** รำลึก ** ๏ แม้ยลเพียงพักตร์น้อง จันทรา งามนา รูปลักษณ์ตลอดลักขณา อ่อนช้อย ดุจเยื้องย่างนางพญา ซาบซ่าน อกเอย ทรวงพี่คงอ่อนด้อย แนบข้างสร้างสรรค์. จันทร์พลันลับแลพักตร์จากฟ้าไกล สิ้นห้วงดวงหทัยอยากใฝ่ถวิล นางเยื้องย่างภาพรอยร้อยชีวิน ใยหมดสิ้นความหมายไร้เคียงครอง อีกดาวน้อยพลอยลับกลับแลหาย แสนอาลัยดวงใจคิดใฝ่สนอง โธ่อกเอ๋ยหวังชมภิรมย์ปอง ต้องลอยล่องเสน่หาพาลับเลือน ดึกดื่นนอนฟังคลื่นสะอื้นร่ำ หัวใจพร่ำรำลึกตรึกนางเฉือน กระฉอกคลื่นตื่นใจได้มาเยือน ช่างแปดเปื้อนสิ่งรักมักจากไป โอ้จันทร์เจ้าจากฟ้าข้าครวญคร่ำ พิไลร่ำนึกหวนรัญจวนหาย เสมือนลมไหวหวั่นสั่นเรือนกาย พรั่นภายในคล้ายทรายมลายลับ ค่ำคืนนี้นอนฟังเสียงคลื่นพลิ้ว ใจฉันสั่นละลิ่วริ้วรอยกลับ นับถึงครั้งชายหาดพาดระยับ สุดจะนับเฝ้าคอยล่องลอยครวญ ดวงใจเอ๋ยคอยลอยอยู่แห่งไหน หรือตามไปเสียงคลื่นระรื่นหวน ลมพาพัดนำไปฤทัยรัญจวน จนปั่นป่วนหวนถวิลจินต์นวลนาง โถหัวใจพี่นี้แทบจะขาด สายสวาทวาดไว้ช่างใยห่าง เหลือเสียงคลื่นตื่นผวามาครวญคราง รอนแรมร้างฝากไว้หทัยตรม๚ะ๛ *** แก้วประเสริฐ. ***
14 สิงหาคม 2550 11:46 น. - comment id 737884
..... ที่ 1
14 สิงหาคม 2550 11:48 น. - comment id 737885
เฮ้อออออ....จ้องที่ 1 แทบแย่ อิอิ ขอบคุณๆ ที่ยังรำลึกถึง ฉางน้อย นะคะ คุณลุงแก้วประเสริฐ์ คุณลุงสบายดีนะคะ รักษาสุขภาพนะคะ
14 สิงหาคม 2550 11:54 น. - comment id 737886
คุณ ฉางน้อย จ้าที่ 1 ชองลุงจ้า ฮ่าๆๆๆ แก้วประเสริฐ.
14 สิงหาคม 2550 11:56 น. - comment id 737887
คุณ ฉางน้อย จะให้ลืมได้อย่างไรล่ะ ทั้งงดงามและสดสวย ออกจะสนุกสนานเช่นนี้ จ๊ะระยะนี้ค่อยยังชั่วหน่อย จะพยายามให้ดีกว่านี้จ้า รักและคิดถึงเสมอมิลืม เลือนสาวงามคนสวย ฮ่าๆๆๆ แก้วประเสริฐ.
14 สิงหาคม 2550 11:59 น. - comment id 737888
3.......ใช่แล้วค่ะ คุณลุง ฉางน้อยเป็นหนึ่งในใจคุณลุงเสมอ เหมือนกับว่า เบอร์ดี หนึ่งในใจคุณ 555555 ล้อเล่งๆน๊าคุณลุง
14 สิงหาคม 2550 12:02 น. - comment id 737889
4......โห ท่านลุงแก้ว ยกยอแม่นางฉางน้อยเกินไปแล้วคะ ไม่สวย ไม่งดงามหรอกคะ ไม่ขอเป็นนางในฝันของใครหรอกคะ ขอเพียงแค่น่ารักพอแระ อิอิ ....วันแม่ที่ผ่านมา ฉางน้อยไปหอมแก้มแม่ด้วยน๊า แม่งี้ยิ้มปากถึงใบหู แม่บอกว่า ฝากหอมแก้มคุณลุงด้วยคะ 5555 เอียงแก้ว เอ๊ย แก้ม มาซะดีๆคะ %46 (...ขอตัวไป ท่าพระจันทร์ก่อนนะคะ..)
14 สิงหาคม 2550 12:30 น. - comment id 737898
คุณ ฉางน้อย ฮ่าๆๆๆแน่นอนจ้า แก้วประเสริฐ.
