** นิราศภูเรือ ** ๏ สะดุ้งตื่นจากนอนตอนตีสี่ หลับตาลุกถูกเขย่าเฝ้าราวี แม่ยาหยีร้องลั่นบ้านแทบพัง ตาลืมโพลงโยงโย้เซโซทรุด อยากจะมุดผ้าห่มภิรมย์สังข์ ดังระนาดปี่กลองฆ้องประดัง ปิดความหวังดั่งคิดบิดกายพลัน ซัดโซเซเหหันผลุนผันหนี หลับตาปรี๋ห้องน้ำยังซ้ำฝัน ว่าโลมเร้าเคล้าคลอวิลาวัลย์ ช่างเสกสรรแก้มนวลชวนมัดจำ โอ้ละหนอจ้อเสียงสำเนียงแว่ว กลบคำแผ่วด้วยเพลงบรรเลงขำ ระริกรื่นชื่นหวานผ่านเงื่อนงำ เสียงเตือนย้ำดั่งนาฬิกาพาลุกลน แต่งกายหล่อปานเทพเหน็บกล้องไว้ หยิบกระเป๋าใส่สตางค์พลางสับสน เบิกตามองแสนเพลียละเหี่ยทน ความยากจนนี่หนอพ่อไม่รวย โขยกเขยกขึ้นรถตู้สู่เบื้องหลัง เก็บของยังใต้เบาะเลาะเล็มสวย เชิดหน้ายิ้มพริ้มพรายไร้งงงวย ดุจถูกหวยสองตัวด้วยเคียงนารี ยิ้มทายทักประจักษ์ไว้คล้ายนักร้อง สำเนียงซ้องดัดจริตคิดเสียดสี ลืมตัวว่าเราชราซ่าเปรมปรีดิ์ เกษมศรีปลายทาง ณ ไฉไล ช่างแต่งองค์ทรงเครื่องประเทืองยศ อิริยาบถอ่อนช้อยย้อยสดใส ไพเราะซึ้งตรึงห้วงสู่ทรวงใน งามวิไลยิ่งกว่าวิลาวัลย์ฯ ๏ รถกระชากคว่ำหน้าเข้าหาเบาะ เสียงดังเผลาะหยุดใจภายในฝัน เสียงหัวเราะเพราะแผ่วแว่วกำนัล ใบหน้าฉันแดงฉานดั้นตะวัน อารมณ์เหลิงพลิกผันพลันพินาศ สายตาวาดหน้าต่างสร้างเหหัน ความคาดหวังพังทลายมลายพลัน หนาวตัวสั่นรถเหาะเลี้ยวเลาะวน เรามาเที่ยวหรือมาตายอย่างไรแน่ ที่แท้แท้นั่งท่องสมองสับสน พุทธโธ่หรืออรหังช่างกังวล เวียนสับสนแก่เราเฝ้าไตร่ตรอง พิจารณาหญิงข้างแล้วนั่งฝัน วิลาวัลย์จริงหนอยากต่อสนอง เขานั่งนิ่งอิงหลับประคับประคอง เราสอดส่องอมยิ้มพริ้มข้างทาง อันรถเลี้ยวเคี้ยวคดทางลดเลี้ยว ประเดี๋ยวเดียวผ่านพ้นจนฟ้าสาง แต่ใจคดมากำหนดจรดวาง ยิ่งกว่าทางเคี้ยวคดหมดเรืองรอง สองตาแลข้างทางระหว่างเฝ้า หัวใจน้าวคราวมาผวาผยอง อุบัติเหตุเกิดได้ไร้ใฝ่ตรอง คึกคะนองประมาทสาดฤทธิ์เมา นี่แหละหนอชะตาใฝ่หาลิขิต ถูกความคิดคนเราเฝ้ามัวเขลา นึกว่าเก่งเลิศเลอละเมอเงา ที่คอยเฝ้าหลอนหลอกยอกใจเอง แม้แต่สองข้างทางระหว่างหิน ก็ยังสิ้นสูญหายไม่กระฉับกระเฉง ผ่าหินผาออกไปให้วังเวง เป็นช่องเคว้งไขว่คว้างสร้างทางเดินฯ ๏ นึกถึงนางข้างเคียงเบี่ยงตากลับ เขายังหลับซบไหล่ให้กับเขิน แนบอุ่นไอในสาวเฝ้าเพลิดเพลิน หล่อนคงเมินตื่นมาพะว้าพะวง จนละเมอเพ้อพกตกย้อนหลัง เมื่อยังครั้งเป็นหนุ่มกริ่มกรุ่มหลง