บ่นรดฟ้า

แววมยุรา

๏ ยามหลับกระสับส่าย
มิผ่อนคลายวางวายสิ้น
นิทราเป็นอนิจจิณ
ใยสุบินแต่ระทม
๏ เหวยเหวยว่าคืนมืด
พระจันทร์ชืดจืดบรม
ไล่แช่งใยไม่จม
ลงปลักตมในเจ้าพระยา
๏ ดาราก็อีกหนึ่ง
ทำเป็นผึ่งอวดแสงจ้า
สว่างไป โธ่!ไอ้บ้า
เกลื่อนเต็มฟ้าหลับไม่ลง
๏ ม่านมืดแสนโดดเดี่ยว
กลางฟ้าเปลี่ยวดูเหรงโหรง
ตาตั้งกลัวไอ้โม่ง
มาหยิบโหย่งศฤงคาร
๏ ตั่งเตียงดูหรูหรา
แผ่สาขาพัศฐาน
ตั่งใจกลับหย่อนยาน
เหมือนหมดลานวานไขที
๏ แพรห่มสวยแต่ชื่อ
ผ้าใบ้บื้อ บรื๋อ!หนาวนี้
เห็นทีรุ่งฤดี
ไม่พ้นมีไข้จางจาง
๏ หมอนฟูกเนื้อนิ่มนิ่ม
นอนไม่อิ่มถึงฟ้าสาง
ไม่นิ่มเท่าตักนาง
ที่รักร้างกลางเดือนแรม
๏ ชีวิตเหมือนเดือนมืด
น้ำตาชืดไหลรดแก้ม
ดูข้าคนจนแต้ม
นรกแย้มโลงเปิดฝา
๏ บ่นจนสุรีย์แสง
ขึ้นทแยงเยื้องท้องฟ้า
ม่านมืดหายวับตา
แสงทองทาท้าตามอง
๏ เห็นไหม...ยังมีหวัง
โลกคงยังแบ่งเป็นสอง
สุขทุกข์อยู่คล้องจอง
เช่นครรลองของคันธรรม
				
comments powered by Disqus
  • เก็จถะหวา

    22 กันยายน 2550 07:33 น. - comment id 757678

    บ่นเถิดบ่นรดฟ้า   เขาไม่มาช่างหัวเขา
    ไม่เห็นค่ารักเรา    จงจำไว้ให้เจ็บจำ
    ต่อไปให้รู้ว่า           รักแล้วอย่าไปทุ่มเท
    แบ่งใจเผื่อรวนเร   เขาเปลี่ยนใจไม่เห็นแคร์
  • แววมยุรา

    22 กันยายน 2550 19:37 น. - comment id 757970

    คุณเก็จถะหวา
    ขอบคุณความคิดเห็นซึ่งเป็นความคิดเห็นแรกที่ได้รับเลยนะครับ
    แถมต่อกลอนปลอบเราซะหายเหงาเลยซะอีกนี่ 29.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน