ล่องเรือมาร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ มีแต่ช้ำตรมจิตต้องผิดหวัง เป็นคนเรือเขาเบื่อมีแต่ชัง ไม่อยู่ยั้งเที่ยวเร่พเนจร น้ำกับฟ้าคลื่นลมห่มแทนผ้า มีฝูงปลาลมใต้ฝุ่นหนุนแทนหมอน เสียงเครื่องจักรแวดล้อมกล่อมให้นอน อยากหาคนอาทรสักหนึ่งคน ได้แต่หวังตั้งใจไว้แน่วแน่ ไม่ยอมแพ้โชคชะตาหาผู้สน ที่เข้าใจชีวิตคิดอดทน ใช่ร้อยลิ้นกะลาวนมาล่อลวง ล่องเรือมาหารักอยากพานพบ หากประสบรักจริงมอบสิ่งหวง คือหัวใจซื่อใสให้ทั้งดวง เป็นคู่ควงชั่วชีวิตนิจนิรันดร์
25 มกราคม 2551 13:33 น. - comment id 815259
เพิ่งรู้นะเนี่ยว่ามีหัวใจใสซื่อ ^_^
25 มกราคม 2551 13:37 น. - comment id 815260
สวัสดีค่ะพี่ฤกษ์ พี่ฤกษ์หาคู่ควงหรือค่ะมะได้หาคู่ครองเหรอค่ะนั้น อิ อิ อิ
25 มกราคม 2551 13:45 น. - comment id 815264
ท่องทะเล หากุ้ง หอย ปู และปลาจะง่ายกว่านะค่ะ....
25 มกราคม 2551 13:52 น. - comment id 815267
เปลือกหอยร้อยเป็นม่านหวานไว้แหวก ไว้จ่ายแจกเจิมใจคนไกลฝัน ม่านทะเลเทคลื่นใจมอบคืนวัน ราวม่านฝันวันเหงาเงียบเลียบทะเล.. หลับตานึกนอนเหยียดยาวนับดาวใส คลื่นคลอใจเคล้าคลึงทรายคล้ายว้าเหว่ บทเพลงฝั่งร่ายมนต์หวานเรียกพรานทะเล ที่ร่อนเร่เหใจร่างห่างฝั่งใจ... กลับมาจูบผืนทรายให้สดชื่น ทุกวันคืนพายุพัดขวัญฉันหวั่นไหว จะร้อนหนาวสักกี่เศร้าฤดูกาลใจ พรานทะลไยใจไม่เทียบท่าพาวกวน.. ม่านทะลคอยปิดฉากฝากใจรัก ขอเพียงพักพิงพรานใจไม่สับสน ฝากหัวใจในฝั่งฝันกลางกมล กี่ลมฝนกี่พายุกล้าอย่าจำพรากจากอ่าวใจ! http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song6370.html ปลายฟ้า .........มะลิลา บราซิลเลี่ยน ปลายฟ้าปลายฟ้า แค่หลับตาลง คงพบกัน โอบกอดดวงใจ สายสัมพันธ์ ท่ามกลางความฝัน ของเรา ดาวน้อยดาวน้อย โปรดลอยมาลง ตรงหัวใจ เก็บเกี่ยวความคิด ถึงฉันไป ให้เธอที่ปลายฟ้าไกล คิดถึงเพียงเธอ ในใจฉัน คิดถึง เพียงเธอ ไม่มีคำใด จะแทน จิตใจ มากมาย เท่าคำ นี้เลย ดาวน้อยดาวน้อย โปรดลอยมาลง ตรงหัวใจ เก็บเกี่ยวความคิด ถึงฉันไป ให้เธอที่ปลายฟ้าไกล คิดถึงเพียงเธอ ในใจฉัน คิดถึง เพียงเธอ ไม่มีคำใด จะแทน จิตใจ มากมาย เท่าคำ นี้เลย ดาวน้อยดาวน้อย โปรดลอยมาลง ตรงหัวใจ เก็บเกี่ยวความคิด ถึงฉันไป ให้เธอที่ปลายฟ้าไกล ปลายฟ้า...
