น้ำใสไร้ขุ่นข้อง...............มองเห็น บริสุทธิ์ชุ่มฉ่ำเย็น............จับต้อง แม้สงบนิ่ง, กระเซ็น,........ซัดสาด แสงส่องสะท้อน ฟ้อง.......กระจ่างเนื้อน้ำในฯ ครั้นสีเพียงหนึ่งย้อย........หยดลง สีเปลี่ยนจากที่คง.............พิสุทธิ์แผ้ว หลากสีละลายตรง...........แต้มแต่ง เติมใส่สีใดแล้ว..............ย่อมล้วนเปลี่ยนตามฯ พิศใจคล้ายดั่งน้ำ............เจนตา ทุกสิ่งใดรับมา................ย่อมเอื้อ รับสุขเพิ่มปรีดา..............อิ่มสุข รับทุกข์ใจก็เรื้อ..............ทุกข์ร้อนไล่ตามฯ รับโลภหลงโกรธล้น........ดวงมาน คล้ายดั่งไฟเผาลาญ........หมกไหม้ ยิ่งเก็บยิ่งล้างผลาญ........ข้น, ขุ่น ร้อนเร่าโหมลามไล้........ยากยั้งหยุดลงฯ เพียงละสิ่งยอกย้อน ........อารมณ์ ปล่อยว่างวางทุกข์ตรม....หลีกเร้น ศีลสมาธิช่วยถม.............ที่ทุกข์ พ้นเอย ดวงจิตคลายบีบเค้น .......หลุดพ้นบ่วงมารฯ น้ำเจือสี ใจของเราขณะที่เป็นปกติอยู่ เปรียบเหมือนน้ำฝนเป็นน้ำที่สะอาด มีความใสสะอาดบริสุทธิ์เป็นปกติ ถ้าเราเอาสีเขียวใส่ลงไป เอา สีเหลืองใส่เข้าไป น้ำก็จะกลายเป็นสีเขียว สีเหลืองไป จิตของเรานี้ก็เหมือนกัน เมื่อไปถูกอารมณ์ที่ชอบใจ ใจก็ดี ใจก็ สบาย เมื่อถูกอารมณ์ที่ไม่ชอบใจแล้ว ใจนั้นก็ขุ่นมัว ไม่สบาย เหมือนกันกับน้ำที่ถูกสีเขียวก็เขียวไป ถูกสีเหลืองก็เหลืองไป เปลี่ยนสีไปเรื่อย ที่มา http://www.agalico.com/board/showthread.php?t=14649 .
19 กุมภาพันธ์ 2551 00:33 น. - comment id 824876
ฮูเรรรรรรรรรร ที่1 ฝนเป็นที่1 ต้องรีบโพสก่อนเด๋วโดยแซงโค้งคิกๆๆๆๆ
19 กุมภาพันธ์ 2551 00:47 น. - comment id 824877
ใช้ค่ะปราณรวี ฝนเห็นด้วยค่ะ ธรรมะ ศีล สติ สมาธิ ทำให้ คน หลุดพ้น บ่วงทุกข์ มากๆๆเลยอ่ะค่ะ ฝนพิสูจน์แล้วด้วยตนเอง กลอนเพราะมากค่ะ ให้สติ ให้ข้อคิด ฝนชอบอ่านมากเลย เขียนแนวนี้แยะๆๆก็ดีนะค่ะ
19 กุมภาพันธ์ 2551 02:28 น. - comment id 824881
อูวววโคลง ยอมแพ้เลยค่ะ
19 กุมภาพันธ์ 2551 06:35 น. - comment id 824886
โลภโกรธหลงปลงบ้าง วางใจ คนเราต่างมีความใน ซ่อนเร้น ดีชั่วปนกันไป ทุกท่า ชีวีฤๅห่อนเว้น หลีกพ้นความตาย อิอิ ลองดูไม่รู้จะเข้าท่าไหม
19 กุมภาพันธ์ 2551 07:29 น. - comment id 824894
สาธุ....มารับธรรมเช้า ๆ แกล้มกาแฟ มีความสุขมากครับ
19 กุมภาพันธ์ 2551 08:04 น. - comment id 824898
อิฐ หิน ปูน ทราย มีน้ำเป็นตัวประสาน จึงก่อรูปเป็นสิ่งปลูกสร้างอำนวนประโยชน์ได้
19 กุมภาพันธ์ 2551 08:22 น. - comment id 824904
โอม..เทพศิวะไท้...........ทรงธรรม โปรดมอบอมฤตล้ำ........แก่ข้าฯ โปรปรายให้ชนนำ........กินดื่ม ไล่ทุกข์ไล่อ่อนล้า..........ชีพชื้น..คืนหวัง อิอิ..น้ำเหมือนกันครับ....
