รัตนชาติล้ำค่าธาตุคาร์บอน บ่มความร้อนใต้หล้ามหาศาล ผจญแรงกดดันทุกวันวาร เผชิญกาลผ่านผันนับพันปี หลอมละลายใกล้แกนโลกล้นระอุ รอปะทุคุโชนไหลล้นปรี่ จากลาวาเป็นหินแร่อินทรีย์ อัญมณีงามสง่าอ่าโอฬาร เจียรนัยจนงามวาววามนัก เหลี่ยมรูปลักษณ์เจิดรุจีศรีสัณฐาน ความแข็งแกร่งแฝงไว้หาใดปาน ตราบเนิ่นนานทรงคุณค่าทุกอณู เปรียบดั่งผู้พบปะทุกข์มหันต์ ทุกคืนวันมิท้อหมั่นต่อสู้ แรงกดดันหลายหลากจากศัตรู ตรอง เรียนรู้ มิรันทดหมดเรี่ยวแรง สิ่งพลั้งพลาดผิดหวังที่สั่งสม นำเพาะบ่มหัวใจให้กล้าแกร่ง สร้างชีวิตงามสง่าราคาแพง จรัสแสงดุจเพชรเก็จตระการ หากสลดทดท้อรอวันล้ม คงเหมาะสมเปรียบเป็นเฉกเช่นถ่าน จะเปื่อยยุ่ยสลายลับไปกับกาล ยากพบพานความสำเร็จเช่นเพชรงาม .....................................
16 มีนาคม 2551 22:22 น. - comment id 832406
วันนี้อ่านนิยายแปลสืบสวน คำนำเขียนเขาได้ดีมากเลยค่ะ อยากเล่าอ่ะ .. แบบว่าไม่ได้ลอกคำมานะ ขี้เกียจไปหยิบหนังสือมา จำได้ว่า .. การยืนเด่นอยู่บนลานแจ้ง มีบ้างที่ต้องโดนฝน โดนอิฐ และบางทีก็มีดอกไม้โปรยปรายมา เป็นธรรมดา ทีนี้ เอาเรื่องที่โดนอิฐนะ .. เมื่อต้องถูกกระทบด้วยอิฐบ่อย ๆ ก็ให้เก็บอิฐที่กองอยู่มาสร้างเป็นฐาน มีเท่าไหร่ก็เก็บมาสร้างให้หมด ฐานจะได้แกร่ง ๆ แข็งแรง ทีนี้ คงพอถูไถได้ กับเนื้อความ เพชร .. ของคุณกุ้งเนอะ ไม่รู้ล่ะ บอกแล้วว่า อยากเล่า .. มาเป็นเหยื่อซะดี ๆ ฮา ..
17 มีนาคม 2551 00:35 น. - comment id 832436
หยาดพระเสโทร่วงพราวราวหยาดเพชรร่วงพลีแด่ผืนพสุธาไทนี้..แล..ผองชน.. http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song6196.html (อัญเชิญบทเพลงพระราชนิพนธ์*รัก) สองดวงใจ.... ลำน้ำน่าน....พุดพัดชา ดั่งธุลีหล้า... ข้าแห่งแผ่นดินไทผืนดินธรรมแผ่นดินทอง ขอ.. ปองมั่นหมายจิต อธิษฐานนิรมิตทิพยทองสร้อยภาษาอักษราไทย ด้วย... ดวงใจพิสุทธิ์ใส... ดั่งหยาดน้ำค้างกลางหาวห้วงแห่งกตเวทิตา สำนึกรู้... ในพระเมตตาพระมหากรุณาธิคุณ ขอน้อม.. ศิระกรานกราบ..ณ..แทบเบื้องพระยุคลบาท ด้วยแรงแห่งรักภักดี พลีเทิดพระเกียรติแด่องค์ราชันขวัญชาติ ด้วย... บทความเรียงพร้อมบทกวี *พบพุทธบุญเพรงสยาม* เพื่อ.. เทิดไท้สดุดี.. พระปิ่นเพชรจอมขวัญจอมใจไทยทั้งชาติ... เนื่อง.. ในวโรกาสมงคลสมัย ที่พระองค์ทรงเถลิงถวัลยครองสิริราชสมบัติ *ครบรอบ60ปี ด้วย.. ทศพิธราชธรรม ที่ธ..ทรงนำไทยให้แสนสุขสงบร่มเย็นเป็นสุข... บรรเทาทุกข์ ทุกหย่อมหญ้า ด้วย.. พระปรีชาสามารถที่ทรงมองเห็นการณ์ ไกลเป็นยิ่งนัก และ..ยังทรงตรัสสอน ให้รู้จักใช้ชีวิตอย่างสมถะเรียบง่าย พอดี พอเพียง...มาอย่างช้านาน... เพื่อปกบ้าน.. ป้องเมืองของเรานี้ เอาไว้.. ให้ลูกหลานไทยได้มีอิสระเสรี ที่จะยังคงมีผืนดินหยัดยืน ได้อย่างทรนง คงความเป็นไท ให้..