๏ ฉันต้องใช้ใจวางแนวทางเขียน ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมปั้นคำหวาน ต้องกล่าวย้ำบางคำสร้างตำนาน บางคนอ่านเผลอตลกแอบฉกไป แบ่งกันอ่านผ่านตาไม่ว่าหรอก อย่าลวงหลอกเจ้าเล่ห์แสร้งเฉไฉ ระบุนามความพรรณนามาจากใคร ดีกว่าไหม ?..ขอสิทธิ์เพียงนิดเดียว ฉันจะได้ไม่ต้องมาข้องแวะ พลั้งปากแขวะกล่าวกราดให้หวาดเสียว เพราะน่าจวกพวกลักเบื่อนักเชียว เผลอประเดี๋ยวลอบเร้นชอบเป็นโจร ภาษาไทยใครเรียนก็เขียนได้ ซ้ำภูมิใจกล่าวขานชั่วหลานโหลน ประกาศจับ พับผ่า !!..น่าหมกโคลน ลากตัวโยนกลางวงสรงบาทา ฉันต้องใช้ใจวางแนวทางเขียน นิดหน่อยเพี้ยนทึ่มทื่ออย่าถือสา กลอนประดับนับพันที่ผ่านมา อย่ารอช้าหากเขลาเชิญเอาไป ๚ะ๛ ก ล อ น ป ร ะ ดั บ นั บ พั น ที่ ผ่ า น ม า แ ค่ ค น บ้ า เ ขี ย น ก ล อ น พั ก ผ่ อ น ใ จ .
26 มีนาคม 2551 17:50 น. - comment id 835051
.... เค้าว่ากันว่า เวลานักกลอนเขียนกลอนไปได้สักระยะ ก็เริ่มจะมีลีลา ...หรือเรียกว่าสไตล์เป็นของตัวเอง คนลอกกลอน ก็ได้ไปเพียงกลอน เขียนเองก็ไม่สามารถทำได้เหมือนต้นฉบับหรอกนะ จริงไหม
26 มีนาคม 2551 18:13 น. - comment id 835054
มีด้วยเหรอค่ะ คุณอัล
26 มีนาคม 2551 18:51 น. - comment id 835063
เห็นด้วย..กับคุณอัลมิตราและคุณหมอวฤกค่ะ... การเขียนกลอน...เป็นการเขียนมาจากใจ...ที่สื่อสารให้แก่ผู้รับ...แนวกลอน..ของแต่ละคน..ย่อมแตกต่างกัน...และต่างก็มีคุณค่าในตัวเอง.... หากจะลอกก็ไม่ว่า...ที่สำคัญ...ขอให้บอกนามผู้แต่งด้วยว่า..เราได้มาจากไหน..นั่นคือ..การให้เกียรติแก่เขา...ชื่นชมเขา....หากเราทำในสิ่งตรงข้าม..ไม่ใช่สิ่งที่ที่ทำให้เกิดความภูมิใจเลย..เพราะ.เรากำลังโกหกตัวเอง...หลอกตัวเอง...และไม่ให้เกียรติตัวเอง.... ...อยากบอกว่า...จงภูมิใจในผลงานของตัวเองเถิด...ค่อยๆพัฒนา..และเชื่อมั่นในความสามารถของตนเองนะคะ.....
26 มีนาคม 2551 20:26 น. - comment id 835076
**.. เห็นด้วยกับพี่อัลฯครับ ตามธรรมเนียมการกล่าวอ้างบทกวีนิพนธ์แล้ว ควรกล่าวที่มาที่ไปของร้อยกรองนั้นด้วย เช่น ใครเป็นผู้ประพันธ์ และหากไม่ทราบ ควรระบุว่า ไม่ทราบนามผู้แต่ง **.. ผมยึดถือธรรมเนียมนี้ครับ เห็นด้วยอย่างยิ่ง
26 มีนาคม 2551 21:23 น. - comment id 835081
เฮๆ เราลอกกลอนตัวเองไปแปะบ้านนู้นนนนนนนนได้ปะตัวเอง แบบว่าเราอยากเป็นนักลอกอะ
27 มีนาคม 2551 09:42 น. - comment id 835137
เอ๋!! ถ้าเรานำกลอนที่เคยอ่านเจอและประทับใจ กลับมาหยอกเย้าเจ้าของ เข้าข่ายไหมเนี่ย
27 มีนาคม 2551 11:05 น. - comment id 835149
ได้ไปแต่เนื้อ ไม่มีเครื่องแกง.. มันอร่อยตรงไหนเนาะ
27 มีนาคม 2551 11:41 น. - comment id 835154