19 กุมภาพันธ์ 2551 08:54 น. - comment id 824914
ช่วงนี้ น้ำกับใจ ขุ่น ๆ น่ะ ไม่ค่อยใสเท่าไหร่..อิอิ คิดถึงนะ
19 กุมภาพันธ์ 2551 09:00 น. - comment id 824919
สวัสดีค่ะพี่ปอ ยังคงเพราะเหมือนเดิมเลยน่ะค่ะ ไม่ได้แวะมานาน คิดถึงสุดๆ อิอิ
19 กุมภาพันธ์ 2551 09:03 น. - comment id 824924
รับแต่ส่วนที่ดีของแต่ละอย่าง ก็ไม่ทุกข์จ้า อิอิ ว่าแต่รูปมะคืน กะกลอน เข้ากันดีเนาะ ไม่เสียมาธิ มั่งหรอ อิอิ เพลงฟังสบายๆ จัง
19 กุมภาพันธ์ 2551 10:02 น. - comment id 824937
น้ำเจือสีไปเพียงหยดก้อเปลี่ยน ใจถุกรดด้วยน้ำคำก้อเปลี่ยนไปได้เหมือนกันเนาะ...
19 กุมภาพันธ์ 2551 15:29 น. - comment id 825030
น้ำเย็นๆชื่นใจค่ะ
19 กุมภาพันธ์ 2551 15:55 น. - comment id 825039
ปลงปลดลดเลิกได้ ดีนา โลภโกรธโทษหนักหนา หยุดยั้ง รักหลงบ่งตัณหา ให้หั่น บั่นเอย เห็นชัดอัตตารั้ง ละทิ้งยิ่งดี
19 กุมภาพันธ์ 2551 17:06 น. - comment id 825056
ดีจ้า........ป.ปลา........... หุหุ หิวน้ำอ่ะจ้า มาขอน้ำดื่มๆๆๆๆ ผัสสะปะป้อนร้อนเย็น ใจจึงมองเห็นเช่นนี้ วูบไหวหวั่นในร้ายดี ยากหนีรี่กลับลับเลือน ........................... มันมีที่มาและที่ไป....หากหยุดยั้งชั่งใจ....สุดท้ายคือว่างไว้ไร้ตัวตน.....
