ปัจฉิม..สุรา
กะลาสีเบจ
ยามงานเลี้ยงก่อเกิดเปิดสังสรรค์
ย่อมมีวันเลิกราก้าวขาถอน
ยามเมื่อพบก่อรากเป็นฉากตอน
ย่อมมีพรากจากจรเป็นธรรมดา
ให้ค่ำคืนมืดมิดสนิทนี้
เป็นสักขีพยานของวารหน้า
เชิญผองเพื่อนมิตรสหาย..มาเถิดมา
พร้อมปัจฉิม..สุราท่ามอาวรณ์
ถึงเพลาร่วมตั้งวงบรรจงสร้าง
มิตรทางสายสุราเป็นยาสอน
รินน้ำใจใส่น้ำเมาเคล้าตะกอน
พร้อมรับพรจากเมรัยที่ไหลริน
ขออำลาเป็นภาษาดีกรีเหล้า
ปลดร่างเงาเคว้งคว้างสร่างศิลป์
สหายเอ๋ยเคยร่วมสุข-ทุกข์หย่อมดิน
บรรเลงรินเต็มแก้วแล้วดับชน
ยกไมตรีปรี่ล้นบนเนื้อแก้ว
กระทบแนวขอบต่อขอบพิรอบผล
สัจจะต่อสัจจะระหว่างคน
จะเข้มข้นไม่ยิ่งหย่อนร่อนเมรัย
วาระเมาสุดท้ายในภายนี้
แลกดีกรีจนกว่าวันฟ้าใหม่
ขอราตรีแข็งข้ออย่าย่อไป
จงยาวไกลกว่าวันพรุ่งรุ่งอรุณ
ต่างหลับใหลโรยรินกระสินธุ์แส-
บรั่นแท้สหายจริงยิ่งกว่าขุน-
เขา-มหาสมุทรมหึมาธาราทุน
ไม่ติดฝุ่นน้ำใจเพื่อนสะเทือนชล
ฟ้าส่างมืดจืดกาฬหว่านฟากฟ้า
แสงอำภาทอทอดสอดเวหล
ค่อยส่างเมากลับสู่ลู่ทางตน
สวมร่างคนล่าฝัน..อันวิไล
ยามงานเลี้ยงก่อเกิดเปิดสังสรรค์
ย่อมมีวันเลิกราน้ำตาไหล
ขอลาก่อนสหายสุรา..ลับตาไกล
แล้วพบกัน..วันฟ้าใหม่ไอ้เพื่อนเกลอ
......กะลาสีเบจ (๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๑)