๏ ดังเยื่อยุดฉุดใจโยงใยมั่น จึงผูกพันผูกภักดิ์รักเสมอ แม้หนทางห่างไกลไม่พบเจอ ยังพร่ำเพ้อพร่ำถึงคะนึงครวญ ดังเยื่อยุดฉุดทรวงให้ห่วงน้อง ถึงห่างห้องห่างไกลใจนึกหวน ยามเชยชิดสนิทเจ้าเร้ารัญจวน ยิ่งปั่นป่วนปั่นจิตยากปลิดวาย เยื่อใยรักใยร้อยใยสอยรัด เยื่อใยมัดใยขันใยมั่นหมาย เยื่อใยลอดใยสอดใยกอดกาย เยื่อใยคล้ายใยคล้องใยครองเรา ดังเยื่อยุดฉุดจิตสนิทแล้ว ยามคลาดแคล้วคลาไคลยิ่งใจเหงา ละเมอเพ้อเผลอเหม่อหวังเจอเงา ประโลมเล้าล้างจิตคิดถึงเธอ ๚
20 กุมภาพันธ์ 2545 01:16 น. - comment id 36433
ใยรักใยสวาทมัดใจแล้ว ตัดดวงแก้วจากใจไปไหนหนอ ใยสวาทหวามไหวทุกวันรอ ไยทดท้อพ้อระทมอยากเป็นจริง!
20 กุมภาพันธ์ 2545 01:30 น. - comment id 36434
ใยเยื่อเยื่อใยขาดใยเยื่อ ใจเชื่อเหยื่อใจใหลหลง เหยื่อรักเหยื่อรอเหยื่อมั่นคง เหยื่อทรนงตัดใจไม่เหลือใยให้ค้างคา!
20 กุมภาพันธ์ 2545 03:03 น. - comment id 36446
เยื่อใยเต็มไปหมดเลยจ้า....
20 กุมภาพันธ์ 2545 11:10 น. - comment id 36471
คำนี้ มันให้ความรู้สึก ลึกซึ้ง กว่าคำว่ารักอีกนะ เจทท์ว่า เป็นคำดีๆ ฟังแล้วรู้สึกดีจัง อ่านแย้วคิดถึงแควน เหอๆ
20 กุมภาพันธ์ 2545 13:47 น. - comment id 36505
นาน ๆ ครั้งแต่งกลอนรัก แต่ก็ยังไพเราะเหมือนเดิมครับ
20 กุมภาพันธ์ 2545 20:58 น. - comment id 36543
เป็นกลอนรักที่ไพเราะมากเลยค่ะ
21 กุมภาพันธ์ 2545 00:28 น. - comment id 36562
กลอนนี้ เรียกว่า กลอนกลโรงทอผ้า 555 เพราะมีแต่เยื่อ มีแต่ใย