แหม..คุณอัลนี่ไวจริงๆนะครับ...ผมว่าจะเขียนให้หายคันหัวใจสักจึ๊กสองจึ๊กอยู่แล้วเชียว...ลงมือก่อนได้เปรียบจริงนาครับ...ฮา.... ผมก็บ้าชอบเขียนกลอนนอนอ่านเล่น แถมยังเห็นฝีมือเราไม่เอาไหน พอโดนลอกครั้งแรกก็แปลกใจ นึกอะไรอยู่หนา..มาลอกตู.. นักกลอนในไทยโพเอ็มเต็มไปหมด ใยไม่จดของเขาเอาล่ะสู กลอนบ้าๆผ่าซากดันอยากดู ผลงานตูสุดรักหวงนักเชียว ใช่ยกยอเย้ายั่วว่าตัวเก่ง อยากเฉ่งพวกชอบลอกออกหมั่นเขี้ยว หน่อยคงลอกลมหายใจไปทีเดียว สมองเรียวเพราะชอบลอก..หลอกตัวเอง. มาแจมด้วยครับ..แบบว่าคันไม้คันมือเต็มแก่...(อยากลอกมั่ง..แต่ทำไม่ได้..และไม่เคยทำ..อิๆๆ) ขอขอบคุณสำหรับกำลังใจนะครับ
27 มีนาคม 2551 11:44 น. - comment id 835155
แด่ คุณอัลมิตรา คนเขียนกลอนคงต้องสอนใจของตน อย่าเที่ยวปล้นค้นภาษาเขามาเอ่ย หากแม้นลอกกลอนใครมาขอท้าเลย เขียนเชยเชยได้ครั้งเดียวก็เหี่ยวแล้ว การเขียนกลอน สังเกตดูได้ว่าเขียนจากใจหรือลอกใครมา เพราะถ้าลอกใครมาจะไม่สามารถเขียนได้เรื่อยๆ บ่อยๆ............
27 มีนาคม 2551 21:07 น. - comment id 835268
อัลมิตราเปิดยุทธการเชือดนิ่มๆอีกแล้วหรือนี่ เค้าเข้ามาอ่านเจอคงจะสำลักน้ำลายตัวเองชักกระแด่วๆได้นะเนี่ย ประชดประชันซะ ...
27 มีนาคม 2551 21:36 น. - comment id 835279
ของยานี่คงไม่เข้าข่ายลอกนะคะ เพราะบอกไปแล้วว่ามาจากไหน ใครเป็นคนเขียน และลงเพราะชื่นชมจากใจ...
27 มีนาคม 2551 21:45 น. - comment id 835284
ไม่ได้ขี้คุยนา .. และก็ไม่ได้ขี้โม้ด้วยนา .. ลอง search อัลมิตรา ที่ google สิ .. เจอเพียบ แต่นั่นหมายถึงว่า บางสถานที่อัลมิตราไปเตร็ดเตร่จริง และบางสถานที่มีคนอัญเชิญแต่นามไป .. อ่านดูเท่ห์ชอบกลแฮะ ก็ไม่เป็นไรหรอก ไม่ได้คิดหนักใจอะไรด้วยซ้ำ ต่อให้มีแต่กลอนของอัลมิตราไปโดยที่ไม่มีชื่อของอัลมิตรา ก็ไม่ซีเรียส ที่เขียนกลอนชุดนี้ขึ้นมา เขียนเพื่อ ขำ ๆ มากกว่า เพราะเข้าใจว่าตอนนี้มีคนกำลังหงุดหงิด .. เรื่องถูกขโมยงาน เอาน่า ..อะไร ๆ ที่อยู่ในเน็ต สื่อสาธารณะ ใครต่อใครก็อ่าน ใครต่อใครก็เห็น มันหลีกเลี่ยงยากที่จะไม่โดนก้าวก่ายในสิทธิ์ เดี๋ยวโผล่ตรงนั้น เดี๋ยวโผล่ตรงนี้ ถ้าเขียนในสมุดเก็บซุกในตู้ก็ว่าไปอย่าง .. รับรองได้ อยู่ที่เดิมแน่ ๆ ฮา .. โธ่ .. ไม่ได้แกล้งแอ๊บแบ๊วนะเนี่ย .. บอกแล้วไง สบาย ๆ อย่ากริ้วให้มากนักเลย คิดในแง่บวกเข้าไว้ โลกนี้จะได้น่าอยู่ขึ้นแยะ .. .......................................................................................................................................... อาหมอ .. :) สไตล์ ..อืมม ลอกกลอนได้ แต่เลียนสไตล์กันยาก จริงอย่างที่อาหมอบอกแฮะ อัลมิตราเขียนใหม่ก็ได้ไม่เหมือนเก่านะอาหมอ ประมาณว่าความจำสั้นอ่ะ .. บางทีบางเวลา อารมณ์มันไม่ได้เท่าเดิมนี่นา คุณช่ออักษราลี ..มีสิ อัลมิตราก็เคยถูกเข้าใจว่าเป็นขโมยด้วยนะ สองหน หนแรก คราวที่น้าชายฝากกลอนมาเก็บก่อนออกภาคสนาม (ต.ช.ด.) โดนด่าเละเลยคราวนั้น แต่ก็อธิบายตามความเป็นจริงไปแล้ว ถึงที่มาที่ไป เจ้าของกลอนเขาเข้าใจ ทว่าบรรดาคนรอบข้างเขาไม่ยักจะเข้าใจ แต่อัลมิตราก็ไม่สนใจนะ ถือว่า สิ้นสุดตรงที่เจ้าของเขารับทราบถึงเจตนาก็พอแล้วค่ะ ส่วนหนสอง ก็เมื่อกลางปีที่แล้วเอง ซึ่งเกิดจากความเข้าใจไม่ถูกต้องของบางคน ความไม่รู้ ทำให้เกิดการวินิจฉัยพลาด ซ้ำยังตัดสินความพลาด กระทำพลาด ทั้งหมดก็คลี่คลายได้ด้วยดี อัลมิตราเข้าใจว่าไม่ได้เกิดจากอยากมุ่งร้ายค่ะ แต่ในกลอนนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องที่อัลมิตราเล่าย้อนนะ แหะ แหะ อันที่จริงเขียนล้อคุณแมวคราวเขานะ รู้ว่าตอนนี้เขาเดือดปุด ๆ อยู่ เพื่อจะได้ยิ้มบ้าง คุณราชิกา .. บางทีการตัดสินว่าคนนั้นเป็นคนลอก เป็นคนขโมยงาน อาจเป็นบทลงโทษที่แรง หากใครสักคนอ่านกลอนของเราแล้วเกิดความชอบ คัดลอกไป เขียนให้เพื่อนบ้าง ลงไดอารี่บ้าง โดยที่เจตนาอันแท้จริงแล้วเป็นเพราะปลาบปลื้มเรา ดีไม่ดี อาจอยากเขียน ยึดเราเป็นต้นแบบ แต่ถ้าเราชี้ชัดไปว่า เขาเป็นขโมย เป็นคนไม่ดี .. ตรงนี้ อาจทำให้เขาเกิดทัศนวิสัยที่ไม่ดีกับกลอน และอาจมองไปถึงว่า คนเขียนกลอนนี่ช่างแล้งน้ำใจเสียจริง ขี้งก แค่นี้ก็ต้องมาเฉ่ง มาประจานด้วย ใครจะไปรู้ได้ว่า อีกสิบหรือยี่สิบปีข้างหน้า อาจเกิดกวีรุ่นใหม่ ครั้นเมื่อถามถึงความในใจ เขาอาจตอบว่า .. ครั้งหนึ่งในชีวิต เคยปลาบปลื้มใครสักคนที่เขียนกลอนนี้ จนทำให้เขาอยากเป็นกวี อัลมิตราไม่เคยไปตามเช็คบิลกับคนที่คัดลอกไป ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ระบุนามอัลมิตรา เพราะว่า อัลมิตราก็ไม่เคยถือตนเองว่าเป็นกวี งานเขียนก็ไม่เคยถือว่าเป็นงานที่ดีเป็นสมบัติน่าหวงแหน หลายหนด้วยซ้ำไปที่เพื่อนมาบอกว่า งานถูกลอกไปตรงนั้น ตรงนี้ อัลมิตราก็แค่ตอบว่า อืมม อืมม ก็อัลมิตรามีความสุขแล้วนี่ .. เมื่อคราวที่ได้เขียน หากใครจะสุขบ้าง ก็ยินดีด้วย ค่ะ คุณต่อง(ต้อง) .. ค่ะ ก็ถือว่าเป็นแนวปฏิบัติที่ดี อยากให้ทุก ๆคนคิดเช่นนี้ค่ะ คุณแม่มดใจร้าย .. เพี๊ยง ขอให้เจอปิรันย่า .. คุณก้าวที่..กล้า .. ไม่หรอก อัลมิตราทำบ่อย ๆ ไป ที่หยิบพล็อตคนอื่นแล้วมาคิดต่อ กลอนบทนี้ก็เหมือนกัน เห็นคุณแมวคราวบ่นเมี๊ยว ๆ ที่กระทู้โน่น .. คุณคอนพูทน .. คงพอคลุกข้าวกินได้อยู่ .. ฮา อร่อยกว่าอมเกลือนิดนึงมั๊ง คุณแมวคราว .. สบายใจยัง ไม่อยากให้หงุดหงิดนะ สิ่งใดที่ไม่ดีเราก็อย่าทำเอง ส่วนที่คนอื่นเขาทำนั้น หากเราเตือนเขาไปแล้วเขายังทำอยู่ ก็ให้ถือเสียว่า เขาจมตมละกัน คุณไหมแก้วสีฟ้าคราม .. บางช่วงวัยเขาอ่อนไหวนะ เจอกลอนบทนั้น บทนี้ แล้วนึกชอบ ก็เก็บไว้ประทับใจ บางทีอดไม่ได้ก็ลงในเวป จะว่าไปแล้วก็มีเห็นอยู่ทั่วไปค่ะ แต่ถ้าเอากลอนไปขายได้ตังค์ หรือเอาไปด่าใคร (ในกรณีที่เป็นกลอนที่เขียนเสียดสี แต่ถูกนำไปใช้ผิดที่ผิดเวลา) แบบนี้ก็น่าจับมาบด เนอะ คุณกุ้งก้ามกราม .. โอ๊ย อัลมิตราใจดีจะตายไป ใครมาขอก็ให้ ใครมาปล้นก็ยอม