19 กุมภาพันธ์ 2551 17:46 น. - comment id 825059
ฝน ฮูเร..นึกว่าจะเสร็จธุระไม่ทันชิงที่ ๑ ซะอีก คริๆๆ เฮ่ออ ป ก็พยายามจะแต่งให้ออกมาทำนองนั้นแระค่ะ แต่สมองไม่ค่อยพัฒนาเลยช่วงนี้ นึกคำไม่ค่อยออกเลย จะพยายามก็แล้วกันนะ นี่ก็มีโครงแนวนี้ไว้อีกเรื่องนึง แต่ไม่แน่ใจตัวเองหรอกว่าจะเขียนได้ดีมั้ย เป็นกลอน นะไม่ใช่โคลง คอยติดตามอ่านละกัน
19 กุมภาพันธ์ 2551 17:48 น. - comment id 825060
คุณช่อ อืมมม ลองเริ่มเขียนดูซักเรื่องซิคะ เริ่มเขียนใหม่ๆ นี่ ป เขียนผิดหมดเลยค่ะ ฉันทลักษณ์ปั่นป่วนไปหมด ก็ได้เพื่อนๆ ช่วยแนะนำหลายท่านอยู่ ถึงตอนนี้ก็ใช่ จะเขียนถูกหรอกค่ะ เขียนทุกครั้งผิดทุกครั้ง แล้วคำงามๆ ก็หายากจัง ยิ่งบังคับเอกโทด้วยนะแย่เลย เขียนๆ ไป เหมือนคนบ่นซะงั้น พี่ดอกไม้ เพียรละลดปลดทิ้ง........กิเลสใจ ปล่อยว่างสว่างภายใน...ผ่องแผ้ว ศีลสมาธินำฤทัย...........รู้อยู่ เพียงเท่านี้ก็แพร้ว.......เพริศพ้นร้อนรุมฯ
19 กุมภาพันธ์ 2551 19:18 น. - comment id 825083
สุดยอดเลยเพื่อนเรา พยายามเข้าน้า แต่งได้ขนาดนี้ก็เยี่ยมแล้วจ้า แวะมาให้กำลังใจเพื่อนจ้า
19 กุมภาพันธ์ 2551 19:30 น. - comment id 825087
หวัดดี ป. แวะมาอ่านงานที่ข้อคิดในการดำรงชีวิต เป็นอีกแนวหนึ่งที่ ป. เขียนได้ดีนอกเหนือแนวรักที่แสนถนัด เวลาอ่านงานแนวนี้ของ ป. แล้วนึกถึงกลอนชุดหนึ่งที่เล่าถึงแมลงปอที่พยายามบินข้ามมหาสมุทร ยังจำได้ครับ ชอบมากๆ ขอให้มีความสุขครับ
19 กุมภาพันธ์ 2551 20:36 น. - comment id 825098
สวัสดีค่ะคุณปราณรวี
19 กุมภาพันธ์ 2551 21:26 น. - comment id 825111
คนบนเกาะ อิอิ..แวะมาฟังเทศน์เหรอคะ ไม่ถวายปัจจัย หรือคะ งั้นเป็นกาแฟซักถ้วยก็ได้ค่ะ คริๆๆ พระอาจารย์ขนบ แล้ว ป จะตอบเม้นยังไงล่ะค่ะนี่ ลุงฝากฝัน โอม..หัวตันๆ ค่ะอยากแต่งมาตอบเหมือนกันค่ะ แต่แต่งไม่ได้ง่ะ
19 กุมภาพันธ์ 2551 21:38 น. - comment id 825114
แม่มด หวัดดีค่ะ หายไปไหนมาน้านนาน อ่านะ เป็นอาไรไป ขุ่นๆ ไม่นานมังคะ เดี๋ยวก็คงกลับมาใสแบบเดิมนะๆ ขอบคุณค่ะที่แวะมา ล้นใจ ดีจ้า ดูแลตัวเองดีๆ น๊าาา สู้ สู้ สู้ ไม่ท้อ ไม่ถอยนะ พี่ ป เป็นกำลังใจให้ค่ะ คนหลายสี อั้นแน่...วันนี้มาเด็กแนวเลยนะ คนหลายสี หุหุ หนายๆ แฟ บอกว่าจะเอามาเสริฟถึงปากไงคะ รอเก้อๆๆ อยู่นี่แระ ๕๕๕๕ มีคนแต่งกายเลียนแบบรูปนั้นด้วยแระ ไม่เชื่อไปดูดิ้ ขำกลิ้งเลย หน้าตาตลกมาก
