ลมพัดฝุ่นลอยเรื่อยอย่างเหนื่อยล้า นั่งห่มผ้ามองถนนทนความหนาว รถจอดส่งผู้คนบนทางยาว ไม่มีข่าวลูกเยือนเหมือนสัญญา หยิบจดหมายที่อ่านเป็นล้านเที่ยว เป็นสิ่งเดียวเหลือไว้แทนใบหน้า คำลงท้าย..แม่ครับจะกลับมา เปื้อนน้ำตาทุกครั้งที่นั่งดู ปวดขาแข้งแรงน้อยไม่ค่อยไหว แม่อยากให้ลูกกลับมารับรู้ เดือนปีวันผันเวียนเปลี่ยนฤดู ทุกเช้าตรู่แกยังไปนั่งคอย ลมหนาวพัดช้าช้ามาอีกครั้ง ดับความหวังแม่เฒ่าผู้เหงาหงอย ดับดวงตาพร่าเลือนและเลื่อนลอย จดหมายน้อยปลิวไปไกล..แสนไกล
24 กันยายน 2550 12:10 น. - comment id 758641
สงสารหนอพ่อแม่แลตาหา รอลูกยาคืนกลับเพื่อรับขวัญ เจ้าได้ดีมีสุขทุกคืนวัน ทิ้งแม่นั้นรอเจ้า..เฝ้าแต่รอ.. ที่บ้านครูพิมมีเยอะค่ะ ลูกๆๆไปทำงานที่กรุงเทพ..ทิ้งคนแก่และเด้กๆรอที่บ้าน.. พี่อย่าลืมไปเยี่ยมท่านบ้างเน้อ..
24 กันยายน 2550 12:24 น. - comment id 758645
เมื่อก่อน ตอนอยู่กับพ่อแม่ แม่จะตื่นเต้นดีใจมาก ๆ ตอนที่พี่ชายจะกลับมาเยี่ยมบ้าน ข้าวปลาอาหารพรักพร้อมของโปรดของพี่ชาย จนอัลมิตราคิดว่า ทำไม มื้อนี้ต้องพิเศษด้วยนะ เปลืองตังค์ กระทั่งวันที่อัลมิตราต้องปลีกตัวออกจากบ้านบ้าง และนาน ๆ กลับ แม่ก็จะทำอาหารของอร่อยไว้รอท่า และตั้งตาคอย ตอนนี้ อัลมิตราเข้าใจแล้วล่ะ ว่า การรอคอยมีความหมายเช่นไร
24 กันยายน 2550 12:48 น. - comment id 758652
พี่ริด...... "สองตาแล ชะแง้คอ รอลูกกลับ เจ้าลาลับ สู่เมืองกรุง มุ่งแสงสี สบายไหม ไยเงียบหาย นานหลายปี หากพอมี เวลาว่าง กลับบ้านนา" ไม่ได้แวะทักพี่ริดนานโดน...สบายดีนะเจ้าค่ะ (¯`°•.¸♥♥¯`°• ศรรกราหน้าทะเล้น °´¯♥♥¸.•°´¯)
24 กันยายน 2550 13:07 น. - comment id 758660
ความรู้สึกของพ่อแม่ที่รอรับลูก เป็นสิ่งที่มีความหมายมากค่ะ ถึงแม้บางทีบอกว่าไม่ต้องกลับหลอกบ้าน แต่ความจริงแล้ว ใจของท่านหวังจะเห็นหน้าลูกมากมายค่ะ....
24 กันยายน 2550 13:17 น. - comment id 758665
ความรักแม่ มีต่อลูก พันผูกนัก แม้ลูกรัก จะเป็น เช่นไฉน แม่อาทร ห่วงหา ทุกคราไป ลูกนั้นไซร้ ไยมิซึ้ง คิดถึงคุณ ขอแจมด้วยอีกคนครับ คุณฤทธิ์
24 กันยายน 2550 13:45 น. - comment id 758700
คิดถึงแม่จัง...ตอนเด็กๆอยู่กับพ่อค่ะ พ่อเป็นทั้งพ่อและแม่เลยค่ะ..