27 มีนาคม 2551 21:47 น. - comment id 835286
คุณยาแก้ปวด .. :) อัลมิตราท่องจำวรรคทองของกวีดังได้หลายบท บางทีก็เอามาใช้บ้างในบางวรรค ที่เหลือเสริมแต่งแต้มต่อ เป็นการต่อยอดจินตนาการ ซึ่งใครต่อใครสามารถทำได้ อย่างที่เราต่อล้อกลอนกัน เป็นการฝึกเชาว์ด้วยซ้ำไป และที่คุณยาแก้ปวดเขียนมา ทั้งหมดนี้ ไม่ถือว่าเป็นเจตนาร้าย ค่ะ
28 มีนาคม 2551 07:14 น. - comment id 835326
เรื่องของกลอนไม่ลอกอยากลอกคราบ ใครเขียนเก่งอยากกราบเป็นครูสอน เป็นครูสาวเหงาใจได้เว้าวอน เฝ้าออดอ้อนเผื่อครูเอ็นดูเรา..... อิอิ จะได้สอนเยอะ ๆ อิอิได้เรียนมากกว่ากลอน อิอิ
28 มีนาคม 2551 09:35 น. - comment id 835330
มาชื่นชมในความใจดี๊ใจดีของคุณอัลมิตราอีกรอบนะครับ...เฮ้อ..บังเอิญผมเองก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นกวงกวีหรือนักกลอนผู้เก่งกาจอันใดเลยเช่นกัน..แคยบอกมานานนมกาเลแล้วครับ)แค่เขียนกลอนบ้าๆบอๆพอหายคันปากกาและคันหัวใจไปวันๆ...แต่มันติดตรงที่ว่าผมออกจะไม่ชอบใจเอามากๆที่ไม่ให้เกียรติและไม่เคารพสิทธิ์ของคนอื่นเป้นการส่วนตัวน่ะครับ...อันนี้เป็นนิสัย..(หรือมากกว่านิสัย)ของผมเองห้ามลอกเลียนแบบครับ...การที่ใครสักคนชื่นชอบหรือชื่นชมผลงานของใครก็ไม่ใช่เรื่องแปลก..แต่มันแปลกตรงที่เจตนาครับ..ผมต้องดูเจตนาด้วยว่า..เขาลอกไปใช้ในลักษณะใด..เนื่องจากแต่ละบทแต่ละงานของผมถึงมันจะต่ำต้อยด้อยค่าไม่เทียบเท่าชั้นกวงกวีสักกระผีก..แต่ผมก็มีสิทธิ์ที่จะรักและหวงแหนของผมไม่ใช่เหรอ....ค่าที่ผมบรรจงกลั่นออกมา..มันบรรยายความรุ้สึกไม่ถูกหรอกครับ..ต่างคนก็ต่างความคิดต่างมุมมอง..ใครคิดอย่างคุณอัลมิตราได้ก้คงนับว่าเป็นเรื่องดี.. บางทีต่อไปนี้อาจไม่ได้เห็นกลอนของผมที่ไหนอีกแล้ว..เพราะผมไม่เก็ทและไม่ชินกับการที่ใครต่อใครเอาผลงาน(บ้าๆบอๆแบบผม)ไปลงตามเวปแบบนั้น...ผมคงซีเรียสไปหน่อยและคงไม่เหมาะที่จะมาเขียนกลอนบ้าๆบอๆของผมตามเวปหรอกครับ..ต่อไปคงเก็บไว้เขียนไว้อ่านเอง...อย่างที่คุณว่าก็ดีหมือนกันครับ..จริงๆผมชอบแบบนั้นอยุ่แล้ว..... ขอบคุณสำหรับน้ำใจอันดีนะครับ คุณอัลมิตรา...อย่างน้อยคุณก็เป็นอีกคนในเวปไทยโพเอ็มที่มีน้ำใจอันดีกับผมและเพื่อนๆเสมอมา... ปล.ขอย้ำอีกครั้งนะครับว่า..ผมไม่ได้คิดและไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นกวี..ครับ...คเพียงแต่ไม่เก็ทพฤติกรรมแบบนี้เป้นการส่วนตัว....ขอบคุณครับ
28 มีนาคม 2551 12:05 น. - comment id 835347