19 กุมภาพันธ์ 2551 21:50 น. - comment id 825117
คุณไหมไทย งืมม ค่ะ น้ำใสๆ ใส่สีใดลงไปก็ได้สีนั้น เหมือนใจคน ใส่ชอบลงไปก็ดี ใส่เกลียดชัง โลภะ โทสะ โมหะ ลงไปก็ได้แบบที่ต้องการ ใส่มากไป เลยขุ่นไปเลยก็เป็นได้นะคะ มณีจันทร์ ขอบคุณค่ะ อิอิ กำลังหิวพอดี ป้าแช่ม ลดละเลิกหากแม้น...สัมฤทธิ์ผล จิตสว่างว่างตัวตน...หมดแล้ว ทิ้งกิเลสตัณหารน...ร้อนรุ่ม สำเร็จคงคลาดแคล้ว...หลุดพ้นจากกรรมฯ อันนี้ก็มีที่มา แต่ยังหาที่ไปไม่ได้ค่ะป้าแช่มที่รัก อิอิ
19 กุมภาพันธ์ 2551 21:59 น. - comment id 825119
เปรียบจิตไซร้คล้ายน้ำใครกำหนด ต่างราดรดเติมสีมีขมหวาน เหงาเศร้าสุขทุกข์ไปในดวงมาน เพียงพลิ้วผ่านสิ่งแท้หาแปรไป..... เพียงหากใจเรามุ่งความสนใจอยู่ที่ใด...หากสนใจสี...สีย่อมมีความสำคัญต่อใจเรา...หากสนใจคลื่นที่กระเพื่อมไหว...คลื่นนั้นย่อมมีความสำคัญต่อใจเรา...หากสนใจแต่เพียงน้ำนิ่งที่ก้นธารามิไหวติง...น้ำนิ่งนั้นย่อมมีความสำคัญสำหรับเรา....หากเราไม่ให้ความสนใจสิ่งใดเลย....ย่อมไม่มีสิ่งใดสำคัญต่อใจเรา...ใจเราย่อมไม่เปลี่ยนแปรแน่นอน... แวะมาให้กำลังใจบทกลอนจรรโลงโลกแบบนี้....ครับ
19 กุมภาพันธ์ 2551 22:04 น. - comment id 825120
จจห. ง่ะ..ป เองบางทีหาที่มาและที่ไปไม่ได้เหมือนกันน่ะ แบบ งงๆ กะตัวเองไง อิอิ..วันพระไปบวชชีกันมั้ย ผู้หญิงมือสอง อ่านะ อย่ายอเลย รู้ตัว กว่าจะแกะออกมาได้แต่ละเรื่องนะ ยิ่งช่วงนี้หัวตันๆ อยู่ด้วย เฮ้อออ บ่นๆๆๆๆๆ คุณฤทธิ์ อืมม ชอบชุดเจ้าแมงปอเหรอ นั่นชีวิตคล้ายๆ ป เลยนะนั่น คล้ายๆ ชีวิตจริง คริๆๆๆ ป ก็ว่าจะเขียนรับวันมาฆะอีก ซักเรื่องน่ะค่ะ แต่ไม่รู้ว่าจะแต่งจบมั้ย ต้องรอดูแล้วล่ะค่ะ
19 กุมภาพันธ์ 2551 22:12 น. - comment id 825123
โอเลี้ยง หวัดดีค่ะ ได้อ่านกลบทเรื่องใหม่แล้วค่ะ คีตากะ งืมม มาแบบให้โอวาทเลย อิอิ...ใช่แล้ว ทุกอย่างอยู่ที่ใจใครกำหนด เอาชนะใจตนเอง ได้ ก็จะชนะสิ่งทั้งปวง เอ้า..คารวะ ๑ จอก
20 กุมภาพันธ์ 2551 09:12 น. - comment id 825174
