** คืนถิ่น ** ตะวันรอนปลายฟ้ามามืดมน พลิกผันจนคืนถิ่นจินต์หรรษา วิเวกวังเวงใจไล้โลมนัยน์ตา ไหลรินมาหลั่งลงปลงฤทัย ทุ่งสีทองเคยไสวคล้ายไพรสณฑ์ กลับร้างจนเหม่อมองปองสลาย ผ่านเบื้องหลังครั้งจากสู่ภายใน บัดนี้ไร้สนองความต้องการ เถียงน้อยน้อยเหลือไว้ได้พังผุ คอกที่คลุกเคล้าเคียงเรียงผสาน กับทุยเจ้าว่างเว้นเสียเนิ่นนาน สิ่งสนานเหลือไว้มิได้ยล เสียงของฟ้าคำรามดุจพร่ำหา ต้อนรับมาพลิกผันอันสับสน ตะลึงแลกระท่อมล้อมอับจน ร้างเสียหม่นหทัยที่ได้คอย ด้วยยากจนแสนเข็ญเร้นหนีจาก ต้องลาพรากอู่นอนตอนใช้สอย ครั้นเมื่อหวนกลับให้หัวใจลอย กลับเป็นรอยแผลเสริมเติมสิ่งทำ ซบก้มลงกอบดินละเลงกาย ต่อนี้ไปไม่หนีสิ่งที่ฉ่ำ จะสร้างสิ่งต่างต่างวางมัดจำ ไม่ชอกช้ำน้ำใจเจ้าอีกเลย สัญญาข้าฝากฟ้าคงมาสนอง แผ้วเรืองรองผืนดินถิ่นเฉลย ไม่โป้ปดมดเท็จเช่นอย่างเคย ฝนเจ้าเอ๋ยเมตตาผืนนาพลัน จะพลิกฟื้นท้องทุ่งพุ่งพลิ้วไสว เหลืองวิไลชอุ่มพุ่มพฤกษ์สัน ตระการตารวงข้าวอเนกอนันต์ ด้วยกำปั้นสองมือมาแกว่งไกว ขอฟ้าดินเมตตาข้าด้วยหนอ เหตุการณ์ก่อข้าผิดจิตใจไหว เพียงเพื่อเงินความรักฝากวิไล จึงหนีไปเมืองหลวงถูกลวงมา ต่อแต่นี้คำมั่นด้วยสัญญา จะไม่ลาผืนดินถิ่นห่วงหา กลบชีวิตต่อเจ้าเฝ้าโรยลา ซับน้ำตานอนลงตรงผืนทอง. *** แก้วประเสริฐ. ***
7 กันยายน 2550 13:59 น. - comment id 750926
>ขออนุญาตนะค่ะ ตะวันรอนปลายฟ้ามาถึงถิ่น มุ่งหากินเมืองหลวงแสนลวงหนา หากวันนี้ได้ย้อนคืนคอนมา โอ้ นิจจาไม่เหมือนสะเทือนใจ ทุ่งสีทองที่ร้างรอยฟางข้าว เจ้าทุยเฒ่าก็ไม่ปรากฎหนอ เถียงนาน้อยเคยนั่งก็มาผุ เหมือนจะปลุกสำนึกให้คืนหวน เมื่อฝนฟ้ารดหน้าได้ตักเตือน ให้คืนเรือนพลิกฟื้นท้องทุ่งนา ต่อแต่นี้ตั้งใจไว้จะรักษา ผืนนาดินเกิดเถิดตัวเรา /font>ลองดูค่ะ ขออนุญาตนะค่ะ
7 กันยายน 2550 14:12 น. - comment id 750930