แสนภาคภูมิปิติใจ ไปตราบชั่วกาลนานเนานิรันดร์... ................................. พบพุทธบุญเพรงสยาม..ลำน้ำน่าน ๑) อยุธยายศล่มแล้ว...........ลอยสวรรค์ ลงฤา* โคลงสะอื้นรำพัน.................ศึกแพ้ แรมนิราศจาบัลย์................บุณย์รักษ์ เวียงแล อินนรินทร์ธิเบศร์แล้...........ร่ำร้าวโคลงหวนฯ (*นิราศนรินทร์) (๒) เศวตฉัตรช่อฟ้า............ วงศ์สวรรค์ เก้ารัชกาลบรร-................... จบแล้ว รัตนวงศ์วรรณ.................... วัฏแผ่น ดินแฮ สันตติวงศ์แพร้ว................. ร่วงรุ้งเรืองสยามฯ (๓) แดง...ฤกษ์ไทฤกษ์ด้าว.. ดำเกิง สุรีย์แล แดง...เลือดหลั่งเลือดเชิง..... ศึกเชื้อ แดง...มารมอดมารเพลิง...... พ่ายพุทธ แดง...ชาดหรคุณชาดเกื้อ..... เลือดแก้วละเลงสยามฯ (๔) น้ำเงินงามรามร่มเกล้า.... เครือกษัตริย์ กษัตริย์เกษมวิวรรธน์.............วรทล้ำ ล้ำแผ่นสุพรรณบัฏ...................บรมราช- วงศ์แล ราชธรรมเพียบพร้ำ.................พุทธพร้อมพรสยามฯ (๕) เขียว..กระทงตองท่องท้อง...ธารทอง เขียว...ทุ่งข้าวรวงรอง...............ระบัดกล้า เขียว...ผักคละครองคลอง.........เครียวยอด เขียว...พระมรกตหลักหล้า........เหล่านี้มณีสยามฯ (๖) ขาว...กลีบแก้วพุดซ้อน.......แซมทรวง ขาว...หยดน้ำค้างยวง...............หยาดน้ำ ขาว...ข้าวดอกมะลิรวง..............หุงใหม่ ขาว...ดอกบัวไป่ช้ำ...................ผ่องแผ้วพุทธถวายฯ (๗) เหลือง...รวงพวงพุ่มข้าว......โพสพสรม เหลือง...พัสตร์สงฆ์รงค์ลม.........รุ่งคุ้ง เหลือง...อรุณแรกขานขรม........ขมิ้นเพรียก เหลือง...บุปผาร่วงรุ้ง................เรื่อแล้วลานสยามฯ (๘) แว่วตะโพนแผ่วพ้น...........เพลบุญ โพ้นวรรษาราพิกุล...................เกี่ยวข้าว ปรางค์สางรุ่งอรุณ.....................ระดะยอด อวดแฮ บุญสยามค่ำเช้า........................ชาติฟื้นเกษตรศานต์ฯ (๙) ขึ้นสิบห้าค่ำไหว้..................วิสาขา เทียนรุ่งร่ำเรียมตา...................ตาดเคื้อ นวลเดือนอาบปฏิมา.................มณฑป อาบโบสถ์เทียนอาบเนื้อ...........นุชหน้าพัสตร์สงฆ์ฯ (๑๐) ไขประทีปประดับต้น.........รัตติธรรม สงฆ์แว่วแจ้วลำนำ...................นพน้อม เพลาพร่าจันทรารำ-.................ไรยอด โพธิ์แล โบสถ์ค่ำพัสตร์ภายพร้อม..........พร่างพื้นแขไขฯ (๑๑) ข้าวออกรวงดกแล้ว..........ละลานตา ไหวว่ายตะเพียนปลา...............ผุดปลื้ม พลบค่ำเพรียกวิหคนา............ นางเพรียก ละเมอฤา แรมล่าอริราชครึ้ม...................ศกคล้อยเรือนหายฯ (๑๒) ทองหยิบเคยหยิบป้อน......เพลา เสมอนอ เรียมหยาดหวานหยาดตา.........ขยิบซึ้ง เรียมหยอดรักหยอดยา.............หยดพิษ แรมรักร้าวรักทึ้ง......................หยิบแย้มแซมขมฯ (๑๓) รอนตะวันลับเศร้า...........บึงอุบล จันทร์แจ่มแย้มนวลยล............