ท่องเที่ยวไปในวนาฝ่าไพรพง กับนางอนงค์เคียงคู่สู่ภิรมย์ บัดนี้เล่ามีสาวเคล้าเคียงข้าง สิ่งอ้างว้างได้เขาเฝ้าเสกสม ลบเป็นบวกบวกลบทบระทม แต่ขอชมหล่อนงามยามนิทรา ถอนหายใจไร้คิดจิตวกกลับ เฝ้านั่งนับหลักทางสร้างสิ่งหา รถแล่นไปในถนนยลนภา อีกใฝ่หาแมกไม้ผกากรอง ยากคบไม้ริมทางระหว่างผ่าน ต้นไม้นั้นไร้ดอกล้อใจสยอง ป่าทั้งผองถูกเผามาเข้าครอง สิ่งเรืองรองสูญหายในฉับพลัน หันมายิ้มพริ้มพรายใบหน้าเหรอ ที่แท้เธอคือเมียเคลียเสกสรร ตาเราฝาดหลงคิดจิตจำนรรจ์ ความมืดนั้นหันมองต้องกระไร เธอหันมองริมทางระหว่างผ่าน แล้วยิ้มหวานกล่าวถ้อยหยดย้อยใส ต้องซาบซึ้งตรึงแนบแปลบข้างใน อยากย้อนไปสู่อดีตบิดบั่นทอน กาลเวลาพาไปมิได้ฉงน เกือบทุกคนเหมือนเราที่เฝ้าหลอน ช่างเถิดหนอเวลามาลิดรอน มิอาจย้อนคืนกลับนับโรยลาฯ ๏ ใช้ชีวิตตอนปลายให้มีสุข ปราศจากทุกข์อย่าเข้าเฝ้าใฝ่หา วันเดือนปีพ้นผ่านสรรค์สิ่งมา น้อยนิดหนาตัวเราเฝ้ารำพึง รถวิ่งผ่านสระบุรีมีแต่หิน เขาไร้สิ้นความงามที่ยามถึง จนพ้นผ่านลพบุรีศรีคะนึง ต้องซาบซึ้งตลึงลานดอกทานตะวัน นึกถึงสาวแรกแย้มแซมสิ่งซึ้ง คิดรำพึงวันเวลามาเหหัน ดุจดอกไม้ห่อเหี่ยวเลี้ยวหากัน แล้วก็พลันเปลี่ยนแปลงแสยงตน ผ่านจังหวัดมากมายทั้งซ้ายขวา ตลอดเวลาวกวนจนสับสน สาวข้างเคียงมุ่งหลับกับเสียงกรน แต่ต้องทนแสร้งยิ้มอิ่มเอิบใจ รถขึ้นเขาลงห้วยด้วยลดเลี้ยว ทำให้เสียวอารมณ์ข่มสดใส หูกริ๊งกร่างดั่งระฆังอยู่ข้างใน หวั่นหทัยวาบหวิวปลิวโอนเอน ใช้เวลาบนเขาเฝ้าคิดหวั่น บ้างครั้งสั่นอื้ออึงคำนึงเห็น หูสองข้างรบกันผ่านลำเค็ญ บ้างครั้งเต้นอื้อสนิทฤทธิ์ฤาชา สักพักหนึ่งถึงยอดเอาตอนค่ำ วิบากกรรมเข้าซ้อนยอกย้อนหา เช่าที่พักเป็นเต็นท์มิเด่นตา มากหินผาใหญ่เล็กใต้ที่นอน พอรู้ว่าเต็นท์เราหัวเข้าเสือก มิได้เลือกสะดุ้งโหยงตัวโก่งหอน เสียงโหวกเหวกตามเข้าเฝ้าลิดรอน แม่งามงอนร้องบ้างช่างซะจริงฯ ๏ เพราะเช่าเขามิเลือกสถานที่ เหตุเช่นนี้นอนไปคล้ายผีสิง เดี๋ยวต้องลุกพลิกตื่นฝืนจริงจริง ดุจดั่งลิงวุ่นวายไม่เป็นนอน ต้องลุกขึ้นออกไปร่วมสังสรรค์ มิมีจันทร์เหลือดาวเคล้าสลอน ระยิบสลับนึกย้อนอ้อนวิงวอน แอบยลตอนหนุ่มสาวหยอกเย้ากัน อากาศยิ่งตอนดึกระลึกหวน อารมณ์ป่วนนั่งมองตรองสิ่งฝัน พลิกสั้นยาวสะท้อนตอนผูกพัน วิวัฒน์กาลหวนเคล้าหยอกเย้าดาว ก่อนมานั้นพรั่นใจให้นึกหวั่น เขาว่ากันหนาวยิ่งต้องอิงสาว เรามิมีอย่างว่าต้องคว้าเงา สร้างเรื่องราวอารมณ์หวิวพลิ้วล่องลอย ลุกขึ้นเดินดูเต็นท์ที่เห็นสร้าง ดั่งเห็ดวางเรียงรายลานใช้สอย บ้างเขียวดำแดงสลับกับเชิงดอย มิเหลือรอยโขดหินถิ่นภูเรือ เกือบทุกเต็นท์ร้องเพลงบรรเลงแว่ว บ้างเสียงแจ้วเสียงโฮกคล้ายโลกเสือ มีเต้นรำเบียร์เหล้าเคล้าจุนเจือ อ้วนเรือเกลือผอมซากมากอารมณ์ เหมือนฟ้าดินสงสารแก้วแน่แล้ว ให้เพริศแพรวมีสนุกและสุขสม เหลือแต่เพียงอากาศพาดภิรมย์ เพียงเย็นข่มแก้วน้อยพลอยเพลินตา เดินท่องไปคล้ายนิยายในโลกเก่า คนแคระเล่ากับฝรั่งมาหรรษา ทั้งใหญ่เล็กเด็กน้อยพลอยกันมา วิทัศนาสร้างสรรค์สั่นฤทัยฯ ๏ หันหลังกลับนำไวท์มาใส่แก้ว ยกดื่มแล้วชุ่มชื่นระรื่นใส นั่งคนเดียวฟุ้งเฟื่องเรื่องคนไกล นำมาใส่อารมณ์บ่มสิ่งชวน นำมาฝันพรรณรายรำพันใส่ สร้างสิ่งไว้ก่อเกิดบรรเจิดสรวล ล้วนหวังหวานอิงแอบแนบเนื้อนวล ฤทธิ์ไวท์ล้วนซาบซึ้งตรึงคนงาม อันภูเรือนี้หนอพอประจักษ์ ล้วนที่กักของคนจนล้นหลาม มีทุกรุ่นกรุ่นหนาวเฝ้าภูยาม จนล้นหลามภูดอยมิน้อยเลย อันเมืองเลยเผยไว้อีสานเหนือ ล้วนเหลือเฟือคนงามยามเฉลย สำเนียงกึ่งอีสานปนเหนือเมื่อเปรย ยากละเลยหากพบประสบมอง พอพ้นคืนตื่นมองต้องลาแล้ว ภูเรือแก้วขอจรมิย้อนสนอง มุ่งเลียบโขงไหลลงดังผงทอง ระหว่างสองประเทศเขตพรมแดน สู่หนองคายย้ายเข้าเว้าอุดร หลงยอกย้อนเวียนวนทนเหลือแสน ผ่านขอนแก่นแล่นไปให้แกนแกน นองเนืองแน่นผู้คนจนฟ้าค่ำ เข้าเขตเมืองย่าโมโผล่เลียบข้าง สองข้างทางมืดมิดปิดงามขำ ที่มีรักประจักษ์ไว้ในความจำ ช่างเลิศล้ำน้ำใจในหญิงงาม รอนแรมสู่กรุงเทพเขตเมืองเทพ แทบอักเสบกายาหาเกรงขาม เพลิดเพลินไปในถิ่นทุกเขตคาม ถึงบ้านยามตีสองครองสวัสดีเอย.ฯ *** แก้วประเสริฐ. ***
11 ธันวาคม 2550 21:06 น. - comment id 798913
เมืองดอกไม้แสนงามในยามนี้ เมืองเลยมีไม้งามยามหน้าหนาว สองถนนดอกไม้ออกดอกพราว เพราะถึงคราวดอกไม้บานตระการตา คลื่นทะเลเห่กลอ่มล้อมภูผา สุดสายตาคลื่นเป็นชั้นนั่นละหนา ลุงมาเยี่ยมดีใจใคร่ปรีดา ชาวเลยพาสุขใจได้อวดเมมือง.. ดีใจจังเลยค่ะที่ลุงมาเยี่ยมเมืองเลย ภูเรือหน้านี้ดอกไม้สวยงามมากค่ะ เพื่อนๆคนใดสนใจเที่ยวงานไม้ดอกเมืองหนาว ขอเชิญนะคะวันที่ 29 -31 ธันวาคมค่ะ ดอกไม้บ้านสะพรั่งสองริมฝั่งถนน ตั้งแต่ทางเข้าภูเรือ..จนจะออกขากภุเรือ.