24 กันยายน 2550 14:14 น. - comment id 758725
น้ำตาหยดรดลงตรงร่องแก้ม กี่คืนแรมแล้วแม่เฝ้าแลหา เมื่อไหร่หนอลูกชายจะกลับมา คำสัญญาเลือนหายกับสายลม ท่านฤทธิ เขียนได้กินใจแท้....มาชื่นชมเช่นเคย
24 กันยายน 2550 14:43 น. - comment id 758736
ขอต่อกลอนจากประโยคสุดท้ายที่ว่า " จดหมายน้อยปลิวไปไกล..แสนไกล " จดหมายใครร่วงลงที่ตรงหน้า เนื้อความว่าทุกข์ทนปนอับเฉา เผลออ่านไปอย่างซื่อมือสั่นเทา ตายแล้วเรา! เขาทวงหนี้ที่ยืมมา ฮี่.......ฮี่......ไม่อยากให้ซีเรียสจ๊ะ มาผิดที่ผิดเวลาหรือเปล่าหน๊อเรา....( เกาหัว ) คิดถึงจ๊ะคุณฤทธิ์ ชินวัตร เอ้ย ฤทธิ์ ศรีดวง เดี๋ยวคุณตั๊กจะต้องเขียนกลอนบ้างแล้วล่ะ เห็นคุณฤทธิ์แล้วมีแรงบันดาลใจ...
24 กันยายน 2550 14:47 น. - comment id 758738
ลูกจะรู้ บ้างไหมหนอ พ่อแม่เฝ้า รู้ไหมเจ้า คือดวงใจ ที่ใคร่หวง ลูกเหนือกว่า สิ่งใดใด ไหนทั้งปวง อยากทักท้วง ให้ลูกหนา กลับมารัง
24 กันยายน 2550 17:39 น. - comment id 758838
คุงพี่ชายพี่ริดสบายดีไหมคะ ดีใจคะที่แวะมาลงกลอนเหนื่อยคะไปสอบมา อิอิ..มาเห้ฯอีกทีอ่าไมกลอนลดลงหน้าหนึ่งเร็วอ่าคะ...
24 กันยายน 2550 17:40 น. - comment id 758840
คุณริด รอใครเหรอครับ
24 กันยายน 2550 19:05 น. - comment id 758878
สวัสดีค่ะคุณฤทธิ์ ใจแม่พ่อ แน่แท้ รอคอยลูก เลือดพันผูก ฝังรัก เจ้าหนักแสน เฝ้ารอคอย ตามถ้อย สัญญาแทน กลับแว่นแคว้น สู่อ้อม ล้อมดวงใจ ...พ่อ แม่ เลี้ยงลูกได้จนเติบใหญ่ทุกคน ลูกคนเดียว กลับเลี้ยงดูพ่อแม่ยามแก่เฒ่าไม่ได้ ... น่าเศร้านะคะคุณฤทธิ์
24 กันยายน 2550 19:17 น. - comment id 758885
เคยไหมที่ปล่อยให้ใครรอเราแบบนี้
24 กันยายน 2550 22:16 น. - comment id 758960
บทกลอน กินใจมากค่ะ อ่านแล้วก็คิดไปไกลว่าอนาคตต่อไปเราก็คงจะต้อง ....."รอ".......ฉะนี้แล..........