เข้ามาอ่านงานคุณปอปลาแล้ว ทำให้ใจที่ว้าวุ่นอยู่ สงบได้เลยนะ ขอบคุณผลงานอันยอดเยี่ยมค่ะปอปลา โคลงงาม ภาพสวย เพลงไพเราะ ถุกใจคุณครูขี้เหงานักแล
20 กุมภาพันธ์ 2551 09:58 น. - comment id 825181
น้ำใจคือสิ่งหายากในสังคมเมือง เรามีน้ำใจกับเขาได้ แต่อย่าไปไว้ใจ เพราะความไว้ใจนั้นอาจเป็นหนทางที่เขาทำร้ายเรา
20 กุมภาพันธ์ 2551 10:38 น. - comment id 825194
ดีคร่าคุณครูระพี ป ก็นานๆ เขียนทีค่ะ เรื่องแนวนี้ไม่ค่อยถนัด แต่ขอบคุณมากค่ะที่คุณครูชอบ วันหลังจะ พยายามผลิตออกมาอีกค่ะ
20 กุมภาพันธ์ 2551 10:46 น. - comment id 825198
สวัสดีค่ะน้องนารี มันย่อมเป็นเช่นนั้นเองค่ะ เรื่องของใจนี่ ถ้าไม่รู้จักบังคับมันเอาไว้ ปล่อยให้คิดอะไร เตลิดเปิดเปิงไปนี่จะแย่มาก โดยเฉพาะ ชอบคิดอะไรเข้าข้างตนเองนี่ยิ่งแล้วใหญ่ ตัวอย่างเช่น คิดว่าเขารักเรา (ทั้งที่เขา ไม่ได้คิดอะไรกะเราเลย)..คิดว่าคนอื่นมาแย่ง คนที่เราไปหลงปลื้ม (ทั้งที่เขาไม่ได้รู้เรื่อง อะไรกับที่เราคิดเลย)....คิดโน่นคิดนี่ เข้าข้าง ตัวเองไปเรื่อยเปื่อย แบบคนความคิดฟุ้งซ่าน น่ะค่ะ...น้องเคยเป็นแบบนี้มั้ยคะ...และบางที ที่คิดว่าคนอื่นทำร้ายเรานั่น บางทีมันคือเรา ทำร้ายตัวเราเองก็มีนะคะ ..ลองคิดดูค่ะว่า ใช่แบบนี้มั้ย
20 กุมภาพันธ์ 2551 11:31 น. - comment id 825218
แวะมาบอกว่า คิดถึงน้ำใจของ ป. จ๊ะ ขอให้น่ารักอย่างนี้ตลอดไปน๊า
20 กุมภาพันธ์ 2551 12:05 น. - comment id 825246
ดีจ้าโคลอน ไปทานกลางวันกันเถอะ..วันนี้ทานไรดี หิวแว้ววว แสบไส้แสบพุง
20 กุมภาพันธ์ 2551 13:52 น. - comment id 825305
ม่วย สวัสดีนะ..หายไปนานไปประชุมและไปเที่ยวมา กำลังขุ่นใจเรื่องนำอยู่พอดี..ทะเลที่หาดทรายแก้วและหาดบานชื่น จ.ตราด สีดำมาก ช่วยเอาน้ำใจไปเจือลงแถวนั้นบ้างคงดีเนาะ
20 กุมภาพันธ์ 2551 14:42 น. - comment id 825328
เถ้าแก่ งืมมม ไปเที่ยวทะเลมาเหรอ นี่เพื่อนๆ สมัย เรียนมัธยมต้นมาด้วยกันวางแผนว่าจะไป เที่ยวทะเลกันอยู่ค่ะ ป ก็ว่าจะไปกะเขาด้วย เที่ยวแต่ทะเลน้ำจืดมาตั้งนาน ไม่รู้ว่าทะเล น้ำเค็มจืดลงไปมั่งหรือเปล่า ทำไมน้ำทะเลที่นั่นถึงดำคะ? เพราะทะเล สกปรกเหรอ งืมม คนไกลๆ คงทำอะไรไม่ได้ มั้งคะ อันนี้คนที่เกี่ยวข้องแถวนั้นแระต้อง ช่วยกันดูแลเอง น้ำใจจะช่วยได้แค่ไหนง่ะ เมื่อไรไปเที่ยวหลวงพระบางอีกคะ ฝกความ คิดถึงไปถึงซ้อด้วยนะ