11 ธันวาคม 2550 21:14 น. - comment id 798919
จ๊ะเอ๋ คุณแก้วประเสริฐ .. อัลมิตรากับเพื่อน ๆ กลับมาจากเชียงใหม่แล้ว ไปบริจาคของบนดอยกันมา ตอนแรกว่าจะชวนคุณแก้วประเสริฐไปเหมือนกัน แต่คิดอีกที คิดว่าที่นั่นคงไม่เหมาะสำหรับคุณแก้วประเสริฐ เพราะช่วงหลังคุณแก้วประเสริฐมักจะเจ็บขา อีกอย่างอากาศที่นั่นหนาวเหน็บ เกรงว่ากลับมาแล้วจะไม่สบายเสียเปล่า ๆ ทำให้อัลมิตราเป็นห่วงมากกว่าเดิมอีก มีรูปมาฝากแยะเลย แต่ตอนนี้ยังเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางอยู่ และมีเรื่องงานที่คั่งค้างอยู่รอให้ปฏิบัติภาระกิจให้แล้วเสร็จเสียก่อน ยังไงก็ต้องดูแลสุขภาพด้วยนะคะ กรุงเทพฯเดี๋ยวร้อน เดี๋ยวหนาว .. ทำอย่างกะว่า กรุงเทพฯเหมือนผู้ชายวัยทองเนอะ ..วูบ ๆ วาบ ๆ ชอบกล .. ฮา ก้อยฝากความคิดถึงมาให้ อัลมิตราหอบมาส่งให้ถึงที่แล้วค่ะ ปล.เดินทางไปฮันนีมูนที่ภูเรือ ก็ไม่บอก นึกว่าหายเงียบไปนอนขดที่ไหนเสียอีก .. แหะ แหะ
11 ธันวาคม 2550 21:39 น. - comment id 798923
คุณ ครูพิม ผมไปคราวนี้พักที่ยอดภูหนึ่งคืน ตอนกลางวัน ท่องเที่ยวไปรอบเมืองเลยครับ ยังนึกถึงคุณและคุณ แสงไร้เงาด้วย หากมีไกด์ดีๆเช่นนี้คงจะได้เรื่องราว มาก จึงเขียนได้แค่นี้ครับตามที่ตาเห็นครับ บอกว่า คนเมืองเลยไม่ใช่ว่าสวยนะครับ จิตใจยังงดงามด้วย อิอิ จริงๆนะครับ อากาศสดชื่นสุดยอดครับ ตอนอยู่หายใจโล่งไม่ต้องทานยาเลยครับ ขอขอบคุณครับ แก้วประเสริฐ.
11 ธันวาคม 2550 21:51 น. - comment id 798928
คุณ อัลมิตรา สวัสดีครับยอดหญิง ผมก็พึ่งกลับมาถึงวันนี้เอง ครับตอนตีสองกว่าๆหน่อย คุณเก่งจริงๆไปไหนได้ สดวกผมเองบอกว่าสุขภาพตอนนี้แย่มากครับ บอก ก้อยด้วยครับว่าคิดถึงเสมอๆครับไม่ได้เจอกันนาน แล้วและคุณด้วย นี่ไปเพราะถูกบังคับครับ ปกติผม จะตอบพรุ่งนี้ครับ นี่ยอดหญิงมาเลยต้องทิ้งความคิด ชั่วคราวครับ ผมยังคิดถึงระลึกถึงตลอดเวลาครับ ขอบคุณมากที่แวะมาเยี่ยมครับ ขอขอบคุณมาก ครับหวังว่าคงจะมีโอกาสได้สังสรรค์อีก ตอนทาน ไวท์ผมยังนึกถึงคุณเลยครับ คืนนั้นหมดไป 2 ขวด แล้วไปพักที่ริมโขงรีสอร์ตตรงคุ้งน้ำ สวยงามมาก ครับสวยจริงๆเหมือนทะเลสาบเลย น้ำไหล กระทบชายฝั่งเหมือนไปเที่ยวทะเลจริงๆครับ เขาจัดสถานที่ได้ยอดเยี่ยมจริงๆมีสระน้ำอาบ และต้นไม้ประดับออกดอกสวยงดงามมากครับ นึกชื่อไม่ออกแต่ว่าว่าขึ้นต้นว่า"เชียง"ครับ อาหารที่เขาขายสุดยอดเลยอร่อยมากไม่แพงด้วย เหมือนอาหารกรุงเทพไม่ผิดเพี้ยน กุ้งฝอยทอด เยี่ยมยุทธเชียวล่ะ อีกหลายๆอย่างครับ คืนนั้น ที่นี่หมดไวท์ไปอีก 3 ขวด เขาเอามาให้อีกบอก ตรงๆว่าตั้งแต่ทานไวท์มาขวดที่เขาให้นี่สุดเยี่ยม นุ่มๆๆชุ่มคอ เขาบอกให้เปิดทิ้งไว้ประมาณครึ่ง ชั่วโมง หอมมากครับ ขวดนี้ผมทานคนเดียว อิอิ นอกนั้นแบ่งกันทานฮ่าๆๆๆตามธรรมเนียม ทานไปนึกถึงพวกเรา รับปากเขาว่ากลับมาจะมา แต่ง "นิราศ"ให้อ่านเขาบอกอย่างงั้น พอวันนี้ ยังไม่หายเหนื่อยนะนั่งแต่งจนจบกลัวลืมตาม ประสาคนแก่ทั่วๆไปแหละครับ พอแต่งเสร็จ ทานหน่อยส่งปั๊บเลย ฮ่าๆๆๆ คนแก่ไฟยังแรง อิอิ ขอบคุณยอดหญิงมากครับขอบคุณ บอกก้อย ด้วยคิดถึงนึกถึงใบหน้าได้ตลอดเวลา ฮ่าๆๆๆ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
11 ธันวาคม 2550 22:32 น. - comment id 798941
.. เรนอิจฉาจัง.. แว้ป
11 ธันวาคม 2550 22:45 น. - comment id 798946
ดีเจ้าคะคุณลุงแก้ว..เด๋วพิมว่าจาลงไปแอ่วภูเรืออะคะ..(แว่บไปหาครูพิมเจ้าคะ)... อิอิ....22...ธ.ค..50..จาไปตามรอยลุงแก้ว..อิอิ
12 ธันวาคม 2550 02:33 น. - comment id 798987
12 ธันวาคม 2550 07:18 น. - comment id 799005
คุณแก้วปีเสริฐคะ เสียดายจังนะคะที่ไม่ทราบมาก่อนว่า คุณก้อไปภูเรือ รินก้อไปมาเมื่อวันที่ 8-9 นี่เองค่ะ เราอาจจะได้เดินสวนกันตรงที่ไหนสักที่ในภูเรือนะคะ ....จะเอากลอนลงเหมือนกัน คงต้องทบทวนก่อนแล้ว กลัวคนอ่านจะว่ารินลอกเลียน คุณแก้วไม่ว่าอะไรนะคะ....