เยี่ยมฟ้า ขิมครวญดั่งครางคน.................ครวญพี่ นะแม่ นิราศเรียมห่างหน้า.................ห่อนได้แลเห็นฯ (๑๔) ปรารถนาภาพลึกล้ำ.........ละเลงบุญ เกล็ดทิพย์ลิบละมุน..................ม่านน้ำ อารยธรรมค้ำจุน......................จวบค่ำ เจ้าพระยาพาข้าม......................ล่องฟ้าสวรรค์สยามฯ (๑๕) ทอดสะพานล่องข้าม..........แขนงชล ระยับหมอกดอกอุบล.................เบ่งใต้ บัวเรียมระเมียรยล..................หยั่งย่าน ชเลแล บัวสี่เหล่าเนาไซร้.....................สร่างสิ้นธรรมสรรค์ฯ (๑๖) พรพรหมธรรมแต่เบื้อง....บุราณกาล สืบแผ่นดินระรินมาลย์.............อะคร้าว ข้าวจวักตักถวายทาน...............ทรวงบาตร อรุณแล พบพุทธบุญเพรงข้าว................กนกเนื้อนาถสยามฯ (๑๗) พุทธคุณไตรรัตน์ล้ำ.........รวีอรุณ พุทธุปบาทกาลบุญ....................เบิกฟ้า พุทธศาสนิกละมุน...................พุทธชาด สยามนอ พุทธบุตรโชติชวาลหล้า.............สว่างเพี้ยงพันแสงฯ (๑๘) เพชรพิกุลเกล็ดแก้วร่วง..พะไลทราย พันพร่างธรรมทองพราย...........พิจิตรฟ้า มะลิหล่นร่วงโรยวาย.................วัฏจักร เบิกรุ่งบุญระบายหล้า............... โบสถ์เบื้องระเบียงวิหารฯ (๑๙) บัวบังใบตะไคร่ครึ้ม..........บัญจรงค์ บังอุบลจตุวงศ์..........................เวี่ยน้ำ เบญจภูตโพชฌงค์....................ฌาปนกิจ บังฤา เบญจขันธ์กิเลสล้ำ....................ยากยั้งบังไฉนฯ (๒๐) เบญจขันธ์กิเลสรั้ง............ยามโยค ญาณเอย ทุกข์สร่างหมางเศร้าโศก...........สร่างสิ้น วิปัสสนาวิโมกข์........................วิมุตติ เบี่ยงบ่วงอบายหวิ้น..................วิวัฏโพ้นพรหมสวรรค์ฯ (๒๑) ปราชญ์ใดในโลกร้าง.......ธรรมา แสวงสว่างศาสนา....................เสน่ห์น้อม ฤาประลาตพันธนา...................เนืองยศ กิเลสรัดมายาย้อม....................ขุ่นข้นใจถลำฯ (๒๒) ปวงปราชญ์ปรัชญ์ก่อเคื้อ..กวีนิพนธ์ เพาะบ่มอักษรมนตร์.................มิ่งแก้ว ค่าคำรดเหล่าอุบล.....................บริพัตร ทวีปนา สงฆ์สะแบงกลดแล้ว.................เกียรติคล้อยครืนหลังฯ (๒๓) เงาเมรุเงาวัดเวิ้ง.............ไพหาร พุทธะหลั่งวิญญาณ....................หยาดไว้ ชะรอยพุทธเพรงกาล................มาล่ม ลงแล ธารพระธรรมผากไร้................ร่อยร้างมลายขวัญฯ (๒๔) พรายน้ำวาววับน้ำ...........นองพระยา เงาโบสถ์คร่ำลำนาวา................ลิ่วลื้น ไหลลอยล่องชีวิตมา..................มาดมุ่ง เมืองแล จมคลื่นกระแสไป่ฟื้น...............ฝากน้ำซากสลายฯ (๒๕) ปณิธานไพร่ฟ้า...............กวีไพร พลีหลั่งเลือดละไม....................มุ่งฟื้น ปลุกสำนึกดื่มดวงใจ.................ชนชาติ กวีนอ กราบแผ่นดินน้ำตารื้น.............