20 กุมภาพันธ์ 2551 15:02 น. - comment id 825342
สวัสดี ปราณรวี เป็นน้ำ..ฉ่ำเย็น..หมดจด..สดใส ยอดเยี่ยมๆ ชื่นชม จ้า ว่าแล้วก็... ขอน้ำ ไปหุง...เพื่อ..ชงกาแฟ หน่อยนะ
20 กุมภาพันธ์ 2551 15:12 น. - comment id 825349
More Cute Comments เปรียบน้ำสัมพันธ์ใจ ตามเงื่อนไขอันที่เห็น หากสมอารมณ์เย็น น้ำก็พร่างกระจ่างแวว หยาดน้ำปรุงแต่งไว้ อารมณ์ นั้นเนอ ยามจิตผ่องภัสสร์ชม ว่าแพร้ว ยามขุ่นจิตขุ่นสม น้ำขุ่น แล้วเฮย ตามแต่กิเลสแล้ว ส่งให้จิตผัน.. คำสอนที่ว่าจงทำจิตให้ผ่องใส หมายรวมถึงการชำระจิตให้ผ่องใสหมดจดจากกิเลสทุกระดับ แล้วแต่ใครจะสามารถทำได้แค่ไหน , กิเลสระดับหยาบเรียกว่า วีติกกะมะ คือการแสดงออกอย่างหยาบคายรุนแรงที่ละเมิดศีล ๕ และ กุศลกรรมบถ ๑๐, กิเลสอย่างกลางคือกิเลสของความสงบ เรียกว่า ปริยุฏฐาน ได้แก่ นิวรณ์ ๕ หรือ อุปกิเลส ๑๖ ซึ่งเป็นเครื่องกั้นการทำจิตให้สงบ, กิเลสอย่างละเอียด เรียกว่า อนุสัย หรือ สังโยชน์ ซึ่งเป็นชั้นล่างสุด แน่นหนาละเอียดที่สุด เป็นเครื่องกั้นปัญญาวิปัสสนา ใครทำลายกิเลสชั้นนี้ได้จะบรรลุเป็นพระอริยบุคคลขั้นใดขั้นหนึ่งตามชั้นภูมิ เป็นอย่างน้อย มาเยี่ยมอีกหนครับ..
20 กุมภาพันธ์ 2551 17:09 น. - comment id 825439
น้ำกลิ้งในใจ....คือ ค น.... ใสหม่นตามวิสัย
20 กุมภาพันธ์ 2551 20:44 น. - comment id 825466
คุณปางสีฝุ่น ขอน้ำไปต้มชงกาแฟเหรอคะ?? ต้องการ กี่ตุ่มคะ.. ขอบคุณค่ะที่ชอบโคลง(เคลง)ของ ป รู้มั้ยคะกว่าจะแกะออกมาได้นะ แทบแย่เลย แต่งได้ล่ะ แต่ภาษาไม่สวย อ่านไปปลงไป เหมือนคนบ่นมากกว่า
20 กุมภาพันธ์ 2551 21:34 น. - comment id 825479
มาเป็นธรรมอีกแว้ว
20 กุมภาพันธ์ 2551 22:00 น. - comment id 825485
คุณอรุณสุข โหหหห พระคุณเจ้ามาเองเลยหรือเปล่านี่ ต้องกล่าวนมัสการเหมือนพระอาจารย์ขนบ ด้วยมั้ยคะ ป นะแต่งเป็นโคลงเป็นกลอนได้ แต่ให้ ปฏิบัติจริงก็คงอีกนานค่ะ โลภะ โทสะ โมหะ นี่ยังสะสมไว้เต็มเลยค่ะ แกะ แคะ ไม่ค่อย จะหลุด ตอนนี้หัวตึงๆ แต่งอะไรไม่ได้เลยค่ะ
20 กุมภาพันธ์ 2551 22:26 น. - comment id 825490
