๏..น้ำท่วมเศรษฐกิจแล้............เล็งพัง มิใช่เป็นอนิจจัง.............................โจทก์กล้า ย้อนหลายหลากปียัง.......................พออยู่...ทนเฮย สามสี่ปีผ่านหน้า.............................แม่นแล้วระทม ๚ ๏.. แตรกป่าข่มป่าแล้ว...............มิพอ อธิบฯป่ารอมอตอ...........................เจือกให้ นอบกายต่ำคลานคลอ.....................ตีนท่าน...ทัก*1เอย มือส่งพันโฉนดไว้.........................แผ่โพ้นปวงประชา ๚ ๏.. โทรทัศน์คราติดกล้อง............ตามกรู นั่งเด่นประธานหรู..........................เชิดหล้า มือแจกส่งโฉนดพรู........................พนาผ่อง...โล้นแน กระพริบเนตรอย่าช้า......................ป่าไม้หมดเมือง ๚ ๏.. อาทรเอื้องกร่างแท้...............ประเทศไทย ไม้บ่มีบัลลัย...............................เยี่ยงนี้ สามปีส่งตักษัย............................เมืองเทวษ...เทียวแม่ มีแต่โคลนแต่ขี้...........................แม่ไม้ตุงธาร ๚ ๏.. อนิจจังประเทศร้อง..................ระงม ใครน่ะแตรกป่าขรม......................ก่อนกล้า จะไล่จับมือดม...........................ตามเก็บ..ได้ฤๅ รวยร่ำเสียเลิศฟ้า........................ถ่มแท้ไทยจน.. ๚๛ เชิง(กระ)อัก นอบกายต่ำคลานคลอ.....................ตีนท่าน...ทัก*1เอย วันนั้นในสามสี่ปีก่อน พอดีเปิดทีวีกลางวัน โทรทัศน์ประเทศไทยถ่ายทอดสด พ่อเอ๊ย ดูรายการแล้วเกือบตกเก้าอี้ นายทัก*1ประธานาธิบดีนั้น นั่งกลาง ส่วน รอม่อตอ นั้น คลาน เจ้าค่ะ คลาน จริงๆในจอ เข้าไปส่ง โฉนดที่ดิน ที่อ้างว่า เสื่อมสภาพ จัดแจกให้ประชาทางเหนือ ม่วนแต้... ผลล่ะเป็นไง ป่าหมดเขา ตอท่วมเมือง น้ำป่ามาประเทือง ไม้ฟ่องเต็มธาร ผลงานของ รอม่อตอ ห้อย เขาละ กับ ประธานาธิบดี ทัก เฮ้อ
21 กันยายน 2550 14:16 น. - comment id 757395
คนใจร้าย..ทำป่าไม้ได้ลง นิสัยไม่ดี..เนอะ!...
21 กันยายน 2550 14:28 น. - comment id 757402
รายงานน้ำท่วมขนานหนักทางเหนือ และ อีสานกำลังไล่มาเรื่อยๆ สองปีก่อนหน้า อาการหนักพอสมควร ปีที่แล้ว อาการหนักหนาสาหัส ปีนี้ เห็นว่า จะหนักเอาการกว่าเดิม โฉนด"ที่ดินโล้นเต็มสภาพ" นั้น โปรดเก็บกอดไว้ให้ดีด เพราะขณะนี้ งานปลูกป่าไล่ขึ้นไปไม่ถึงสักที จะถึงก็เจอ ตอ เอ๊ย เจอ แต่ไม้พืชไร่ ล้มลุก บ้างก็ โล้นขนานแท้...ขนานแท้ เอกชนหลากหลายช่วยก้น ร่วมมือกัน โหมปลูกป่า เพื่อถวายพระองค์เจ้าเหนือหัวไทย แต่ไม่ทันเหล่าอีแร้งอีกา ที่ไล่จิกกินไม้ยอดเขาปวงประชาอยู่ดอก นักการเมืองรุ่นเก่าโคตะระโกง แบบพวก "ห้อย" เห็นแก่ตัวกันมามาก ประเทศย่อมลำบาก เยี่ยงนี้
21 กันยายน 2550 14:45 น. - comment id 757418
ความแห้งแล้งที่เราได้รับ ไม่ใช่ว่าป่าระเหยไปได้ในอากาศซะที่ไหน ผลในวันนี้ เพราะความเห็นแก่ตัวในวันวานรึปล่าว ฉกฉวย แย่งชิง เบียดบัง และรับประโยชน์อื่นใด ให้ตน หรือพวกพ้อง หรือบุคคลอื่นซึ่งเสนอประโยชน์ให้ตน เอาไปซึ่งทรัพยากร ทีละน้อย ทีละน้อย จนเหลือแต่ความแห้งแล้ง ลูกหลานรับกรรม เพราะบรรพบุรุษบางจำพวก เห็นแก่ตัว
21 กันยายน 2550 15:27 น. - comment id 757446
ตอนนี้มนุษย์เราต้องเผชิญชะตากรรมมากมายเลยค่ะ...เหมือนว่า ธรรมชาติลงโทษพวกเราแล้ว...แต่ละข่าวที่เกิดขึ้น ที่มนุษย์บอกว่าเป็น***ภัยธรรมชาติ***แท้จริงแล้วคือ น้ำมือมนุษย์นั่นเองที่ทำให้เกิดขึ้น
21 กันยายน 2550 20:34 น. - comment id 757552
แวะมาเยี่ยมชมผลงานค่ะ..