25 มกราคม 2551 14:10 น. - comment id 815269
ทวนทะเล..ท่องทะเล..! http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song5535.html (ทะเลใจ) .......................... ผม.. กำลังรื่นรมย์กับทัศนียภาพตรงหน้า ฟ้าสีฟ้าใสกระจ่าง งามเข้ม ทะเลกว้างมีเรือลอยลำ...รับอรุณไม่กี่ลำ และ ราวสระว่ายน้ำส่วนตัวกำลังรอคน..ลงแหวกว่าย เม็ดทรายกำลังอ้อนสายลมและทิวคลื่น เสียงทิวมะพร้าวซัดส่ายร่ายระบำราวรอวันเริ่มต้นใหม่ในชีวิต ผม..พาตัวเองเดินไกลลิบ...มาจากระท่อมที่พัก กับสุนัขผู้พิทักษ์ใจ*เจ้าอารี* ลมทะเลพัดพรายให้ร่างและหัวใจผมหนาวสะท้านหากทว่าแสนสดชื่น ผม..วิ่งล้อคลื่นเล่นอย่างแสนสุขสมกับเจ้าอารีเพื่อนยาก แล้ว หัวเราะเอิ๊กอ๊ากอย่างถูกใจเมื่อเจ้าอารีเสียหลัก แล้วต้องลงไปนอนแช่...ในน้ำทะเลอุ่นๆ ผม... ถอดเสื้อกล้ามสีขาวกับกางเกงชาวเลสีน้ำตาลออกจากร่าง เหลือเพียงกางเกงในว่ายน้ำตัวจิ๋วแสนวาบหวาม อย่างไม่กลัวว่าใครจะตื่นมาเห็น เพียงอยากปลุกทะเล ที่กำลังหลับไหลให้ตื่นมาดูคนกับสุนัข ที่กำลังพากันมาทายทักทะเลงามในยามอรุณรุ่ง ผม...ว่ายน้ำออกไปไกลจากฝั่งเรื่อยๆ ราวทดสอบพลังคนหนุ่มนักกีฬา ที่กล้ามเนื้อทั้งร่างและขาแสนแข็งแรง อาศัยกีฬาในร่ม*แบดมินตัน* ที่ผมชอบเล่นทุกวัน กับสมาชิกพรรคคนหนุ่มวัยมันส์ ที่..พากัน ไม่เสพสุนทรีย์ทั้งเหล้า ยานารี หากหันมาสนใจเกมกีฬาแทน หลายปีมานี้ ชีวีผมก็เวียนว่ายไม่กี่ที่ ที่ทำงาน และบ้าน หรือคือ... อพาร์ตเมนต์..เรียบโล่ง ที่ผมทนมีสมบัติไม่ได้หากเกินกว่าของใช้จำเป็น หนังสือธรรมะ ที่ผมแสนหวงแหน และ หนังสือท่องเที่ยวหรือหนังสือนานา ที่พอล้นตะกร้าผมก็บริจาคออกทันที เป็นเพราะผมไม่นิยมสะสะมวัตถุใดให้รกรุงรัง ให้ต้องพะว้าพะวังห่วงหา และ ไม่แม้กระทั่งหยาดเลือดและร่างผม ที่ขอบริจาคไปกับโรงพยาบาลเอาไว้เรียบร้อยแล้ว... และ นี่คือ ผม..คนหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรง ที่จิตภายในราวกับ พระเจ้าแกล้งให้ผมเกิดมาผิดยุค... ผมน่าจะเกิดในยุคต้นๆรัตนโกสินทร์ ค่าที่ผมถวิลหา แต่เรื่องโบราณบ้านเรือนที่ยังเงียบงามสงบสุข ริมสายน้ำเจ้าพระยา มีบางคราที่ผมนั่งเรือลอยล่องไปตามสองฝั่งฝัน แล้วพลันเมื่อผมทอดทัศนาเห็นตึกโบราณ ในจิตวิญญาณผมราวได้ยินเสียงมโหรีไทยขับกล่อม ในยามมีงานมงคล ลอยลมแว่วมา และ ในคลองดวงวิญญาญ์ ผมมักจะมองเห็นภาพหญิงงาม ใส่ชุดผ้าซิ่นไหมเรียบง่าย...มุ่นมวยผม พันเกล้าด้วยดวงดอกไม้แสนหวาน กำลังนั่งตรงชานไม้ในศาลาท่าน้ำ ราวรอรับคนที่รักขึ้นมา..จากเรือกลับบ้าน ผมสัมผัสได้กระทั่ง คำพูดหวานๆกระซิบเบาๆ ยามเธอพบคนที่รัก ว่าเธอ.. นางในฝัน นางใจแห่งความปราถนาอยากภักดิ์พลีของผม คงจะทั้งงามใจ งามน้ำคำ งามกิริยาอันอ่อนละมุนนัก และ นี่คือเหตุผล..จนวันนี้ ที่ผม..หาคนรักที่รู้จักรู้ใจ และ รักความเป็นไทยโบราณหวานละมุน อย่างใจดวงหอมกรุ่นละไมอย่างใจผมคิดหวัง มิได้ ช่างมันเถอะนะ เพราะ ตั้งแค่ผมหันหน้าเข้ามาศึกษา*ธรรมะอย่างเอาจริงเอาจัง ผม..ก็ยิ่งไม่อยากมีรัก อันคือแอกหนักทุกข์หนักยิ่งกว่าสิ่งใด ในหล้าโลก แม้นพระพุทธองค์ ยังค้นพบทางสายโศกสายเศร้านี้ก่อนตัดสินใจหนีออกบวช แล้ว.. ผม..ยังจะยอมเหน็บหนาว เดินไปในเส้นทางสายพันธนา ให้เสียเวลาทำไม... ในเมื่อผม..ไม่เหงาใจ ไม่เคยเลยแม้สักครั้งเดียว เมื่อเหลียวไปพบเห็นผู้คนรายรอบ ที่กำลังเผชิญหน้าทายท้ากับความทุกข์มากสุขน้อย ในทางสายโลก ที่หาใช่เป้าหมายแห่งชีวีผมไม่ ที่ขอเลือกชีวี ให้ดำเนินแผกไปในเส้นทางสีขาวแทน เส้นทางที่แสนสะอาด สว่างสงบ และ หวังพาพบฝั่งฝันในมโนคติ ที่ผมมิเคยวาดหวัง ว่าจะนานสักกี่กัปป์กัลป์ ขอเพียงชาตินี้นั้นให้ผมได้เริ่มต้น ราวปลาว่ายทวนน้ำเหนือกระแสกรรมกิเลสโลกย์ มิว่ายตามตามกันไป สู่ห้วงมหรรณพใหญ่ ไปเป็นอาหารปลาในท้องทะเลลึกทะเลโลกย์ อย่างแสนน่าโศกเศร้า มิรู้จบรู้สิ้น.... ................ ผม.... นอนลอยตัวเหนือฟองคลื่นอย่างระริ่นรมย์ แล้ว ทำจิตใสผสานผสม ราวลอยไปในสายลมและมวลเมฆบางเบา อย่างมิเหงางาม หากเงียบร้างไร้ ได้ยินเพียงเสียงหัวใจเต้น ผมหยุดความคิดทุกอย่างวางไว้อย่างวางว่าง กับฟ้ากระจ่าง กับเมฆแสนหวานใส กับลมระรวยระรินกับกลิ่นทะเลทะเล และกับจิตไม่ไหวเหเรรวนไปกับคลื่นอารมณ์ ผม..นอน..ดูอณูละเมียดแห่งลมหายใจ จนในที่สุด ราวร่างผมไร้น้ำหนัก ราวกับนกไพรใจอิสรา กำลังยกตัวผกโผผิน บินไปในฟ้ากว้าง อย่างอ้างว้าง หากสง่างาม... เมื่อมองลงมา ในท่ามทะเลโลกย์ที่ผู้คนนับอนันต์โศกลอยคอ รอเพียงวันตายไปวันวัน... อย่างมิรู้ทันเท่าในหนาวเหน็บแห่งบ่วงพันธนา... ที่จะมัดพารัดรึง...ตอกตรึง ให้ดวงจิตวิญญาณปานประหนึ่งนักโทษรอประหารเช่นฉะนั้น.....!!!!!!!!!!! ............ http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song5535.html ทะเลใจ แอ๊ด คาราบาว แม้ชีวิตได้ผ่านเลยวัยแห่งความฝัน วันที่ผ่านมา ไร้จุดหมาย ฉันเรียนรู้เพื่ออยู่ เพียงตัว และจิตใจ เป็นมิตรแท้ที่ดี ต่อกัน เหมือนชีวิตผันผ่าน คืนวันอันเปลี่ยวเหงา ตัวเป็นของเรา ใจของใคร มีชีวิตเพื่อสู้ คืน วันอันโหดร้าย คืนนี้ตัวกับใจ ไม่ตรงกัน คืน นั้น คืน ไหน ใจแพ้ตัว คืนและวันอัน น่า กลัว ตัวแพ้ใจ ท่ามกลางแสงสี ศิวิไลซ์ อาจหลงทางไปไม่ยาก เย็น คืน นั้น คืน ไหน ใจเพ้อฝัน คืนและวันฝันไป ไกลลิบโลก ดังนกน้อย ลิ่วล่องลอย แรงลมโบก พออับโชค ตกลงกลาง ทะเลใจ ทุกชีวิตดิ้นรน ค้นหาแต่จุดหมาย ใจในร่างกาย กลับไม่เจอ ทุกข์ที่เกิดซ้ำ เพราะใจนำพร่ำเพ้อ หาหัวใจให้เจอ ก็เป็นสุข คืน นั้น คืน ไหน ใจแพ้ตัว คืนและวัน อัน น่า กลัว ตัวแพ้ใจ ท่ามกลางแสงสี ศิวิไลซ์ อาจหลงทางไปไม่ยาก เย็น คืน นั้น คืน ไหน ใจเพ้อฝัน คืนและวันฝันไป ไกลลับโลก ดังนกน้อย ลิ่วล่องลอย แรงลมโบก พออับโชค ตกลงกลาง ทะเลใจ แม้ชีวิตได้ผ่าน เลยวัยแห่งความฝัน วันที่ผ่านมา ไร้จุดหมาย ฉันเรียนรู้เพื่ออยู่ เพียง ตัวและจิตใจ เป็นมิตรแท้ที่ดี ต่อกัน ฉันเรียนรู้เพื่ออยู่ เพียง ตัวและจิตใจ เป็นมิตรแท้ที่ดี ตลอดกาล...
25 มกราคม 2551 14:19 น. - comment id 815273
เพิ่งรู้ว่าร้อยเอ็ด มีทะเล นะนี่
25 มกราคม 2551 14:22 น. - comment id 815274
สวัสดีครับน้องฤกษ์ มาชมกลอนไพเราะเหมือนเดิมนะครับ
25 มกราคม 2551 15:47 น. - comment id 815312
ผู้ชายพายเรือ.....ไม่น่าเชื่อหรอก. เคยได้ยินมั๊ย..............ผู้หญิงยิงเรืออ่ะ...วันหลังเกาะห่วงยางมาดิ...อิอิ
25 มกราคม 2551 18:14 น. - comment id 815400
ขอมีนเกาะท้องเรือไปด้วยคนนะค่ะ เผื่อจะเจอรักแท้ เหอะๆ
25 มกราคม 2551 21:17 น. - comment id 815444
ล่องไปล่องมา คงพบสักครา ความรักเล่หา แก้วตายาใจ.. เกาะไปด้วยคนจิ..
25 มกราคม 2551 21:30 น. - comment id 815453
ระวังหินโสโครกนะคะ ติดหล่มเลยล่ะ
25 มกราคม 2551 22:05 น. - comment id 815482
โห คุณหลานฤกษ์ หากได้ท่องกับ น้าพุดก็ คงสุขีสโมสร แหละค่ะ พุดจ๋าสวัสดีค่ะ และ สวัสดีเพื่อน ๆ ทุกคนที่นี่ด้วย
26 มกราคม 2551 07:56 น. - comment id 815576
ท่องทะเลเร่หารัก...แล้วเจอรึยังคะ
26 มกราคม 2551 10:34 น. - comment id 815644
มุขร้อยเอ็ด คุณ ป ก็แย่งไปแว้ว ง้านขอเกาะลำเรือไปหามุขใหม่ด้วยคนละกาน อิอิ
26 มกราคม 2551 21:53 น. - comment id 815747
เจอมากี่คนแล้วคะ...เลือกได้แล้วหรือยัง...
28 มกราคม 2551 18:04 น. - comment id 816366
..ท่องทะเล..เร่หารัก...เจอหรือยังคะ...ถ้ายังไม่เจอ...แม่หมอ..จะช่วยดูให้นะ...ว่าเนื้อคู่คุณฤกษ์..อยู่ที่ใด???...แต่ตอนนี้..แม่หมอเดาว่า...สงสัยจะยังไม่เกิด..อ่ะนะ...แหะ..แหะ...!!!