รักษ์ร้อยชาติสยามฯ .............................. ดวงสุริยเทพ... กำลังเผยโฉมอวดองค์อย่างสง่างาม แผ่สร้านกำจายรัศมีสีรุ้งฉายฉาน ปานประหนึ่งดั่งมณีแก้ววิเศษนพรัตน์อันจำรัสจำรูญ ไขแสงสายพรายเหนือฟ้า*รัตนโกสินทร์* แผ่นดินทองแผ่นดินไท.. แผ่นดินสาลีเกษตรอันแสนกว้างใหญ่ไพศาล อัน.. ยังคงงามไสว..ด้วยเรียวรวงระย้าระยับ... ราว..ถูกหัตถ์ทิพย์ปรายโปรย โรยละอองอาบด้วยอัญมณีเพชรพราว..ระยิบ... ตะวัน..ดวง... ที่โชติช่วงฉายฉานเฉิดฉันท์พรรณราย งามที่สุดในแผ่นดิน...ณ..วันนี้ในวันนี้ วันที่9มิถุนายนพุทธศักราช2549 วันครบรอบเฉลิมฉลองครองราชย์ครบ 60ปี แห่ง.. องค์พระมหาจักรพรรดิในดวงใจ..ของปวงชนชาวไทย สายแสงแดด..ดั่งดาดทองดาดเพชรพราว งามอะคร้าว...ตกต้อง..ลงกระทบผืนหล้าฟ้าไทย ที่กำลัง... พร่างไสว...ราวมีรัศมีสีเหลืองทองสุกปลั่ง แห่งแก้วโกเมนมณีงามผ่องผุดจรัสชัชวาลย์ ขึ้นมา.. ในแดนดินสุวรรณภูมิพุทธิ์..ให้แสนพิลาสพิไล ปวงเทพยดาฟ้าดิน..สิ้นทั้งมวลมนุษย์ทั่วโลกหล้า ต่างพา.. กันมาเฉลิมฉลองแซ่ซร้องสรรเสริญสดุดี ดั่งมี.. เสียงทิพยดนตรี มีเพลงพิณ.. ลอยมาจากแดนเทวสวรรค์ทุกชั้นฟ้า ที่ทวยเทพเทวา ต่างพากัน.. มาดีดสีพลีบรรเลงดั่งเพลงพรหมเสนาะ..สนองพร สายน้ำเจ้าใจพระยา...ในทิวาราตรีนี้ ดั่งกระแสธารสีทองล่องไหลมาจากแดนดินศักดิ์สิทธิ์ มหาบรรพตหิมพานต์ ทิพยพิมานฟ้าขวัญแดนสวรรค์สรวง ทอดตัวนิ่งเงียบสงบ เคี้ยวคดดั่งพญานาคจากแดนบาดาล.. รอรับขบวนพยุหยาตรา อันแสนเกริกเกียรติเกรียงไกร อัน... แสนงามยิ่งใหญ่.. ซึ่งหามีไม่แล้วในพื้นปฐพี ที่จะหาที่ไหนมาเทียมทันดั่งสวรรค์ลอย..... แสงสีทองพร้อยแพร้วพร่างพราย สาดส่องทั่วมหานทีธารเจ้าพระยา ดั่งสายแสงแห่ง.. *มณีสวรรค์* หยาดสายหวานหว่านเย็นลงประดับโลกหล้าแลฟ้าไทย เสมือนเสมอ.. รัศมีหยาดเย็นแห่งน้ำพระทัย ดั่ง... น้ำค้างแก้วน้ำค้างฟ้า น้ำฝนทิพย์ หยาดอมฤตให้พสกนิกรไทยได้จิบ ด้วยดวงจิตแสนไสวเกษมเปรมปรีย์ปิติ เปี่ยมล้น ด้วย... ความซึ้งค่า ในน้ำพระทัยมากล้นพระเมตตา แสนชื่นชมโสมนัสในพระบารมี แห่งพระบรมมหากษัตราธิราชเจ้า นาม... *พระภูมิพลนวมินทร์มหาราชา...* พระโพธิทองร่มฟ้า..ร่มฉัตร... แห่งผืนดินไทแผ่นดินธรรม... พระ.. ผู้เปรียบดั่งสายธาราระรินใสสะอาด ที่..เพียรหยาดสายพรายแผ่รัศมีฉ่ำเย็น ดั่งมาจากธารทองแห่งพรหมโลก มาดับร้อนผ่อนโศก ให้โลกนี้แสนงาม... ไป...จน...ตราบชั่วกาลกัปป์กัลป์...นิรันดร... ............... กองทัพเรือจัดกระบวนพยุหยาตราทางชลมารค ในโอกาสประชุมเอเปคในประเทศไทยพุทธศักราช ๒๕๔๖ ประพันธ์โดย นาวาเอก ทองย้อย แสงสินชัยผู้เห่ พลเรือตรี มงคล แสงสว่าง บทที่ ๑ชมเรือ ลอยลำงามสง่าแม้น................มณีสวรรค์ หยาดโพยมเพียงหยัน...........