22 กันยายน 2550 15:31 น. - comment id 757861
น่าจะเขียนซะตั้งสามปีก่อนแล้วนี่นา
22 กันยายน 2550 17:12 น. - comment id 757901
ย้อนกลับไปเมื่อยังเด็ก พ่อ แจกแจง แผนที่ทหารให้ดูเสมอว่า ที่ใด คือ ผืนป่าของไทย ที่ใด มิใช่ ที่ใด ที่ ป่าถูกรุกราน พ่อ เอ๋ย "นามสกุล ตระกูลนั้น " ไว้ให้ฟัง เพื่อไว้เล่าขานให้คนรุ่นหลังฟัง ไม่ว่าจะเป็น ป่า เมืองฉะเชิงเทรา และ ปราจีนบุรี หรือ ที่อื่นๆ สมัยนั้น ป่าทางเหนือ ยังเลี่ยน เตียน โล่ง ไม่เท่าสมัยนี้ เมื่อเดินทางไปแข่งกีฬาแบดมินตันเขต ทางเหนือ ตอนอายุ 13-14 จำฝุ่นแดงตลอดทาง จน ผมเปลี่ยนสีเป็นสีแดงได้ แต่มองไป ก็ยัง เห็น ภูเขียวๆ อยู่มากมาย นับจากนั้นมา สี่สิบปี วันนี้ ป่าหายไปจากประเทศไทย กว่า สองในสาม.. สุดที่จะฟื้นคืนป่า เราไทย จักต้องถูกน้ำท่วมยับเยิน จักต้องถูก ไฟไหม้ จะเพราะ เผาเพื่อจะทำที่ทำกิน หรือ อะไรก็แล้วแต่ ต่างเห็นแก่ตัวกันเข้าไป เมื่อใดเล่า ที่เราจะ หยุดยั้ง คนเหล่านี้ได้ คนธรรมดาสามัญ จะกล้าเปิดปากบอกเชียวหรือ ว่า ใครกำลังตัดไม้อยู่ บ้านฝั่งตรงข้าม กำลัง ให้ ผู้เช่าเก่าออกจากที่ดินที่ให้เช่า ต้นยูคาลิปตัส สองต้น กำลังถูกตัด และ ต้นไม้ใหญ่อีกสองต้นด้านใน ก็เช่นกัน ...เสียงเลื่อยนั้น ดังขนาดหนัก ขนาดเราอยุ่ ชั้นบน ท้ายบ้าน ยังได้ยินสนั่นหู ชาวบ้าน อาจจะหูดับ เพราะเกรง ฤทธิ์ ลูกปืน มิฉะนั้น ก็เงินมันปิดปาก..อ้าปากกันไม่ขึ้นเลย ข้างล่างนี้ตอบ คุณ ฤกษ์ ชัยพฤกษ์ ครรโลง..แตรกป่า tiki .....เฮ เฮย เฮ ฮะ ฮ้าย..........ฮวกเฮย แตรกป่า..สืบ สังเวย.............กี่ครั้ง โคลนซุงท่อนกอดเกย...........กำศพ....ไทยนา ไทรักไทยสุดยั้ง..................ท่วมแท้ถาวร .....ราบรอนขอนป่าล้วน........ธรณี แตรกซะอิ่มอกพี.................แต่ช้า สูฤาสุดวิ่งหนี......................ตามบาป..แบ่งเฮย ศพท่อนซุงเหว่ว้า................ทอดทิ้งตามทาง .....เหง่งหง่างฮึมเห่ฮ้าย........ลมครวญ เสียงย่อมแบกปลายหวน......ห่าฟ้า พฤกษากู่กำสรวล................สาปส่ง....ใดฤา ใดก่อบาปกรรมช้า..............แช่งล้วนนรกชัง ....เสียงครวญครางคร่ำเคล้า.....ปฐพี พฤกษ์พ่างพวกตรูมี................แต่อั้น ซุกซีกซากกาลี.....................ลอยแก่น...อกเอย ฝนสั่งกระชากชั้น.................เชิดทั้งธารา .....เสียงปี่ปีศาจไม้...............ดงไพร เหนืออิสานลงไป.................ออกซ้ำ ซุงซากล่องลากไกล............นัยน์หลั่ง...น้ำแฮ ตาแม่ชุ่มฉ่ำช้ำ....................ทั่วทั้งแดนไทย ....สาสน์ไศลพฤกษ์ส่งสร้าง......เรืองศรี ฝากแม่พระธรณี.....................ทั่วแคว้น อัคคีสั่งวารี...........................กำสรด...ส่งเอย วายุพัดเกลือกแม้น.................ล่มแล้วฤาไทย .วันที่ภาพน้ำแดงคลองประปายังติดตราเต็มทรวง วันที่เสียงข่าวสองเดือนที่แล้วเรื่องไม้ซุง"ธรรมชาติ" หล่นร่วง ล้มมาเองเต็มธาร...ยังอื้ออึงหู ฝากบทประพันธ์นี้ไว้ ณ เว็บไซท์แห่งนี้ ชั่วกาลนิรันดร์ tiki_ทิกิ บันทึกไว้ ณ บ่าย ๑๔:๓๒ นาฬิกา วันพฤหัส ๑๔ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๔๙ เรือนนนทบุรี.. .....เห็นน้ำขุ่นแดงมาประปาฟ้อง ริมฝั่งคลองขอบน้ำต่ำตลิ่ง แต่ก็เชือดเฉือนใกล้อย่างแน่จริง หากละทิ้ง มิเตือน เหมือนจืดจาง ...จึงฝากภาพ เตือนตน เพื่อพ้นภัย ข้าวของต่ำตกใกล้อย่าทิ้งขว้าง เก็บขึ้นบนเถิดเพื่อนอย่าปล่อยวาง ปีนี้น้ำโหดมิห่าง...เริ่มกร่าง...กราย จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 14 ก.ย. 49 07:18:46 ]
