ใครหนอใครเปรียบครูดั่งเรือจ้าง คอยนำทางพาศิษย์รักถึงหลักฝัน กาลเวลาเปลี่ยนผ่านนานนับวัน เรือลำนั้นยังสานต่อก่อศรัทธา เรีอลำใหม่หย่อนลงน้ำย้ำทางเก่า ถึงหนักเบาไม่เคยซ้ำพร่ำเรียกหา หวังเพียงเพื่อศิษย์เรียนรู้คู่ปัญญา แม้นน้ำตาและหยาดเหงื่อตกเกลื้อดิน ใครกันเล่าเฝ้าสอนสั่งเมื่อพลังผิด คอยชี้ทิศบอกทางมิสร่างสิ้น งามพระคุณสูงค่าอยู่อาจิณ มิวายสิ้นสืบสานธารน้ำใจ หลากสีสันเลื่อมลายม่านสายหมอก กระซิบบอกกระแสสินธุ์ระรินไหล ส่งเรือจ้างเทียบท่าบุปผาไพร กรองมาลัยเกลียวมะลิ "มุทิตา"
7 ธันวาคม 2550 05:50 น. - comment id 797590
แจวๆๆๆ แล้วก็พายๆๆๆ พาเรือบ่ายอีกฝากฝั่ง งานถมทับประดัง สังคมสั่งให้อดทน เป็นครูรู้วิชา ต้องศึกษาอย่าพร่ำบ่น เข้าใจนักเรียนตน ส่งเขาจนได้ดิบดี นักเรียนเป็นนายก ครูก็เหมือนเดิม อิอิอิ
7 ธันวาคม 2550 09:08 น. - comment id 797633
ดิฉันขอชมบทกลอนนี้คะ ช่างเป็นบทกลอนที่ไพเราะเพราะพริ้งและมีความหมายมาก ส่อถึงบทบาทของแม่พิมพ์ของชาติ อ่านแล้วรเกิดน้ำตาซิบ ซิบ คิดถึงครู ส่อถึงอารมณ์เลยคะ ดิฉันขออนุญาตคัดลอกเก็บไว้นะคะ
7 ธันวาคม 2550 10:42 น. - comment id 797678
เป็นครูคนหนึ่งค่ะ บทบาทของครูเป็นเรือจ้างจริงๆ แต่อยู่ที่ครูจะทำหน้าที่ของตัวเองดีหรือเปล่า ถ้าปล่อยให้ข้ามแม่น้ำไปอย่างไร้คุณภาพ เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน นี่ก็เป็นอันตรายของชาตินะคะ
7 ธันวาคม 2550 16:33 น. - comment id 797846
มารำลึกถึงพระคุณครูด้วยค่ะ