คุณฤกษ์ .. อยากได้วิชาความรู้อะไรจากอัลมิตรา ? โธ่ .. คนสอนอัลมิตรายังบ่นเบื่อระอากับความไร้สาระของอัลมิตราเลย เอาแค่ตัวอย่างงานง่าย ๆ ให้แปลงเพลง แฮปปี้เบิร์ดเดย์ให้เป็นกลอนหนึ่งบท อัลมิตรานั่งจ้องมาครึ่งปีแล้ว แปลงยังไงนะ ให้ได้ความไม่ผิดเพี้ยน ในเมื่อเพลงก็มีเนื้อแค่นั้น เชื่อป่ะ เป็นการบ้านที่ค้างส่งมานานแล้วล่ะ ช่วยกันคิดหน่อยสิ คุณแมวคราว .. เขาว่ากันว่าคนเขียนกลอนมีอารมณ์ที่อ่อนไหว เขาว่ากันว่าในความรู้สึกหนึ่งใดที่เกิดขึ้น ผู้ชายอาจมีจมลึกในความรู้สึกนั้นกว่า อัลมิตรามีเพื่อนรักอยู่คนหนึ่ง เพื่อนรักที่ไม่เคยเห็นหน้าค่าตากันเลย คบหากันมานาน เราเคยปรึกษาหารือกันในเรื่องนี้ บางความคิดเห็นตรงกัน และในบางความคิดเห็นขัดแย้ง แต่ทว่า เรายังคงมีความรู้สึกที่ดีต่อกันเสมอ ยังคงเป็นเพื่อนรักกันตราบเท่าทุกวันนี้ :) แรก ๆ อัลมิตราก็หงุดหงิดนะ แต่อาจจะมีอาการไม่มาก ที่หงุดหงิดเป็นเพราะไม่ใช่ถูกคัดลอกกลอน ที่ไดอารี่ส่วนตัวของบางใคร มีกลอนของอัลมิตรา และมีชื่ออัลมิตรา แล้วบางใครก็ลงรูปด้วย หากดูผ่าน ๆ ตา อาจทำให้หลายคนเข้าใจผิดคิดว่า รูปของบางใครคนั้นคืออัลมิตราด้วยซ้ำไป เป็นแบบนี้แทบจะเรียกได้ว่า งานแทบทุกชิ้น จะไปโผล่ที่ไดอารี่นั้นเสมอ ๆ ขำไม่ออก .. เพราะว่า รูปที่ปรากฏเป็นผู้หญิงอ้วนจังอ่ะ .. อันนี้ยอมรับไม่ได้แฮะ และเมื่อคุยกับเพื่อนรัก ก็ได้แง่คิดกลับมาทบทวน ความฉุนเฉียวก็เลยคลายลง จนกระทั่งไม่เหลือ ทุกคำที่อัลมิตราเขียนเกี่ยวกับความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ ล้วนเป็นคำที่เคยคุยกับเพื่อนรักแล้วทั้งสิ้น ซึ่งก็ตัดสินไม่ได้ว่า เป็นความคิดที่ถูกต้องควรเอาเยี่ยงอย่าง ไม่ใช่เช่นนั้นแน่.. หากแต่เป็นความคิดส่วนตัว กว่าจะได้กลั่นกรองความคิด ก็ต้องผ่านกระบวนการถกเถียงยกเหตุผลอ้างอิงยืดยาว ระหว่างอัลมิตรา/เพื่อนรัก ในความรู้สึกของผู้ถูกกระทำ กับความรู้สึกของผู้ที่ไม่ได้ถูกกระทำ แน่นอน.. ความรู้สึกย่อมไม่เท่ากัน ความคิดที่ว่า .. เอ ทำไมเพื่อนรักคิดแบบนั้นนะ ทำไมไม่ยักจะคิดเหมือนตัวเรา มันถูกฝังอยู่ในสมอง วันดีคืนดี ความสงสัยนั้นก็ผุดขึ้นมา ... อาจเป็นเพราะอัลมิตราเชื่อมั่นว่า ระหว่างอัลมิตราและเพื่อนรักต่างก็มีแต่ความปรารถนาดีต่อกัน กระแสความคิดขัดแย้งจึงค่อย ๆ เพลาลงไป จนกระทั่งกลมกลืนเป็นความคิดเดียวกันได้ ไม่มีแพ้ ไม่มีชนะ ไม่มีถูก ไม่มีผิด .. ในด้านความคิด เพราะเราต่างก็ถูกหล่อหลอมมาต่างกัน กรณีที่เกิดขึ้นกับคุณแมวคราว อัลมิตราก็ได้ติดตามอ่านที่โอเคฯ และก็พบว่าบ่อยครั้งที่เกิดแบบนี้ ไม่ว่าจะที่เวปอื่น ๆ ด้วย ที่เห็นชื่อของเพื่อนสมาชิกหรือกระทั่งเห็นแต่กลอนโดยไม่มีชื่อไป เข้าใจว่าเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติของโลกเน็ต ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ไม่ควรเอาเยี่ยงอย่าง ค่ะ
28 มีนาคม 2551 12:23 น. - comment id 835358