22 กันยายน 2550 17:13 น. - comment id 757902
........หายหัวไปหมดแล้ว.........ฤาไฉน ชนเผ่าเลือดชนไท...................ด่าวดิ้น สังเวยชีพสละไป....................หลากศพ....อืดเอย มิเท่าขอนตัดปลิ้น...................แก่นถ้วมธรณี .........ยอดภูพลีเพื่อล้วน..........เริงเงิน หลายหลากมากไม้เผชิญ..........ถิ่นถ้ำ เงินเลวตัดไม้เพลิน..................ขอนหล่น..ลอยฤา รีบออกแก้ตัวซ้ำ.....................เหล่านี้ไม้กลาง .....โอหนอพรางบาปแท้............โดยธรรม ยามเมื่อซุงระกำ.....................แผ่พ้น เรียงซัดชัดกระหน่ำ................เต็มแผ่น...ธารเฮย สูย่อมรู้ดีล้น..........................นี่ไม้ใครฤา จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 14 ก.ย. 49 14:23:40 ] ความคิดเห็นที่ 3 ....โกยเข้าคือกอบสิ้น.............หมดภู เรียงแผ่แม่พฤกษ์กรู...............กระทุ้ง มาช่วยหลากเรียงปู.................ปลายโผล่...เกาะเนอ หลากศพหลากขอนฟุ้ง............ฟ่ามฟ้าถิ่นไทย .....รักชาติไทยิ่งแล้ว..............เหนือตน รักมากท่วมถึงกมล................พวกโพ้น เงินใครอัดปากจน.................เย็บปิด สนิทแล จึงปล่อยภูเตียนโล้น..............ปล่อยน้ำโคลนเลน ....สังเวยเซ่นสั่งแล้ว.............เตือนสหาย ศพล่องเกยขอนหมาย............แต่งแต้ม ภูราบตะเกียกตะกาย.............ธารป่า...บ่านอ ราบต่ำเตรียมหอบแฟ้ม.........ป่าล้วนเงินตรู จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 14 ก.ย. 49 14:25:54 ] ความคิดเห็นที่ 4 .....เสียงสูพรูพฤกษ์สล้าง........จงฟัง ภูว่างเตียนตลิ่งพัง.................แผ่นคว้าง พฤกษ์ขอนตอกซัดฝั่ง...........ลอยลู่....หรุบใด ปากกู่รักชาติอ้าง..................แม่นแล้วเงินทอง.... .....เลือดลอยกองอืดอ้อม.......อกตรม ฤานี่สังเวยสม.....................".สืบ" ผู้ เสียดายด่วนระทม...............ตีจาก..ป่าเฮย เสียงป่ากังวานสู้..................สั่งฟ้าฝากดิน ......เฮ เฮย เฮ ฮะ ฮ้าย..........ฮวกเฮย แตรกป่า..สืบ สังเวย.............กี่ครั้ง โคลนซุงท่อนกอดเกย...........กำศพ....ไทยนา ไทรักไทยสุดยั้ง..................ท่วมแท้ถาวร จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 14 ก.ย. 49 14:28:23 ] ความคิดเห็นที่ 5 ....ราบรอนขอนป่าล้วน........ธรณี แตรกซะอิ่มอกพี.................แต่ช้า สูฤาสุดวิ่งหนี......................ตามบาป..แบ่งเฮย ศพท่อนซุงเหว่ว้า................ทอดทิ้งตามทาง .....เหง่งหง่างฮึมเห่ฮ้าย........ลมครวญ เสียงย่อมแบกปลายหวน......