ถือกำเนิดเกิดกายที่ท้ายทุ่ง ณ.สายรุ้งทาบทอโอบกอข้าว มีทุกข์ร้อนผ่อนคลายในบางคราว เก็บเรื่องราวเล่าผ่านลานบทกลอน เพียงสำนึกต้อยต่ำรู้สำเหนียก มิอาจเรียกกวีศรีอักษร เพียงระบายอารมณ์ข่มนิวรณ์ ฐานันดรชาวนาข้าแผ่นดิน ในอดีตขีดเขียนเรียนคำสูง คือเหล่ายูงฝูงหงส์ในวังสิ้น ทาสยากจนข้นแค้นแน่นชีวิน เพียงยลยินร้อนหนาวกลอนชาวนา แค่กลอนต่ำลำเล่นเห็นสนุก พอปลดทุกข์งานทาสที่หนักหนา มีหยาบโลนโหนรักหักน้ำตา มีต่อว่าหยอกเย้ากระเซ้ากัน มาถึงยุคทุกข์เข็ญเป็นทาสใหม่ คือคนไทยถูกกดหมดทางหัน คนหนุ่มสาวก้าวหน้าช่วยพายัน ยุคนี้นั้นบทกวีมีพลัง แผ่นดินทุกข์ยุคเดือดกวีพล่าน เขียนขับขานปลอบใจให้มีหวัง ทรราชแผ่นดินล้มภินท์พัง หยุดความคลั่งฉ้อฉลคนโกงเมือง เมื่อโลกเปิดฟ้ากว้างทางสดใส กวีใหม่กลอนเปล่าเข้ายุคเฟื่อง คือพรมแดนส่งข้ามความรุ่งเรือง การประเทืองปัญญามาหลายทาง จากก่อนกาลนานมาถึงบัดนี้ บทกวีก้าวไวไปกว้างขวาง อย่าปิดหูปิดตาที่ฝ้าฟาง หยุดปิดทางติดกรอบชอบอัตตา ใฝ่กลอนสูงศัพท์สวยรวยสัมผัส จงฝึกหัดขัดเกลาเอาเถิดหนา ใฝ่กลอนต่ำลำนำแบบชาวนา จงค้นคว้าเติมต่อให้พอใจ อย่าปิดกั้นปัญญาหาความสุข ไยเป็นทุกข์ติดทาสกวีไหน หากเรียงร้อยถ้อยอ่านมิดาลใจ กวีไหนฤารอดจอดทุกราย ฝากฝัน 22 มีนาคม 51
22 มีนาคม 2551 15:08 น. - comment id 833811
หมั่นไส้คนอื่นไม่ดีนักแล....คิดดี ถ่ายทอดออกมาดี ก็มีคนอ่านเองจ้ะ....คุณค่าของกวีอยู่ที่วิญญาณที่ถ่ายทอดออกมา...ถูกต้อง หากไม่ดี สังคมจะลงโทษเองจ้ะ.... ขอเป็นกำลังให้ถ่ายทอดสิ่งดี ๆ มาให้สังคมนะคะ
22 มีนาคม 2551 16:21 น. - comment id 833814
ทุกชั้นชนเสรีย่อมมีสิทธิ์ อ่านเขียนคิดแลกเปลี่ยนเวียนงานศิลป์ บทกวีมิร้างในแผ่นดิน ต่างชีวินต่างใจให้แบ่งปัน ณ พื้นที่สื่อสารงานเรียงร้อย ให้ฝากถ้อยความคิดจิตสร้างสรรค์ ไม่มีใครตัดสินหรือกีดกัน เติมไฟฝันตามใฝ่ให้เหมาะควร หากติติงกล่าวอ้างอย่างพี่น้อง มิขัดข้องปรับแต่งข้อความด่วน ไม่ตัดสินว่าใครนอกกระบวน ต่างชี้ชวนแต่งเถิดและเปิดใจ กลอนกวีเป็นหนึ่งศิลป์สร้างฝัน เถอะร่วมกันรักษาร่วมสมัย พี่รู้หนึ่งน้องรู้สองประคองไป กวีไทยรุ่งแน่แพร่ไพบูลย์
22 มีนาคม 2551 16:40 น. - comment id 833816
มาฟังลำนำจากธรรมชาติดีกว่านะคะ ฟังเสียงน้ำสาดเซาะเสนาะพริ้ง หยาดหยดทิ้งย้อยระย้าดารดาษ ดั่งดนตรีลีลาไพรที่ไหววาด เรียงระนาดลำนำไผ่ไล้ดวงดาว ละเลียดคำล้ำค่าวรรณศิลป์ ฝันระรินจากรุ้งฟ้าเวหาหาว เสพย์กาพย์หอมมณีคำร่ำแสงดาว สู่ทิพย์หัตถ์รัดรอยร้าวให้คราวคืน
22 มีนาคม 2551 16:53 น. - comment id 833818
กวีทาสวาดอักษรกลอนเรียงร่าย บ่งความหมายไขคำลำนำกล่าว พรรณนาเรียบเรียงถ้อยร้อยเรื่องราว ทุกครั้งคราวคมคำย้ำสอนใจ....