12 ธันวาคม 2550 08:24 น. - comment id 799030
ผลงานเยี่ยมมากครับ เหมือนกับได้ไปเห็นจริงๆ สบายดีนะท่านพี่
12 ธันวาคม 2550 09:49 น. - comment id 799062
คุณ rain โถๆๆๆ เห็นเขาบอกว่าจะไปเหนืออีกจ้า ลุงเองบอกว่า พอๆร่างกายไม่ไหวแล้วล่ะ อิอิ ใจสู้ สังขารไม่ให้นิ อย่าอิจฉาเลยจ้า รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
12 ธันวาคม 2550 09:50 น. - comment id 799063
สวัสดีค่ะ ลุงแก้วประเสริฐ พักที่ตรงคุ้งน้ำ และที่พักมีสระว่ายน้ำ พิมไม่แน่ใจว่า เป็นแก่งคุดคู้รีสอร์ต ที่อ..เชียงคานหรือเปล่านะคะ.. พิมชอบคนในรูปจังเลยค่ะ..ดูแล้วอบอุ่นดี.
12 ธันวาคม 2550 09:52 น. - comment id 799064
คุณ silver snitch Thank you sir แก้วประเสริฐ.
12 ธันวาคม 2550 09:57 น. - comment id 799071
คุณ ริน - ฝากรักฟากฟ้า ครับเราอาจจะเจอกันก็ได้ ผมเองพักใกล้ๆ แถวป้ายที่มีรูปถ่ายไว้นั่นแหละครับ แต่ระวังหน่อย นะครับเรื่องหินที่เขาเอาเต็นท์จัดให้ครับ ผมเจอ มาแล้วแทบไม่ได้นอนเลยครับ หากเอาเต็นท์ไป ต้องติดต่อเขาก่อนนะครับมิฉะนั้นเกิดปัญหาตาม มาครับ ผมว่าไม่มีใครว่าหรอกครับ กลับดีเสียอีก ด้วยผมแก่แล้วจำได้แค่นี้ก็แต่งอย่างนี้ แล้วรีบแต่ง ด้วยพอมาถึงก็เขียนเลย เรื่องนี้เขียนจบก็ทาน นิดหน่อยส่งเลยครับ ดีเสียอีกคนอ่านเขาจะได้ รับสิ่งที่เขาไม่รู้ครับ เขียนมาเลยครับ ขอบคุณ แก้วประเสริฐ
12 ธันวาคม 2550 10:00 น. - comment id 799073
คุณ คนบนเกาะ ขอบคุณครับ ผมเห็นอะไรมาก็เขียนไปอย่างนั้น รีบเขียนเพราะกลัวลืมครับ อิอิ ขอบคุณ แก้วประเสริฐ.
12 ธันวาคม 2550 10:26 น. - comment id 799087
ไปเที่ยวภูเรือด้วย ดีจังเลยนะคะ กานต์ไม่เคยไปเลยค่ะ ได้แต่ของฝากหมวกสีชมพูใบสวยจากพี่สาวคนหนึ่งในบ้านกลอน คุณลุงสบายดีนะคะ
12 ธันวาคม 2550 10:33 น. - comment id 799094
คุณ เพียงพลิ้ว ตอนแรกไม่อยากไปหรอกจ้า แต่เขาว่าต้องไป วอร์มร่างกายเสียแย่ เสียงร่ำลือว่าหนาวมาก มากกว่า ภูทับเบิกเสียอีก หรือว่าฟ้าดินสงสารลุงเลยอากาศ พอดีเท่านั้นเอง โชคดีเตรียมหยูกยาเครื่องกันหนาว ไปเพียบแทบไม่ได้ใช้เลยล่ะ อิอิ ไปหาประสบการณ์ บ้างนะหลานรัก ขอบใจมากจ้า แก้วประเสริฐ.