14 สิงหาคม 2550 12:32 น. - comment id 737900
คุณ ฉางน้อย บอกแม่ด้วยนะ อยากฟังเพลงที่ร้องจังเลย ว่างๆจะไปฟังเพลงจ้า ไปท่าพระจันทร์เช่าพระ มหาเสน่ห์หรือไงล่ะ ฮ่าๆๆๆ ไม่ต้องหรอกน่ารัก อยู่แล้ว มีเสน่ห์ในตัวเองแล้วจ้า แก้วประเสริฐ.
14 สิงหาคม 2550 12:51 น. - comment id 737917
เลข 9 กำลังสวยเชียวค่ะ นู๋เอมจอง อิ อิ บางครั้งเวลาเอมเหงาเหงา เอมก็คิดถึงเรื่องราวเก่าเก่า คนเก่าเก่า บางทีก็ยิ้ม บางทีนึกถึงก็อดร้องไห้ไม่ได้ เฮ่อ ... พ่อแก้วสบายดีนะคะ ช่วงนี้เอมยุ่งมากมากเลยไม่มีเวลาแวะมาเลย ยังไงพ่อแก้วรักษสุขภาพด้วยนะคะ รักและเคารพพ่อแก้วเสมอค่ะ ลูกเอมค่ะ
14 สิงหาคม 2550 12:57 น. - comment id 737920
ดีคะคุงลุงแก้วคุงพี่นู๋เอม คุยกันสนุกเลยนะคะ กลอนเพราะอีกแล้วคะลุง พิมได้แต่อ่านทำตาปริบๆๆเมื่อไหร่หนอ จะได้แค่เศษเสี้ยวของลุง... คุงพี่นู๋เอมเจ้าคะทานกลางวันยังลุงด้วย พิมเรียนรอ้ยแระคะ..ข้าวซอย..
14 สิงหาคม 2550 13:23 น. - comment id 737932
คุณ ทะเลใจ เอมลูกรักชีวิตการทำงานก็แบบนี้แหละจ้า พ่อเองผ่านมามากปัญหาต่างๆด้วยแต่ก็ผ่านพ้น มาได้ ด้วยสติเป็นที่ตั้งด้วยการฟังหูไว้หูหนึ่ง ใจต้องหนักแน่นดุจภูผา ค่อยๆคิด ค่อยๆทำอย่า ใช้อารมณ์เป็นเด็ดขาด อาจจะมีบ้างแต่ก็พยายาม ลืมมันเสียจ๊ะ การทำงานเปรียบเสมือนสวมหัวโขน เราเล่นบทอะไรต้องรู้บทนั้น ออกจากบ้านก็เอาหัว โขนในบ้านออกวางไว้ที่หน้าประตูบ้าน พอเข้าที่ ทำงานก็หยิบหัวโขนสวมหัวเรา เลิกงานถอดทิ้ง ไว้ที่หน้าประตูนั่นแหละ หากทำได้ก็จะเกิดความ สบายใจแก่เราจ๊ะ งานก็เรียบร้อยราบรื่นเสมอ รักลูกพ่อเสมอจ้า แก้วประเสริฐ.
14 สิงหาคม 2550 13:29 น. - comment id 737937
คุณ พิมญดา ต้องทำได้ซิครับ ก่อนนั้นผมเองก็ไม่ประสีประสา อะไรกับก่อนตอนเรียนหนังสือมาเขาเพียงสอนไว้ แต่ลืมไปหมด แต่ตอนนั้นรักมากเสียด้วย พอพ้น มาก็ไปเรียนต่อก็ลืมเสียเกือบหมด ทำแต่งานๆๆๆ พอเลิกทำงานก็มาเริ่มต้นที่เวปฯนี้แหละผมถึงไม่ ไปไหนเพราะปกติผมเป็นคนชอบสิ่งใดก็ชอบไป ไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงเท่าไหร่หรอกครับ จะว่ารัก เดียวใจเดียวก็ได้ นอกจากเวปฯอื่นเกรงใจเขา ถึงได้ส่งผลงาน ใครรักเรามากหน่อยก็ส่งผลงาน มากเท่านั้น แต่ส่วนใหญ่ทางนี้แหละครับ พยายามเข้าผมขอเป็นกำลังใจให้ เวลาฝึกฝน ต้องคิดว่าต้องให้เก่งกว่าเขา พอเป็นก็อย่าไปคิด แข่งกับเขานะ เพราะเปรียบเสมือนคลื่นที่เข้า ชายหาดแหละ ลูกหลังย่อมแรงกว่าลูกแรกที่ หาฝั่งแล้วกระจายไปจ้า รักและคิดถึงเสมอ หากผมแนะนำได้ก็จะแนะนำให้จ้า แก้วประเสริฐ.
