบพระวินัยองค์ชัยศรี ปฏิบัติตนตามองค์ทรงมุนี ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบขอตอบแทน ------------- (ไร้อันดับ)
14 พฤษภาคม 2551 20:00 น. - comment id 849889
ไม่เคยได้ที่ 1 บ้านนี้ ขอสักทีน่า..หุหุ.. เด่วมาใหม่จ้า...
14 พฤษภาคม 2551 20:38 น. - comment id 849904
แด่ คุณนักสืบไร้อันดับ สงสารสองแม่ลูกจัง
14 พฤษภาคม 2551 20:48 น. - comment id 849910
คุณยาแก้ปวด บ้านนี้ที่ 1 มีรางวัลให้น่ะ จะเอาที่ดินหรือคอนโดล่ะ ให้เลือกอย่างหนึ่ง ขอบคุณที่มาทักทายครับ
14 พฤษภาคม 2551 20:51 น. - comment id 849912
คุณไหมแก้วฯ เรื่องนี้ผมอ่านมานานแล้ว เลยพยายามดัดแปลง มาเป็นกลอน ครับ ขอบคุณที่มาทักทายครับ
14 พฤษภาคม 2551 22:41 น. - comment id 849929
ย่องๆมาดูเฉยๆ ง่วงนอนจัง เฮ้อออออออ..
15 พฤษภาคม 2551 08:55 น. - comment id 850015
น้องบุญทุ่ม ถ้าง่วงก็นอนซะ เด่วกล่อมให้ อิอิ ขอบคุณที่มาทักทายจ่ะ
15 พฤษภาคม 2551 08:57 น. - comment id 850017
ข้าวจานเดียวทำให้เกิด คถาคต ที่ดี สืบทอดพุทธศาสนาตามครรลอง คุ้มค่ะ เรื่องราวดีมากค่ะ
15 พฤษภาคม 2551 08:59 น. - comment id 850018
อานิสงส์ต่อบาทถึงชาติหน้า..... เขาว่างั้น...
15 พฤษภาคม 2551 09:09 น. - comment id 850028
เรื่องราวบางเรื่องเราต้องประสบด้วยตนเอง จึงจะรู้ถึงแก่นแท้ของชีวิตค่ะ...
15 พฤษภาคม 2551 10:21 น. - comment id 850057
อ่านแล้วได้แก่นธรรมดีครับ แต่จะมีพระสักกี่องค์ที่เข้าใจข้าวจานเดียว เฮ้อ...เวทนา มุทิตา อุเบกขา
15 พฤษภาคม 2551 11:53 น. - comment id 850105
คุณกชมนรวรรณ เบื้องหลังข้าวจานนั้นมีความมุ่งมั่น ที่จะถวายภัตราหารให้ผู้เป็น เนื้อนาบุญของโลกครับ ขอบคุณที่มาทักทายครับ
15 พฤษภาคม 2551 11:56 น. - comment id 850107
คุณกุ้งฯ โบราณว่า พระสงฆ์เป็น เนื้อนาบุญของโลกครับ ขอบคุณที่มาทักทาย
15 พฤษภาคม 2551 12:01 น. - comment id 850111
คุณwhitelily เขาบอกว่าประสบการณ์ทำให้เราเรียนรู้ แต่ถ้าถึงขั้นสลายพฤติกรรมเดิมได้ คงต้องเป็นเรื่องที่ประทับใจ จริงๆ ครับ ขอบคุณที่มาทักทายครับ
15 พฤษภาคม 2551 12:04 น. - comment id 850113
คุณอิงภู เวทนา มุทิตา อุเบกขา และ เมตตา ทำให้โลก คงอยู่ได้ คุณว่าจริงไหมครับ ขอบคุณที่มาทักทายครับ
15 พฤษภาคม 2551 12:09 น. - comment id 850116
หวังใจหมายได้เกาะชายผ้าเหลือง ช่วยปลอดเปลื้องบาปบุญที่หนุนหัว เจ็บป่วยไข้หาใช่โรคจากตัว เป็นเพราะกลั้วบาปบุญล้วนทุนเดิม ยอมเสียข้าวทำบุญลดบาปเก่า อิงร่มเงาพุทธะมาปะเสริม เพราะคนทุกข์ขุกไข้คล้ายมารเติม เป็นบทเริ่มของพุทธหยุดยากเย็น ชนชั้นล่างต่างเริ่มด้วยการให้ สมมติสงฆ์ต่างได้ด้วยขอเค้น วัดใหญ่โตโอ่อ่าน่าจำเป็น เหล่าทุกข์เข็ญคือประชาที่น่าตาย
15 พฤษภาคม 2551 12:45 น. - comment id 850143
ผู้ใหญ่บอกว่า ถ้าทำบุญกับอริยะสงฆ์ จะได้บุญบริสุทธิ์ แต่ทุกวันนี้คนเราทำบุญเพราะอยากจะได้บุญ ไม่ก็กลัวเจ้ากรรมนายเวร จึงทำบุญเกินพอดี ก่อกิเลสขึ้นในวัด โดยไม่รู้ตัว
15 พฤษภาคม 2551 12:59 น. - comment id 850154
คุณฝากฝัน ปฏิปทาสมณะสละแล้ว ดังดวงแก้วสดใสไม่มีสอง ความสงบจากธรรมซ้ำประคอง หมดจิตหมองเศร้าตรมระทมเลย ขอบคุณที่มาทักทายครับ
15 พฤษภาคม 2551 13:02 น. - comment id 850157
คุณโคลอน บุญมากบุญน้อยเขาว่า ขึ้นกับจิตใจครับ จิตศรัทธา ให้น้อยก็ได้มาก จิตที่อยาก ให้มากกลับได้น้อย ขอบคุณที่มาทักทายครับ
15 พฤษภาคม 2551 13:43 น. - comment id 850172
เป้นเรื่องที่น่าคิด สะกิดใจให้คิดถึง กระทำสิ่งใดให้คำนึง สิ่งที่พึงปฎิบัติให้งดงาม เรื่องดีๆมีแบ่งปัน ขอบคุณเจ้า
15 พฤษภาคม 2551 14:14 น. - comment id 850179
คุณไหมไทย เรื่องดีๆ มีแบ่งปันครับ ผมก็คิดอย่างนั้น อ้อ มีเรื่องดีๆ อย่าลืม เอามาฝากให้ผมอ่านบ้าง น่ะครับ ขอบคุณที่มาทักทายครับ
15 พฤษภาคม 2551 18:39 น. - comment id 850231
มาแนวสอนใจอีกแล้ว..ดีจังค่ะ สบายดีนะคะ
15 พฤษภาคม 2551 19:02 น. - comment id 850246
คุณ ป. ผมอยากเขียนได้หลายๆ แนวจังครับ แต่ตอนนี้ขอ เขียนแนวที่ชอบ ก่อนน่ะครับ ผมสบายดีครับ พึ่งกลับจากแม่สอด ไปทำงานน่ะครับ ขอบคุณที่ทักทายครับ
15 พฤษภาคม 2551 19:27 น. - comment id 850254
นี้คือการสืบทอดศาสนาจากแม่ลูกคู่นี้ค่ะ ความตั้งใจที่จะทำบุญอย่างบริสุทธ์ใจ ก็ช่วยให้พระภิกษุรูปนั้นได้คิด ในบ้างครั้งจุดที่ส่องแสงสว่างให้มองเห็น อาจเป็นแค่แสงของหิ่งห้อยก็ได้ค่ะ เรื่องการปฏิบัติเป็นเรื่องระเอียดอ่อนมากค่ะ สวัสดีค่ะ คุณไร้อันดับ สบายดีนะค่ะ ดอกบัวขอให้คุณโชคดีค่ะ
15 พฤษภาคม 2551 19:57 น. - comment id 850274
ให้ข้อคิดที่ดีค่ะ เราจะฟังคำสอนมากมาย เพียงใดก็ตามไม่เท่ากับสิ่งที่รู้แจ้ง เห็นจริง ปฏิบัติจริงค่ะ
15 พฤษภาคม 2551 20:25 น. - comment id 850283
คุณดอกบัว มีคนเคยถามว่า การกราบพระ กราบที่ไหน กราบที่ผ้าเหลือง กราบที่คนที่นุ่งห่มผ้าเหลือง หรือกราบเพราะสิ่งใด น่าคิดน่ะครับ ผมสบายดีครับ ขอบคุณ ที่มาทักทายครับ ขอให้ มีความสุขน่ะครับ
15 พฤษภาคม 2551 20:33 น. - comment id 850288
คุณช่ออักษราลี คนโบราณเชื่อว่า พระสงฆ์เป็น เนื้อนาบุญของโลก ผู้ใดทำบุญ กับพระอริยะจะได้ผลบุญมาก ซึ่งพระก็สมควรปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ให้สมกับเป็นเนื้อนาบูญของโลก จริงไหมครับ ขอบคุณที่มาทักทายครับ
16 พฤษภาคม 2551 16:29 น. - comment id 850530
อันพระสงฆ์ดีชั่วใช้วินัยวัด เป็นบัญญัติรักษาสง่าสงฆ์ แต่เบื้องบรรพ์หลักธรรมจึงดำรง สถิตคงคู่ศาสน์มิขาดคลาย ปฏิบัติดีชอบระบอบสงฆ์ รักษ์ธำรงแบบอย่างมิห่างหาย ปฏิปทาเสริมศรีไม่มีคลาย ดุจดั่งสายชลชาติมิขาดตอน.. เขียนได้ประทับใจยิ่งครับ..