คุณ กชมนวรรณ แต่งได้ดีแต่ผิดครับ ผมก็ลงไว้ให้อ่านแล้ว นี่เกี่ยวกับการเขียนกลอนแปด ไปศึกษาไว้ ที่ผิดคือ โอ้ นิจจาไม่เหมือนสะเทือนใจ คำสุดท้ายบทส่ง คือคำว่าใจ ต้องไปสัมผัสกับบทต่อไป ในวรรคที่สองคำสุดท้ายนะครับ แต่ของคุณเป็น ให้คืนเรือนพลิกฟื้นท้องทุ่งนา คุณลงด้วยคำว่าทุ่งนา อ่านแล้วมันจะขัดกันครับ การเขียนกลอนแปดยาวๆนะ ต้องสัมผัสนอก สัมผัสในตลอดจนกระทั่งจบครับ ขึ้นเรื่องอะไร ควรจบด้วยเรื่องนั้นๆครับ เขียนได้ดีแล้วผิด กฏเกณฑ์ครับ เอาอ่านใหม่นะครับ กลอนแปด กลอนแปดต้องแปดคำเสมอห้ามมากน้อยยก เว้นคำกล้ำท่านอ่านแล้วได้คำเดียวจ๊ะ สรรค์อักษรให้พอเหมาะพอควรนะ อักษรสูงมี 11 ตัว คือ ข ฃ ฉ ฐถ ผฝ ศษสห ใช้วรรณยุกต์แทนได้จะทำให้เสียงสูง คือ สระอิ สระอี สระไม้เอก ไม้โท ไม้ตรี จ๊ะ อักษรกลาง มี 9 ตัว คือ ก จ ฎ ฏ ด ต ปอ ผมแยกอักษรตามกลุ่มไว้ หากจำก็เพียงจำกลุ่ม อักษรสูง ข ฃ ฉ ฐ ผ ศ สระนั้นไม่ต้องบอกนะ นอกนั้นเป็นอักษรต่ำหมด ทั้งหมดครบ 44 ตัวจ๊ะ คำสุดท้ายวรรคแรกนั้นต้องเป็นคำเสียงสามัญ คำสุดท้ายวรรคสองนั้นต้องเป็นคำเสียงสูง คำสุดท้ายวรรคสามนั้นต้องเป็นคำเสียง กลางหรือ เสียงต่ำ คำสุดท้ายวรรคสี่นั้นซึ่งเป็นกลอนส่งต้องเป็น คำเสียงต่ำหรือสามัญก็ได้ยกเว้นคำตาย หากจะ ใช้ก็ได้แต่ความไพเราะจะขาดหายไปหน่อย และเวลากลอนรับจะรับได้ยาก ต้องคนที่เก่ง และชำนาญเท่านั้นถึงจะทำได้ ** ฉันทลักษณ์ ** กลอนแปดแบ่งเป็น 4 บาทหรือสี่วรรค คือ 1)กลอนสลับ กลอนวรรคต้น คำสุดท้ายใช้คำ เต้น นอกจากคำสามัญ 2)กลอนรับ กลอนวรรคที่สอง คำสุดท้าย นิยมเสียวจัตวา ห้ามเสียง ตรี โท สามัญ วรรณยุกต์มีรูป แต่ต้องใช้คำสุดท้ายเสียงตรี (รับกลอนส่งบทแรกหรือบาทแรก) 3)กลอนรอง คำสุดท้ายนิยมเสียงสามัญ ห้ามเสียงจัตวา คำที่มีรูปวรรณยุกต์ จะใช้คำตายเสียงตรีก็ได้ถ้าวรรครับคำตายส่งมา 4)กลอนส่ง คำสุดท้าย นิยมเสียงสามัญ ห้ามใช้คำตาย และคำที่มีรูปวรรณยุกต์ จะใช้เสียงตรีบ้างก็ได้ พยายามฝึกฝนเข้านะจะมาคอยดูเสมอๆ แก้วประเสริฐ.
7 กันยายน 2550 14:23 น. - comment id 750935
อยากหวนกลับคืนถิ่นผืนดินเกิด ที่กำเนิดความอบอุ่นละมุนหวาน ซบตักแม่เคียงใกล้พ่อต่อนานนาน ความสำราญจะตักตวงให้ดวงใจ อยากกลับไปอยู่บ้านอย่างถาวรเหมือนกันค่ะ แต่เอมขอทำความฝันของพ่อกับแม่ให้เป็นความจริงซะก่อน วันนี้ทำงานเครียดมาก เลยแวะมาขอกำลังใจจากพ่อแก้วค่ะ
7 กันยายน 2550 14:49 น. - comment id 750952
คุณ ทะเลใจ ทุกๆสิ่งทุกๆอย่างมีอุปสรรคเสมอ ชีวิตพ่อก็ ผ่านร้อนหนาวมาก็มากแล้ว สิ่งที่เราต้องทำคือ สติตั้งมั่น เชื่อใจตัวเอง วางแผนแก่ชีวิตเรา จะทำ อะไรก็ควรหมั่นไตร่ตรองทบทวนก่อนกระทำ บาง ครั้งสิ่งนิดเดียวกลายเป็นสิ่งใหญ่ไปในพริบตา ฉะนั้นต้องมีสติสัมปชัญญะตลอดเวลา แต่พลาดก็ อย่าคิดเสียอกเสียใจคิดเสียว่าเป็นกรรม ซึ่งยากจะ หลีกเลี่ยงได้ พ่อขออวยพรให้ลูกผ่านพ้นอุปสรรค ทุกประการเป็นมิ่งขวัญแก่พ่อแม่นะจ๊ะ รักลูกเสมอ แก้วประเสริฐ.
7 กันยายน 2550 15:08 น. - comment id 750961
ขอบคุณค่ะ ออิ
7 กันยายน 2550 15:09 น. - comment id 750962
อยากกลับบ้านจังเลยค่ะคุณลุง
7 กันยายน 2550 15:14 น. - comment id 750966
สวัสดีค่ะลุงแก้ว....กลอนของลุงแก้วยังคงความไพเพาะเสมอเลย ลุงแก้ว....หลานแก้วคนนี้เข้าระบบไม่ได้ ทำไงดี แงๆๆๆ จะมาเขียนกลอนสักหน่อยเชียว ระบบไม่ยอมให้เข้า รหัสก็ถูกต้องพิมพ์ไม่ผิดเพราะว่าจดเอาไว้กันลืมด้วยนะเนี้ยยยยยยเศร้าเลย ส่งเมล์ไปถามผู้ดูแลระบบแล้วค่ะ...กำลังรอคำตอบอยู่...ไว้หลานแก้วเข้าระบบได้จะมาเขียนกลอนให้ลุงแก้วอ่านนะค่ะ ต้องขอตัวก่อนนะลุงแก้ว คิดถึงเพื่อนๆๆในบ้านกลอนทุกคนเลย
7 กันยายน 2550 15:32 น. - comment id 750973
ลุงแก้วประเสริฐที่เคารพ.. อ่านกลอนลุงแล้วสงสัยอย่างหนึ่งค่ะ จะขำก็ไม่ว่าเนาะ...แต่ไม่รู้จริง ๆ ค่ะ คำว่า "เถียง" คงมิได้หมายถึงทะเลาะแน่ ๆ เพราะอ่านไปแล้วมันมีผุพังด้วย..แต่หลานอยาก ทราบว่าเจ้า "เถียง" น่ะเค้าคืออะไรกันคะ..จะเหมือนที่ เอาไว้ลากควายไถนารึเปล่าคะที่เขาเรียกว่า แอก อะไรนี่แหละค่ะ.. อาจเป็นภาษาคนละถิ่นรึเปล่า อิ อิ.. อนุญาตให้หัวเราะดัง ๆ จ้า เพราะรพีไม่ได้ยิน..ฮ่า ๆๆๆ..