12 ธันวาคม 2550 10:41 น. - comment id 799100
ได้ไปชาร์ทแบตมาใหม่ๆ สดใสแข็งแรงนะคับ มีความสุขเด้อ
12 ธันวาคม 2550 10:58 น. - comment id 799106
ลุงแก้วลืมพิมจังจาร้องไม่หยุดเลยคอยดูสิ แง้งงงงงงงงงงงงงงงง
12 ธันวาคม 2550 10:59 น. - comment id 799107
น่าไปแอ่วเนาะ เห็นภาพ..ชัดเจน
12 ธันวาคม 2550 11:27 น. - comment id 799113
คุณ ครูพิม ครับที่เชียงคานครับ รีสอร์ตติดกับรีสอร์ต แก่งคุดคู้ครับ คลับคล้ายคลับคราว่าเป็น เชียงการ่าหรืออย่างไรนี่แหละครับ ส่วนก่องคุดคู้ รีสอร์ตนั้นหน้ารีสอร์ตมีของขายแยะเชียว ที่อร่อย นั้นคือมะพร้าวแก้วห่อละ 60 บาทผมทานเสียแยะ เชียวเขาทำกันตรงนั้นแหละใช้มะพร้าวอ่อนทำ หอมอร่อยมากครับ ใครไปเที่ยวอย่าลืมของฝากคือ มะพร้าวแก้วนะครับ มิฉะนั้นจะเสียใจมากเชียวล่ะ รีสอร์ตที่ผมพักสะอาดสะอ้านเยี่ยมยอดเชียวล่ะ สรุปแล้วเยี่ยมทั้งหมดตลอดพนักงานต้อนรับด้วย เอ้าๆๆๆใครจะไปรับลมหนาวหากพักที่นี่แล้ว รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน สงบเงียบสะอาด บรรยากาศยอด ไม่รู้จะชมอย่างไรถึงจะเท่ากับ ไปพักดูกันเอาเองครับ หากไม่แก่และโสดแหละ รับรองว่ายอดๆๆๆๆครับ ขอบคุณครับที่ช่วย ให้ชาวบ้านกลอนไทยทราบครับ ทานอาหารไป ชมแก่งไปเหมือนกับไปเที่ยวทะเลผสมผสาน เลยครับ ขอบคุณครับ แก้วประเสริฐ.
12 ธันวาคม 2550 11:31 น. - comment id 799114
อาจารย์กลับมาแล้ว ยังไม่อ่านนะมองผ่านๆก็ดูว่าสุดยอด งามยิ่งเลยครับ แต่งนานหรือเปล่าครับ นิราศเนี่ย อาจารย์จดจำหรือจดไว้ก่อนจะนำมาร้อยเรียงเป็นนิราศน่ะครับ เผื่อไปไหนจะได้ลองเขียนนิราศมาส่งบ้าง
12 ธันวาคม 2550 11:32 น. - comment id 799115
คุณ คอนพูทน เอาตัวรอดกลับมาได้ถือได้ว่าสร้างเวรไว้แยะ ครับ ด้วยสุขภาพผมไม่แข็งแรง ขึ้นเขาลงห้วยโอ้ย สนุกผสมกับสะบัดเชียวคดไปคดมาล่ะคุณ แต่ก็ดีได้บรรยากาศ แต่พอถึงแล้วลืมความลำบากหมดครับ ยอดๆๆๆๆ ผมกล่าวได้แค่นี้แหละครับ ยิ่งที่แก่งคุดคู้ด้วยแล้ว ล่ะไม่อยากกลับกรุงเทพฯเชียวล่ะคุณ ขอบคุณครับ แก้วประเสริฐ.
12 ธันวาคม 2550 11:38 น. - comment id 799116
คุณ พิมญดา โอ้ๆๆๆหยุดเถอะจ๊ะวันที่ 22 นี้ไปหาเถอะครับ สัญญลักษณ์ผมถ่ายไว้ให้เห็นแหละครับ อ้อ อีกอย่าง อย่าลืมซื้อมะพร้าวแก้วนะครับอร่อยหอมหวานกลม กล่อมมากครับ เหมือนเราไปเที่ยวเมืองเหนือแถว ลำปางก่อนเข้าเชียงใหม่สมัยก่อนนั้นแหละครับ ทางคดไปคดมาขึ้นเขาลงห้วยวนไปวนมา คนไปกับ ผมอาเจียรหลายๆคนครับเมารถกัน ผมแก่แดด หน่อยเคยชินเลยไม่เป็นอะไร แต่คุ้มค่ายิ่งกว่า คุ้มเสียอีกครับ ผมเองนอนแถวๆๆป้ายนั่นแหละ ครับ เพราะจองเต็นท์ของเขาไว้เลือกที่ไม่ได้ครับ เลยเจอก้อนหินทิ่มหลัง เลยใช้ให้เป็นประโยชน์ นำมากดเส้นเอ็นซะเลยคลายปวดเมื่อยหน่อย อิอิ สนุกครับ แต่อย่าลืมซื้อมะพร้าวแก้วนะครับ มิฉะนั้นจะเสียใจภายหลังครับ อ้อ อย่าลืมไปเที่ยวแถวคุ้งน้ำคุดคู้นะครับ งดงามมากครับทั้งเช้าเย็นเชียวล่ะ ขอบคุณครับ แก้วประเสริฐ.
12 ธันวาคม 2550 11:43 น. - comment id 799119
คุณ ไหมไทย อันที่จริงคำว่านิราศนั้นต้องเขียนยาวๆๆๆครับ แต่ผมเกรงใจคนอ่านว่าจะตาลายเสียก่อนอีกอย่าง หนึ่งกินเนื้อที่ของคนอื่นมากไปครับ เลยบรรยายได้ เท่าที่จะทำได้ครับ น่าเที่ยวมากครับคุณเที่ยวเหนือ ที่คนอื่นเขาเที่ยวก็อย่างงั้นๆแหละครับลองมาเที่ยว ที่เลยบ้างซิครับแล้วจะติดใจมากครับ หากจัด โปรแกรมดีๆแล้วยอดครับ การเดินทางเหมือน กับไปเชียงใหม่สมัยก่อนๆๆนั้นแหละครับ ภูเขาและต้นไม้แยะมากครับเป็นป่าที่สมบูรณ์ มากไม่แห้งแล้งที่เขาเรียกว่าเขาหัวโกร๋นครับ ทุกๆเขาอุดมสมบูรณ์มากครับ หากเขียนบรรยาย มากกว่านี้คนอ่านจะเบื่อแค่นี้ก็เบื่อกันแล้วล่ะ ครับ ขอบคุณมากครับ แก้วประเสริฐ.
12 ธันวาคม 2550 11:46 น. - comment id 799120
อาจารย์ถามนิดนะ ตรง วิลาวัลย์จริงหนอยากต่อสนอง หน หรือ หนอ ครับ อ่านแล้วครับเยี่ยมครับ ไม่เคยไปครับที่ภูเรือที่บ้านไปมาทุกคน เหลือผมคนเดียวครับ คนข้างๆแน่เลยที่ปรากฏในรูป
12 ธันวาคม 2550 11:59 น. - comment id 799125
คุณ ดาวระดา อ้อ... วิลาวัลย์จริง"หนอ"ยากต่อสนอง ครับ คือหนอสัมผัสกับ ต่อ ครับ ว่างๆมีโอกาสไปเที่ยวนะครับได้ประสบการณ์ เพียบเลยครับ มีอะไรถามได้ครับคุณ ไหนๆเราก็ คนกันเองแล้วล่ะ อิอิ การแต่งนิราศ บทแรกต้องสามบันทัดคือบรรทัด แรกสัมผัสกับบรรทัดที่สองบรรทัดต่อไปเป็น ส่ง ในลักษณะนี้ของกลอนแปด เวลาจบต้องลงท้าย ด้วย เอย เสมอนะแล้วใช้ ฯ ปิดท้ายครับ แก้วประเสริฐ.
12 ธันวาคม 2550 14:44 น. - comment id 799173
เริ่มอ่านแต่บทแรกก็ยิ้ม มีความสุขไปกับครูแก้วด้วยค่ะ ทราบเลยค่ะ เที่ยวนี้มีแต่ได้กำไร อิอิ
12 ธันวาคม 2550 16:28 น. - comment id 799199
สวัสดีค่ะคุณลุงแก้ว..... เหมือนได้ไปเที่ยวกับคุณลุงเลยค่ะ บรรยายได้เหมือนจริง ๆ ขอบคุณที่กลับมาเล่าให้ฟังนะค่ะ รักษาสุขภาพด้วยค่ะ
12 ธันวาคม 2550 19:58 น. - comment id 799304
คุณ ดาวระดา ผมใช้วิธีจำครับ ไม่ได้จดหรอกครับเดี๋ยวเขา หาว่าผมบ้า อิอิ คนบ้ากลัวเขาว่าบ้าเน๊อะ หากจดไว้ ก็จะได้รายละเอียดมากกว่านี้ครับ ขอบคุณ แก้วประเสริฐ.
12 ธันวาคม 2550 20:01 น. - comment id 799305
คุณ พิมญดา ดูข่าวว่าตอนนี้จะหนาวมากขึ้นที่เลยก็หนาว มากด้วยครับ เตรียมเครื่องกันหนาวไว้ด้วยนะครับ แก้วประเสริฐ.