ยั่วฟ้า สายชลชุ่มฉ่ำฉัน เฉกทิพย์ ธารฤา ไหลหลั่งโลมแหล่งหล้า หล่อเลี้ยงแรงเกษม เรือเอยเรือพระที่นั่ง พิศสะพั่งกลางสายชล ลอยลำงามสง่ายล หยาดจากฟ้ามาโลมดิน สุวรรณหงส์ทรงภู่ห้อย งามชดช้อยลอยหลังสินธุ์ โอดโฉมโสมโสภิน ลินลาศเลื่อนเตือนตาชม นารายณ์ทรงสุบรรณ ดังเทพสรรเสกงามสม ปีกป้องล่องลอยลม ดุจเลื่อนฟ้ามาล่องลอย กระบี่ศรีสง่า งามท่วงท่าไม่ท้อถอย เรือครุฑไม่หยุดคอย ยุดนาคคล้อยลอยเมฆินทร์ อสุรวายุภักษ์ ศักดิ์ศรีคู่อสุรปักษิน พายยกเพียงนกบิน ผินสู่ฟ้าร่าเริงบน เรือแซงแข่งเรือดั้ง พร้อมสะพรั่งกลางสายชล เรือชัยไฉไลล้น ยลเรือกิ่งพริ้งเพราตา ยักษ์ลิงกลิ้งกลอกกาย แลลวดลายล้วนเลขา รูปสัตว์หยัดกายา พาโผนเผ่นเป็นทิวธาร นาวาสถาปัตย์ เชิงช่างชัดเชี่ยวชาญฉาน ท่อนไม้ไร้วิญญาณ ท่านเสกสร้างเหมือนอย่างเป็น ฝีมือลือสามโลก ดับทุกข์โศกคลายเคืองเข็ญ ยิ่งยลยิ่งเยือกเย็น เห็นสายศิลป์วิญญาณไทย เจ้าเอยเจ้าพระยา ถั่งธารามานานไกล เอิบอาบกำซาบใจ หล่อเลี้ยงไทยแผ่นดินทอง รวงทองเหลืองท้องทุ่ง แดดทอรุ้งเหนือเขื่อนคลอง ข้าวปลามาเนืองนอง เรือขึ้นล่องล้วนเริงแรง วัดวาทุกอาวาส พุทธศาสน์ธรรมทอแสง น้ำใจจึงไหลแรง ไม่เคยแล้งจากใจไทย เกลียดใครไม่นานวัน แต่แรกนั้นนานกว่าใคร เจ้าพระยาหยาดยาใจ คือสายใยหยาดจากทรวง เห่เอยเห่เรือสวรรค์ เพลงคนธรรพ์ลั่นลือสรวง ฝากหาวเดือนดาวดวง อย่าลับล่วงอยู่นิรันดร์เทอญ. บทที่ ๒ ชมเมือง สยามเอยอุโฆษครื้น คุณขจร สุขสถิตสถาพร ผ่านฟ้า ไตรรงค์ลิ่วลมสลอน .อวดโลก ตราบเมื่อนี้เมื่อหน้า เมื่อโน้นนิรันดร์เกษม สยามเอย สยามรัฐ งามร่มฉัตรทัดเทียมโพยม กิตติศัพ์ขับประโคม โคมครืนครั่นลั่นหน้าคง สุโขทัยไกลสุด ถึงอยุธยายง ธนบุรีลอยฟ้าลง ทรงศักดิ์ฟื้นคืนคุณขจร รัตนโกสินทร์ศิลป์ สืบระบิลอันบวร แม่นแม้นแดนอมร ถอนจากฟ้ามาเมืองดิน เจ้าเอย เจ้าพระยา ถั่งธารามาเรื่อยริน ทวยไทยได้อาบกิน ลินลาศลุ่มขุมกำลัง งามเอย งามระยับ แวววาววับวัดเวียงวัง ย่ำค่ำย่ำระฆัง วังเวงหวานซ่านซึ้งเสียง เจดีย์ศรีสูงเหยียด เสียดยอดท้าฟ้ารายเรียง ปรางค์ยอดทอดเงาเคียง เลี้ยงตาเมืองเรื้องเรืองรมย์ พืชพันธุ์ธัญญาผล เลี้ยงชีพชนดลอุดม นาสวนชวนชื่นชม ร่มรื่นไม้ไพรพฤกษ์มี รอยยิ้มพิมพ์ใจสวย ชนรุ่มรวยด้วยไมตรี เสน่ห์ประเพณี ศรีสง่ามานิรันดร์ น้ำใจไม่เคยจืด อยู่ยาวยืดยิ้มยืนยัน ต่างเพศต่างผิวพรรณ แต่ใจนั้นไม่ต่างใจ แขกบ้านแขกเมืองมา ไทยทั่วหน้าพาสดใส ท่านมาจากฟ้าไกล อยู่เมืองไทยไร้กังวล เทคโนอาจน้อยหน้า แต่ข้าวปลาไม่ขัดสน สินทรัพย์อาจอับจน แต่ใจคนไม่จนใจ บ้านเรือนไม่หรูหรา แต่สูงค่าปัญญาไทย หนทางอาจห่างไกล แต่หัวใจใกล้ชิดกัน ศาสนาสถาพร ประชากรเกษมสันต์ ร่มธรรมฉ่ำชีวัน ฟั้นฝึกใจใฝ่ความดี ราชันขวัญสยาม ปิ่นเพชรงามปักธานี ร่มพระบารมี ศรีไผทฉัตรชัยชน ไตรรงค์ธงชัยโชค ลอยอวดโลกโบกลมบน ขวัญฟ้าขวัญตายล ล้นเลิศหล้าศักดิ์ศรีสยาม เมื่อนี้ตราบเมื่อหน้า คงคู่หล้ากล้าเกียรติงาม ใครบุกรุกเขตคาม ตามหาญหักรักษ์แผ่นดิน ฟ้าเอย ฟ้าสยาม งามกว่าฟ้าทุกธานินทร์ เพลงสยามทุกยามยิน วิญญาณปลื้มดื่มด่ำเอย และ..