22 มีนาคม 2551 17:22 น. - comment id 833820
ง่าพี่ฝากฝันค้า..พิมหายไปไม่กี่วันเปงรายอ่า...ตัดพ้อผู้ใดรึ ช่างเขาเหอะคะพี่ชาย ดูอย่างพิมสิคะ..บ้าๆๆบวมๆๆบอๆๆอยู่เนี่ยคะ เปงกวีอะป่าว..ไม่เคยเรียกตัวเองอะ.. น๊าๆๆอย่าคะมากเพ่ชาย..สู้ๆๆ พิมจัง...คนเขียนหนังสือ.ไทย..เจ้าคะ
22 มีนาคม 2551 17:35 น. - comment id 833828
น้อยใจใครมา อย่าให้คำพูดของคนอื่นมามีอิทธิพลต่อตัวเราให้มากสิ ต้องเป็นตัวตนของเราให้มากสู้ ๆ น่านะเป็นกำลังใจให้
22 มีนาคม 2551 19:02 น. - comment id 833854
กวีทาสทาสกวีนี้ควรรู้ เดินเข้าสู่เส้นทางนักสร้างฝัน นำลำเนามาเรียงร้อยเข้าด้วยกัน สร้างความฝันของเราให้เป็นจริง เห็นด้วยครับผม
22 มีนาคม 2551 19:18 น. - comment id 833856
..น้อย ขอบคุณมากที่เตือนครับ...อิอิ..มันมีโมหะไปหน่อย..
22 มีนาคม 2551 19:23 น. - comment id 833857
กันนาเทวี ใช่เลยครับคุณกันนาเทวี...คือเสรีเบื้องต้นในความคิด....คือสิทธิของทุกคนที่จะแสดงออกโดยคนอื่นไม่เดือนร้อน
22 มีนาคม 2551 19:32 น. - comment id 833861
ช่ออักษราลี มิอาจยอบยอแย้งแข่งตะวัน ฤาอาจฝันฟันฝ่ากล้าขัดขืน เพียงเก็บดาวก้าวฝันล้วนมั่นยืน จันทร์หยิบยื่นหัวใจไม่ท้อเลย มั่วแล้วๆ...อิอิ..เดี๋ยวถูกด่ากวีทรามนะ
22 มีนาคม 2551 19:38 น. - comment id 833862
Salukphin ในชีวิตคนหนึ่งพึ่งตระหนัก อันความรักโกรธหลงคงมีบ้าง บนเส้นทางชีวิตที่เบาบาง ย่อมมีทางค้นหาค่าของคน
22 มีนาคม 2551 19:40 น. - comment id 833864
พิมญดา อิอิ...ไม่ได้ตัดพ้อไผหรอกแต่หมั่นไส้นะ..คือกำลังสงสัยว่ากวีนี่มีเส้นแบ่งด้วยหรือ....เลยบอกให้รู้นะว่าตัวเองไม่ใช่กวี....เว้ย
22 มีนาคม 2551 19:41 น. - comment id 833865
มนค่ะ ขอบคุณที่เตือนนะครับผม....อิอิ..พร้อมปฏิบัติครับผม
22 มีนาคม 2551 19:47 น. - comment id 833866
จ่าน้อย เพียงสื่อสารจากใจใส่อักษร ผ่านคำกลอนเรียงร้อยมาลัยฝัน ตอบสนองพ้องอารมณ์กันและกัน เสพสุขสันต์สอดคล้องทำนองกลอน
22 มีนาคม 2551 19:54 น. - comment id 833867
สวัสดียามเย็นครับ แวะมาเป็นกำลังใจครับ สบายดีนะครับ
22 มีนาคม 2551 20:37 น. - comment id 833893
sonax0651 สวัสดีครับ..ขอบคุณมากครับที่แวะมาเยี่ยมเยือนและเป็นกำลังใจกันนะครับ....กาแฟก่อนนะครับ...