คุณจุด ๓๖ ๕๕๕๕๕๕๕ คราวนี้พลาดไปได้ไงตั้ง ๒ จุด งืมมม ก็แล้วแต่ว่าใครจะบังคับใจตนเองได้ นะคะ ถ้าปล่อยให้กลิ้งไปตามอารมณ์คงมี แต่เรื่องร้อนรน นิ
20 กุมภาพันธ์ 2551 22:36 น. - comment id 825492
สวัสดีค่ะคุณครูน้ำนมราชสีห์ โหหหหห หายไปนานมากเลยคะ สบายดีนะคะ พูดภาษาพม่าได้มั่งหรือ ยังคะ ก็ใกล้วันพระน่ะค่ะ เลยแต่งเรื่องแนวนี้ ออกมามั่ง แต่กว่าจะได้เรื่องนี่ก็แย่เลย ภาษาไม่สวย คุณครูเห็นอย่าปลงนะคะ วันพระไปทำบุญที่ไหนหรือเปล่าคะ ทำเผื่อ ด้วยนะคะ
20 กุมภาพันธ์ 2551 23:35 น. - comment id 825514
36...... แวะแซวคนแก่ค่ะ คุณป. อ่อ ไม่แก่เนอะ ลืมปายๆ อิอิ คุณลุงจุด กิ๊วๆๆๆๆ .... มองซ้าย มองขวา เหลียวหาป้าพิดสะหมอน อิอิ
23 กุมภาพันธ์ 2551 05:13 น. - comment id 826096
เป็นครั้งแรกที่ได้อ่านโคลงของปราณรวี ประทับใจ กินใจ ไม่ธรรมดาเลยแหละ พักนี้รู้สึกว่าดอกไม้บานไปทั่ว(ทั้งใจ)หรืเอปล่าเอ่ย
23 กุมภาพันธ์ 2551 08:05 น. - comment id 826128
ช้างน้อย ผ่านมาแซวผู่เฒ่าเหรอคะ คงไม่ใช่ ป เนอะ คริๆ เรียกหาครายน่ะ เดี๋ยวเหอะบ้าน ป โดนบอมด้วยหรอก ครูใหญฯ อาราย? ดอกไม้ดอกเม้ยอะไร มันก็บานๆ หุบๆ เหี่ยวๆ อยู่อย่างนี้ มาตั้งนานแว้วววคร่า ขอบคุณค่ะที่แวะมา สบายดีนะคะ
23 กุมภาพันธ์ 2551 11:07 น. - comment id 826152
แวะมาทักทายค่ะ สบายดีนะคะ
23 กุมภาพันธ์ 2551 13:24 น. - comment id 826189
รัสสะตะ หวัดดีค่ะ..หายไปนานเลยนะคะ งานยุ่งเหรอคะ ดีใจที่เห็นมาลงกลอน อีก สบายดีนะคะ ป สบายดีค่ะ คิดถึงๆ ค่ะ
3 มีนาคม 2551 13:25 น. - comment id 828914
รักโลภมากหลั่งล้น โทสะ ทุกสิ่งไม่ลดล่ะ จึ่งได้ จิตใจใคร่ชนะ ร้อนรุ่ม ดุจดั่งไฟแผดให้ ลั่นร้อง โหยหาฯ ผมพึ่งรู้ว่าการแต่งโคลงยากเพียงไหน เลื่อมใสจริงๆ ครับ คุณปราณรวี
7 มีนาคม 2551 00:53 น. - comment id 829771
สวัสดีค่ะคุณไร้อันดับ อิอิ เลยมาซะอันดับสุดท้ายเลย แรกๆ หัดแต่งนี่จะยากทุกอย่างเลยค่ะ พอนานๆ เข้าจะคล่องเรื่องฉันทลักษณ์ รู้ว่าเอกโท สัมผัสตรงไหน แรกๆ ต้อง กางโฉนดเลยค่ะ แต่เรื่องการสรรหา เพราะๆ มีความหมายเฉพาะนี่ยังคง เป็นปัญหากะ ป ค่ะ คำไม่เพราะเลยเขียน ออกมาคล้ายคนบ่นมากกว่า เรื่องนี้ไม่รู้ จะทำไงค่ะ ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมค่ะ