..กิ๊ก..

พิมญดา

คำว่ากิ๊กก็มาจากคำว่าชู้
เรียกให้หรูเข้าตามยุคตามสมัย
กิ๊ก คบได้ชั่วครั้งคราวใช่ยาวไกล
จึงมีกฎหมายยุคใหม่ในมาตรา
หญิงและชายมีกิ๊กมีสิทธิ์ฟ้อง
ใครสนองยื่นเสนอบำเรอหา
คิดอย่างไรกันบ้างออกกฎมา
อยากรู้ว่านิยามกิ๊กคิดอย่างไร
ร้อยวลีเรื่องกิ๊กกิ๊กคิดแล้วขำ
ภาษาไทยวันละคำหรือไฉน
บ้างมีกิ๊กอยู่รอบขอบเขตไทย
บ้างอยู่ในอินเตอร์เน็ทเช็คข้อความ
รักแท้แท้แพ้กิ๊กกิ๊กอีกวลี
โทรจนถี่รักกิ๊กดีมีคำถาม
หากเบอร์แฟนหาว่าโทรมาตาม
กิ๊กหรือมือที่สามห้ามวางสาย
โทษจำคุกหกเดือนเตือนมาแล้ว
ปรับให้แห้วหกพันบาทพลาดเสียหาย
ใครเห็นกิ๊กดีกว่าแฟนคงเสียดาย
หากกฎหมายศักดิ์สิทธิ์คิดถอนตัว..อิอิ


เขาว่ากันว่า... "กิ๊ก" หมายถึง การคบกันแบบไม่จีรังยั่งยืน ดูดกินแค่ความหวาน พอหมดหวานก็หมดความหมาย แต่ถ้าเปลี่ยนไปเป็นขาประจำ จะเรียกว่าแฟน "กิ๊ก" หมายถึง การคบกันเล่นๆ ชั่วคราว เพื่อความสุขทางใจ "กิ๊ก" คือ คนที่รู้สึกชอบเรา และอาจถึงขั้นรักเรา แต่เข้ามาทีหลัง เนื่องจากเรามีคนของเราอยู่ก่อนแล้ว และเราก็รู้สึกดีๆ กับเขาเหมือนกัน 
          เราสามารถคุยกับกิ๊กได้ทุกเรื่อง โดยไม่เกิดเรื่อง แต่เราจะคุยกับแฟนเรื่องกิ๊กไม่ได้เด็ดขาด และถ้าจำเป็นต้องเลือก กิ๊กจะมีความสำคัญรองจากแฟนเสมอ... ที่จริงแล้วคำว่า "กิ๊ก" ถือเป็นศัพท์ใหม่ในปัจจุบัน แต่จริงๆ ก็คือคำว่า "ชู้" ของสมัยก่อนนั่นเอง แถมตอนนี้ดูเหมือนหลายคน (แต่ไม่ใช่ทุกคนนะ) จะนิยมมีกิ๊กกันมากขึ้น บางทีมี... กิ๊ก 1 คน กิ๊ก 2 คน 3 คน 4 คน 5 คน... ฯลฯ ว่ากันไปเรื่อย หรือบางทีอาจมีกิ๊กสะสมเป็นคอลเลคชั่น (นั่นดิ) เพราะความไม่รู้จักพอ บวกกับคำว่า "กิ๊ก" ดูน่ารักและไม่รุนแรงเท่ากับคำว่า "ชู้" ซึ่งอันที่จริงความหมายมันไม่ต่าง (แค่เรียกคนละอย่าง) ทำให้คนที่ได้ชื่อว่ามีกิ๊ก ไม่รู้สึกผิดเท่ากับคนที่ถูกเรียกว่ามีชู้ (ซะงั้น)  
          อย่างไรก็ตาม ล่าสุดนางจิตราภา สุนทรพิพิธ รองผอ.สำนักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ออกมาเปิดเผยโดยอ้างอิง พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. 2550 ว่า ผู้หญิงและผู้ชายคนไหนถูกสามีหรือภรรยาตัวเองนอกใจ (แอบมีกิ๊ก) โดยไม่เต็มใจ มีสิทธิ์ฟ้องดำเนินคดีตามกฎหมายได้ โดยโทษสูงสุดคือจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 6 พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับได้