สารานุกรม เสรี มีบัญญัติ กล่าวไว้ชัด ถึงความหมาย ในพระสงฆ์ ว่าหมายถึง สาวก พระพุทธองค์ ที่ได้ทรง ฟังธรรม จำชีวิน แล้วเลื่อมใส ศรัทธา พระพุทธเจ้า สละแล้ว เรือนเหย้า เข้าถือศีล แล้วออกบวช ห่มเหลือง เรืองชีวิน ไม่ลืมสิ้น ปฏิบัติตาม พระธรรมวินัย นับถือศีล ไม่ด่างพร้อย สองร้อยยี่สิบเจ็ด ดั่งพลอยเพชร ประดับงาม ตามวิสัย สง่างาม ครองวัตร ปฏิบัติไป ตามพระธรรม วินัย พระศาสดา สยามประเทศ ได้ขึ้นชื่อ คือเมืองพุทธ ประเสริฐสุด พุธศาสน์ พิลาสหล้า ศาสนาพุธ ประดิษฐาน แต่นานมา จนเลื่องลือ คือพุทธา มหานคร แต่เดี๋ยวนี้ พระสงฆ์ ผู้ทรงศีล เริ่มสูญสิ้น พระธรรม และคำสอน พระพุทธองค์ พระธรรมวิชัย ไม่อาวรณ์ ไม่ครองวัตร เหมือนแต่ก่อน ตอนโบราณ ไปปลุกเสก วัตถุมงคล บ่นคาถา บ้างเสริมส่ง ดวงชะตา ช่างว่าขาน บ้างสะเดาะ เคราะห์ราย หลายตำนาน บ้างก็พาล สักยันต์ กระพันคง บ้างก็ขาย ยาบ้า หาเงินใช้ บ้างสังวาส หญิงได้ ให้สารสง บ้างอวดอ้าง อิทธิฤทธิ์ คิดเข้าทรง บ้างก็ลง หน้าทอง ลองวิชา พจนา นุกรม ฉบับไหน ที่เขาให้ ความหมาย คล้ายที่ว่า พระนอกรีต จึงไปจำ คำเขามา แล้วสร้างความ ต่ำช้า ตราแผ่นดิน วิจิตรวาทะลักษณ์(นฤมิตรเทวากร) วันอังคารที่ 28 สิงหาคม 2550
28 สิงหาคม 2550 22:45 น. - comment id 745628
...สวัสดีค่ะ พี่วิจิตรวาทะลักษณ์... 555+ กลอนน่ารักนะค่ะ แต่รัศมีไม่ค่อยเข้าใจ แต่รู้ความหมายค่ะ อิอิ....
29 สิงหาคม 2550 00:40 น. - comment id 745646
เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง จริงๆแล้วพระสงฆ์แท้ยังมี แต่ไม่เด่นเท่าสงฆ์เทียม (เพราะได้ออกข่าว)
29 สิงหาคม 2550 05:00 น. - comment id 745663
ในสังคมยังมีคนดีอยู่ ให้มองดูตัวอย่างหนทางดี พวกคนชั่วปะหนสังคมชี้ บาปโทษมีให้เขารับกับกรรมเลว ....กรรม คือ การกระทำ คนที่ทำกรรมดี ชีวิตของเขาก็อยู่เย็นเป็นสุข คนที่ทำกรรมชั่ว เขาย่อมได้รับความร้อนรุ่มจากผลกรรมของเขาเช่นกัน เราอยู่ใกล้ความเย็น ย่อมได้รับความเย็น พาตัวไปอยู่ใกล้ความร้อน เราเองคงต้องร้อนรุ่มตาม
29 สิงหาคม 2550 09:16 น. - comment id 745722
:) แวะมาอ่านตามระเบียบ ขอบคุณค่ะ สำหรับบทกลอนดีๆ ที่มอบให้อ่านสม่ำเสมอ..
29 สิงหาคม 2550 10:33 น. - comment id 745775
น่าจะมีบทลงโทษพระสงฆ์ที่ทำผิดให้เท่าเทียมกับคนธรรมดา...เพราะเห็นมีแต่จับสึก...แล้วออกมาเป็นโล้นซ่าส์กันเกลื่อนพอนานๆไปคนลืมก็กลับไปบวชใหม่ซะงั้น
29 สิงหาคม 2550 22:23 น. - comment id 746136
กลอนไพเราะมากครับ อ่านแล้วก็เกิดความคิดหลาย ๆ อย่าง และก็เป็นห่วง หลาย ๆ อย่าง ทุกวันนี้สือประโคมข่าวด้านร้ายอยู่ตลอดเวลา ความน่าเชื่อถือในศาสนา จะหายไปจากสังคมเร็วกว่าที่ควรหรือเปล่า เดี๋ยวนี้เห็นคนเดินผ่านพระแทบจะเดินชนไปทีเดียว ฯลฯ (หรือว่าผมคิดมากไป...) ในส่วนผู้ที่ชอบทำบุญ ผมขอฝากกลอนนี้ไว้ มองโลกด้านดีมีผล เห็นคนอื่นดีมีค่า ปลูกใจให้เกิดศรัทธา ตั้งหน้าทำดีมีคุณ มองโลกด้านร้ายกลายกลับ ใจรับแต่เรื่องเคืองขุ่น เบื่อหน่ายเลิกร้างทางบุญ ใจวุ่นชีพวายตายฟรี ..
31 สิงหาคม 2550 17:31 น. - comment id 747112
จงหัน มองที่ตัว ที่มัวหม่น ที่ตัวตน พลาดผิด สถิตมั่น แม้คนอื่น หมื่นล้าน ในทุกวัน อย่าเที่ยวสรร ด่าทอ จ้อวาจา เมื่อเห็นเขาพลาดผิด สนิทแน่น เช่นเหมือนแม้น ดุจเราที่เขลาหนา เอ่ยเพียงคำ น้อยนิด ในสัจจา จงย้อนมา ยังตน ในหนทาง กิเลสหนา ปัญญายัง ต้องสร้างคิด เพื่อมวลมิตร กิจธรรม นำสะสาง เพื่อเหตุลด ผลต่อ ย่อละวาง ได้ถากถาง นิพพาน ภพสงบใจ บทกลอนนี้กล่าวเพื่อ เตือนตนทราบ มิใช่จาบจวง โยคา อัชฌาศัย ขอนบ องค์พงศ์พุทธ ด้วยหัวใจ ขอน้อมให้เจริญธรรม นำผลเทอญ