14 สิงหาคม 2550 13:39 น. - comment id 737944
ลุงแก้วประเสริฐ หยิบจับงานไหนทำไมช่างไพเราะเสียเหลือเกิน.. ทำให้รพีอยากแต่งกลอนแปดมั่งแล้วสิ.. เขาบอกว่าเดินตามผู้ใหญ่หมาไม่กัด..อิ..อิ..อิ.. แต่ก็กลัวว่าแต่งกลอนแปดแล้วจะไม่ไพเราะเหมือนคนอื่นเค้า....คงหน้าแตก.. เดี่ยวจะลองดู..บ่ายนี้ว่างพอดีเลยค่ะ..
14 สิงหาคม 2550 13:56 น. - comment id 737951
เสน่ห์ของ จันทร์ ทำให้ลุ่มหลงมาหลายยุคหลายสมัยแล้วครับ
14 สิงหาคม 2550 14:00 น. - comment id 737953
ฟังเสียงคลื่น..ซัดฝั่ง..ดั่งเสียงพี่ ร้าวฤดี..เจียนจะขาด..พินาศสิ้น พี่จากไป..แห่งไหน..ไม่ยลยิน หรือลืมถิ่น..ทะเลงาม..ท่ามแสงจันทร์..
14 สิงหาคม 2550 14:02 น. - comment id 737955
สวัสดีค่ะ ลุงแก้ว อกเอ๋ยอก หมกใหม้ สิ้นไร้แล้ว ร้างวี่แวว สดใส ที่ไฝ่หา เมื่อคลื่นลม พัดโหม โถมอุรา เป็นพายุ แห่งน้ำตา ข้าอาวรณ์ ใยตัดรัก จากใจ ไปไกลแสน ทั้งดูแคลน เหยียดหยัน ยอกย้อน ข้าไร้ฤทธิ์ ไม่มีสิทธิ์ จะเว้าวอน เพียงภมร หลงรัง ชั่งเดียวดาย บงกชแก้ว หุบแล้ว ไม่เหลือที่ ให้ผึ้งน้อย ตัวนี้ บินวนว่าย ข้ามิสวย ดังผีเสื้อ ผู้พริ้งพราย ท่านจึงหน่าย ตัดใยรัก หักใจลา มาร่วมรำลึกกับความรักที่ห่างหายค่ะ
14 สิงหาคม 2550 14:18 น. - comment id 737968
มานอนหฟังเสียงทะเลเป็นเพื่อนเจ้าคะ รู้นะแอบมองจันทร์ เค้าเขินนะ... ใครๆจ้องมองจันทร์ อิอิ...เดียวจันทร์ก็จะจ้องคืนแล้ว กลอนเพราะทุกอันเลยค่ะ
14 สิงหาคม 2550 14:23 น. - comment id 737975
สวัสดีค่ะลุงแก้ว ยังจำหลานแก้วได้หรือเปล่าเอ๋ย....นานมากๆที่ไม่ได้เข้ามาในบ้านกลอนแห่งนี้..แต่ก็ยังคิดถึงลุงแก้วฯและเพื่อนๆพี่ๆน้องในบ้านแห่งนี้เสมอไม่เคยลืมเลยนะค่ะลุงแก้ว...วันนี้พอมีเวลาที่เลยมาทักทายลุงแก้วฯและมาบอกว่า คิดถึงลุงแก้วค่ะ ลุงแก้วยังเขียนกลอนได้งดงามเช่นเคย หลานแก้วชื่นชมมากๆค่ะ
14 สิงหาคม 2550 15:24 น. - comment id 738014
คิดถึงนวล คิดถึงใคร นะใจหนอ ลุงแก้วพ้อ กระทั่งเรา เฝ้าสงสัย นวลคนนี้ นวลคนนั้น ร้อยพันใคร ฤๅนวลไหน หลอนจิตอยู่ อยากรู้ความ แอ่นแอ๊นนนนนนน กลับมาแล้วค่ะ อยู่รอดปลอดภัยดี ตัวดำปิ๊ด
14 สิงหาคม 2550 15:28 น. - comment id 738016
รำลึกถึงสาวใดที่ไหนหนอ ที่ลุงรอรอลับกับจันทร์ฉาย อย่าให้ลุงรอเก้อเพ้อเดียวดาย คงเปลี่ยวกายใจเหน็บแล้ว ลุงแก้วเรา.. คร่ำครวญ หวนรำลึก..จนแว่วเสียงคลื่นดังไกลเลยค่ะลุง.. สบายดีนะคะ
14 สิงหาคม 2550 15:49 น. - comment id 738028
คุณ bananaleaf กลัวครูไม่รู้วิชากลัวมารดาไม่ได้เงิน เฮ่อๆๆ ไม่ใช่ เก็บงานลุงไว้เยอะลองเอามาทบทวนซิ ไม่ ยากหรอก เพราะมีอารมณ์แบบนี้ไปเร็วจะเก่งกว่า ผมเสียอีกนะ อิอิ อ่านงานแล้วนับวันจะเหมือนเข้า ไปทุกๆทีจ้า รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
14 สิงหาคม 2550 15:54 น. - comment id 738031
คุณ ก่องกิก ผมหลงไหลเสน่ห์จันทร์มานานแล้วล่ะครับ ตั้งแต่เด็กจนแก่ป่านนี้ครับ แต่ผมว่าคุณหลงสาว เสียมากกว่า ฮ่าๆๆๆ ขอบคุณครับ แก้วประเสริฐ.