7 กันยายน 2550 15:33 น. - comment id 750977
แผ่นดินภัพยอมรับเจ้ากลับถิ่น มอบผืนดินให้อิงแอบแนบเนา มอบแผ่นดินผืนใหญ่ให้ขัดเกลา แม้ตัวเจ้าจะร้างห่างมานาน พอแล้วครับครูแก้ว ยิ่งแต่งยิ่งมั่วไปใหญ่ แต่งกลอนสิแก้วเยี่ยมไม่มีที่ติ เมื่อวานอยากแต่งประมาณนี้ แต่ออกมาดูไม่จืดเนื้อหาขอผมไม่ครอบคลุม เหมือนของอาจารย์เลยเยี่ยมจริงๆ แต่เรื่องเสียงสูงเสียงต่ำผมไม่ค่อยเข้าใจ เป็นเรื่องเดียวในภาษาไทยที่ผมไม่เข้าใจตั้งแต่สมัยเรียนต้องยอมรับแต่โดยกรรม
7 กันยายน 2550 15:42 น. - comment id 750979
เถียงคือ กระท่อมปลายนาประมาณนี้น่ะ หญิงระพี คือบ้านอีกหลังของชาวนาก็ว่าได้ ส่วนใหญ่ใช้กันที่อีสานที่อื่นไม่ทราบครับ ชาวอีสานนิยมย้ายข้าวของไปนอนที่เถียง เพื่อความสะดวกในการทำนา ไม่ต้องไปกลับทุกวัน มีขนาดใหญ่กว่ากระท่อมนะ เพราะสามารถนอนได้หลายคนคือทั้งครอบครัวเลย
7 กันยายน 2550 15:57 น. - comment id 750996
คืนถิ่นคงไม่ไหวค่ะคุณลุง ปีนี้อีสานแล้งจัดเลย สงสารก็แต่กระดูกสันหลังของชาตินั่นแหละคะ
7 กันยายน 2550 16:33 น. - comment id 751023
ดีจ้า......คุณแก้วประเสริฐ........ วันนี้มีแต่กลอนเพราะๆเลยน้อ......แวะมาชื่นชมและทักทายในคราวเดียวกันจ้า.....
7 กันยายน 2550 16:48 น. - comment id 751038
ดีคะแวะมาทักทายกันคะ ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมพระจันทร์ ฯ เสมอนะค่ะ
7 กันยายน 2550 19:24 น. - comment id 751107
สวัสดีค่ะ คุณครูแก้ว รีณาอยากแต่งแบบนี้บ้าง แต่อิเมจของรีณา ไม่ธรรมชาติ ลองแบบนี้ ได้ไม้คะ...... คืนสู่บ้าน สู่เหย้า ของเราก่อน บ้านเคยนอน ได้หลับ กลับมาฝัน จากไปนาน คิดถึง อยู่ทุกวัน มะลิวัลย์ เฟื่องฟ้า ยังเหมือนเดิม คุณครูแก้วคะ กลอนนี้เพราะอิกแล้วค่ะ
7 กันยายน 2550 19:32 น. - comment id 751116
ดีเจ้าคะคุงลุงแก้ว สบายดีนะเคะ ไม่อยากพูดอะไร เพราะกลอนได้พูดแทนใจพิมหมดแย้วแล้ว
7 กันยายน 2550 19:33 น. - comment id 751118
ปล่อยทุ่งร้างว่างเปล่าไร้ข้าวปลูก ทุยเคยผูกเจ้าลาถิ่นอาศัย อีกกี่ฝนคนคอยรอยอาลัย จะกลับใจคืนมาท้องนาเดิม... ...สบายดีนะท่านท้าวฯ..ไว้มีโอกาสจะฝากชาไปให้นะทครับท่านฯ..
7 กันยายน 2550 19:46 น. - comment id 751129
หวัดดีค่ะลุงแก้วกลอนไพเราะนะคะ แอบจดความรู้ไว้ด้วยค่ะ คงไม่ว่ากันนะคะ แบบว่าอยากให้สั่งสอนมั่ง อ่านแล้วนึกถึงกระท่อมส่วนตัวหลังน้อยนะคะ คงสงบดี ฝันเอาไว้ว่าสักวันจะมีสักหลัง สำหรับบั้นปลายชีวิต แวะมาชื่นชมค่ะ
7 กันยายน 2550 20:38 น. - comment id 751155
สิริน มาอ่านกลอนเพราะๆ ค่ะ
7 กันยายน 2550 21:01 น. - comment id 751165
คืนถิ่นคะ
7 กันยายน 2550 21:46 น. - comment id 751182
แวะมากลอนไพเราะๆ ไว้เป็นตัวอย่างใน การฝึกฝนของตัวเอง คารวะ ท่านอาจารย์
7 กันยายน 2550 21:58 น. - comment id 751187
ขออภัยอาจารย์นะครับ @ด้วยตัวผิดจิตวุ่นมาสูญสิ้น ต้องพรากถิ่นกินอยู่มุ่งสู่ฝัน ด้วยยากจนค้นแค้นแสนกันดาร ทรมานอยากหวนกลับไปหลับนอน.. กระท่อมผุหลังเก่าเจ้าเคยสร้าง ถูกทิ้งร้างกลางป่าอานุสรณ์ ในความหลังครั้งเยาว์เราเคยนอน เคยหลบร้อนพึ่งพิงอิงแอบกาย พอใช้ได้ใหมครับ..อาจารย์ครับ
7 กันยายน 2550 23:31 น. - comment id 751212
ครูแก้วประเสริฐ เขียนได้ไพเราะ มากๆเลยค่ะ
8 กันยายน 2550 06:22 น. - comment id 751255
สวัสดีค่ะครูแก้ว มาซึบซับเอาความไพเราะอ่อนช้อยค่ะ เผื่อทำให้หนูแต่งได้เพราะขึ้น ขอแค่ครึ่งของครูแก้วก็ยังดีน้า ที่ไหนก็ไม่อุ่นใจเท่าบ้านเรา หนูรู้ซึ้งมาก ๆ เลยค่ะ หวังว่าครูแก้วคงจะประสบผลสำเร็จทุกสิ่งหวังนะคะ ดูแลสุขภาพด้วนะคะ ด้วยความเคารพครูค่ะ จากศิษย์ผู้เข็ญยาก แต่จะพยายามค่ะ
8 กันยายน 2550 11:06 น. - comment id 751305
ไม่มีผืนดินใดไหนเทียมถิ่น เท่าแผ่นดินถิ่นเกิดกำเนิดก่อ มีความรักเกื้อกูลอบอุ่นพอ กลับเถิดหนอ...บ้านเราเฝ้ารอคอย
8 กันยายน 2550 11:41 น. - comment id 751315
คุณ กชมนวรรณ ไม่เป็นไรครับไม่ต้องคิดมากผมก็แนะนำ แบบงูๆปลาๆเท่านั้นครับ อิอิ แก้วประเสริฐ.
8 กันยายน 2550 11:43 น. - comment id 751317
คุณ เพียงพลิ้ว ใช่ซิหลานกานต์ บ้านคือสิ่งปรารถนาของเรา จ๊ะ หมั่นไปเยี่ยมบ้างนะจ๊ะ แก้วประเสริฐ.
8 กันยายน 2550 11:45 น. - comment id 751318
คุณ แก้วนิดา เรื่องนี้ผมเองไม่รู้และเข้าใจ ไปสอบถาม อัลมิตรา เขาควบคุมเวปฯนี้ครับ เขาช่วยเหลือได้ ครับ สบายดีนะครับผมเองกระท่อนกระแท่นครับ ขอบคุณ แก้วประเสริฐ.
8 กันยายน 2550 11:56 น. - comment id 751324
คุณ bananaleaf เถียงเป็นภาษาทางภาคอีสาณครับ หมายถึง ที่พักสำหรับพักผ่อนและเก็บของจำเป็นยามพักจาก งานทำนาครับ ปลูกเหมือนอย่างคุณ ดาวระดา กล่าว ไว้ไม่ผิดครับ ใช้นอนเฝ้านาเวลาเก็บเกี่ยวข้าว และใช้เป็นที่เก็บควายด้วยครับ ไม่ใช่คำ เถียง แบบวิวาทครับ ทางใต้เรียกว่า ขนำ ครับ ส่วนภาค กลางเขาเรียกว่าเพิง ส่วนทางเหนือไม่รู้ครับ ถูกผิดก็ไม่แน่ใจ เพราะผมคนกรุบเทพฯครับ แก้วประเสริฐ.
