มือชะม้อยซอยทอดสอดรวงข้าว แล้วเคียวน้าวเหนี่ยวกระหวัดสบัดไหว ปานจะทอดถอดรวงอันยวงใย กระหวัดเคียวเกี่ยวใจสู่ดินแดน ละมุนมือถือเคียวเกี่ยวท้องทุ่ง ปาดเหงื่อมุ่งเกี่ยวรวงที่หวงแหน ปั้นเป็นแผ่นดินเหนียววางเรียวรวง แล้วเก็บรวงวางเรียงมารายเริ่ม ก็ค่อยเสริมสอดไม้ละไมหวง ค่อยรูดรัดจัดปองประครองควง สะบัดจ้วงลงรำข้าวพรำพรา เหนื่อยมากนักพักบ้างเถิดนางแก้ว โลกรู้แล้วว่าแม่หญิงยิ่งภูผา เจ้าอ่อนช้อยใช่เจ้าอ่อนซึ่งปัญญา 1 ใน2 คุณค่ามหาสตรี
18 เมษายน 2551 18:01 น. - comment id 840308
แด่ คุณนรศิริ สงสัยว่า 1 ใน 2 คุณค่ามหาสตรีคืออะไรคะ นอกนั้นบรรยายได้งดงามค่ะ ทำนานี่ดูแล้วน่าเหน็ดเหนื่อยค่ะ
18 เมษายน 2551 21:15 น. - comment id 840393
ทำนานี่ไม่ไหวจริงๆค่ะ คงจะเหนื่อยมาก ขอแค่ทำกับข้าวได้มั๊ยคะ งานนี้ถนัดค่ะ ขอมีแค่เสน่ห์ปลายจวักก็พอแล้วกัน
18 เมษายน 2551 21:24 น. - comment id 840399
แด่คุณไหมแก้วฯแสนสวย หนึ่งทองกรองค่าแก้ว กาลสมัย หนึ่งเพชรเม็ดอำไพ ส่องหล้า สตรีจึ่งหนึ่งใน สองเพศ สองเพศคือคุณข้า แห่งแคว้นจักรวาล ( ข้า= ค่า) ในที่นี้เป็นโทโทษ
19 เมษายน 2551 20:47 น. - comment id 840797
แด่คุณการัณยภาส ด้วยความเต็มใจค่ะกำลังหิวอยู่พอดีเลยค่ะ
20 เมษายน 2551 00:53 น. - comment id 840845
สวัสดีค่ะคุณนรศิริ ฉางน้อยไม่มีนาข้าวให้ทำ มีแต่นาเกลือ เอาเคียวมาเกี่ยวได้ไหมน๊า อิอิ เอาเคียวมาเกี่ยวใจไง อิอิ
20 เมษายน 2551 16:41 น. - comment id 840998
โอ๊ะโอ๋ ฉางน้อยผู้น่ารัก จงหลับลงตรงนี้น้องที่รัก พี่นี้จักกล่อมขวัญอย่าหวั่นไหว จะประคองน้องซบหว่างกลางดวงใจ จงหลับไหลนิทราอย่างอแง....นะจ๊ะ