ห่าฟ้า พฤกษากู่กำสรวล................สาปส่ง....ใดฤา ใดก่อบาปกรรมช้า..............แช่งล้วนนรกชัง ....เสียงครวญครางคร่ำเคล้า.....ปฐพี พฤกษ์พ่างพวกตรูมี................แต่อั้น ซุกซีกซากกาลี.....................ลอยแก่น...อกเอย ฝนสั่งกระชากชั้น.................เชิดทั้งธารา จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 14 ก.ย. 49 14:31:07 ] ความคิดเห็นที่ 6 .....เสียงปี่ปีศาจไม้...............ดงไพร เหนืออิสานลงไป.................ออกซ้ำ ซุงซากล่องลากไกล.............นัยน์หลั่ง...น้ำแฮ ตาแม่ชุ่มฉ่ำช้ำ....................ทั่วทั้งแดนไทย ....สาสน์ไศลพฤกษ์ส่งสร้าง.......เรืองศรี ฝากแม่พระธรณี......................ทั่วแคว้น อัคคีสั่งวารี............................กำสรด...ส่งเอย วายุพัดเกลือกแม้น.................ล่มแล้วฤาไทย .วันที่ภาพน้ำแดงคลองประปายังติดตราเต็มทรวง วันที่เสียงข่าวสองเดือนที่แล้วเรื่องไม้ซุง"ธรรมชาติ" หล่นร่วง ล้มมาเองเต็มธาร...ยังอื้ออึงหู ฝากบทประพันธ์นี้ไว้ ณ เว็บไซท์แห่งนี้ ชั่วกาลนิรันดร์ tiki_ทิกิ บันทึกไว้ ณ บ่าย ๑๔:๓๒ นาฬิกา วันพฤหัส ๑๔ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๔๙ เรือนนนทบุรี.. จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 14 ก.ย. 49 14:33:16 ]
22 กันยายน 2550 17:15 น. - comment id 757903
ทั้งภาพ และเสียง จากสื่อมากหลาย ฟ้องประชาชนเป็นประจำ แต่หาได้มีใครเข้าไปแตะอิทธิพลดังว่านี้ไม่ โดยความเป็นจริงที่ทราบมา ว่า มีคนหนุนหลัง ระดับบิ๊กๆ มากมาย มาตลอด ทุกคน รับผลประโยชน์เหล่านี้ และ ไม่สนใจว่า ความเสียหาย ของประเทศ จะเป็นฉันใด บัดนี้ ความเสียหายอันใหญ่หลวง ก็ได้เกิดขึ้นแล้ว ให้เห็นกันตำตา ตำใจ มากกว่า สามปี และ โดยเฉพาะอย่างยิ่งปีที่แล้ว อันหนักหนาสาหัส ทำให้ ผลผลิตทางเกษตร ล่มจม ประมาณราคามหาศาลนั้นมิได้ เมื่อผลผลิตเกษตรเสียหายขนาดหนักนั้น ประชาชนเกษตรกรเหล่านั้น ก็ยากจนสุดจะเยียวยา ที่มาร้องแรกแหกกระเฌอกันอยู่ ตามท้องถนน ทุกข์ระทมขมขื่นกัน อยู่ถ้วนหน้า ล้วนไม่มีเงินใช้หนี้ ตามที่รัฐบาลก่อนได้ ไปสนับสนุน ให้เขานำ ที่ดินของปู่ย่าตายายไปเป็นหนี้ ธกส กันบ้าง ธนาคารอื่นบ้าง นายทุนบ้าง ระบอบประธานาธิบดีทัก*1 นั้น ได้ ทำให้ ประชาชน วินาศ กันแทบหมดสิ้น แต่ ...แต่ อนิจจา จริงๆ ความไม่รู้ นั้น ถูก กลบ ด้วย กระแส การวิพากย์วิจารณ์ การชี้นำไปทางผิดๆ การป้ายสี ให้แก่ รัฐบาลชั่วคราว มองไปให้ซึ้งเถิดว่า ใคร เป็นคน ทำลาย ทำร้ายชาติ อย่าง ย่อยยับ ปานนั้น ผลพวงของการกระทำนั้น ได้ออกดอกวิบัติ ขนาดใหญ่ เอาต้นปี 2549 ถึง ตลอด ปี 2550 นี้ ไม่มีผลใด ไม่มีเหตุ เพราะมีเหตุ จึงมีผล บทกลอนหลายชุดของข้าพเจ้า ที่เขียนมา ณ หน้า ห้อง พันทิป มาตลอดนั้น ได้บ่งบอก ที่มา แห่ง ทุจริต คิดมิชอบ ต่อ บ้าน ต่อเมือง มาตลอด ได้บ่งบอก ถึงความ "มือใครยาวสาวได้สาวเอา " มาตลอด ได้บ่งบอก ที่มา แห่งความ อยุติธรรม มาตลอด แต่เพียงเสียงเล็กๆ ที่พยายาม อ้าปาก ขึ้นมา ก็ถูก ทราย และ น้ำ ถมทับให้จมดินไป การกระทำอันมิชอบ เหล่านั้น พ่ายแพ้ " กระแสความนิยม " นั้นเสียหมดสิ้น วันนี้ จึงได้แต่ มองความพินาศ จากผลพวงการกระทำ อันมิชอบ ทั้งหลาย ที่ผ่านมา ซึ่ง นับเป็นมหันตภัยอันแท้จริงแก่มวลชนชาวไทย ตื่น และ ลืมตา กันให้แท้จริงเสียที (ภาพต้นมะขามถนนวิทยุ กรุงเทพฯ อายุมากกว่า 60 ปี ที่ให้ร่มเงาร่มรื่น และ มี วัฒนธรรมไทยอย่างยิ่ง บนถนนกรุงเทพฯ ...ในขณะที่ ต้นมะฮอก กานี ซึ่ง พระพุทธเจ้าหลวงทรงสั่งให้ปลูกไว้ ริมถนนบางเมืองทางเหนือ และ ไม้อื่นอีกมาก ได้ ถูก โค่นลง มาหลายปี หลายต้น อย่างน่าเสียดาย เป็นอย่างยิ่ง )
22 กันยายน 2550 17:17 น. - comment id 757904
คราวนี้มาต่อเรื่องที่ท่านทุกคนในประเทศไทย จักต้อง "เปิดตาดูให้เด่นชัด " เรื่องน้ำท่วมเศรษฐกิจพัง แต่ก่อนไม่เคยหนักหนาสาหัส เพราะน้ำมาแต่ ละครั้งนั้นเป็นไปโดยธรรมชาติ ของน้ำป่าเขาลำเนาไพร ป่าไม้เคยช่วยรับน้ำ อุ้มน้ำไว้ได้ แต่ บัดนี้ เมื่อป่าไม้ถูกทำลายขนาดหนัก ความสามารถที่จะช่วย โอบซ้บน้ำไว้ ก็ แทบไม่มี น้ำป่าจะไหลบ่าจากเหนือ ลงทิศใต้ คือภาคกลาง ทั้งหมดอย่างต่อเนื่อง น้ำที่บ่ามาในระหว่าง สองปีนี้ คือ ปี 2549-2550 นี้ มิใช่น้ำธรรมชาติ ธรรมดาอีกแล้ว แต่ เป็นน้ำที่ ทางการจีน ปล่อยออกจาก เขื่อนเหนือลุ่มแม่น้ำโขง ที่จีน ไม่สามารถทานกระแสน้ำท่วมได้ ก็ปล่อยโครมลงมา ที่แม่น้ำโขงด้านล่าง เวลาเขาเก็บกักน้ำไว้ อย่าง ต้นปีนี้ 2550 ประเทศไทย ก็แล้งขนาดหน้ก ประชาชน ทุกท่าน ทุกภาค โดยเฉพาะ ภาคเหนือ ภาคอีสาน และ ภาคกลาง โปรดได้อ่าน ข้อความต่อไปนี้ แล้วหาหนทาง 1. ป้องกันน้ำท่วมขนานหนัก น้บแต่นี้ 2. เก็บกับน้ำไว้ให้มากที่สุด สำหรับ การ เพาะปลูกในแล้งหน้า ขอเชิญอ่านได้ ที่มา http://www.searin.org/Th/Mekong/mek_n5.html คนเชียงรายอ่วมเจอวิกฤติแม่น้ำโขงแห้งขอด จนแผ่นดินไทย-ลาวเกือบชิดติดกัน โวยสาเหตุปัญหามาจากการสร้างเขื่อนกั้นแม่น้ำโขงทางตอนบนของจีน ทำให้กระทบ ต่อวิถีชีวิตคนลุ่มน้ำโขงท้ายน้ำอย่างหนัก นายมิติ ยาประสิทธิ์ ประธานกลุ่มรักษ์เชียงแสน เปิดเผยว่า สถานการณ์แม่น้ำโขง ในตอนนี้ถือว่าอยู่ในขั้นวิกฤติอย่างหนัก เนื่องจากระดับน้ำนั้นแห้งจนทำให้แผ่นดิน ไทย-ลาว ยื่นติดกัน เดินข้ามถึงกันได้ ซึ่งจากการพูดคุยถึงปัญหาเรื่องน้ำแห้งนี้ ทุกคนต่างบอกกันเป็นเสียงเดียวว่า ผลกระทบนั้นมาจากการสร้างเขื่อนกั้นแม่น้ำโขง ทาง ตอนบนของประเทศจีนอย่างแน่นอน ปีที่แล้วก็เกิดน้ำโขงเอ่อท่วมในพื้นที่ อ.เชียงแสน ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เมื่อถามเพื่อนที่ทำงานในจีน เขาก็บอกว่าน้ำมันท่วมที่จีน ก็เลยต้องปล่อยน้ำ จากเขื่อนลงมา มาตอนนี้ก็เกิดปัญหาน้ำแห้งเพราะทางจีนเปิด-ปิด กักน้ำเอาไว้อีก นายมิติ กล่าวอีกว่า ล่าสุดมีนักวิชาการชาวญี่ปุ่นได้เข้ามาในพื้นที่ อ.