14 สิงหาคม 2550 15:56 น. - comment id 738034
คุณ white rose แม่กุหลาบขาวพราวเสน่ห์ขอบคุณมากที่ฝาก กลอนแสนไพเราะมาให้ขอบคุณมากนะครับ แก้วประเสริฐ.
14 สิงหาคม 2550 15:59 น. - comment id 738036
คุณ เพียงแพรว ครั้งหนึ่งผมนอนมองจันทร์แต่สู้น้ำค้างไม่ไหว กลับเข้าบ้านนอนฟังเสียงคลื่นจนหลับไปไม่รู้เมื่อไร วันนี้นึกว่างๆปล่อยอารมณ์เลยหันมาแต่งกลอนซะ เลย ขอบคุณกลอนแสนไพเราะจริงๆครับขอบคุณ แก้วประเสริฐ.
14 สิงหาคม 2550 16:00 น. - comment id 738037
สวัสดีค่ะอาจารย์แก้วประเสริฐ (ทึกทักเอาเลยเรา คิคิ) อ่านแล้วเศร้าจังเลยนะคะ คิดถึงใครเป็นพิเศษค่ะ ขอให้มีความสุขนะคะ
14 สิงหาคม 2550 16:01 น. - comment id 738038
คุณ มณีจันทร์ เหมือนผมในอดีตนอนฟังเสียงคลื่นจนหลับไป นึกขึ้นได้เลยเอามาแต่งครับ อิอิ ขอบคุณครับ แก้วประเสริฐ.
14 สิงหาคม 2550 16:03 น. - comment id 738042
คุณ แก้วนิดา ผมทำไมจะจำไม่ได้คนสวยเช่นคุณ พบกัน ที่วังแก้วยังจำได้เสมอๆครับ เพียงแต่ว่าผมตื่นนอน สายไปหน่อยเลยไม่ได้เจอกันครับ คิดถึงเสมอ เรามันแก้วเหมือนกันนี่นา จะลืมกันได้อย่างไรครับ ขอบคุณมากครับ ว่างๆแวะมาอีกนะคิดถึงเสมอ แก้วประเสริฐ.
14 สิงหาคม 2550 16:11 น. - comment id 738047
คุณ อัลมิตรา คิดถึงอิม ใจจะขาด ประหลาดนัก มิประจักษ์ อยู่ที่ใด ใครรู้หนอ ตัวดำเมี่ยม เยี่ยงเงาะป่า มิมารอ ขอตัดพ้อ ฤาเราแก่ แน่แน่เอย. ไปเที่ยวไหนมาหรือยอดหญิง คิดถึง แก้วประเสริฐ.
14 สิงหาคม 2550 16:13 น. - comment id 738050
คุณ ครูพิม มันเป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งในอดีตจ้า คิดถึงทุกๆคนแหละ พิเศษทุกๆคนเพียงแต่ผม มันแก่ไม่มีใครเหลียวแลหรอกครับ อิอิ ขอบคุณ แก้วประเสริฐ.
14 สิงหาคม 2550 16:17 น. - comment id 738051
คุณ ผู้หญิงมือสอง ไม่มีหรอกครับเป็นภาพในอดีตเท่านั้นเอง แหละตามประสาคนแก่ แหม๋เรียกแบบนี้คนเขา จะเขม่นผมเอานะซิครับ ผมเพียงความรู้ต่ำต้อย ปัญญาน้อยนิด รู้ก็แนะนำให้เท่านั้นเองเพราะเรา พวกเดียวกันผมไม่หวงความรู้หรอกครับ อิอิ ขอบคุณมากครับ แก้วประเสริฐ.