ทุกบทความด้านล่างนี้ ที่น้อมพลีมาเรียงวางไว้...เพียงส่วนหนึ่ง จากหลายร้อยเรื่องที่พุดพัดชารจนานานมา...หลายปี เพื่อน้อม*สดุดีพระองค์ท่าน.. ผู้ทรงเททุ่ม *หยาดพระเสโทพราวราวหยาดเพชรพลี แด่พสกนิกรแลผืนดินไท*ค่ะ ................................... http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem42257.html ความฝันอันสูงสุด http://www.thaipoem.com/forever/poem.php?poemid=83930 น้ำพระทัยสู่รวงข้าวราวรวงเพชร http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem71714.html ลีลาวดีมณีรุ้ง http://www.thaipoem.com/forever/poem.php?poemid=76322 ขวัญข้าวขวัญชีวิต http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem64557.html แด่พสุธาที่ข้ารัก http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem76049.html แผ่นดินของเรา http://www.thaipoem.com/forever/poem.php?poemid=80090 แผ่นดินเดือด http://www.thaipoem.com/forever/poem.php?poemid=81097 เพดานดาว http://www.thaipoem.com/forever/poem.php?poemid=79708 ผ้าไทไหมทอง http://www.thaipoem.com/forever/poem.php?poemid=79639 พระแม่ขวัญมิ่งเมือง http://www.thaipoem.com/forever/poem.php?poemid=83932 ดวงตะวันธันวา http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem68585.html ฟ้าพุทธภูมิ http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem64605.html อัญมณีไท http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem67010.html มงกุฏแก้วประกายพฤกษ์ http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem65081.html มุกดาเพ็ญ http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem62004.html สไบนวลสไบนาง http://truehits.net/let/index.php?id=29&pageNum=29 เพลงเห่เรือ http://www.rta.mi.th/52200u/songs/honor.htm เพลงสดุดี ..................................... http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song6196.html รัก ....เพลงพระราชนิพนธ์ รักทะเล อันกว้าง ใหญ่ไพศาล รักท้องฟ้า โอฬาร สีสดใส รักท้องทุ่ง ท้องนา ดั่งดวงใจ รักป่าเขา ลำเนาไพร แสนสุนทร รักพฤกษา รุกขชาติ ที่ดาษป่า รักปักษา ร้องกู่ บนสิงขร รักอุทัย สว่าง กลางอัมพร รักทั้ง รัตติกร ในนภดล รักดารา ส่องแสง สุกสว่าง รักน้ำค้าง อย่างมณี มีโภคผล รักทั้งหมด ทั้งสิ้น ที่ได้ยล รักนวลนาง รักจน หมดสิ้นใจ รักพฤกษา รุกขชาติ ที่ดาษป่า รักปักษา ร้องกู่ บนสิงขร รักอุทัย สว่าง กลางอัมพร รักทั้ง รัตติกร ในนภดล รักดารา ส่องแสง สุกสว่าง รักน้ำค้าง อย่างมณี มีโภคผล รักทั้งหมด ทั้งสิ้น ที่ได้ยล รักนวลนาง รักจน หมดสิ้นใจ...
17 มีนาคม 2551 03:06 น. - comment id 832444
ต้องสู้ ต้องสู้ ถึงจะชนะ อาจพบปะแพ้บ้างอย่าคว้างฝัน เร่งกลัดหนองหมองใจทันใดพลัน แล้วมุ่งมั่นหมายคว้าอย่าปราชัย ประหนึ่งเพชรพลอยรัตนชาติ ทนอำนาจร้อนแรงสำแดงใส่ กว่ากำเนิดกลายเกล็ดหยาดเม็ดใส ประสบการณ์กว่าได้ให้ผจญ ร่วมสู้ด้วยคน ไม่อยากแพ้จนเป็นถ่านครับ
17 มีนาคม 2551 08:19 น. - comment id 832463
ว่าจะขอไปติดไว้ที่พิพิธภัณฑ์ของกรมทรัพยาธรณีสักหน่อยค่ะ ^_^ ท้อเป็นถ่าน แต่สู้ไม่ไหวขอเป็นกรวดก็แล้วกันนะคะ
17 มีนาคม 2551 08:48 น. - comment id 832478
ท้อจาเปงถ่านอ่านแล้วก็เริ่มท้อ..เฮ้อ..นะเพ่กุ้งก้ามใหญ่..หุหุ
17 มีนาคม 2551 09:45 น. - comment id 832504
กลอนเพราะและความหมายดีนะปู่กุ้ง
17 มีนาคม 2551 12:55 น. - comment id 832544
สวัสดีครับ เวลาอ่านกลอนแนวสร้างสรรค์ ความสุขก็เกิดขึ้นในใจเสมอครับ กุ้งหนามแดงเขียนบทกลอนดี ไม่เคยผิดหวังครับ ที่เข้ามาอ่าน
17 มีนาคม 2551 20:23 น. - comment id 832626
เอาของเก่ามาแจมคร่า หากหมายมาดสิ่งใดในประสงค์ สมจำนงทุกอย่างทางถวิล สิ่งวาดหวังสมปรารถนาเป็นอาจิณ ชั่วชีวินคงมิเศร้าฤาร้าวราน แต่ความจริงทุกอย่างแตกต่างนัก หมายสมัครสิ่งใดในสถาน ยากภิรมย์สมหวังดังต้องการ ปราการด่านอุปสรรคล้วนมากมี อุปสรรคหลากหลายคล้ายวิบาก ความทุกข์ยากทดสอบตอบวิถี รู้อภัยสรรค์สร้างทางไมตรี ค่าความดีพิสูจน์คนบนนิยาม หากแพ้พ่ายก็สลายกลายเถ้าถ่าน ดีประสานรู้อดทนคำคนหยาม หากผ่านพ้นบททดสอบชูชอบความ เพชรน้ำงามจะปรากฏจรดใจ ธรรมชาติสร้างสรรค์อัญมณี ลุหลายปีเพาะบ่มสมสมัย ผ่านเวลาบรรจบล่วงครบวัย เป็นเพชรใสน้ำงามอร่ามเรืองรอง
17 มีนาคม 2551 20:26 น. - comment id 832627
งั้นเอาถ่านกระสอบนึงมาแลกเพรชซักเม็ดได้มั้ยคะลุงกุ้งก้ามโต
18 มีนาคม 2551 04:54 น. - comment id 832667
ให้ข้อคิดดีค่ะ จะสู้ๆๆๆๆๆไม่ย่อท้อต่อชีวิต
18 มีนาคม 2551 09:05 น. - comment id 832709
ลึกล้ำ...กว่าจะมาเป็นเพชร ..ว่าแต่...ขอสักเม็ดโตๆสิลุงกุ้ง เพชรนะ.งไม่เอาถ่าน..