12 ธันวาคม 2550 20:05 น. - comment id 799307
คุณ กชมนวรรณ ครับเป็นความสุขสนุกจริงๆครับแต่ก็เกือบ จะเอาชีวิตไม่รอดเหมือนกัน อิอิ ขาดทุนครับเที่ยว นี้ไม่ได้กำไรอะไรหรอกครับ หมดเงินไปแยะเชียว สำหรับค่าไวท์นะครับ อิอิ ช่างเถอะได้บรรยากาศดี ส่วนค่าเที่ยวฟรี กินฟรี นอกจากไวท์ อุ้ยต้องเก็บ เงินอีกนานเชียวล่ะครับ ขอบคุณครับ แก้วประเสริฐ.
12 ธันวาคม 2550 20:08 น. - comment id 799308
คุณ whitelily หรือครับขอบคุณ ไปเที่ยวมาก็มาเล่ากันปกติ ผมไม่ค่อยจะเขียนแบบนี้หรอกครับ นานๆทีมีหน เพราะคนอ่านเขาชอบอ่านแบบสั้นๆครับ อีกอย่าง มีคนขอร้องมาให้เขียน ผมก็ใจอ่อนซะด้วยซิครับ ไม่รู้เป็นอย่างไรเพราะไม่ได้เขียนนานเหมือนกัน ครับ ขอบคุณครับ แก้วประเสริฐ.
13 ธันวาคม 2550 10:33 น. - comment id 799454
อิจฉาคนได้ไปเที่ยวไกลๆ จังเลยค่ะ ป ได้แค่วนๆ ไปมา แถวๆ บ้านนี่เอง ...หนาวไม่กลัวค่ะ แต่แดดจ้ามากๆ ปวดหัว ปวดตาไม่รู้หายทุกครั้งเลยค่ะ แต่นิราศเรื่องนี้คุณลุงแก้ว บรรยาย ได้เห็นภาพเลยค่ะ ป เลยได้แต่อ่าน เพราะไม่มีจินตนาการตาม
13 ธันวาคม 2550 10:53 น. - comment id 799470
ไปไม่ชวนกันเลยนะคะ งอนดีกว่า อิอิ
13 ธันวาคม 2550 14:02 น. - comment id 799492
ไพเราะมากเลยค่ะ ไท่ยวไม่ชวนกันเลย อยากไปจัง
13 ธันวาคม 2550 14:14 น. - comment id 799503
คุณ ปรานรวี ผมก็บรรยายไปตามประสาคนบ้าๆบอๆครับ อาการปวดหัว ปวดตา สงสัยเป็นไมเกลหรือเปล่า หาหมอดีที่สุดครับ ขอบคุณครับ แก้วประเสริฐ.
13 ธันวาคม 2550 14:17 น. - comment id 799506
คุณ เฌอมาลย์ ไม่ใช่ไม่อยากชวน กลัวเหมือนกันอีกอย่างหนึ่ง ผมก็บอกไว้ในกระทู้ตอบแล้วว่าจะไปเที่ยวภูเรือครับ จนเขาบอกว่าหากกลับมาช่วยนิราศให้ฟัง ก็ทำตาม เขาขอร้องมาครับ โถๆๆๆเจ้าหญิงอย่างอนเลยนะครับ คนแก่ใจไม่ค่อยจะดี อิอิ ขอบคุณครับ แก้วประเสริฐ.
13 ธันวาคม 2550 14:21 น. - comment id 799507
คุณ Black MooN ผมเคยบอกไว้แล้วนี่ครับว่าจะไปภูเรือครับ ในกลอนที่แล้วที่กระทู้ตอบครับ หากมีเวลาหาโอกาส ไปเที่ยวนะครับ แถวเชียงคานคุ้งทะเลสวยงามมาก ครับ บรรยากาศเยี่ยมครับ อีกอย่างหนึ่งผมไม่เคย ติดต่อกับใครเลย นอกจากทางนี้ทางเดียวครับ ขอโทษด้วยครับ ขอโทษทุกๆคนด้วย อิอิ ขอบคุณ ครับ แก้วประเสริฐ.
15 ธันวาคม 2550 12:34 น. - comment id 800233
สวัสดีค่ะครูแก้วประเสริฐ จิตรำพันมาอ่านนิราศภูเรือค่ะ ขอบคุณที่นำมาให้อ่านนะคะ พอดีคอมเสีย พึ่งซ่อมเสร็จค่ะ ก็เลยแวะมาดูว่าครูลงนิราศหรือยัง ไม่แน่ใจว่าครูจะมาย้อนอ่านอีกหรือเปล่า แต่ขอบคุณนะคะที่นำมาลงให้อ่าน ครูรักษาสุขภาพด้วยนะคะ จิตรำพัน
15 ธันวาคม 2550 13:17 น. - comment id 800260
คุณ จิตรำพัน พอมาถึงบ้าน ผมก็นั่งแน่งนิราศภูเรือ ตามสัญญาที่ให้ไว้เลยครับ ผมเป็นคนรักษา สัญญาไว้เสมอมาครับ ขอบคุณ แก้วประเสริฐ.