14 สิงหาคม 2550 17:13 น. - comment id 738095
.....ฮี่ ฮี่ ...กลับมาแล้วคะ ไม่ได้ไปเช่าพระมหาเสน่ห์ที่ไหนหรอกคะ ไปร้านหนังสือนายอินทร์น่ะค่ะ .... เฮ้อออ คนน่ารัก ไม่ต้องเช่าก็มีซาเหน่แระ อิอิ ว้าๆๆ หลงตัวเองอีกแล้ว 5555 ...ล้อเล่นๆค่ะ ปล..... อยากจะบอกว่า แอบย่องมาขโมยภาพที่ 15 ของคุณกุหลาบขาวคะ สวยมากๆ
14 สิงหาคม 2550 19:22 น. - comment id 738181
สวัสดีค่ะครูแก้ว ประทับใจมากค่ะ จิตรำพันจะพยายามให้มาก เพื่อให้ได้ครึ่งหนึ่งของครูแก้ว คงต้องรบกวนติมาก ๆ หน่อยนะคะ ลูกศิษย์ดื้อ และสอนยากค่ะ รักและเคารพค่ะ
14 สิงหาคม 2550 20:00 น. - comment id 738208
เพราะมากๆครับ มาชื่นชมผลงานครับ
14 สิงหาคม 2550 21:09 น. - comment id 738266
แฝดเพื่อน....งานงาม..ให้ความรู้สึกที่ดีมาก..คิดถึงนะคะ..สบายดีมั้ย...อย่าลืมดูแลสุขภาพตนเองด้วยนะคะ... จากวันนี้ไปถึงสิ้นเดือน...งานเยอะมากค่ะ...ไปหนองคาย...กรุงเทพฯ..และเชียงใหม่จ๊ะ..ว่างเมื่อไหร่..จะแวะมาเยี่ยมนะคะ..
14 สิงหาคม 2550 23:07 น. - comment id 738371
คุณ ฉางน้อย นึกว่าไปหาของดีไว้ใช้เสียอีก ไปร้านหนังสือ ก็ของดีเหมือนกันนิ คิดว่าคุณกุหลาบขาวคงไม่หวง หรอกจ้า ขอบคุณนะ แก้วประเสริฐ.
14 สิงหาคม 2550 23:13 น. - comment id 738376
คุณ จิตรำพัน หากคิดว่าผมพอจะถ่ายทอดได้ อุ้ยเขินจังเลย ว่าเป็นแนะนำดีกว่า หากผมรู้นะไม่เป็นปัญหาหรอก จะพยายามแนะนำสุดฝีมือให้เลยล่ะครับ ก็จะพยายาม ไปดูผลงานคุณแหละครับ แล้วไม่ว่ากันนะครับ บางทีผมก็พลาดไปเหมือนกันแหละ เพราะเยอะแยะ แล้วแก่ด้วยมันก็ชักสับสนจ๊ะ แต่ก็ยินดีจ๊ะ หากหมั่นฝึกปรือไม่เท่าไหร่ก็จะเก่งกว่าผมอีก เพราะผมเองรู้ตัวว่ามันชักจะวนในอ่างเสียแล้ว อีกอย่างหนึ่งผมจะแต่งแบบเก่าเสียเป็นส่วน ใหญ่จ๊ะ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
14 สิงหาคม 2550 23:15 น. - comment id 738377
คุณ ปลายตะวัน ก็พร่ำเพ้อไปตามประสาคนแก่แหละครับ ขอบคุณที่ชมมาครับขอบคุณ แก้วประเสริฐ.
14 สิงหาคม 2550 23:19 น. - comment id 738382
คุณ ราชิกา แฝดเพื่อนที่รักยิ่ง ทำงานให้น้อยๆหน่อยนะ เดินทางเป็นว่าเล่นเชียวระวังสุขภาพด้วยนะ ตอนนี้ ค่อยยังชั่วหน่อยครับ แต่ก็ไม่ดีนักเท่าไหร่หรอกจ๊ะ ขอบคุณมาก นั่นซิหาเวลาว่างยากจริงๆ รักและคิด ถึงเสมอจ้า ขอบคุณ แก้วประเสริฐ.
15 สิงหาคม 2550 07:30 น. - comment id 738437
เรนอรุณสวัสดิ์คุณลุงแก้วนะคะ.... .. .. บทกลอนของคุณลุง.. อ่านแล้วทำให้เรนฝันด้วยดิคะ.. อิอิอิ .. .. ดุจเยื้องย่างนางพญา .. อิอิอิ.. เรนจินตนาการว่าเรนเก๊าะเป็นแบบนั้นด้วยดิคะ.. นางพญาที่สง่างาม.. แว้ปป..