18 มีนาคม 2551 13:07 น. - comment id 832779
ได้คติดี..เหมาะสมต่อสถานการณ์ปัจจุบันครับ หากคนเราไร้ซึ่งความอดทนต่ออุปสรรคและ ความพยายามในอันที่จะเอาชนะอุปสรรคแล้ว นี่..คงจะหาความสำเจได้ยากเต็มที...
18 มีนาคม 2551 20:52 น. - comment id 832858
คุณอัลมิตรา เอ ไฉนมาหาเหยื่อแถวนี้นะ อืม ใช่ครับถ้ารากฐานชีวิตแข็งแรง ชีวิตจะได้ไม่โอนเอนไปตามอุปสรรคและแรงกดดันที่ได้รับ อิฐก็สามารถสร้างเพชรเม็ดงามได้เช่นกันเนาะ คุณพุด ขอบคุณครับที่แวะมาเยี่ยมเยียน และขอบคุณอีกครั้งสำหรับสิ่งดีๆที่นำมาฝากถึงบ้าน ขอบคุณมากครับ คุณกวีปกรณ์ ครับผมต้องสู้ถึงจะชนะ ถ้ายอมแพ้ตั้งแต่ไม่ทันสู้แล้วจะชนะได้อย่างไร ขอบคุณที่มาแวะชมครับ คุณเพียงพลิ้ว จะเอากลอนหรือกุ้งก้ามกรามไปติดไว้ที่พิพิธภัณฑ์ครับ แบบว่ากุ้งก้ามกรามยังไม่ถึงวัยที่จะเข้าไปอยู่ในนั้นน่ะครับ อิอิ สู้ไม่ไหวก็ต้องสู้นะครับ คุณพิมญดา เอ ทำไมท้อง่ายจังนะ สู้ๆน่ะ สู้ถึงจะชนะ คุณปราณรวี ขอบคุณสำหรับคำชมครับ แต่ถ้าจะลดอายุให้สักครึ่งนึง จะขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งเลยครับ เรียกปู่ นี่กระไรๆอยู่นะหลาน เอิ้กๆๆๆ แฮ่กๆๆๆ คุณลำน้ำน่าน ขอบคุณครับสำหรับคำชม แต่กุ้งหนามแดงกับกุ้งก้ามกรามคนละคนคนละเพศกันครับ อย่างไรก็ต้องขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมชมครับ คุณเฌอมาลย์ ขอบคุณครับ สำหรับกลอนดีๆแสนไพเราะที่มาร่วมแจม วันนี้แอบไปดู blog คุณมาด้วยน่ะครับ ได้แอบอ่านกลอนเพราะๆด้วยแน่ะครับ คุณแมวแต้ม อืม คุณแมวแต้มนี่เป็นคนเอาถ่านเหมือนกันนิ แต่จะเอามาแลกเพชรได้ไง เอาถ่านแหละดีแล้ว คนไม่เอาถ่านไม่ดีน้า คุณช่ออักษราลี ขอบคุณครับ สู้ๆนะครับ คนใต้บ้านเราสู้ขาดใจอยู่แล้ว คุณยาแก้ปวด ขอบคุณครับ เพชรก็พยายามจะหาอยู่เหมือนกันครับ จะหามาเผื่อนะครับ แต่ถ่านเอาไว้บ้างก็ดีนะ เดี๋ยวจะถูกว่า ไม่เอาถ่าน น่ะครับ คุณอรุณสุข ขอบตุณครับ ใช่ครับ สังคมปัจจุบันถ้าอ่อนแอยากจะหยัดยืนอยู่ได้และยากจะประสบความสำเร็จจริงๆ
21 มีนาคม 2551 22:46 น. - comment id 833716
สงสัยผมค้องเป็นเถ้าแล้วล่ะครับ (555แวะมาทักทายครับผม)
27 มีนาคม 2551 21:40 น. - comment id 835281
คุณน้ำนมราชสีห์ ทุกคนมีโอกาสที่จะเป็นเพชรน่ะครับถ้าไม่ท้อเสียก่อน ขอบคุณที่แวะมาครับ
5 พฤษภาคม 2551 14:30 น. - comment id 846316
สวัสดีค่ะ พี่ในที่นี้เก่งกันทุกๆคนเลยนะค่ะ อ่านแล้วสนุกทุกกลอนเลยค่ะ เก่งกันจริงๆ เยี่ยมๆ พลอย/เจี๊ยะ