บทกวีสื่อความหมาย ที่เรียงรายร้อยรวง-อยากทวงถาม เป็นลิขิตจากหัวใจหรือไหวตาม จึงชวนหวามในคำอยู่ค่ำเช้า ดั่งดนตรีบรรเลง จากบทเพลงเย็นเยียบและเงียบเหงา ในรู้สึกคล้ายหมอกคอยหยอกเย้า อยู่บางเบาแล้วผลึกลงลึกล้ำ ดั่งสายน้ำไหล ละอองไอหยิบยื่นความชื่นฉ่ำ ให้สัมผัสบริบทได้จดจำ เป็นลำนำหวานหวานไล้ผ่านใจ ดั่งใบไม้ต้องสายลม พัดเกลียวกลมโรมรันจนสั่นไหว ถึงสะท้านในทรวงด้วยห่วงใย จะกอบเก็บรักษาไว้ไปชั่วกาล
20 พฤศจิกายน 2550 13:00 น. - comment id 791051
....ใจนี้ ใจไหน อิอิ... ผ่านมากวนใจเล่น
20 พฤศจิกายน 2550 13:48 น. - comment id 791071
แวะมาทักทายจ้า คนเจ้าบทเจ้ากลอน
20 พฤศจิกายน 2550 13:49 น. - comment id 791072
แวะมาทักทายจ้า
20 พฤศจิกายน 2550 14:45 น. - comment id 791097
รู้แต่ว่า เป็นลิขิตรักจากหัวใจอ่ะจ้า ปล.เอางัยแหน่??
20 พฤศจิกายน 2550 16:48 น. - comment id 791150
ฉันเฝ้ามองท้องฟ้าไกลลิบ ผ่านหน้าต่างแห่งความเปลี่ยวเหงา เห็นเพียงสีเขียวคล้ำของขอบฟ้า กับความปรารถนาอันห่างไกล ฉันหมกมุ่นและครุ่นคิด แต่ไม่อาจระบายสิ่งที่อัดแน่นเต็มอก อ้างว้าง.. เหว่ว้า... น้ำตาแห่งความโง่เขลา.. หลั่งริน มายาของขอบฟ้า ลวงตาให้มองเห็นภาพอันสวยงามได้อย่างน่าอัศจรรย์เสมอ ๆ แต่เพียงชั่วครู่.. ก็เลือนหายไปอย่างโหดร้าย ไม่เหลือสิ่งใดให้เราได้สัมผัส.. โอบกอดได้.. ก็เพียงความว่างเปล่าเท่านั้น... เมื่อทุกสิ่งล้วนคือ ม า ย า... น้ำ ต า.. จึงยั่งยืน ซะอย่างนั้น..
20 พฤศจิกายน 2550 18:18 น. - comment id 791171
แวะมาทักทายกันยามเย็น ๆ ค่ะ... สบายดีนะคะ.. กลอนเพราะมากค่ะ..
20 พฤศจิกายน 2550 21:37 น. - comment id 791269
ถ้าได้มองสายลม ด้วยกัน ถ้าได้มอง ท้องฟ้า ใกล้ๆกัน ถ้าได้ ยินเสียงใบไม้ไหว พร้อมกัน ก้อคง ดีเนอะ คารวะ หมดจอก
20 พฤศจิกายน 2550 22:21 น. - comment id 791288
ลิขิตฟ้ายากนักที่จะฟืน อยากจะยืนข้างใคร จะได้ไหม ยืนข้างเธอคนเดียวในหัวใจ อยากไกล้ใครเข้าไประวังตัว คนบางคนนั้นไม่อยากรู้หรอก ว่าตัวตนของเค้าเป็นอย่างไหน เข้าก็แค่เป็นคนมีอะไร สู่มายือข้างพ่อแม่ดีที่สุด
21 พฤศจิกายน 2550 16:18 น. - comment id 791644
น้องกานต์ ใจนี้ไม่มีแล้ว pary ขอบคุณที่แวะมา น้องเฌอ มีคนยกธงไปหลายคนแล้ว 55 เปลี่ยนเป็นลงมาแทนนะ ดีไหม ผู้หญิงช่างฝัน บางคนเคยบอกไว้ ความรักคือการให้เปล่า คุณคิดว่าไง คุณหมองอิง มาตอบกลับตอนเย็น ๆ เหมือนกัน ...ตั้งใจเลยนะเนี่ย ขอบคุณ ชิงชิง นั่นแน่!! จินตนาการบรรเจิด แต่พี่ยิ่งเขียนยิ่งไร้ซึ่งจินตนาการ สงสัยต้องหยุดเขียนเสียที เฮ้อ!! อ้ะ ...หมดจอก จากคำลา บทกวีไม่มีความหมาย ฉันงมงายสวดมนต์ขอพร หากจะมีโอกาสอีกหน จะร่ายมนต์กับสายน้ำจันทน์ ไม่รู้ว่าคุณคือใคร?? แต่สัมผัสได้ถึงความหวังดี ...ขอบคุณ ...ลิขิตใจ ^ขอบคุณ^ ..
21 พฤศจิกายน 2550 17:20 น. - comment id 791683
.. ไม่กล้าคิด.. /
23 พฤศจิกายน 2550 15:42 น. - comment id 792629
ผู้หญิงช่างฝัน กำลังจะคิดอะไร??
23 พฤศจิกายน 2550 16:56 น. - comment id 792651
ฤๅ...รักคือความโศก ปกคลุมโลกทั้งใบอย่างไร้เสียง แตกกิ่งก้านเดียวดายอยู่รายเรียง และมีเพียงรูปเงาความเปล่าดาย โหยหา เรี่ยวแรงปรารถนาอ่อนล้า-หน่าย จมจ่อมจินตนาการบนลานทราย ซึมทราบระเหิดหายในสายกาล บ่มร่ำ เจ็บจองจำย้ำจด-ยิ่งรสหวาน ยิ่งกลับย้อนขมปร่าเพลาจาร นานนับนานซอนทรวงเป็นบ่วงร้อย ฤๅ...รักคือความเศร้า ครอบงำเจ้าแล้วอย่างแผ่วค่อย ทุกขณะใจเต้นใครเร้นรอย ใครรอคอยใครอยู่ไม่รู้แล้ว ตามนั้น..
23 พฤศจิกายน 2550 17:21 น. - comment id 792667
หวังเป็นอย่างยิ่งว่า โปสการ์ดน้อย ใบนั้น จะสร้าง " แรงบันดาลใจ" ให้คน รับ เขียน งานต่อไป นะคะ
26 พฤศจิกายน 2550 12:59 น. - comment id 793500
ผู้หญิงช่างฝัน อันนี้ ...รักที่จะเศร้า ต้องเปิดใจเนาะ ชิงชิง พี่จะพยายามนะ ขอบคุณจากใจ ^ ขอบคุณ ^