เชียงแสน เพื่อสอบถามข้อมูลถึงเรื่องการพัฒนาลุ่มน้ำโขงจากการเดินเรือ ซึ่งได้ตรวจวัด ระดับน้ำ ตะกอน และการพังทลายของตลิ่งในฝั่งลาว ซึ่งตนก็ได้ชี้แจงถึงผล กระทบของปัญหาน้ำขึ้นน้ำลงของแม่น้ำโขง ว่ามาจากการเขื่อนทางตอนเหนือ ของจีน แต่ทางนักวิชาการกลุ่มนี้ก็ยังไม่กล้าฟันธงว่าปัญหาทั้งหมดนั้นมาจาก การสร้างเขื่อนของจีน ประธานกลุ่มรักษ์เชียงแสน ยังได้ตั้งข้อสังเกตอีกว่า ในขณะที่ระดับน้ำในแม่น้ำโขง ลดลงนั้น ได้กระทบต่อน้ำสาขา เช่น แม่น้ำกก แม่น้ำคำ แห้งเหือดไปด้วย ซึ่งทำให้ เกษตรกรเดือดร้อนกันอย่างหนัก หลังจากเก็บใบยาสูบแล้ว ต้องหยุดการเพาะปลูกผัก เนื่องจากน้ำในแม่น้ำสาขาไหลลงแม่น้ำโขงจนหมด นายเสาร์ ระวังศรี ชาวประมงหาปลา จาก อ.เชียงของ จ.เชียงราย กล่าวถึงปัญหา ในครั้งนี้ว่า สาเหตุนั้นมาจากการสร้างเขื่อนกั้นแม่น้ำโขงทางตอนบนของประเทศจีน ซึ่งสังเกตได้ว่าตั้งแต่จีนสร้างเขื่อนข้างบน ก็เจอปัญหาแบบน้ำขึ้น-น้ำลงอย่างนี้มา 3 ปีแล้ว ทำให้ปลาลดหายไปหมด นอกจากนั้น ยังกระทบต่อแม่น้ำสาขาของแม่น้ำโขงอีกด้วยพอน้ำโขงมันแห้งอย่างนี้ น้ำโขงมันขึ้น-ลง น้ำสาขาน้ำห้วยก็แห้งลงด้วย เพราะพอน้ำโขงมันลง น้ำห้วยน้ำสาขา ที่ไหลลงน้ำโขงก็ถูกดึงลงมาด้วย น้ำสาขาก็แห้ง ห้วยก็แห้ง ปลาก็หาที่อยู่ในน้ำสาขา ลำบาก อย่างดอนทรายบางดอนไม่มี พอมาปีนี้มีดอนทราย อย่างหาดจั่นปีนี้ทรายมูน กว่าปีก่อน ห้วยโตนน้ำก็น้อย เพราะน้ำโขงดึงน้ำจากห้วยโตนลงมาเยอะ นายชฏิล เฉียบแหลม คนขับเรือรับจ้างในแม่น้ำโขง กล่าวว่า ตั้งแต่ที่ประเทศจีน ได้สร้างเขื่อนทางตอนบน กระแสน้ำเปลี่ยนไปมาก ดอนทรายที่เคยมีก็ไม่มี บางที่ ไม่เคยมีดอนทรายกลางน้ำก็กลับมี กระแสน้ำขึ้น-น้ำลงไม่ปกติ ปัญหาเหล่านี้มันมา จากเขื่อนทั้งนั้น อย่างถ้าเรือจีนจะล่องลงมา ถ้าน้ำไหลน้อยเขาก็จะปล่อยน้ำจากเขื่อนให้น้ำสูงขึ้น เพื่อให้เรือล่องลงมาได้ จีนเขาไม่สนใจหรอกว่าใครจะเป็นยังไง เขาจะล่องเรืออย่างเดียว ด้านนายสุมาตร ภูลายยาว ผู้ประสานโครงการแม่น้ำเพื่อชีวิต กล่าวว่า จากการได้ สอบถามกับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งชาวบ้านได้ตั้งข้อสังเกตว่า ตั้งแต่มีเขื่อน กั้นแม่น้ำโขงที่ประเทศจีน มีการสร้างท่าเรือตามที่ต่างๆ และปริมาณเรือสินค้าเพิ่ม มากขึ้นในแม่น้ำโขง ชาวบ้านพบเห็นความเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตชาวบ้าน 2 ประการ คือ 1.ตั้งแต่ทางการจีนได้สร้างเขื่อนกั้นน้ำโขงบริเวณต้นน้ำในเขตจีนทำให้ จีนสามารถควบคุมระดับน้ำในแม่น้ำโขงได้ทั้งหมด ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำโขงขึ้นลง อย่างผิดธรรมชาติ ส่งผลกระทบต่อการประกอบอาชีพของชุมชนริมฝั่งแม่น้ำโขง ตลอดแนว รวมทั้งการทำการเกษตรริมฝั่งแม่น้ำโขงทั้งหมด และ 2.น้ำในแม่น้ำโขงมีสีขุ่นข้น ทั้งที่แต่เดิมน้ำในฤดูแล้งจะใส ซึ่งส่ง ผลกระทบต่อพืชพันธุ์ใต้น้ำ รวมทั้งพันธุ์ปลาชนิดต่าง ๆ ด้วย จะเห็นได้ว่า เมื่อระดับน้ำในแม่น้ำโขงขึ้นลงผิดไปจากธรรมชาติ ทำให้ ปลาที่เคยเข้ามาสู่แม่น้ำโขงปรับตัวไม่ได้ ทำให้พันธุ์ปลาลดน้อยลง นอกจากนี้ พันธุ์พืชที่เคยอยู่ในแม่น้ำโขง ตามเกาะแก่งต่าง ๆ ก็ได้รับผลกระทบ เช่น ไก ที่ก่อนหน้านี้เมื่อเริ่มเข้าสู่ฤดูแล้ง ไกจะเริ่มเจริญเติบโต ทำให้กลุ่มแม่บ้านในเขต อำเภอเชียงของสามารถนำมาปรุงแต่งออกจำหน่ายสร้างรายได้เสริมให้กับครอบครัว ได้ในเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคมทุก ๆ ปี แต่ปีนี้กลับไม่มีไกเกิดขึ้นเลย ทั้งนี้ โครงการแม่น้ำเพื่อชีวิต รายงานว่า แม่น้ำโขงเป็นแม่น้ำที่มีขนาด ใหญ่เป็นอันดับที่ 10 และเป็นหนึ่งในแม่น้ำที่มีความ อุดมสมบูรณ์ที่สุด ของโลก จากต้นกำเนิดในที่ราบสูงทิเบต จนไหลลงสู่ ทะเลที่ประเทศเวียตนาม รวมความ ยาวทั้งหมดกว่า 4,902 กิโลเมตร ทำหน้าที่หล่อเลี้ยง ประชาชนกว่า 60 ล้านคน ใน 6 ประเทศ ตั้งแต่จีน พม่า ไทย ลาว เขมร และ เวียตนาม แม่น้ำโขง ซึ่งเปรียบ ดังชีวิตและสายสัมพันธ์ของภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ได้ถูกคุกคามมาโดย ตลอด โดยกิจกรรมการพัฒนาที่ไม่ได้คำนึงถึงความยังยืน ของสังคม วัฒนธรรม และธรรมชาติ ที่ขึ้นอยู่กับชีวิตของแม่น้ำนานาชาติสายนี้ โครงการพัฒนาขนาดใหญ่ที่ดำเนินการในแม่น้ำโขงตอนบนได้ส่งผล กระทบต่อระบบนิเวศ พันธุ์ปลา และวิถีชุมชนสองฝั่งแม่น้ำโขงบริเวณพรมแดน ไทย-ลาวตอนบน มี 2 โครงการ คือ 1.โครงการสร้างเขื่อนกั้นแม่น้ำหลานซาง หรือแม่น้ำโขงตอนบนในยูนนาน ประเทศจีน โดยจีนสร้างเขื่อนเสร็จไปแล้ว 2 เขื่อนคือ เขื่อนมันวาน เริ่มทำการผลิตไฟฟ้าเมื่อปี 2539 และเขื่อนด้าเฉาชาน ส่วนอีก 2เขื่อนกำลังก่อสร้างคือ เขื่อนเซี่ยวหวาน ซึ่งหากสร้างเสร็จ จะเป็นเขื่อนที่สูงที่สุดในโลกเขื่อนหนึ่งคือ มีความสูงเกือบ 400 เมตร และเขื่อน จิงหง ตั้งอยู่ใกล้เชียงรุ้ง เป็นเขื่อนที่อยู่ใกล้สามเหลี่ยมทองคำมากที่สุด นอกจากเขื่อนข้างต้นแล้ว บริษัทเอกชนของจีนยังทำการศึกษา โครงการสร้างเขื่อนกั้นแม่น้ำโขงสายหลักอีกถึง 11 เขื่อน หากสร้างทั้งหมด จะมีเขื่อนกั้นแม่น้ำโขงในตอนบนถึง 15 เขื่อน และ 2.โครงการระเบิดแก่งเพื่อการเดินเรือเชิงพาณิชย์จากซือเหมา ถึงหลวงพระบาง โครงการนี้ดำเนินการโดยรัฐบาล 4 ประเทศคือ จีน พม่า ลาว และไทย ภายใต้การนำของจีน ในช่วงปี 2544-2547จีนได้ดำเนินการระเบิดแก่ง ทั้งหมดในแม่น้ำโขงตั้งแต่ใต้เชียงรุ่งลงมาตามแนวพรมแดนพม่า-ลาว จนแล้วเสร็จ และยังได้ดำเนินการสร้างคันกั้นน้ำ เพื่อบังคับน้ำที่แก่งไคร้ จนกระทั่งเรือขนาด 300 ตัน สามารถเดินทางมาถึงเชียงแสนได้ โดยในรายงานระบุว่า โครงการทั้งสองส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อ ระบบนิเวศและชุมชนที่พึ่งพาแม่น้ำโขงอย่างรุนแรง โดยเฉพาะการลดลงของ ระดับน้ำในฤดูแล้งนับแต่เริ่มมีการสร้างเขื่อนมันวาน ความรุนแรงของปัญหาทวีมากขึ้น ในช่วงของการระเบิดแก่ง เพราะไม่เพียงแต่ระดับน้ำลดลงเท่านั้น แต่ยังทำให้การ ขึ้น-ลงของน้ำโขงผิดปกติ เนื่องจากมีการควบคุมน้ำ เพื่อทำการระเบิดแก่ง และ สร้างคันกั้นน้ำ งานวิจัยจาวบ้านพบความเปลี่ยนแปลงของระบบนิเวศแม่น้ำโขง อย่างชัดเจนจากการดำเนินการของทั้งสองโครงการ จากรายงานวิจัยจาวบ้านของ 3 อำเภอ ใน จ.เชียงราย พบว่า แม่น้ำโขง เกิดการทับถมของตะกอนทราย และการเปลี่ยนแปลงทิศทางการไหลของน้ำ และร่องน้ำ การทับถมของตะกอนทราย การพังทลายของตลิ่ง การลดลงของไก และพรรณพืชอาหาร สมุนไพร การเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศแม่น้ำโขงได้ส่งผล กระทบอย่างรุนแรงต่อไกแม่น้ำโขง นอกจากนั้น ยังส่งผลกระทบต่อพันธุ์ปลาและการหาปลา ซึ่งย่อม ส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจสังคมของคนหาปลาในเขตลุ่มน้ำโขงโดยตรง และ ยังส่งผลกระทบต่อการทำเกษตรริมโขง ซึ่งมีความสำคัญต่อชาวบ้านทั้งในแง่ ของความมั่นคงทางอาหารและความมั่นคงทางเศรษฐกิจ แต่การทำเกษตรริมโขง เริ่มประสบกับปัญหาตั้งแต่ปี 2540 หรือ 1 ปีหลังมีการสร้างเขื่อนมันวานในประเทศจีน http://www.searin.org/Th/Mekong/mek_n5.html เครือข่ายแม่น้ำเอเซีย ตะวันออกเฉียงใต้ Southeast Asia Rivers Network ที่มา http://www.searin.org/Th/Mekong/mek_n5.html
22 กันยายน 2550 18:05 น. - comment id 757926
~ขณะนี้ เป็นปลายเดือนกันยายน พุทธศักราช 2550 กำลังจะคืบเข้า เดือน 11 และ เดือน 12 ถือเป็นเดือนน้ำหลาก น้ำมาก มาแต่โบราณ และ ที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง คือ การที่ ภูเขาน้ำแข็งขั้วโลก มีการละลาย ของหิมะ ขนาดหนัก หาก ดูตามแผนที่โลก ของ Google Earth อย่างที่ ตรวจดูจากแผนที่แผ่นดินไหว ก็ดี ..ก็จะเห็น ภุเขาน้ำแข็งขั้วโลกใต้ ที่ ทางออสเตรเลีย และ นิวซีแลนด์ มีความวิตกว่า น้ำจะท่วมสูงขนาด ตึกนับสิบชั้นทีเดียว ในอนาคต หากดู จาก พื้นที่ชายทะเลไทย จะเห็นได้ว่า ใต้ลุ่มน้ำแม่กลอง ชาวบางขุนเทียน แถบนั้นไล่ลงไป อยู่ในขั้นวิตกจริตพอสมควรที่ ที่ดิน ริมทะเล ได้ถูกน้ำทะเล ไล่ท่วมเข้ามาหลายกิโลเมตร เข้ามาเรื่อยๆ ดังนั้น ในปี 2550 นี้ เป็นต้นไป เรา ชาวไทยทุกคน ไม่สามารถ จะ นั่งนิ่งเฉยกันได้ อีกต่อไป ทุกคนต้องระวังตัว กัน โดยเฉพาะ ภาคกลาง ต่อภาคใต้ ทั้งหมด จะรับผลพวงปลายสายน้ำอย่างสุด ๆ กว่า ปีที่แล้ว ทั้งนี้ บทกลอนของเรา ก็คงมิได้แก้ไขอะไรได้ นอกจาก มือที่พิมพ์เข้าเครื่องไป พริ้นท์มาเก็บไว้ และ ...เก็บไว้ให้ดีไม่ให้ มันจมน้ำ ..ก็เท่านั้น อยู่ที่ว่า "เรือไทย" เราลำนี้ จะ ฝ่าฟันคลื่นลมไปด้วยกัน หรือไม่ หรือต่างคน ต่างหาชามอ่าง แพยาง ลอยคอกันไปตามลำพัง เพราะ มอง หน้ากันไม่ติด กันไปหมด ทั้งประเทศ ความหลงพรรค หลงพวก นี้ กินแรงมาก ขนาด พี่น้องกันนี้ พูดเรื่องผู้มีอำรนาจเก่า ทันใด ทะเลาะกันบ้านแตกได้ท้นที ลืมไปแล้วละมัง ว่า " การเมืองไม่มีมิตรแท้ และ ศัตรูถาวร" คนไทยมัวแต่ เป็นสมุน โน่น สมุน นี่ แล้วเลย พากัน โกรธกัน เกลียดกัน ชังกัน ทุกบ้านทุกเรือน อย่างน่าอนาถนัก พวกเขาหันหน้าไปจับมือกันแล้วมิได้โกรธกันสักหน่อย แต่ ลูกสมุนน่ะ ? เป็นศัตรูถาวร วิวาท ถึง ฆ่ากันตายไปก็มี หาก น้ำท่วมปีนี้ จะลอยคอ กันแบบไหน ยังมองภาพไม่เห็น จะลอยคอแบบ แพแตก หรือ ว่า ลอยคอไป ยางรถยนต์อันเดียวกันแล้ว สะบัดหน้าไปกันคนละทิศ เมื่อไหร่จะสามัคคีเสียที ค้อปี้ ทั้งงานเก่า และ เสนอ ข่าวน้ำ ๆ ที่สำคัญมาให้อ่าน เตือนภัยพิบัติกันแล้ว ต้องยก "คำทำนายโหรดัง" ที่เขาว่า สิ้นปี จะมี วาตภัย พายุหมุน ขนานใหญ่ อีก หากยังไม่สามัคคี กัน คงต้อง ตัวใคร ตัวมันกันจริงๆ ละ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W5840702/W5840702.html