22 มีนาคม 2551 20:38 น. - comment id 833894
สวัสดีครับ ท่านฝากฝัน ใจเย็นครับ ท่าน ยังมีเพื่อนพ้องน้องพี่ เป็นกำลังใจให้ ท่าน นะครับ
22 มีนาคม 2551 20:46 น. - comment id 833900
ปางสีฝุ่น อิอิ..มันอึดอัดนะครับ ขอบคุณมากครับที่เป็นกำลังใจ เย็นนี้ทานข้าวเหนียวส้มตำน้ำตกแล้วครับหนักแน่นดี....ส่วนหนักนี่น้ำหนักตัวครับ.. กาแฟนะครับ
22 มีนาคม 2551 21:11 น. - comment id 833915
กิ่งโศก คงไม่อาจหาญตัวเองเป็นกวีเช่นกันครับ...คงแค่จดๆๆจำๆๆ พี่ๆๆในนี้ ..แล้วมั่วๆๆ ตามอารมณ์ตนเอง เช่น กัน ยิ่ง หัวเศร้าๆ อยู่เลยจะออกมาแนวโศก อะนะ ..
22 มีนาคม 2551 21:33 น. - comment id 833926
ในอดีตขีดเขียนเรียนคำสูง คือเหล่ายูงฝูงหงส์ในวังสิ้น ทาสยากจนข้นแค้นแน่นชีวิน เพียงยลยินร้อนหนาวกลอนชาวนา :) ชอบบทนี้ แต่ไม่อยากให้เอาบางเรื่องมาเป็นอารมณ์นัก กลอนบทหนึ่งที่มีความสำคัญแม้แค่คนเดียว ก็ถือว่าเยี่ยมยอดแล้วค่ะ
22 มีนาคม 2551 22:03 น. - comment id 833934
ต่างวิธี ต่างคน ต่างหนแห่ง ต่างทำนอง ต่างแรง ต่างแสงสี ต่างที่มา ต่างที่ไป ต่างใจมี ต่างวิถี ต่างคำ ต่างตำรา แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันในวันนี้ คือแรงรักบทกวีที่ควรค่า อาจมิเป็นถึงกวีมีวิชา แต่เปี่ยมด้วยศรัทธากล้ากวี และมาเป็นกำลังใจครับ
22 มีนาคม 2551 22:50 น. - comment id 833954
สำหรับผู้หญิงไร้เงาเป็นได้แค่คนเขียนกลอนเท่านั้น เท่านั้นจริงค่ะ
22 มีนาคม 2551 23:35 น. - comment id 833988
.....โห ..มีน้อยใจยา ด้วยแฮะ อิอิ อย่าไปสนน๊า มาๆๆ มาช่วยกัน ร้อง ตั๊บแก ดีกว่า อิอิ แวะมาอ่าน ผ่านมาป่วนค่ะ
22 มีนาคม 2551 23:42 น. - comment id 833996
จอดทุกราย ภาษาถิ่นไหนคะ รู้นะเนี่ย ว่าคนจังหวัดไร
22 มีนาคม 2551 23:48 น. - comment id 834006
กิ่งโศก ดีแล้วครับ..คนเขียนกลอนคนเขียนหนังสือหรือไรก็แล้วแต่..อยู่ที่ความสุขครับผม..เมื่อมีความสุขใครไม่เดือนร้อนก็โอเค
23 มีนาคม 2551 00:23 น. - comment id 834023
สำหรับ ป คนที่ตั้งใจเขียน ใช้ความพยายาม ในการคัดกรอง เป็นผลงานของตนเอง นั่นแระ กวีค่ะ
23 มีนาคม 2551 00:55 น. - comment id 834041
อัลมิตรา -ขอบคุณครับที่มาเยี่ยมเยือน และขอบคุณสำหรับคำชี้แนะ วิวาทะใดใด..ก็ขอให้เกิดปัญญา..เถอะ
23 มีนาคม 2551 01:01 น. - comment id 834045
วิจิตรวาทะลักษณ์ ขอบคุณมากครับสำหรับกำลังใจ และเชื่อมั่นในความสำคัญของตัวอักษร ที่แต่ละท่านต่างมุ่งมั่นนำเสนอ ความผิดถูก..อยู่ที่ใจและใครเห็น ทั้งมิอาจเอาเป็นบรรทัดฐาน แม้ใครเขาเหล่านั้นผู้เชี่ยวชาญ อย่าอาจหาญต่อว่าด่ากราดคน
23 มีนาคม 2551 01:06 น. - comment id 834048
ผู้หญิงไร้เงา ดีแล้วครับ..ขอบคุณมากครับที่มาเยี่ยม... กลอนดีดีมีค่ามารับใช้ ส่งผลให้คนแต่งแจ้งประสงค์ เพียงมิอาจใส่ร้ายป้ายจำนง และเสริมส่งใส่ร้ายให้ชนชัง
23 มีนาคม 2551 01:09 น. - comment id 834051
ฉางน้อย ฉางน้อยเอ๋ย..ไม่ใจน้อยเลย..แต่ไม่คุ้นกะการการอดทนนะครับ..อ้ายจะร้องตั๊บแกก็..อิอิ..กลัวถูกจับส่งไปขายผิดตัวน่า
23 มีนาคม 2551 01:12 น. - comment id 834052
ตรากลม อิอิ..จอดทุกราย..เป็นภาษาแสลง..ซะมากกว่านิ อือ..ไม่ต้องทาย..บอกเลย..เกิดนคร(ศรีฯ)นอนปทุมฯ,ซุ่ม(ทำสวน)ชัยภูมิ เลือกเอาว่าจะไปหาที่ไหน..อิอิ
23 มีนาคม 2551 01:15 น. - comment id 834053
ปราณรวี สำหรับผม..มองที่ผลครับ..และไม่ดูว่าเป็นกวีหรือมั๊ย...เพราะบ่อยครั้งที่เขียนเพราะอยากเขียน..เขียนเพราะคิดถึง...มันไม่เพราะแต่อยากเขียนอะ...มันสุขใจ..และใครไม่เดือดร้อน.. "คือเขียนแล้วสบายตัวนะครับ"
23 มีนาคม 2551 01:40 น. - comment id 834057
ประสบการณ์ผ่านรู้สึกจารึกเขียน ไร้บทเรียนฉันทลักษณ์เชิงอักษร เพียงทอดถ่ายร่ายคำลำนำกลอน หาอาทรใครว่ากล่าวเรื่องราวใด อยากจะเขียนเพียรลิขิตผิดนักหรือ ใช่แย่งยื้อช่วงชิงสิ่งยิ่งใหญ่ ปราศรางวัลขันแข่งแบ่งแยกใคร จ้องคว้าไขว่ลาภยศทดศรัทธา เมื่อหัวใจไร้ประเทศปราศเขตขัณฑ์ ใยผูกพันโซ่ตรวนร้องครวญหา อันคำร้อยถ้อยเรียงเพียงมายา ฤาอาจมาเทียบจิตใจ "ไร้พรมแดน" จิตใจที่แท้จริงย่อมมิอาจแบ่งแยกเป็นฝักฝ่ายใดๆได้ สูงส่งหรือต่ำต้อย สวยงามหรืออัปลักษณ์ ดีหรือเลว ล้วนสมมุติเอาตามโลกีย์ทั้งสิ้น แบ่งแยกมากก็เหนื่อยมาก คิดมากก็ทุกข์มาก แยกแยะมากก็พร่ามัวมาก สู้เรียบง่ายไม่ได้ ไม่สับสนดี ร่วมเป็นกำลังใจด้วยคนจ้า....
23 มีนาคม 2551 12:46 น. - comment id 834160
แด่ คุณฝากฝันดีค่ะ ทุกคนมีสิทธิ์อิสระใฝ่ขีดเขียน ใครติเตียนเพียรรับมอบขอบใจหลาย กลอนอกหักรักพร่ำเพ้อเหม่อเดียวดาย มิควรกล้ำกลายล่วงเกินขัดเขินกัน ถนัดใครถนัดมันฉันไม่ยุ่ง แต่ถ้าพยุงสังคมช่วยสร้างสรรค์ ให้เราอยู่สันติสุขไร้ทุกข์พลัน ได้แต่งกลอนไม่เมามันอ่านกันเพลิน
23 มีนาคม 2551 13:12 น. - comment id 834163
กวีหรือไม่ ..ตกไปนานแล้ว จะแก้วหินดินทรายขายไม่ออก เด็กแนวเกรียนเลียนแต่ดารานอก เอียนการเมืองโกงหลอกเล่นฟร็อกสบาย
23 มีนาคม 2551 15:56 น. - comment id 834186
คีตะกะ... นิ..ผมก็ว่าอย่างคุณงั้นแหละ เพราะพอเปิดดูพจนานุกรม..คำว่ากวีแล้วพบว่าน่าสนใจ....ฝากฝันเองดูท่าหิ้วรองเท้าคนที่ได้ชื่วว่ากวียังไม่ได้เล้ย... กวี [กะวี] น. ผู้รู้ผู้เชี่ยวชาญในศิลปะการประพันธ์บทกลอน จําแนกเป็น ๔ คือ ๑. จินตกวี แต่งโดยความคิด ๒. สุตกวี แต่งโดยได้ฟังมา ๓. อรรถกวี แต่งตามความจริง ๔. ปฏิภาณกวี แต่งกลอนสด. (ป.). อือ..เป็นได้แค่คนเขียนกลอนเท่านั้นเอง....
23 มีนาคม 2551 15:58 น. - comment id 834187
ไหมแก้วฯ ดีแล้วครับ..ทำอะไรเขียนอะไรก็เชิญเถิด สุขใจใครไม่เดือดร้อนก็เชิญนะครับ
23 มีนาคม 2551 16:00 น. - comment id 834188
...???? (ชื่อก็ไม่บอก)... อิอิ..อยากเล่นก็เชิญเถอะครับ..ผมไม่เดือดร้อน..
23 มีนาคม 2551 23:08 น. - comment id 834363
กวีกราดวาดลือฝีมือได้ ต้องเกรียงไกรใจสู้ใครหลู่หยาม เชิญประลองกันดูให้รู้ความ ให้สมนามเราซึ่งก็หนึ่งเพียร... กลางสนามนักรู้สู้ด้วยฝัน กวีวรรณวรรควาดไม่ขาดเขียน มิเลยละน้อมรู้มิหน่ายเรียน ประดุจเทียนมิขาดแสงแห่งปัญญา... เอาคำติ เป็นครูผู้ปรานี เป็นกวีเก่งด้วยแรงแห่งปรารถนา หวังจะแต่งให้ได้เกินตำรา คำหยามว่าหมิ่นคือครูผู้ผลักดัน... หากวันหนึ่งเด่นดังไปกว่านี้ อย่าลืมครูผู้ชี้ทางสวรรค์ ให้เราพบขุมทรัพย์ค่าอนันต์ อย่าไหวหวั่นเพียรลับลมคมคำกลอน... สวัสดีค่ะ คุณฝากฝัน ชบาชอบกลอน"กวีทาส" มากเลยค่ะ ขอคารวะจริง ๆ ขอให้ความเห็นว่า บางทีเพื่อนที่ดี ต้องกล้าตำหนิ ให้สติเรา พาให้เราพัฒนาขึ้น เก่งขึ้น หากเขาว่าเรา แล้วคุณกลายเป็นกวี ที่เก่ง ก็น่าให้เขาว่านะคะ... คิคิ.. แต่ว่าชบาคิดว่าเขาคงจะ ติคุณแรงทีเดียว เลยแต่งบทนี้ ได้คมเชือดเฉือนได้ขนาดนี้ ชื่นชมนะคะ ไม่ค่อยเห็นกลอนประเภทนี้ บ่อย ๆ นัก จริง ๆ กวีไม่ได้มีศักดิ์สูงอะไรหรอกค่ะ ชบาก็เป็นกวี เหมือนกันคิคิ.. เพราะกวีต้องอิสระ ภาษามันแค่สมมุติ ถ้ายังหลงติดกับดักของภาษา คุณเหล่านั้นก็ไม่พ้นความเป็น "กวีทาส" ก็เท่านั้นเอง
23 มีนาคม 2551 23:41 น. - comment id 834376
ชบาเอาลิงค์กลอนคุณไปโพสให้เพื่อน ๆ ตามมาอ่าน เชิญคุณตามไปเที่ยวได้ ตามไปชมภาพที่นี่ได้ค่ะ... http://www.212cafe.com/boardvip/view.php?user=cm99&id=1360
24 มีนาคม 2551 21:36 น. - comment id 834520
...ชบาแดงสีเหลือง อิอิ..ไม่มีใครต่อว่าผมโดยตรงหรอก..แต่เขาชันสูตรกราดไปหาเหล่าบรรดาคนเขียนกลอนเลยอดจะท้วงติงกลับไม่ได้....เพียงแต่นิสัยส่วนตัวชอบตรงไปตรงมาก...แรงไปแรงมาเท่านั้นเอง คุณชบาจะเอากลอนไปไหนก็เอาไปเถอะ...แต่บอกก่อนนะว่าฝากฝันไม่ใช่กวี...แต่ทะลึ่งอยากเขียนกลอนเท่านั้นเอง
21 พฤษภาคม 2551 13:50 น. - comment id 852049
สะใจมากเลยค่ะพี่ฝากฝัน แหม มาว่ากวีโลกใหม่อย่างเราได้ ซัดมันเลยค่ะ ถ้าไม่แรงพอเดี๋ยวหนูช่วย ไม่ชอบเลยพวกแต่งกลอนด่าคนอื่นเนี่ย ไม่รู้ว่าจิตสำนึกมันเดรัจฉานขนาดนั้นไหม เป็นกำลังใจให้นะคะพี่ฝากฝัน