เป็นเรื่องที่น่าละอาย เราคิดแทบตายเค้าก๊อปเฉย สมองไม่สร้างสรรค์อันใดเลย สันดานเคยแต่ลอกกลับกลอกไป งานของ ลานเทวา โดน ก๊อปเสีย จนต้องปล่อยว่างแล้วจ้า คิดเสียว่าเค้าชื่นชมงานเรา อยากได้อยากเอาก็ให้เค้าไปเถอะ สมองเรามีเขียนใหม่ก็ได้ นะ
28 มีนาคม 2551 14:00 น. - comment id 835369
คุณอัลมิตรา..(พูดพลางคลำหัวตัวเองไปพลาง..) ตอนนี้ผมรุ้สึกว่า..หัวผมกำลังล้านอยุ่ครับ เค้าว่ากันว่า..คนหัวล้านมักขี้ใจน้อย เดี๋ยวไปหายาปลูกผมก่อนนะครับ แล้วจะกลับมาใหม่.. (ว่าแล้วก็เดินจากไป..มุ่งไปแถวๆร้านขายยาปลูกผม...) หวัดดีตอนบ่ายแก่ๆนะครับ....
28 มีนาคม 2551 17:06 น. - comment id 835405
คุณลานเทวา .. กรณีพิพาทแบบนี้มีให้เห็นเนือง ๆ ค่ะ อัลมิตราเคยเห็นหมี่เป็น(ผู้ชายนัยน์ตาสนิมเหล็ก) ไล่ล่าคนที่เอางานของเขาไปส่งตีพิมพ์ ก็น่าเห็นใจอยู่นะ ที่ความมักง่ายของบางคนหากินโดยเบียดบังสติปัญญาของคนอื่น และอัลมิตราก็ยังเห็นตัวอย่างอีกแยะไม่ว่าจะเป็นเวปดัง(พันทิป) ถึงขนาดที่ว่าฟ้องร้องกัน ซึ่งโดยมากแล้วจะมีการเกี่ยวโยงไปถึงเรื่องการลักลอบเอางานไปและแอบอ้างรับค่าตอบแทน อันที่จริง หากจะกระทำการตามกฏหมาย ก็ถือว่าสามารถเอาเรื่องได้จนถึงที่สุด เพราะกฏหมายคุ้มครอง ตรงนี้คงต้องขึ้นอยู่กับว่า ผู้เสียหาย(ผู้ถูกคัดลอก) ต้องการให้เป็นไปเช่นใด ค่ะ คุณแมวคราว .. หลายวันก่อนเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งมาปรึกษาเรื่องผมร่วงจนแลว่าบางมาก ๆ เพื่อนร่วมงานอีกคนก็บอกว่า ใช้โฟรเทนสิ มีแบบเซรุ่มและยาสระผม+ครีมนวดผม อันนี้ไม่ได้เงินค่าโฆษณานะ ฮา .. แล้วยังไม่ทันไร เพื่อนอีกคนก็เดินมาตบไหล่พร้อมกับบอกว่า " เฮ้ย .. ใช้ขี้ไก่โป๊ะ ๆ เข้าไป" อัลมิตราได้แต่นั่งขำ จนเพื่อนชักเขิน ๆ แล้วมาถามขอความคิดเห็น "โกนผมไฟไปเลยละกัน" อัลมิตราบอกอย่างนั้นไปน่ะ
28 มีนาคม 2551 18:15 น. - comment id 835426
สวัสดีค่ะคุณอัลฯ ไม่ได้เข้ามานานจนลืมหน้ากันไปแล้วมั้งเนี้ย ถึงจะแต่งกลอนไม่เก่งไม่มีสำนวนดีดี แต่รับรองว่าผู้หญิงมือสองไม่ลอกกลอนไผมาแน่นอนคะ คิคิ แบบว่าภูมิใจในความสามารถที่น้อยนิดของตนเสมอคะ ปล.คิดถึงบ้านกลอนจัง
28 มีนาคม 2551 21:29 น. - comment id 835457
คุณผู้หญิงมือสอง .. :) บางคนก็มีหน้าที่ภาระกิจการงานค่ะ มีบ้างที่บางคนห่างหายในบางช่วงเวลา และก็กลับมาเมื่องานเพลา ยังจำกันได้ค่ะ ยืนยันได้
29 มีนาคม 2551 07:59 น. - comment id 835489
ขอถามส่งท้ายนะคะ ไม่ทราบจะมาอ่านเจอป่าว กรณีที่เราอ่านกลอนมามาก เป็นร้อยเป็นพัน เมื่อเราแต่งกอนของเราเอง ก็อาจย่อมมีคำ ต่างๆของกลอนทั้งหลายที่เราเคยอ่าน เคย ชื่นชอบออกมาเป็นภาษาของเราโดยไม่รู้ตัว อันนี้เป็นไงบ้างค่ะ ความคิดเห็น ขอบคุณค่ะ
29 มีนาคม 2551 09:48 น. - comment id 835501