24 กันยายน 2550 23:06 น. - comment id 758972
สวัสดีครับพี่ฤทธิ์ กลอนพี่เพราะครับ มีหลายครอบครัวนะที่เป็นแบบนี้ เท่าที่ผมประสบมา มันสะท้อนอะไร หลายๆในสังคมเรา
24 กันยายน 2550 23:11 น. - comment id 758976
ยุคสมัยมันไปเปลี่ยนไป เมื่อก่อน คน ตจว.มิ้งไร่ทิ้งนาเข้ามาหางานทำในเมือง วันหยุดยาวๆถึงจะกลับบ้าน ...แต่เดี๋ยวนี้.. อยู่จังหวัดเดียวกันกับพ่อแม่.....บางที ปีนึงไปหาสักครั้ง นี่แหละ สังคมเมือง
25 กันยายน 2550 16:44 น. - comment id 759573
ภาพนี้เป็นตัวแทนของความรู้สึก เหงาและโดดเดี่ยว เลยนะคะ... ยิ่งอ่านบทกลอนประกอบมันก็ยิ่งเห็นภาพ การรอคอยที่ไม่มีวันสิ้นสุดได้เลยค่ะ
25 กันยายน 2550 22:48 น. - comment id 759773
ครูพิม ขอบคุณครับครูที่อุตส่าห์มาเยี่ยม สบายดีนะครับ ผมจะไปเยี่ยมพ่อแม่ได้เมื่อไหร่ก็ไม่รู้เพราะท่านเสียไปสิบกว่าปีแล้ว อัลมิตรา ดีใจเป็นอย่างยิ่งที่ยอดฝีมือให้เกียรติแวะมาทักทาย ตอนเด็กๆผมอยู่กับตา พ่อแม่จะมาหาเดือนละครั้ง จึงรู้ดีว่าการคอยเป็นอย่างไร หนูศรรก ไม่ค่อยได้ไปเยี่ยมศรรกราตั้งนานแล้วเหมือนกัน สบายดีนะครับ whitelily ขอบคุณที่แวะมาทักทาย เห็นด้วยกับลิลลี่สีขาวทุกอย่างเลยครับ พี่เบรฟรูปหล่อ หวัดดีครับ สบายดีนะครับ ขอบคุณสำหรับบทกลอนดีดี กุหลาบขาว สวัสดีครับ คิดถึงจังครับ มนต์กวี แวะมาแต่เมื่อไหร่เนี่ย ไม่ลงกลอนให้อ่านบ้างเหรอครับ งานแต่งเพลงเป็นไงบ้าง ส่งข่าวกันหน่อย เผื่ออาจได้ไปร่วมแจม คุณตั๊ก กลอนขำดีจัง เหอเหอเหอ ลงกลอนเสียทีรอนานแล้วนะครับ คนบนเกาะ สวัสดีครับ พี่อยู่แถวไหนที่เกาะพะงัน เผื่อหาโอกาสไปทักทาย น้องพิม ขยันเรียนนะ จะได้จบเร็วๆ พี่เบิ้มก่องกิก ไม่ได้รอใครหรอกครับ ขอโทษทีนะครับ ไม่ค่อยมีเวลาแวะไปเยี่ยมชมกิจการ จิตรำพัน ขอบคุณสำหรับบทกลอน และยินดีที่ได้รู้จักครับ เฌอมาลย์ นี่เป็นน้องอีกคนหนึ่งที่ฝีมือดีมาก รออ่านงานอยู่นะครับ สิริน อยากอ่านงานของสิรินจริงๆนะ ลองเขียนดูซิ จะคอยเป็นกำลังใจให้ ดาวระดา เห็นหลายทีแล้ว แล้วจะแวะไปเยี่ยมนะครับ เรไร ขอบคุณมากครับ ที่ยอดฝีมืออีกท่านแวะมาอ่าน no.16 รู้ไหมว่าเห็นชื่อปุ๊ป เห็นภาพฟ้าสดใส งานเขียนสะอาดๆ บริสุทธิ์ ทุกที ชอบนะครับ
26 กันยายน 2550 10:27 น. - comment id 760081
:) ต้องหมั่นไปเยี่ยมท่านบ้างแล้วล่ะ ไม่งั้นเหงาแย่เลย...
26 กันยายน 2550 20:13 น. - comment id 760546
26 กันยายน 2550 23:06 น. - comment id 760639
ขอบคุณคะที่แวะไปเยี่ยม ดีใจเหมือนกันคะที่เจอรุ่นเดียวกัน บทกวี ยอดเยี่ยมค่ะ
27 กันยายน 2550 12:50 น. - comment id 760883
อ่านแล้วเศร้า ชอบครับ งานงามมากคับ สะเทือนใจจริง ๆ ชื่นชม
28 กันยายน 2550 13:27 น. - comment id 761317
ลูกคิดถึงแม่เสมอ.....แต่ต้องทำมาหากิน..ขอเป็นคนดีทดแทนนะครับ