15 สิงหาคม 2550 10:28 น. - comment id 738514
คุณ เรน ใช่แล้วล่ะหลาน หลานก็เยื้องย่างนางพญา จริงๆด้วยนา ขอบใจหลานรักเสมอ แก้วประเสริฐ.
15 สิงหาคม 2550 10:57 น. - comment id 738524
ลุงแก้วจะเข้ามาอ่านอีกมั้ยเนี่ยะ... หลานรบกวนถามหน่อยค่ะ...ในงานเขียน "เดียวดาย" ถ้าหากหลานยกโคลงมาไว้ด้านบนสุด มันจะพอกลายมาเป็น โคลงห่อกลอน แบบลุงได้มั้ยคะนั่น... ตอนรพีแต่งก็ไม่ได้คิดอะไรเห็นลุงแต่งโคลงก่อนหนึ่งบทตามด้วยกลอนอีกหลายบท ก็เลยคิดอยากแต่งกลอนบ้างแต่ก็ลงจบด้วย.โคลงสักหนึ่งบทดู...ลืมนึกถึงรูปแบบต่าง ๆ ที่เขาเรียกอะไรกันนักหนารพีก็ไม่มีความรู้... ถ้าหลานเปลี่ยนตำแหน่งอย่างที่บอกไปนั่นจะพออ่านให้เป็นโคลงห่อกลอนได้บ้างมั้ยคะ..แล้วต้องปรับตรงไหนบ้าง.... บอกหลานด้วยค่ะ...เดี๋ยวปรมาจารย์มาอ่านเข้าจะได้ไม่อายเขานะ...เดี๋ยวจะว่าเอาได้ว่า.. ลูกศิษย์ลุงแก้วโก๊ะจังเลย..น่าอายเน้อ..จาบอกให้..
15 สิงหาคม 2550 14:28 น. - comment id 738609
คุณ bananaleaf การจะเป็นโคลงห่อกลอนนั้น กลอนบทแรก จะต้องยกเรื่องราวของโคลงเกือบทั้งหมดเอาเนื้อ หาความสำคัญมาลงไว้ในกลอนบทแรกจ๊ะ หากจะ ให้สัมผัสเกิดความไพเราะนั้นควรเอาคำสุดท้าย ของโคลงมาสัมผัสกับกลอนในคำที่สองหรือสาม จะทำให้เกิดความไพเราะมาก แต่การพรรณากลอน นั้นจะต้องเป็นเรื่องเดียวกับโคลง ลงท้ายสรุป กลอนก็ควรจะเป็นเรื่องของโคลงด้วยนะจ๊ะ จะไปอายใครเขาทำไมเราแต่งของเราเพราะ เราต้องการจะเกิดความคิดของเราเอง อย่าไป เกรงใคร หากคิดจะเป็นลูกศิษย์ผมต้องไม่แคร์ สิ่งใดๆทั้งสิ้น ความสุขของเราคือความสำคัญของ เรา แต่หากทำให้คนอื่นเขาสุขด้วยก็ยิ่งดีจ๊ะ ผมเคยบอกแล้วว่า สิ่งใดๆก็ตาม ถูกใจเราแต่ บางทีก็ไม่ถูกใจเขา นี่แหละคือหลักของผมเอง แหละ ผมไม่อายใครๆหรอกหากเราทำดีซะ อย่าง เป็นเรื่องของเราด้วยไม่ได้หนักตัวใครคน อื่นเขานี่นา ฮ่าๆๆๆๆ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
15 สิงหาคม 2550 15:38 น. - comment id 738623
สวัสดีค่ะ คุณครูแก้วประเสริฐ พักนี้ รีณางานยุ่งมาก แต่ไม่เคยเลยที่จะ แวะมาที่บ้านกลอนสุดโปรดหลังนี้ มีกวีหลายคนที่ รีณา ชอบงานกลอน ของเค้า อาจไม่ค่อยได้ทักใครมาก แต่อ่าน ผลงานของทุกคน อย่างชื่นชม ไม่ว่าแนวตลกๆน่ารัก ขบขัน แนวแง่คิด กลอนแนวสวยงาม อ่อนหวาน แบบของคุณครูแก้ว ก็ชื่นชมมากค่ะ กลอนอันนี้ เพราะอิกแล้ว รีณาขอเก็บสะสม เป็นกลอน แม่แบบนะค่ะ ขอบคุณค่ะ
15 สิงหาคม 2550 15:44 น. - comment id 738624
15 สิงหาคม 2550 16:04 น. - comment id 738635
ขอบคุณครับ ที่ชื่นชอบ ไหนๆอุตส่าห์เรียกผม เช่นนี้งั้นเอาของฝากไปอ่านเล่นๆนะครับเป็นแม่บท บทของกลอน คำกลอนวรรคหนึ่ง เรียกว่า กลอนหนึ่ง สองวรรค หรือสองกลอน เรียกว่า บาทหนึ่ง หรือคำหนึ่ง สองคำ หรือสองบาท หรือสี่วรรค หรือสี่กลอน เรียกว่า บทหนี่ง วรรคทั้งสี่ของกลอน ยังมีชื่อเรียกต่างๆ กัน และนิยมใช้เสียงต่างๆ กันอีก คือ ๑. กลอนสลับ ได้แก่ กลอนวรรคต้น คำสุดท้าย ใช้คำเต้น คือนอกจากเสียงสามัญ แต่ถ้าจะใช้ ก็ไม่ห้าม ๒. กลอนรับ ได้แก่ กลอนวรรคที่สอง คำสุดท้าย นิยมใช้ เสียงจัตวา ห้ามใช้เสียงโท, สามัญ, ตรี, และวรรณยุกต์เอกมีรูป วรรณยุกต์เอกไม่มีรูป ไม่ห้าม แต่ต้องให้คำสุดท้าย ของกลอนรอง เป็นเสียงตรี ๓. กลอนรอง ได้แก่ กลอนวรรคที่สาม คำสุดท้าย นิยมใช้ เสียงสามัญ ห้ามใช้เสียงจัตวา หรือคำที่มีรูปวรรณยุกต์ ๔. กลอนส่ง ได้แก่ กลอนวรรคที่สี่ คำสุดท้าย นิยมใช้ เสียงสามัญ ห้ามใช้คำตาย และคำที่มีรูปวรรณยุกต์ จะใช้คำตายเสียงตรี บ้างก็ได้ บาทของกลอน คำกลอนนั้น นับ ๒ วรรคเป็น ๑ บาท ตามธรรมดา กลอนบทหนึ่ง จะต้องมีอย่างน้อย ๒ บาท (เว้นไว้แต่กลอนเพลงยาว หรือกลอนนิราศ ซึ่งนิยมใช้บทแรก ที่ขึ้นต้นเรื่อง เพียง ๓ วรรค) บาทแรก เรียกว่า บาทเอก บาทที่ ๒ เรียกว่า บาทโท คำกลอนจะยาวเท่าไรก็ตาม คงเรียกชื่อว่า บาทเอก บาทโท สลับกันไปจนจบ และต้องจบลง ด้วยบาทโทเสมอ เช่น นิราศเรื่องหัวหินก็สิ้นสุด เพราะจากบุตรภรรยามากำสรวล (บาทเอก) เมื่ออยู่เดียวเปลี่ยวกายใจคร่ำครวญ ก็ชักชวนให้คิดประดิษฐ์กลอน (บาทโท) ใช้ชำนาญการกวีเช่นศรีปราชญ์ เขียนนิราศก็เพราะรักเชิงอักษร (บาทเอก) บันทึกเรื่องที่เห็นเป็นตอนตอน ให้สมรมิตรอ่านเป็นขวัญตา (บาทโท) มิใช่สารคดีมีประโยชน์ จึงมีโอดมีครวญรัญจวนหา (บาทเอก) ตามแบบแผนบรรพกาลโบราณมา เป็นสาราเรื่องพรากจากอนงค์ (บาทโท) -จากนิราศหัวหิน- หลักนิยมทั่วไปของกลอน ๑. คำสุดท้ายของวรรคที่ ๑ และวรรคที่ ๒ ก็ดี คำสุดท้ายของวรรคที่ ๓ และวรรคที่ ๔ ก็ดี ไม่ควรใช้คำ ที่มีเสียงเหมือนกัน หรือคำที่ใช้สระ และตัวสะกด ในมาตราเดียวกัน เช่น ก. ในไพรสณฑ์พรั่งพรึบด้วยพฤกษา แนววนาน่ารักด้วยปักษา ข. เขาเดินทุ่งมุ่งลัดตัดมรรคา มั่นหมายมาเพื่อยับยั้งเคหา ค. เห็นนกน้อยแนบคู่คิดถึงน้อง มันจับจ้องมองตรงส่งเสียงร้อง ๒. คำที่รับสัมผัส ในวรรคที่ ๒ และที่ ๔ ควรให้ตำแหน่งสัมผัส ตกอยู่ที่พยางค์สุดท้าย ของคำ ไม่ควรให้สัมผัสลงที่ต้นคำ หรือกลางคำ ยิ่งเป็นกลอนขับร้อง ยิ่งต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะจะทำให้เสียความ ในเวลาขับร้อง เช่น