คุณช่ออักษราลี .. การที่เราอ่านมาก ๆ เราจะสะสมคำไว้ในคลังสมองด้วย เป็นเรื่องธรรมดาค่ะ ใคร ๆ ก็เป็นเช่นนี้ อัลมิตราเองก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน ในครั้งแรก ๆ ของการเขียน บางอย่างนึกอยากจะบรรยายแต่จำนนด้วยคำ ครั้นจะเขียนบรรยายด้วยคำที่เปลือง ก็เกรงว่าผู้อ่านจะยิ่งงงเสียเปล่า ๆ พอมาเห็นบางคำ ของบางใครที่เขียน .. ก็ใช่เลย คำนี้แหล่ะ ที่สื่อความดั่งใจ จากนั้นคำเหล่านี้ก็ค่อย ๆ ถูกบันทึกเก็บไว้ กระทั่งเมื่อเราคิดเขียน จึงได้ใช้ แบบนี้ไม่ถือว่าเป็นการลอกค่ะ แต่เป็นการเลียนเชิงสร้างสรรค์ด้วยซ้ำไป
29 มีนาคม 2551 18:07 น. - comment id 835564
เรียกว่าละเมิดลิขสิทธิ์ ทางปัญญา ครับ คนไทย(บางคน)ไม่เคารพ ทรัพย์สินทางปัญญา ไม่ยอมอ้างอิง
29 มีนาคม 2551 20:40 น. - comment id 835573
คุณวชรกานท์ .. ค่ะ ตามกฏหมายเรียกว่าเช่นนั้น อันที่จริงก็มีบทบัญญัติคุ้มครองด้วยเหมือนกัน ทีนี้ คงขึ้นอยู่กับว่า ผู้เสียหายจะดำเนินจัดการอย่างไรค่ะ หากคิดว่าเป็นเรื่องเล็ก .. ก็ไปตักเตือน แล้วก็แล้วกันไป หากคิดว่าเป็นเรื่องใหญ่ .. ก็เรียกร้องความชอบธรรมได้ค่ะ
31 มีนาคม 2551 11:56 น. - comment id 835866
คุณอัลมิตรา..(ถือขวดน้ำยาสีดำๆมาด้วย..) ขอบคุณที่แนะนำยาดีๆนะครับ... เดี่ยวผมลองอันนี้ก่อนละกัน..ไม่ได้ผลยังไงค่อยมาว่ากันอีกที..ไปละครับ...(ยิ่งคุยผมยิ่งร่วง...) อิ..อิ...
31 มีนาคม 2551 13:02 น. - comment id 835889
เอาน่า คุณแมวคราว คิดเสียว่า หล่อแบบขุนแผน ดีกว่า หล่อแบบขุนช้างละกัน น๊า
31 มีนาคม 2551 13:35 น. - comment id 835905
ในพระไตรปิฎก พระพุทธเจ้าได้ตรัสถึงคำว่า ภิกษุสันดานกา ในคัมภีร์พระวิสุทธิมรรค ฉบับเล่มเดียวจบ ไม่รู้ว่ากล่าวถึงรึเปล่า (เพิ่งอ่านได้แค่คำปรารภ 3-4 หน้าแล้วก็จบเลย ไม่ได้อ่านต่อ)(แล้วจะยกขึ้นมาทำไมนี่) ในที่นี้ อาจกล่าวได้ถึงคำว่า นัก(ลอก)กลอนสันดานกา ได้บ้างกระมังครับ กา กา กาโมย กาโมย กา กา อ่าห้อย อ่าห้อย
31 มีนาคม 2551 16:09 น. - comment id 835931
สันดานกา .. คำนี้มักใช้กับคนที่ลักขโมย แต่อีกนัยหนึ่งของกา คือ รักพวกพ้อง เมื่อไม่นานมานี้ มีภาพศิลป์ที่อื้อฉาวเกี่ยวกับวงการผ้าเหลือง คาดว่าคุณคงได้ติดตามข่าวมานะ ในช่วงนั้น
31 มีนาคม 2551 23:54 น. - comment id 836012
คุณอิม .. ขอโทษด้วยที่ระยะหลังให้ความคิดเห็นมาไว้โดยไม่ลงชื่อตัวเอง นั้นเพียงเพราะมีความตั้งใจให้ผู้ตอบรวมถึงผู้ที่ที่ได้อ่านนั้นได้เข้าใจแต่เพียงว่าเป็นความคิดคิดเห็นของคุณ .. เท่านั้นเอง โดยที่ไม่คำนึงว่าจะมีผู้ใดใช้ชื่อ .. มาก่อน หรือหลังจากนี้ ก็ไม่มีความขัดข้องแต่อย่างใดครับ
1 เมษายน 2551 20:01 น. - comment id 836165
คุณลักษมณ์ .. เอาน่า คุณจะใช้ .. อัลมิตราตามลายแทงถูกละกัน ฮา...