16 พฤษภาคม 2551 18:24 น. - comment id 850565
คุณอรุณสุข ผมเคยอ่านเรื่องสั้น หลวงตา ของแพรเยื้อไม้ ตอน เจ้าอุบล แล้วได้นำมาดัดแปลงเป็น กลอนบทนี้ครับ ขอบคุณที่มาทักทายและ นำกลอนดีๆ มาฝากครับ
16 พฤษภาคม 2551 20:51 น. - comment id 850585
ชอบเล่าเรื่องเหมือนกันเนาะคุณสืบ เรื่องหลายเรื่องที่เรามองผ่านไป หรือบางแง่มุมที่เราเห็นแล้วประทับใจ ถ้ามีโอกาสนำเสนอได้ก็จะดีครับ เป็นประโยชน์ช่วยยกระดับจิตใจทั้งตัวเราเองและผู้อื่น เป็นลักษณะน้ำซึมบ่อทราย ดีกว่า นำเสนอมาเรื่อยๆแล้วกันนะครับ บางทีอาจนำวลี หรือประโยคสั้นๆที่เราได้พบ เอามาขยายความต่อ อันนี้ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะมีพล็อตเรื่องเขียนที่หลากหลาย ประเด็นคือการเขียนบทกลอนให้ถ่ายทอดเรื่องราวให้ตรงกับความคิดเราโดยไม่ผิดเพี้ยน ได้ความสมบูรณ์ นั่นแหละของยาก ขอให้มีความสุข และอุดมการณ์ที่ตั้งมั่นตลอดไป
16 พฤษภาคม 2551 21:36 น. - comment id 850595
คุณฤทธิ์ ดีใจจังที่คุณมาทักทาย ผมชื่นชมในงานเขียนของคุณ มากเลยครับ สำหรับคำแนะนำดีๆ ผมน้อมรับด้วย ใจที่ยินดีครับ และจะนำไปใช้ครับ ขอให้คุณมีความสุข และอุดมการณ์ ที่ตั้งมั่นเช่นเดียวกันครับ
16 พฤษภาคม 2551 22:34 น. - comment id 850607
ที่ดินกับคอนโดมีแล้ว ขอเป็นเจ้าของบ้านได้ป่ะ..
17 พฤษภาคม 2551 08:41 น. - comment id 850662
คุณยาแก้ปวด อยากเป็นเจ้าของบ้านเหรอ ได้เลย เด่ว ไปขอทะเบียนบ้าน ใหม่จากอำเภอก่อง อิอิ จะผิด ข้อหาจดทะเบียนบ้านซ้ำซ้อน ไหมน๊า ขอบคุณที่กลับมาให้กำลังใจ อีกครั้งครับ
21 ธันวาคม 2551 22:17 น. - comment id 926884
22 ธันวาคม 2551 17:31 น. - comment id 927318
คุณฟา
27 ธันวาคม 2551 19:01 น. - comment id 929859
...อ่านแล้วรู้สึกดีๆค่ะ... ปรบมือ..อย่าเกิน 3 ครั้ง เดี๋ยวเจ้าของกลอนว่า.......
28 ธันวาคม 2551 11:45 น. - comment id 930047
คณวุ้นเส้น การที่มีคนกราบไหว้ สมควรที่จะทำตัว ให้คนกราบไหว้ กราบอย่างสบายใจ ใช่ไหมครับ ขอบคุณครับ