สดับถ้อยสุนทรนอนดำริ จนสุริยาแจ้งแจ่มเวหา ๓. คำสุดท้ายของวรรค ควรใช้คำเต็ม ไม่ควรใช้ครึ่งคำ หรือยัติภังค์ เว้นไว้แต่ แต่งเป็น กลบทยัติภังค์ หรือเป็น โคลง, ฉันท์ และกาพย์ เช่น อันถ้อยคำของท่านนั้นเป็นสา มานย์วาจาฟังไปไม่เกิดหรร ษารมณ์เลยสักนิดเพราะผิดจรร ยาทั้งนั้นไร้ศีลฉันสิ้นอา(วรณ์) การแยกคำออกใช้คนละครึ่ง ในระหว่างวรรค เช่นนี้ไม่ควรใช้ ๔. ไม่ควรใช้ภาษาอื่น ที่ยังมิได้รับรอง มาใช้เป็นส่วนหนึ่ง แห่งภาษาไทย เช่น โอไมเดียร ดาริ่งมิ่งสมร บิวตี้ฟูลสุนทรหฤหรรษ์ แม่ชื่นจิตสวิตฮารตจะคลาดกัน ใจป่วนปั่นหันเหเซกู๊ดบาย ส่วนคำบาลี และสันสกฤตใช้ได้ เพราะเรารับมาใช้ เป็นส่วนหนึ่ง แห่งภาษาไทย แต่ถึงกระนั้น ก็ต้องแปลงรูปคำเสียก่อน จะนำมาใช้ทั้งดุ้นไม่ได้ ๕. ไม่ควรใช้ "ภาษาแสลงโสต" คือถ้อยคำที่พูดด้วยความตลกคะนอง หยาบโลน หรือเปรียบเทียบ กับของหยาบ ซึ่งใช้กันอยู่ ในกลุ่มคนส่วนน้อย และรู้กัน แต่เฉพาะในวงแคบๆ เช่น คำว่า ม่องเท่ง, จำหนับ, จ้ำบ๊ะ, ตั้กฉึ้ก, ถังแตก, ยกล้อ ฯลฯ การเขียนควรใช้ใจและอารมณ์เป็นหลัก สำคัญ ต้องทำใจให้แจ่มใสรื่นเริงก่อนจะเขียน กลอนนะครับ กลอนจะได้อ่อนไหวพลิ้ว เนียน และนุ่มนวล อีกอย่างวรรค์ที่สี่คำสุดท้ายไม่ควร จะซ้ำกันกับวรรคที่สองและสามนะครับ อิอิ รักกันจึงได้เผยหมดใส้หมดพุงแล้วครับ ผมไม่ปิดบังหรอกครับ จะได้ช่วยๆกันสานต่อ ไว้ครับ อิอิ ขอบคุณครับ แก้วประเสริฐ.
15 สิงหาคม 2550 16:07 น. - comment id 738636
คุณ อารีณา โทษทีที่ไม่ได้ลงชื่อไว้ในตอนแรก นี่แหละ คนแก่ก็แบบนี้แหละจ้า รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
16 สิงหาคม 2550 18:14 น. - comment id 739064
สวัสดีค่ะ คุณครูแก้ว ดีใจมากเลยนะคะ ที่คุณครู รับเป็นลูกศิษย์(อุ๊บอิ๊บเลยค่ะ) รีณากราบขอบพระคุณมากค่ะ ที่กรุณา ถ่ายทอดให้อย่างไม ่หวง วิชา นับว่าเป็นความ กรุณาของคุณครูมากเลย และรีณาก็เห็นในหลายคอลั่ม ที่คุณครูได้ให้คำแนะนำ กับ หลายๆคน อย่างมีเมตตา และ เป็นผูู้ให้ ทีปราถนาดี กับทุกๆคน การติเพื่อก่อ ย่อมมีผลดี ต่อ ผู้รับ เสมอ รีณาจะดีใจมากเลยค่ะ ถ้าคุณครูจะเข้าไปแก้ไข กลอน ห้บ้าง และอ่านตรงที่แนะนำ รีณาทราบเลยค่ะ ว่ากลอนทีเขียน ล่าสุด รีณาใช้คำซำ้กัน ทำให้ขาดความเพราะเท่าที่ควร และแต่งแบบยังไม่ปรับอารมณ์เท่าไหร่ จะแก้ไขค่ะ กราบขอบพระคุณ คุณครูมากๆค่ะ
17 สิงหาคม 2550 17:03 น. - comment id 739568
คุณ อารีณา ไม่เป็นไรหรอกครับมีอะไรๆก็ช่วยๆกันไปครับ ผมกลับดีใจที่คุณให้เกียรติ์แก่ผมมากกครับขอบคุณ แก้วประเสริฐ.