6 เมษายน 2551 10:57 น. - comment id 837208
กำลังจะมาลอกกลอนพอดีเล้ย.. อิอิ.. เพราะคุณอิมเป็นต้นแบบที่แจมชื่นชอบอีกคนหนึ่ง.. คิดอะไรไม่ออก เขียนอะไรไม่ได้ อ่านกลอนของคุณอิมสัก 5 บท 10 บท.. หรือบางทีมากกว่า จนซึ่งนำไปเป็นกลอนของ "สีน้ำฟ้า" สักบท หลายคนอาจเรียกแรงบันดาลใจ สีน้ำฟ้าเรียกเอ๊ง.. ว่านี่ก็ลอกเขามา อิอิ.. เพิ่งเขียนเรื่องหนังสือทำมือจบ..ที่ "โอเคเนชั่น" อยากเขียนกลอนสักบท คิดอะไรไม่ออก บอกตัวเองว่ามาเริ่มต้นที่คุณอิมดีกว่า เจอนักลอกกลอนเข้าไปซ้า... ช็อค ค้างแข็ง อยู่ตรงนี้เอง..(ฮา) เฮ้อ.. ว่าแล้วก็ไปค้นอ่านกลอนคุณอิมล่ะ ฮี่ฮี่ "เข็ดพรื้อล่ะ" คุณอิมออกจะใจดี วันนี้มาลงชื่อ เป็นนักลอกกลอนของคุณอิม วันไหนไปเจอประโยคคุ้นๆ อย่างอนกันนะ..
7 เมษายน 2551 11:11 น. - comment id 837360
คุณสีน้ำฟ้า .. มาหยอดคำหวานให้ใจอ่อนอีกล่ะ อันที่จริง อัลมิตราก็ไม่ได้โหดซะขนาดนั้นนา .. แถมยังไม่เคยไปทวงสิทธิ์ฤทธิ์ร้ายใครด้วย ปกติได้แต่ขำ ๆ กับบรรยากาศของคนที่คัดลอกไปแล้วคุยโวเป็นตุเป็นตะ จนทำให้คิดว่า เอ .. นั่นเป็นอัลมิตราตัวจริง .. ถ้างั้น เราต้องเป็นอัลมิตราตัวปลอมแหง๋เลย .. ฮา เห็นไหมละ อารมณ์ดีเสมอ สำหรับแรงบันดาลใจ หรือกลอนบทนำให้ต่อยอดแตกแขนงออกไปอีกนั้น อัลมิตราก็ใช้บ่อย ๆ ตัวอย่างที่อาศรมชาวโคลงไงคะ ขึ้นอยู่กับว่าคนตั้งกระทู้จัดวางโจทย์ไว้อย่างไร ที่เหลือเอามาเขียนต่อ ก็เป็นอีกหนึ่งสีสันที่ทำให้ได้ศึกษาแนวความคิดของหลาย ๆ คนค่ะ มีประโยชน์นะ แฮ่ .. ประโยคคุ้น ๆ เหรอ มิตรภาพตราบสิ้นฟ้าไง .. ประโยคนี้เด็ดเชียว
7 เมษายน 2551 12:30 น. - comment id 837369
ฮา.. จริงๆ แหละ มิตรภาพตราบสิ้นฟ้า เราแอบเอาไปใช้.. เป็น มิตรภาพออนไลน์ ก็แหม..ไม่ได้ยาหอม ยานัตถ์
7 เมษายน 2551 12:31 น. - comment id 837371
อ๊าว.. แล้วคอมเม้นท์อีกครึ่งหายไปไหนล่ะ จะชวนพบกัน แต่ไม่ใช่ 28-29-30 เมษา เพราะสีน้ำฟ้าเป็นนักเรียนโข่ง สอบ มสธ. จ้า