8 กันยายน 2550 12:00 น. - comment id 751328
คุณ ดาวระดา อักษรสูงคือ เสียงสูง อักษรกลางคือเสียงสามัญ นอกนั้นเป็นอักษรต่ำ คือเสียงต่ำครับ วรรณยุกต์สระอะ อา อิ อี อึ อื อุ อู เอก โท ตรี จัตวา ก็เป็นเสียงได้ครับ วรรณยุกต์ที่ผสมกับอักษรสูง คือ สระอิ สระอี สระอึ สระอือ และวรรณยุกต์ เอก โท ตรี ก็จัดเป็นเสียงสูงครับ นอกนั้นเป็นเสียงกลางและต่ำครับ หากสังเกตุเวลาเปล่งเสียงออกมาจากลำคอ หาก คำใดเสียงเลยไปจรดหน้าผาก เป็นเสียง สูงหมด หากคำใดเปล่งออกมาเสียงอยู่แค่ปลาย จมูกนั้น เป็นเสียงกลาง หากคำใดเปล่งออกมา ต่ำกว่าปลายจมูกเป็นเสียงต่ำสังเกตุเอาไว้นะครับ กลอนนั้นอักษรสำคัญมากนะครับ หากผิด หรือย่อไปใจความจะเปลี่ยนทันทีครับ อย่าง ของคุณ แผ่นดินภัพ คำว่าภัพ นั้นไม่มี มาจาก คำว่าอาภัพ ครับ ซึ่งคุณพยายามจะให้ครบแปดคำ ซึ่งก็ดีอยู่แล้วครับ พยายามครับ แก้วประเสริฐ.
8 กันยายน 2550 12:02 น. - comment id 751330
คุณ ดาวระดา ครับคำว่าเถียง ป่านฉะนี้เขาคงจะเข้าใจแล้ว ครับ แก้วประเสริฐ.
8 กันยายน 2550 12:05 น. - comment id 751332
คุณ ครูพิม ครับแล้งทุกๆปีครับผมไปมาแล้วบางแห่ง ก็ชะอุ่มบางแห่งขาดน้ำจริงๆดินระแหงเลยครับ ผมเขียนเรื่องนี้จากประสบการณ์ที่ผ่านพบมาครับ ขอบคุณ แก้วประเสริฐ.
8 กันยายน 2550 12:08 น. - comment id 751335
คุณ เจน_จัดให้ ผมเองเข้าบ้างไม่เข้าบ้างอ่านบ้างไม่อ่านบ้างครับ เลยไม่ค่อยจะรู้เท่าไหร่ครับ ขอบคุณมากครับ แก้วประเสริฐ.
8 กันยายน 2550 12:10 น. - comment id 751337
คุณ Black MooN ผมเองว่างก็แวะไปเยี่ยมคนที่มาเยี่ยม ผมครับ เราคนบ้านเดียวกันนี่นา ขอบคุณครับ แก้วประเสริฐ.
8 กันยายน 2550 12:14 น. - comment id 751339
คุณ อารีณา ครับดีแล้วแต่งได้ดีครับ สัมผัสในนั้นหาก จะใช้ก็ได้ไม่ใช้ก็ได้ บางครั้งกลอนมันจะสัมผัส กันไปเองแหละ อีกอย่างหนึ่งต้องระวังเรื่องกลอน พาเราไปเพราะเราไม่สามารถบังคับอักษรได้ครับ พยายามเข้าดีขึ้นแยะแล้วครับ แก้วประเสริฐ.
8 กันยายน 2550 12:16 น. - comment id 751341
คุณ พิมญดา ระยะนี้กระท่อนกระแท่นครับ แต่ดีกว่าเก่า มากครับ คนแก่ก็อย่างนี้แหละต้องทำใจครับ ขอบคุณ แก้วประเสริฐ.
8 กันยายน 2550 12:19 น. - comment id 751343
คุณ บินเดี่ยวหมื่นลี้ ก็กระท่อนกระแท่นตามประสาคนแก่ครับ ท่านพระยาฯล่ะสบายดีหรือครับ ขอบคุณล่วงหน้า ครับท่านพระยาฯ แก้วประเสริฐ.
8 กันยายน 2550 12:22 น. - comment id 751345
คุณ ทิพย์โนราห์ พันดาว ครับไม่เป็นไรครับ ผมอยากให้ทุกๆคนรักษา บทกวีไว้เขียนให้ถูกต้องตามที่ท่านบรมครูเราสั่ง สะสมมาให้ครับ เขียนกลอนเปล่านะเขียนได้ทุกๆคน แต่จะมาเขียนที่บูรพาจารย์ท่านสะสมซิครับย่อมยาก แต่ความไพเราะนั้นเปรียบดั่งฟ้ากับดินเชียวครับ ขอบคุณครับ ผมแนะนำไปจะผิดอย่างไรก็ไม่รู้ เพราะผมศึกษามาอย่างไรก็บอกไปอย่างนั้นครับ แก้วประเสริฐ.
8 กันยายน 2550 12:24 น. - comment id 751346
คุณ สิริน ขอบคุณมากนะครับ แล้วแต่อารมณ์ใจครับ ขอบคุณยิ่งครับ แก้วประเสริฐ.
8 กันยายน 2550 12:27 น. - comment id 751347
คุณ มณีจันทร์ ผมเขียนเรื่องนี้อยากให้ทุกๆคนรำลึกถึงถิ่น อู่เคยนอนครับจะได้ไม่ลืมเลือนครับ ขอบคุณครับ แก้วประเสริฐ.
8 กันยายน 2550 12:29 น. - comment id 751350
คุณ เก็จถะหวา ดีแล้วจ๊ะหากคิดว่าดี พยายามอ่านที่ผมมอบ ให้ และทำความเข้าใจไว้นะครับ ผิดถูกอย่างไร ว่ากันอีกทีครับ พยายามนะจ๊ะ แก้วประเสริฐ.
8 กันยายน 2550 12:42 น. - comment id 751353
คุณ พันธะ ใช้ได้ครับ เพียงแต่คำสุดท้ายวรรคแรกนั้น คุณเป็นเสียงสูง ปกติใช้เสียงสามัญครับ บาทที่สอง ก็เหมือนกันเป็นเสียงสูง พยายามให้เป็นเสียงสามัญ การใช้เสียงสูงได้เป็นบางครั้งแต่ไม่ควรเหมือนๆกัน สิ่งผิดพลาดคือ บาทแรกวรรคที่สี่ คุณใช้คำว่า "นอน" ในบาทที่สองวรรคที่สามคำสุดท้ายไม่ควร เป็นคำว่า "นอน"ด้วย อีกอย่างหนึ่ง บาทแรกกับ บาทที่สองไม่ควรที่จะใช้อักษรซ้ำๆกันจะทำให้ ขาดความไพเราะ อีกอย่างหนึ่งเขาบังคับไว้แล้วว่า วรรคที่ สองนั้นเป็นเสียงสูงอักษรสูงห้ามมีวรรณยุกต์ จะมีบ้างก็ได้ในความจำเป็น พยายามฝึกฝนไว้ การวางโครงสร้างดีแล้วครับ พยายามนะครับ แก้วประเสริฐ.
8 กันยายน 2550 12:48 น. - comment id 751356
คุณ ยาแก้ปวด หากเรียกผมครูก็ต้องฝึกฝนด้วยนะจ๊ะตาม ที่ผมเขียนลงไว้ให้ทุกๆคนจ๊ะ แล้วก็จะได้แบบนี้ แหละจ๊ะ พยายามนะจ๊ะขอบใจมากนะ แก้วประเสริฐ.
8 กันยายน 2550 12:55 น. - comment id 751360
คุณ จิตรำพัน ไม่นะต้องให้เก่งกว่าผมนะถึงจะเรียกว่าใช้ได้ ดีจ๊ะ ผมตั้งใจสอนถูกหรือผิดก็ตาม แต่ต้องเก่งกว่าผม จำไว้นะครับ ผมแก่แล้วความคิดอ่านย่อมโรยลาไป ฉะนั้นคุณต้องเก่งกว่าพยายามฝึกฝนทุกๆวันยาม ที่ว่างๆนะ สิ่งที่ควรทำที่สุดคือ แต่งในใจไว้สะสมไว้ จนกระทั่ง จิตเป็นกลอนกลอนเป็นจิต เมื่อเขียนลง เป็นตัวหนังสือตรวจสอบความถูกต้องอย่างน้อย สามครั้งทบทวนทุกตัวอักษร อย่าลืมหากอักษร ผิดใจความก็ผิดไปด้วยจำไว้จ๊ะ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
8 กันยายน 2550 12:55 น. - comment id 751361
ขอบคุณลุงแก้วฯ และคุณดาวระดา.. รพีเข้าใจแล้ว..แถว ๆ นี้เค้าเรียกว่า "ห้าง" ไม่ทราบว่า "ห้าง" ตัวนี้รึเปล่า แต่ได้ยินเขาเรียกกันว่า "ห้างนา" ไว้สำหรับนอนเวลาทำนาอะไรประมาณนั้น รพีเห็นในบทที่สองที่ลุงเขียนไว้ว่ามีคำว่า เถียงน้อย มีคอก มีเจ้าทุย ก็เลยนึกไปถึง"แอก" ขอบคุณมากค่ะ..รพีแก้ไขกลอนแล้วนะคะ ตรวจแก้ให้รพีด้วย...
8 กันยายน 2550 12:57 น. - comment id 751362
คุณ อินสวน คุณเคยได้ยินไหมคำว่า เสือไม่ลืมถ่ำ ฉันท์ใด คนเราก็เหมือนกันย่อมไม่ลืมถิ่นเกิดหรอกครับ ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมเยียนครับ แก้วประเสริฐ.
8 กันยายน 2550 13:02 น. - comment id 751365
คุณ bananaleaf จ๊ะตามท้องถิ่นเรียกกันไม่เหมือนกันผมเอง จำเท่าที่จำได้ครับ เมื่อเข้าใจก็ดีแล้วจ๊ะ บางทีก็รู้ บางทีก็ไม่รู้จ๊ะ มีสิ่งมากมายนักที่เราไม่รู้หรือรู้แล้ว อาจจะลืมไปก็ได้เน๊อะ อิอิ แก้วประเสริฐ.
8 กันยายน 2550 14:08 น. - comment id 751404
สุขกาย สุขใจ รื่นอารมณ์ เมื่อกลับถึงบ้านหลังเดิมค่ะ......
8 กันยายน 2550 14:19 น. - comment id 751414
บ้านคือวิมานของเราครับ อิอิ แก้วประเสริฐ.
8 กันยายน 2550 15:58 น. - comment id 751440
มาทักทายเจ้าคะ
8 กันยายน 2550 19:41 น. - comment id 751482
คุณครูแก้วคะ ขอบคุณค่ะ คุณครู คำแนะนำอันมีค่าของคุณครู รีณาจะจดจำอย่างดีค่ะ
8 กันยายน 2550 21:46 น. - comment id 751506
คุณ เจ้าสาวแห่งโลกวิญญาณ ขอบคุณครับ นานเหลือเกินที่ไม่ได้เจอะเจอ กันในทางนี้นะครับ แก้วประเสริฐ.
8 กันยายน 2550 21:49 น. - comment id 751508
คุณ อารีณา ไม่เป็นไรหรอกครับ จำไว้อย่างหนึ่งเราเขียน กลอนเพื่อความเพลิดเพลินแต่อย่าไปล่วงเกินใคร เขาก็แล้วกันนะจ๊ะ พยายามฝึกฝนคุณเป็นคน รุ่นใหม่ย่อมสร้างผลงานได้ดีในอนาคต ผมขอฝาก ไว้ด้วยครับ แก้วประเสริฐ.
9 กันยายน 2550 02:38 น. - comment id 751560
คุณชาย...เจ้าคะ ด้ามาคาระวะคุณงามค่ะ คิดถึงและเคารพเจ้าค่ะ
9 กันยายน 2550 08:53 น. - comment id 751578
คุณ ด้า ขอบคุณครับ คิดถึงเสมอ หายไปนานนะครับ แก้วประเสริฐ.
12 สิงหาคม 2551 17:30 น. - comment id 885201
เพราะมากค่ะ