๏ ยามหลับกระสับส่าย มิผ่อนคลายวางวายสิ้น นิทราเป็นอนิจจิณ ใยสุบินแต่ระทม ๏ เหวยเหวยว่าคืนมืด พระจันทร์ชืดจืดบรม ไล่แช่งใยไม่จม ลงปลักตมในเจ้าพระยา ๏ ดาราก็อีกหนึ่ง ทำเป็นผึ่งอวดแสงจ้า สว่างไป โธ่!ไอ้บ้า เกลื่อนเต็มฟ้าหลับไม่ลง ๏ ม่านมืดแสนโดดเดี่ยว กลางฟ้าเปลี่ยวดูเหรงโหรง ตาตั้งกลัวไอ้โม่ง มาหยิบโหย่งศฤงคาร ๏ ตั่งเตียงดูหรูหรา แผ่สาขาพัศฐาน ตั่งใจกลับหย่อนยาน เหมือนหมดลานวานไขที ๏ แพรห่มสวยแต่ชื่อ ผ้าใบ้บื้อ บรื๋อ!หนาวนี้ เห็นทีรุ่งฤดี ไม่พ้นมีไข้จางจาง ๏ หมอนฟูกเนื้อนิ่มนิ่ม นอนไม่อิ่มถึงฟ้าสาง ไม่นิ่มเท่าตักนาง ที่รักร้างกลางเดือนแรม ๏ ชีวิตเหมือนเดือนมืด น้ำตาชืดไหลรดแก้ม ดูข้าคนจนแต้ม นรกแย้มโลงเปิดฝา ๏ บ่นจนสุรีย์แสง ขึ้นทแยงเยื้องท้องฟ้า ม่านมืดหายวับตา แสงทองทาท้าตามอง ๏ เห็นไหม...ยังมีหวัง โลกคงยังแบ่งเป็นสอง สุขทุกข์อยู่คล้องจอง เช่นครรลองของคันธรรม
22 กันยายน 2550 07:33 น. - comment id 757678
บ่นเถิดบ่นรดฟ้า เขาไม่มาช่างหัวเขา ไม่เห็นค่ารักเรา จงจำไว้ให้เจ็บจำ ต่อไปให้รู้ว่า รักแล้วอย่าไปทุ่มเท แบ่งใจเผื่อรวนเร เขาเปลี่ยนใจไม่เห็นแคร์
22 กันยายน 2550 19:37 น. - comment id 757970
คุณเก็จถะหวา ขอบคุณความคิดเห็นซึ่งเป็นความคิดเห็นแรกที่ได้รับเลยนะครับ แถมต่อกลอนปลอบเราซะหายเหงาเลยซะอีกนี่