ระชวยโชยโบยพลิ้วผะผิวแผ่ว กังวานแว่วอื้ออึงตรึงสดับ ไหวไหววาบผัสสาแล้วลาลับ ยะเยือกหนาวหนึ่งซับโดยชีวา ณ เรือนดาวพราวระยิบกระพริบห้วง เด่นเสี้ยวดวงเดือนแหว่งขึ้นแต่งฟ้า หอมกลิ่นโศกลั่นทมยามลมพา เหน็บหนาวห้วงมรรคาแห่งสัญจร มโหรีปีพาทย์เริ่มวาดเสียง โศกสำเนียงผ่านใจอันไหวอ่อน โหยสดับในคราแห่งอาวรณ์ ห้วงระทมรอนรอนโดยแรงร้าว หอมเอย หอมลั่นทม ยามสายลมพัดชื่นในคืนหนาว ทิ้งกลีบร่วงเป็นซากลงตากดาว แลเกลื่อนพราวขาวพร่างอยู่กลางลาน ดอกน้ำค้างวางหยอกบนดอกหญ้า ดอกน้ำตาใสใสรินไหลผ่าน พญาโศกตรึงซับขับห้วงกาล กล่อมดวงมาลย์ ....... สู่สุขคติ ... อันนิรันดร์.... ------------------------ ลานเทวา
13 ธันวาคม 2550 16:04 น. - comment id 799067
โอ้......
13 ธันวาคม 2550 04:18 น. - comment id 799386
สวัสดีค่ะคุณลานเทวา เวลาป่านนี้ยังไม่นอน อีกหรือคะ ใช้ภาษาได้งดงามมากเหมือนดอกไม้ไหว และพลิ้วเหมือนริ้วคลื่น เก่งมากๆค่ะ จะดูไว้เป็นแนวทาง แต่ยากที่จะเหมือน ขอเพียงซักครึ่งนึงก็พอนะคะ
13 ธันวาคม 2550 04:21 น. - comment id 799387
อีกครั้งนึงนะคะ ซักครึ่งก็คงไม่ได้ ขอซัก เศษเสี้ยวก็แล้วกันนะคะ มีเทคนิคในการ แต่งอย่างไรบ้างค่ะ
13 ธันวาคม 2550 07:05 น. - comment id 799396
ยอดเยี่ยมครับ คุณลานเทวา พญาโศก ให้ความรู้สึก เงียบ สงบ นิ่ง
13 ธันวาคม 2550 08:19 น. - comment id 799413
เด่นระยับ ซับทรวง ในห้วงคิด ช่างจับจิต ติดใจ ใยโหยหา น้ำตาฟ้า ราดรด หมดอุรา สรวงสุดา ลาจาก มากโศกตรม แวะมาสวัสดียามเช้าครับ
13 ธันวาคม 2550 09:25 น. - comment id 799425
อ่านแล้วซาบซึ้งตามบทกลอนเลยค่ะ.....
13 ธันวาคม 2550 09:55 น. - comment id 799432
พญาโศกตรึงซับขับห้วงกาล กล่อมดวงมาลย์ ....... สู่สุขคติ ... อันนิรันดร์.... คือที่สุดค่ะ
13 ธันวาคม 2550 10:24 น. - comment id 799448
โศกตามไปเลยค่ะ
13 ธันวาคม 2550 11:34 น. - comment id 799474
โศกจริงๆๆคะ
13 ธันวาคม 2550 11:41 น. - comment id 799479
เป็นงานชั้นครูที่งดงามละมุนละไม ครับ ยอดเยี่ยมครับ ไหวพลิ้วเหมือนน้ำค่อยๆริน
15 ธันวาคม 2550 04:19 น. - comment id 800120
คนอะไร ฝีมือจัดจ้านจริงๆ อายุก็ไม่เท่าไหร่เอง แล้วจะติดตามผลงานการเขียนที่เป็นหนังสือนะคะ ขอบคุณที่แนะนำให้ศึกษางานการเขียนจากคนเก่งๆ อ่านมากๆ และเขียนมากๆ ก็เลยจัดแจงปริ๊นซ์ของคุณคนลานเทวาไว้ศึกษาเลยค่ะ ก็ได้แค่อ่าน แต่ยากที่จะทำได้เหมือน